รีวิว The Silence เพราะความเงียบเท่านั้นที่จะทำให้มีชีวิตรอด

“The Silence” จะว่าด้วยเรื่องราวความสยองขวัญได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อนักวิทยาศาสตร์และนักสำรวจได้พบกับสิ่งมีชีวิตประหลาดที่อาศัยอยู่ในถ้ำลึก พวกมันไม่มีดวงตาที่ใช้มองเห็นแต่มีความสามารถในการได้ยินและดมกลิ่นที่เป็นเลิศ พวกมันมีจำนวนมหาศาลและเมื่อหลุดออกมาจากถ้ำ พวกมันก็ทำการไล่ล่าเพื่อกินเนื้อมนุษย์และทำการขยายพันธุ์อย่างรวดเร็วจนโลกต้องได้รับวิกฤตครั้งใหญ่ หนังได้เล่าถึงครอบครัวของ “แอลลี่” ซึ่งเธอเป็นเด็กสาวที่สูญเสียการได้ยินไปครั้งที่ประสบอุบัติเหตุนำมาซึ่งการสื่อสารผ่านภาษามือกันภายในครอบครัว เธอไม่ได้รู้สึกว่าตนเองนั้นมีปมด้อยแม้ว่าจะมีกลุ่มนักเรียนที่คอยล้อเลียนเธออยู่บ่อย ๆ ก็ตาม เมื่อสถานการณ์ตอนนี้ไม่ปกติ รัฐบาลได้ประกาศคำสั่งฉุกเฉินทำให้ประชาชนหลายคนตื่นตระหนก พ่อของแอลลี่และเพื่อนสนิทพากันอพยพเพื่อหวังจะไปนอกเมืองซึ่งพวกเขาเชื่อว่าปลายทางนั้นปลอดภัย ซึ่งการเดินทางครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยเพราะมันต้องเป็นการเผชิญหน้ากับพวกสัตว์ประหลาดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ความน่ากลัวของเจ้าตัวสัตว์ประหลาดนี้ก็มีมาก แต่จุดอ่อนและวิธีกำจัดมันนั้นไม่ได้ยากนักติดแค่ว่ามันมีจำนวนที่มากกว่าและมีการขยายพันธุ์อยู่ตลอดเวลา หนังแนวเอาตัวรอดเรื่องนี้ทำให้เราได้เห็นสัญชาตญาณดิบและความเห็นแก่ตัวของมนุษย์ค่อนข้างสูงทีเดียว รวมถึงการกดขี่ของมนุษย์ด้วยกันเองอีกด้วย เพื่อการเอาตัวรอดเราก็เห็นความสยองจากพวกเราเองไม่น้อย แต่เรื่องราวซึ้งกินใจหนังเรื่องนี้ก็ขยี้จนเสียน้ำตาเหมือนกัน ความเห็นส่วนตัวคิดว่าหนังเรื่องนี้เดินเรื่องได้ต่อเนื่อง กระชับทำให้ดูสนุกและลุ้นระทึกอยู่ตลอด อีกทั้งปมของเรื่องก็ไม่ได้ซับซ้อนมากนักพอเข้าใจได้ง่าย หลายเหตุการณ์ก็มีความสมเหตุสมผล แต่ข้อพิจารณาน่าจะเป็นเรื่องการตัดต่อ การทำสีภาพ โปรดักชันโดยรวมที่ดูแล้วไม่ค่อยสมบูรณ์สักเท่าไรอีกทั้งยังส่งผลต่อซีนหนังและอารมณ์อีกด้วย ใครที่ชอบหนังเอาตัวรอดบีบหัวใจบอกเลยเรื่องนี้ห้ามพลาด เพราะมันเป็น 1 ชั่วโมง 30 นาทีที่คุ้มค่าอย่างแท้จริง ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับหนัง “The Silence” ประเภท : สยองขวัญ กระตุกขวัญ ผู้กำกับ : จอห์น อาร์. ลีโอเน็ตติ นักแสดงนำ : เคียร์แนน ชิพกา,สแตนลีย์ ทุชชี,มิแรนดา ออตโท,ไคล์ เบรทคอปพ์ ความยาว : 1 ชั่วโมง 30 นาที กำหนดฉาย : 16 พฤษภาคม 2562 หากคุณไม่อยากพลาดทุกข้อมูลเกี่ยวกับเว็บรีวิวหนัง อย่าลืมติดตามหนังต่างประเทศเรื่องอื่นๆ เช่น รีวิว The Shape Of Water สัมพันธ์สวาทที่ความต่างระหว่างสายพันธุ์ก็ไม่อาจกั้น ได้อีกที่ filmograd.net

รีวิวอนิเมชั่นเรื่องฮิตอย่าง “Over The Moon” กับการผจญภัยบนดวงจันทร์

จากตำนานความเชื่อปรัมปราเกี่ยวกับความเป็นมาของเทศกาลขนมไหว้พระจันทร์ของจีนซึ่งถูกนำมาตีความใหม่และใส่จินตนาการลงไป ทำให้แอนิเมชั่นเรื่อง “Over The Moon” นี้ได้ใจเหล่าผู้ชมไปเต็ม ๆ เรื่องนี้เล่าถึง “เฟยเฟย” เด็กสาวที่ต้องสูญเสียแม่ไปตลอดหาล ซึ่งแม่ก็เปรียบเสมือนทุกอย่างของเธอ ความเชื่อความศรัทธาที่เธอได้ยินผ่านนิทานก่อนนอนของแม่มันมีส่วนสำคัญกับการเดินทางของเธอในครั้งนี้ ผู้เป็นพ่อพยายามหาแม่เลี้ยงใหม่เพื่อมาดูแลเด็กหญิง แต่แน่นอนว่าเธอไม่ต้องการคนที่จะมาแทนที่แม่ของเธอ ทำให้เฟยเฟยบอกกับพ่อว่าเธอเชื่อว่า “ความรักเป็นสิ่งที่เรารอคอยได้” เหมือนอย่างที่แม่เคยพูดกับเธอไว้ การผจญภัยของเธอและกระต่ายน้อยบันจี้ได้เริ่มต้นขึ้น ทำให้เด็กหญิงได้มีโอกาสไปเจอกับอาณาจักรแห่งดวงจันทร์อย่างลูนาเลีย และได้พบเจอกับ “ฉางเอ๋อ” เทพีแห่งดวงจันทร์ที่ต้องทนทุกข์ทรมาณกับการสูญเสียสามีอันเป็นที่รักและต้องอยู่ด้วยความโดดเดี่ยว อนิเมชั่นเรื่องนี้ให้กลิ่นอายของดิสนีย์ได้อย่างดี มีเพลงประกอบที่ไพเราะและมีพลังอยู่หลายเพลง การแปลเพลงบางท่อนรู้สึกว่าแปลตรงตัวมากไปหน่อย จึงรู้สึกว่าต้นฉบับนั้นทำได้ดีกว่าเล็กน้อย ปมหลักของเรื่องเล่าออกมาได้ดีมาก ๆ จินตนาการของผู้สร้างนั้นสวยงามตระการตาผนวกกับโปรดักชันสุดอลังการที่ยิ่งใหญ่สร้างความประทับใจได้อย่างมาก ส่วนตัวคิดว่าเรื่องที่น่าพิจารณาน่าจะเป็นเรื่องปมท้ายของเรื่องที่ดูจะเฉลยง่ายไปเสียหน่อย และความสัมพันธ์ในครอบครัวที่เล่าไม่ได้ลึกมากทำให้เราไม่รู้สึกอินมากนัก แต่ก็เป็นไปได้ว่าผู้สร้างต้องการให้โฟกัสที่อาณาจักรแห่งดวงจันทร์มากกว่าก็เป็นได้ สุดท้ายนี้ใครที่กำลังมองหาแอนิเมชั่นมิวสิคัลน้ำดีสักเรื่องให้ความรู้สึกเหมือนดูดิสนีย์ก็ต้องเป็นเรื่องนี้แน่นอน รับรองว่าดูแล้วไม่ผิดหวัง! ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับอนิเมชั่น “Over The Moon” ประเภท : อนิเมชั่น ผจญภัย ผู้กำกับ : เกล็น คีแอน นักแสดงนำ : ฟิลลิปา ซู,แซนดรา โอห์,เคน จอง,คิมิโกะ เกล็นน์ ความยาว : 1 ชั่วโมง 40 นาที กำหนดฉาย : 23 ตุลาคม 2563 หากคุณไม่อยากพลาดทุกข้อมูลเกี่ยวกับเว็บรีวิวหนัง อย่าลืมติดตามหนัง Netflix เรื่องอื่นๆ เช่น รีวิว A Whisker Away เหมียวน้อยคอยรัก หนังอนิเมะอีกเรื่องของญี่ปุ่น ได้อีกที่ filmograd.net

รีวิวซีรีส์ “Flower of Evil” ปมซ่อนปม เขาจะใช่ฆาตกรหรือไม่?

“Flower of Evil” นั้นเรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งซีรีส์เกาหลีที่กำลังมาแรงในไทยอย่างแท้จริง เรื่องราวของปมคดีฆาตกรรมกับชายผู้ต้องสงสัยผ่านการดำเนินเรื่องที่สลับซับซ้อนแต่ลึกซึ้ง เรื่องราวของ “โดฮยอนซู” ชายผู้เลือกที่จะทิ้งชีวิตในวัยเด็กการเป็นลูกชายของฆาตกรต่อเนื่อง และเขาถูกสงสัยว่าเกี่ยวพันกับการเสียชีวิตของคนในหมู่บ้านอีกด้วย เขาสร้างชีวิตใหม่ในชื่อ “แบคฮีซอง” ชายหนุ่มแสนอบอุ่นที่มีครอบครัวน่ารัก ๆ กับ “ชาจีวอน” ตำรวจแผนกสืบสวนคดีความและมีลูกสาววัยกำลังน่ารักด้วยกัน 1 คนโดยเขาจะทำงานที่บ้านและรับผิดชอบงานบ้านเป็นหลัก ทำอาหารอร่อย ใจดี เรียกได้ว่าเป็นคุณสามีและคุณพ่อในฝันของใครหลายคน จริงหรือ? เรื่องราวความพลิกผันของเรื่องก็มาถึงเมื่อชาจีวอนได้รับมอบหมายให้ไขคดีที่เกิดเมื่อ 18 ปีที่แล้ว ซึ่งตัวพระเอกเนี่ยเข้าไปเป็นผู้ต้องสงสัย โดยแม้เขาจะอยู่ใกล้กับเธอมากแต่เธอกลับไม่รู้ความจริงที่เขาพยายามกลบมันไว้ ความน่าสงสัยของแต่ละตัวละครนั้นสร้างได้น่าสนใจเป็นอย่างมาก ปมซ่อนปมทำให้เนื้อเรื่องมีเสน่ห์ หลังจากที่พระเอกตัดสินใจทิ้งชีวิตอันแสนโหดร้ายเขาก็ได้รับการเลี้ยงดูจากพ่อและแม่เลี้ยงที่เป็นเจ้าของโรงพยาบาลและเภสัชกรซึ่งบอกได้เลยว่าพวกเขาก็น่าสงสัยไม่แพ้กัน อีกหนึ่งเขาหลอนของซีรีส์เรื่องนี้คือความเป็นไซโคพาธของพระเอกที่เป็นโรคต่อต้านสังคมที่ได้รู้จากพฤติกรรมแปลก ๆ ของเขา เช่น การพยายามฝึกยิ้มหรือแสดงสีหน้าต่าง ๆ หน้ากระจกก่อนจะมาแสดงให้คนอื่นเห็นอย่างแนบเนียน หรือการสอนลูกสาวด้วยตรรกะแปลก ๆ ที่ดูแล้วน่ากลัวมาก ๆ  ส่วนตัวคิดว่าซีรีส์เรื่องนี้ทำออกมาได้ดีมาก สมบูรณ์ทั้งโปรดักชัน แสงสี และการแสดงของนักแสดงที่ทำให้รู้สึกว่าสงสารไปพร้อมกับน่ากลัวได้ดี บทมีความสมเหตุสมผลหนักแน่น การที่ตัวนางเอกเป็นคนที่ช่างสังเกตและเป็นคนฉลาดทำให้เราลุ้นอยากให้นางพบความจริง แต่การที่อยู่ด้วยกันมานานถึง 14 ปีแต่ไม่รู้เรื่องพระเอกนั้นเป็นเพราะเขาได้ฝึกมาอย่างดีก่อนที่หลอกเธอได้ และเป็นการแสดงที่รอบคอบมากจริง ๆ ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับซีรีส์ “Flower of Evil” ประเภท : อาชญากรรม ดราม่า ลึกลับระทึกขวัญ ผู้สร้างรายการ : สตูดิโอ ดรากอน นักแสดงนำ : อี จุน-กี,มูน แชวอน,คิมจิฮุน,จาง ฮีจิน ความยาว : 16 ตอน กำหนดฉาย : 23 กันยายน 2563 หากคุณไม่อยากพลาดทุกข้อมูลเกี่ยวกับเว็บรีวิวหนัง อย่าลืมติดตามซีรี่ย์เรื่องอื่นๆ เช่น ซีรีส์ฮิต IT’S OKAY TO NOT BE OKAY ความรักที่ทำให้เราใส่ใจคนรอบตัวมากขึ้น ได้อีกที่ filmograd.net

รีวิว Changeling กระชากปมปริศนาคดีอำพราง หนังที่เล่าความเหลื่อมล้ำทางสังคม

ความเหลื่อมล้ำทางสังคมนับเป็นปัญหาเรื้อรังที่เราพบเจออยู่ในเกือบทุกยุคทุกสมัย ย้อนกลับไปราวปี 1928 ได้เกิดคดีเด็กหายที่แสนโด่งดังเพราะมันเป็นการเปิดเผยความเน่าเฟะของวงการตำรวจแห่งเมืองลอสแองเจลลีสได้อย่างเด่นชัดที่สุด อย่างในหนังเรื่อง “Changeling กระชากปมปริศนาคดีอำพราง” ที่เป็นเรื่องราวของ “คริสติน” คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวที่พบว่าลูกชายสุดที่รักเพียงคนเดียวได้หายตัวไป เธอตัดสินใจที่จะออกตามหาเขาทั้งคืนแต่ก็ไม่พบจึงตัดสินใจมุ่งตรงไปยังสถานีตำรวจเพื่อแจ้งความคดีคนหาย แต่ทว่าตำรวจกลับไม่รับแจ้งความเพราะเป็นการหายตัวไปที่ยังไม่ครบ 24 ชั่วโมง จนกระทั่งเช้าคริสตินก็กลับมาแจ้งความอีกนั่นจึงเป็นเวลาที่ตำรวจรับแจ้งจากเธอ ในหนังเราจะเห็นว่ามีฝ่ายที่ต่อต้านและเปิดโปงการทำงานของเหล่าตำรวจอยู่ ด้วยมีผู้นำคือ “นักบุญกุสตาฟ” ที่เขาเห็นว่าประชาชนในเมืองนี้ต้องโดนกดขี่จากตำรวจ กลายเป็นว่าตำรวจเป็นใหญ่ไปแล้วซึ่งมันไม่ควรจะเป็นแบบนั้น เรื่องราวของคริสตินและวอเตอร์ลูกชายที่หายตัวไปแพร่สะพัดอย่างรวดเร็วจากฝีมือการกระจายข่าวของฝ่ายต่อต้านตำรวจเพราะต้องการที่จะเปิดให้เห็นข้อผิดพลาดในการทำงานของตำรวจ เมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 5 เดือน ตำรวจก็ได้พาเด็กที่อ้างว่าเป็นวอเตอร์มาให้คริสติน แน่นอนว่าแค่แวบแรกเธอก็รู้ทันทีว่านี่ไม่ใช่ลูกของเธออย่างแน่นอนเพราะเขาดูเปลี่ยนไปมาก แต่คริสตินก็พาเด็กที่แอบอ้างไปที่บ้านเพราะรู้ว่าเขาไม่มีที่ไป แต่เมื่ออยู่ด้วยกันมากขึ้นเธอยิ่งแน่ใจว่านี่ไม่ใช่ลูกของเธออย่างแน่นอน เมื่อเธอไปบอกตำรวจพวกเขากลับบอกว่าเธอมีอาการทางจิตซึ่งนำให้เธอต้องกลายเป็นผู้ป่วยจิตเวช ที่ไม่ยอมรับลูกชายของเธอเอง ทำให้เธอได้พบกับเพื่อนในโรงพยาบาลที่ถูกส่งมาด้วยวิธีเดียวกัน คือเมื่อทำเรื่องทับเส้นกับตำรวจแล้วล่ะก็ย่อมได้มาอยู่ที่นี่ แต่สุดท้ายทนายความสุดเก่งก็มาช่วยไขคดีเรื่องนี้ได้สำเร็จ ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับหนัง “Changeling กระชากปมปริศนาคดีอำพราง” ประเภท : ลึกลับ อาชญากรรม ผู้กำกับ : คลินต์ อีสต์วุด นักแสดงนำ : แอนเจลีนา โจลี,จอห์น มัลโควิช,แกตต์ลิน กริฟฟิธ,เอมี่ ไรอัน ความยาว : 2 ชั่วโมง 22 นาที กำหนดฉาย : 23 ตุลาคม 2551 หากคุณไม่อยากพลาดทุกข้อมูลเกี่ยวกับเว็บรีวิวหนัง อย่าลืมติดตามหนังต่างประเทศเรื่องอื่นๆ เช่นBorn to be King (เกิดมาเป็นเจ้าพ่อ) ปลุกตำนานหนังแก๊งสเตอร์สูตรสำเร็จยุคเก่า ได้อีกที่ filmograd.net

Review ซีรี่ย์ “เวยเวย เธอยิ้มโลกละลาย” สร้างแรงบันดาลใจ “สายเกมส์”

ขึ้นประเด็นกันด้วยคำว่า “สายเกมส์” ซึ่งในประเทศไทยการเล่นเกมส์ถือว่าเป็นสิ่งที่ทำลายการศึกษามาก ๆ ทว่าพอเราได้ดูซีรี่ย์เรื่อง เวยเวย เธอยิ้มโลกละลายจบ ส่วนตัวเรามีความคิดว่าการเล่นเกมส์ไม่ได้แย่เสมอไปเพียงรู้จักการแยกแยะเวลาให้พอเหมาะนั้นเอง  เวยเวย เธอยิ้มโลกละลายเป็นซีรี่ย์ที่เล่าเรื่องราวของเวยเวยกับเซี่ยวไน ซึ่งเวยเวยเป็นนักศึกษาหญิงชั้นปีที่ 2 สาขาวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ที่ทั้งฉลาดและสวยมาก ๆ เซี่ยวไนนักศึกษาปี 4 สาขาวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์หล่อรวยครบจบที่สามีแห่งชาติ! เพราะผู้หญิงเกือบทั้งมหาวิทยาลัยหมายปองพระเอกกันแบบสุด ๆ หนึ่งในนั้นก็คือเวยเวย เรื่องราวความรักของทั้งคู่เริ่มต้นการจากเล่นเกมส์ เวยเวยเป็นนักเล่นเกมส์หญิงที่เก่งกาจจนติด Top 10 ของเกมส์ส่วนเซี่ยวไนคือชายหนุ่มลีกลับในเกมส์ความสามารถไม่มีผู้ใดทัดเทียมเขาคือที่หนึ่งนั้นเอง แต่ด้วยเรื่องบังเอิญหรือมีคนวางแผนไว้เซียวไนและเวยเวยก็ได้ตกลงแต่งงานกันในเกมส์เพื่อภารกิจบางอย่าง ทุกอย่างถูกดำเนินต่อไปจนเกิดเป็นความรักหวานขั้นสุด ส่วนพระเอกฉลาดมาก ๆ ทันทุกเหตุการณ์รับรองไม่เศร้า! มีแต่สนุกและเพลินจนตรึงตราใจ  หลายคนอ่านมาถึงจุดนี้คงแปลกใจสร้างแรงบันดาลใจสายเกมส์ได้อย่างไร ก็เพราะว่าพระเอกและนางเอกของเรื่องเป็นสายเกมส์ที่มีความฝันอยากเป็นนักพัฒนาเกมส์และเซี่ยวไนก็ได้พิสูจน์ให้พ่อแม่ที่เป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัยเห็นว่าการเล่นเกมส์และประกอบอาชีพด้านดังกล่าวก็ประสบความสำเร็จได้เช่นกัน ซึ่งในส่วนตรงนี้เราเห็นว่าเป็นข้อดีที่ควรบอกต่อ สำคัญ! ภายในเรื่องยังแสดงให้ถึงการใช้ชีวิตของนักศึกษาที่ต้องวางแผนการทำงานอย่างไรให้ประสบผลสำเร็จ การแบ่งเวลาต่าง ๆ ผ่านตัวละคร ซึ่งตัวละครทุกตัวไม่ได้ตั้งหน้าตั้งตาเรียนจนไม่ทำกิจกรรมที่วัยรุ่นควรทำ พวกเขาดำเนินชีวิตไปในทิศทางที่เรียกได้ว่า “ใช้ชีวิตในวัยเรียนได้คุ้มค่า” ทั้งทำงาน ทั้งเล่น ทั้งมีความรัก ทว่าการเรียนกลับไม่แย่ลงเลย ซึ่งนักแสดงนำในเรื่องคือหยางหยาง ( พระเอก ) และเจิ้งซ่วง ( นางเอก ) ประกอบด้วยนักแสดงอีกมากมายงานดีมากขอบอกต่อนะคะ หากคุณไม่อยากพลาดทุกข้อมูลเกี่ยวกับเว็บรีวิวหนัง อย่าลืมติดตามซีรี่ย์เรื่องอื่นๆ เช่น ซีรีส์ฮิต IT’S OKAY TO NOT BE OKAY ความรักที่ทำให้เราใส่ใจคนรอบตัวมากขึ้น ได้อีกที่ filmograd.net

“The School Nurse Files” ครูพยาบาลแปลก ปีศาจป่วน ซีรี่แฟนตาซีจาก Netflix

“The School Nurse Files” จะว่าด้วยเรื่องราวของครูพยาบาลสาวที่เกิดมาพร้อมความสามารถพิเศษที่เธอสามารถมองเห็นความปรารถนา และวิญญาณได้ผ่านรูปร่างของเยลลี่ชนิดต่าง ๆ อย่าง “อันอึนยอง” ซึ่งการที่ได้รับตำแหน่งครูประจำห้องพยาบาลนั้นก็ไม่ใช่เรื่องบังเอิญเพราะรุ่นพี่ที่เคารพในนิกายคนมี Sixth Sense ได้บอกว่าเหมือนโรงเรียนแห่งนี้จะมีอะไรไม่ชอบมาพากลเป็นเหตุให้เธอได้รับงานนี้มานั่นเอง ซึ่งเจ้าเยลลี่ที่อันอึนยองมองเห็นก็มีหลากหลายรูปแบบ มีทั้งอันตายและไม่อันตรายบางตัวก็ไม่มีอิทธิพลอะไรต่อมนุษย์ แต่บางตัวมันก็ร้ายเหลือหลายคอยจะแผลงฤทธิ์อยู่ตลอดจึงต้องเป็นหน้าที่ของเธอที่ต้องจัดการพวกมัน โดยได้รับความช่วยเหลือจาก “ฮงอินพโย” ครูสอนภาษาจีนที่มีศักดิ์เป็นหลานชายของผู้ก่อนตั้งโรงเรียนแห่งนี้ เขาเสมือนเป็นคนที่คอยเติมพลังให้แก่ครูสาวได้เนื่องจากเกราะวิเศษบางอย่างที่คอยปกป้องเขาเอาไว้ ซีรีส์เรื่องนี้มีความหลุดโลกสูงมาก รับรู้ได้ถึงจินตนาการที่ไร้ขีดจำกัดของทีมผู้สร้างอย่างแท้จริงเลยทีเดียว นักแสดงต่าง ๆ สามารถตีบทแตกจนละเอียด มีความเป็นตัวการ์ตูนสูงมาก จนรู้สึกเลยว่าซีรีส์เรื่องนี้ก้าวข้ามขีดจำกัดของซีรีส์เกาหลีเรื่องอื่น ๆ เป็นที่เรียบร้อย การไม่ได้สร้างตามสูตรสำเร็จทำให้เสน่ห์ของซีรีส์นั้นพุ่งกระฉูดพร้อม ๆ กับโปรดักชั่นที่ทำได้อย่างไม่ผิดหวัง CG คุณภาพที่มีความสากลและได้มาตรฐานมาก แต่ด้วยความยาวซีรีส์ที่มีเพียง 6 ตอนเท่านั้น ข้อจำกัดของเวลาทำให้เนื้อเรื่องไม่สามารถเล่าปูมหลังของตัวละครได้มากเท่าที่ควร บางประเด็นก็เล่าเร็วจนหลายครั้งก็ตามไม่ทันเหมือนกัน เช่น ประเด็นการบูลลี่ แบ่งชนชั้น การสอบที่เคร่งเครียดของนักเรียนเกาหลี การมุ่งมั่นในการสอบข้าวของเกาหลี เป็นต้น ซึ่งก็เป็นประเด็นที่น่าสนใจมากแต่ไม่ได้ลงรายละเอียดเพื่อรักษาเส้นเรื่องความแฟนตาซีไว้ ซึ่งเป็นเรื่องหลักมากกว่า สุดท้ายนี้ต้องขอปรบมือให้ทีมอาร์ตที่สร้างสรรค์น้องเยลลี่แต่ละตัวออกมา ซึ่งมีความสากลมาก เรียกได้ว่าหากทำเป็นโปรดักต้องมีคนอยากซื้อเก็บเอาไว้เป็นคอลเลกชันแน่นอน เพราะน้องน่าเอ็นดูมาก ๆ ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับซีรีส์ “The School Nurse Files” ครูพยาบาลแปลก ปีศาจป่วน ประเภท : แฟนตาซี ผู้กำกับ : Lee Kyoung-mi นักแสดงนำ : นัมจูฮยอก,จองยูมิ,มุนโซรี,ลี จู-ยัง ความยาว : 6 ตอน กำหนดฉาย : 2563 หากคุณไม่อยากพลาดทุกข้อมูลเกี่ยวกับเว็บรีวิวหนัง อย่าลืมติดตามหนัง Netflix เรื่องอื่นๆ เช่น Isn’t It Romantic เมื่อคนที่ไม่เชื่อในความรักต้องกลายเป็นนางเอกหนังเหล่านั้นเอง ได้อีกที่ filmograd.net

รีวิวหนัง “A Cinderella Story” นางสาวซินเดอเรลลา…มือถือสื่อรักกิ๊ง

หากคุณเป็นอีกหนึ่งคุณที่เคยฟังเรื่องราวระดับตำนานของนิทานเรื่อง “ซินเดอเรลลากับรองเท้าแก้ว” ล่ะก็ คุณต้องห้ามพลาดหนังรอมคอมฟีลกู้ดเรื่อง “A Cinderella Story” นี้ เพราะมันใช้การเล่าเรื่องจากพล็อตเดิมแต่ปรับหลายอย่างเพื่อให้เข้ากับโลกปัจจุบันได้อย่างแนบเนียนจนเราเองก็รู้สึกชื่นชมทีมเขียนบทเหมือนกัน หนังเล่าเรื่องราวของ นางเอกที่อาศัยอยู่กับพ่อของเธอเพราะแม่ของเธอได้เสียไปแล้ว พ่อของเธอมีธุรกิจร้านอาหารซึ่งกำลังเป็นไปด้วยดี แต่แล้ววันหนึ่งพ่อของเธอก็ได้เจอกับผู้หญิงที่ทำให้เขารู้สึกอยากแต่งงานด้วยอีกครั้ง แม้ว่าลูกสาวจะไม่ค่อยชอบหน้าเธอเท่าไร แถมยังได้พี่สาวฝาแฝดเพิ่มมากอีก 2 คนด้วย จากนั้นไม่นานพ่อของเธอก็ได้เสียชีวิต นางเอกเสียใจมากเพราะพ่อเป็นโลกทั้งใบของเด็กหญิง แต่เธอก็อยู่มาจนเติบโตภายใต้การเลี้ยงดูของแม่เลี้ยง ด้วยความที่พ่อไม่ได้เขียนพินัยกรรมอะไรทิ้งไว้เลยทำให้ทรัพย์สินทุกอย่างตกเป็นของแม่เลี้ยงรวมทั้งร้านอาหารที่เธอรักด้วย ตอนนี้นางเอกกลายเป็นลูกจ้างคนหนึ่งในร้านขณะที่แม่เลี้ยงและพี่สาวทำตัวเป็นเจ้าของร้านและหมดเงินไปกับค่าศัลยกรรม นางเอกตั้งใจจะสอบให้ได้มหาวิทยาลัยดี ๆ เพื่อหวังออกไปจากที่นี่ เธอมักโดนกดขี่และใช้งานจากแม่เลี้ยง และเมื่อไม่สบายใจเธอก็จะคุยกับเพื่อนในแชทของเธอ ซึ่งเขากับเธอนั้นมักจะเปิดใจพูดเรื่องความเศร้ากันอยู่เสมอ เหมือนกับว่าเขาเป็น Safe Zone ของเธอเลย ชีวิตไฮสคูลของเธอเป็นไปไม่ได้สวยนักเพราะเธอมักโดนสาวฮอตกลั่นแกล้งเสมอมีเพียงเพื่อนสนิท 1 คนที่คอยอยู่เคียงข้าง แต่สำหรับเธอนั่นก็เพียงพอแล้ว โรงเรียนได้จัดงานพรอมขึ้นทำให้นางเอกรีบไปขอแม่เลี้ยงทันทีแต่แม่เลี้ยงไม่อนุญาต รอนด้าหนึ่งในพนักงานเป็นเหมือนนางฟ้าแม่ทูนหัวที่คอยช่วยเหลือเธอตลอด รอนด้าให้นางเอกยืมชุดแต่งงานแสนสวยที่เธอเก็บไว้มานาน โดยเพื่อนของเธอวางแผนว่าจะไปและกลับมาที่ร้านก่อนเที่ยงคืนเพื่อไม่ให้แม่เลี้ยงรู้ได้ ทางนางเอกก็ได้นัดกับหนุ่มในแชทว่าจะเจอกันในคืนงานพรอมเพื่อให้รู้ความจริงว่าเขาเป็นใคร แต่เมื่อรู้ความจริงแล้ว….เธอกลับอึ้งและทำอะไรไม่ถูก ค่ำคืนนั้นช่างสวยงามราวเทพนิยาย แต่ทว่าเธอกลับทำมือถือตกเอาไว้ และนั่นก็เป็นสิ่งที่พระเอกใช้ตามหานางเอกต่อไป ใครที่กำลังตามหาหนังรอมคอมวัยรุ่นไฮสคูลบอกเลยว่าเรื่องนี้ดูกี่ครั้งก็ไม่เบื่อ แม้มันจะเป็นหนังที่ตามสูตรสำเร็จไปเสียหมด แต่ก็ทำให้เราได้เห็นแง่มุมทางความคิดของวัยรุ่นและได้ทำความเข้าใจมากขึ้น การที่เชื่อว่าการศึกษาเป็นเครื่องต่อยอดชีวิต และการเห็นใจคนอื่นเป็นสิ่งที่ควรทำอีกด้วย ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับหนัง “A Cinderella Story” ประเภท : โรแมนติก คอมเมดี้ ผู้กำกับ : มาร์ก รอสแมน นักแสดงนำ : ฮิลารี ดัฟ,แช็ด เมอร์เรย์,เจนนิเฟอร์ คูลิลิดจ์,จูลี่ กอนซาโล ความยาว : 1 ชั่วโมง 35 นาที หากคุณไม่อยากพลาดทุกข้อมูลเกี่ยวกับเว็บรีวิวหนัง อย่าลืมติดตามหนังต่างประเทศเรื่องอื่นๆ เช่น “I Love You Stupid : รักนะเจ้าโง่” หนังรอมคอมดูเพลินส่งตรงจากสเปน ได้อีกที่ filmograd.net

รีวิวคอมเมดี้เรื่องใหม่ของ โป๊ป-เต๋อ ใน “เฮ้ย ลูกเพ่ นี่ลูกพ่อ” กับความฮาที่ไม่จำกัด

“เฮ้ย ลูกเพ่ นี่ลูกพ่อ” จะกล่าวถึงเรื่องราวของ “ก๊อต” ชายหนุ่มผู้กำลังโล่ดแล่นในวงการแข่งรถทางเรียบและเขาก็ทำมันได้ดีถึงขั้นได้รับตำแหน่งแชมป์จากรายการการแข่งขันแม้ว่าผู้เป็นพ่อจะไม่ได้สนับสนุนและคอยขัดขวางเขามาตลอด ความสัมพันธ์ระหว่างก๊อตกับพ่อค่อนข้างระหองระแหงกันมาก แม่ของเขาก็ฆ่าตัวตายไปตั้งแต่หลายปีก่อนแล้ว แต่จนกระทั่งวันที่ประกาศรางวัลขณะที่ก๊อตกำลังขับรถไปส่งพ่อก็เกิดอุบัติเหตุ ทำให้เขาอาการหนักขั้นโคม่า และโชคชะตาก็เล่นตลกกับเขา เมื่อเขาตื่นขึ้นมาพบว่าตัวเองกำลังอยู่ในปี พ.ศ.2541 ซึ่งมันแค่ปีเดียวก่อนที่เขาจะเกิดขึ้นมา ก๊อตได้เจอกับ “เปรม” พ่อของตัวเองซึ่งตอนนี้เขายังหล่อเฟี้ยวและเป็นหัวหน้าแก๊งจิ๊กโก๋อย่าง “แก๊งเจ้าโลก” ที่คอยเก็บค่าคุ้มครองตามร้านค้าต่าง ๆ ไปทั่ว ทั้งยังเคยติดคุกมาแล้วอีกด้วย แต่ความวายป่วงยังไม่จบเมื่อทั้งคู่ต่างมาตกหลุมรักผู้หญิงคนเดียวกันด้วยนี้สิยิ่งไปกันใหญ่ เรื่องราวความสนุกของการที่ได้รู้จักลูกเพ่ ที่แท้จริงเขาเป็น ลูกพ่อเนี่ยเป็นพล็อตเรื่องที่ไม่ค่อยเห็นในหนังไทยสักเท่าไร แต่ถึงอย่างนั้นก็เป็นพล็อตเรื่องที่เดาทางได้ไม่ยาก ทำให้อีกตัวดึงเรื่องคือ “ความโบ๊ะบ๊ะ” ของคู่นักแสดง และความน่ารักของนางเอกนั่นเอง ความเห็นส่วนตัวคิดว่าหนังเรื่องนี้ถ้าดูเอาสนุกก็ถือว่าตอบโจทย์แต่ถ้าดูเอาพล็อตเรื่องถือว่ายังไม่โอเคร เพราะโปรดักชั่นต่าง ๆ ถือว่าบกพร่องหลายจุดเหมือนการนำของวินเทจมารวมกันทั้งที่มันอยู่กันคนละยุคสมัยเลย หรือจะเป็นความตั้งใจของทีมสร้างเองก็ไม่ทราบ เรื่องความสมเหตุสมผลของการย้อนเวลาที่หลายคนอาจจะรู้สึกว่า…เอ๊ะ ทำแบบนี้ได้ด้วยหรือโผล่มาให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง สำหรับใครที่ตั้งใจไปดูความบันเทิงบอกเลยว่าตอบโจทย์เพราะเคมีของคู่โป๊ป-เต๋อ นั้นกลมกล่อมอย่างบอกไม่ถูก เสน่ห์ของทั้งคู่ทำให้มุกต่าง ๆ มีความลื่นไหลมากขึ้นแม้ว่าจะมีมุกแปกอยู่บ้างก็ตาม ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับหนังเรื่อง “เฮ้ย ลูกเพ่ นี่ลูกพ่อ” ประเภท : คอมเมดี้ ผู้กำกับ : ภวัต พนังคศิริ นักแสดงนำ : ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ,ฉันทวิชช์ ธนะเสวี,แซมมี่ เคาวเวลล์ ความยาว : 1 ชั่วโมง 50 นาที กำหนดฉาย : 13 ตุลาคม 2563 หากคุณไม่อยากพลาดทุกข้อมูลเกี่ยวกับเว็บรีวิวหนัง อย่าลืมติดตามหนังไทยเรื่องอื่นๆ เช่น รีวิว แฟนเดย์…แฟนกันแค่วันเดียว พร้อมเฉลยตอนจบอีกแบบที่หนังไม่ได้นำเสนอ ได้อีกที่ filmograd.net

รีวิว The Shape Of Water สัมพันธ์สวาทที่ความต่างระหว่างสายพันธุ์ก็ไม่อาจกั้น

เรียกได้ว่าสมกับเป็นหนังรางวัลออสการ์ที่เลือกนำเสนอเรื่องด้วยการไม่ใช้สัญญะที่ซ่อนเร้นมากนักอย่างหลายเรื่องที่เรามีโอกาสได้เห็นกันเรื่อง “The Shape Of Water” นี้ถือเป็นอีกหนังที่ครองใจผู้ชมอย่างเราไปเรียบร้อยด้วยการเล่าเรื่องที่ประณีตแต่ไม่ได้เนิบช้า การใส่ใจทุกรายละเอียดจนทำให้เราประทับใจได้ไม่ยาก ซึ่งองค์ประกอบของหนังทำให้คนดูรู้สึกอินไปตามเรื่องและไม่ได้เพียงความบันเทิงแต่ยังได้ข้อคิดกลับมาในชีวิตนั่นถือเป็นสิ่งสูงสุด ฉากหลังของหนังเป็นเหตุการณ์ช่วงสงครามเย็นที่รัสเซียกับอเมริกา ยุค70s หนังได้เล่าถึง “เอไลซ่า” สาวใบ้ที่ทำงานเป็นพนักงานทำความสะอาดให้กับสถาบันวิจัยทางวิทยาศาสตร์แห่งหนึ่ง ซึ่งเธอใช้ชีวิตอย่างปกติทุกวัน แต่แล้ววันหนึ่งเมื่อทีมวิจัยได้ทำการจับตัว “มนุษย์น้ำ” จากแถบอเมริกาใต้มา ก็ทำให้ชีวิตเธอเปลี่ยนไป ในหนังเราจะได้เห็นความสัมพันธ์ของเอไลซ่ากับมนุษย์น้ำที่แม้ว่าทั้งสองจะไม่สามารถสื่อสารกันได้เลย แต่กลับเป็นความเข้าอกเข้าใจกันอย่างลึกซึ้งผ่านแววตาและท่าทีต่าง ๆ แทน จนความรู้สึกเหล่านั้นก่อเกิดเป็นความรักขึ้นมา ซึ่งก็ถือเป็นจุดแฟนตาซีของเรื่อง ความรักที่บางทีก็ไม่ได้นำมาเฉพาะความสุข มันนำพาให้เราทำเรื่องที่ยิ่งใหญ่เสมอ เอไลซ่าหวังจะลักลอบพามนุษย์ไปปล่อยที่ทะเลเพื่ออิสรภาพของเขา ไม่อย่างนั้นเขาคงต้องจบชีวิตลงในห้องทดลองนี้แน่ ๆ และหลังครึ่งหลังต่อจากนี้จะเป็นภารกิจการตามตัวเขากลับมาของตัวร้ายของเรื่อง ความเห็นส่วนตัวคิดว่าหนังเรื่องนี้แทรกประเด็นต่าง ๆ ได้แนบเนียบมาก เช่น การเหยียดสีผิว เพศ เชื้อชาติ อีกทั้งยังทำให้เห็นความมีมนุษยธรรมของมนุษย์แต่ละคนอีกด้วย สำหรับโปรดักชั่นนั้นทำออกมาได้ยอดเยี่ยมและน่าชื่นชมมาก ส่วนนักแสดงนั้นสามารถตีบทได้แตกกระจุยและทำให้คนดูอย่างเราอินไปกับบทบาทมากเสียจนเชื่อว่ากำลังดูชีวิตของหญิงสาวที่รักกับมนุษย์ต่างสายพันธุ์จริง ๆ หนังเรื่องนี้ถือเป็นงานละเอียดที่ควรค่าต่อการเสียเวลาชมอย่างยิ่ง ใครที่เป็นแฟนหนังแฟนตาซีไม่ควรพลาดอย่างแท้จริง ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับหนัง “The Shape Of Water” ประเภท : ดราม่า ระทึกขวัญ โรแมนติก ผู้กำกับ : กีเยร์โม เดล โตโร นักแสดงนำ : แซลลี ฮอว์กินส์,ดั๊ก โจนส์,ไมเคิล แชนนอน,ออคตาเวีย สเปนเซอร์ ความยาว : 2 ชั่วโมง 3 นาที กำหนดฉาย : 2562 หากคุณไม่อยากพลาดทุกข้อมูลเกี่ยวกับเว็บรีวิวหนัง อย่าลืมติดตามหนังต่างประเทศเรื่องอื่นๆ เช่น Airplane Mode หนังรักกุ๊กกิ๊กของเด็กสาวที่ติดโลกโซเชียลโดยไม่รู้ผลเสียของมัน! ได้อีกที่ filmograd.net

“I Love You Stupid : รักนะเจ้าโง่” หนังรอมคอมดูเพลินส่งตรงจากสเปน

หากใครที่กำลังตกอยู่ในห้วงความคิดว่าตัวเองนั้นกำลังเป็นขี้แพ้ คนที่ไม่เอาไหน ไม่ประสบความสำเร็จ แล้วอย่างยิ่งหากอายุอานามในช่วงวัยทำงานแล้วล่ะก็ บางทีหนังเรื่อง “I Love You Stupid : รักนะเจ้าโง่” นี้อาจทำให้คุณเปลี่ยนความคิดลบ ๆ พวกนั้นออกไปก็ได้ เรื่องราวของชายหนุ่มคนหนึ่งที่บุคลิกดูเนิร์ด ๆ ไม่ค่อยคูลนัก ซึ่งเขาเพิ่งถูกบอกเลิกจากแฟนสาวที่คบกันมานาน จนอายุ 35 ปี เหตุผลก็คงเพราะเห็นว่าพระเอกเรานี่ดูไม่เอาไหนเสียเลย ทำงานก็ไม่ได้เลื่อนตำแหน่งสูง ๆ ยังอยู่บ้านพ่อแม่ ไม่มีอะไรที่เชิดหน้าชูตาได้เลย ฝั่งพระเอกนั้นเฮิร์ทหนักมากเพราะเขารู้สึกผูกพันกับแฟนเก่าสุด ๆ แต่แล้วก็รู้สึกว่าตัวเองต้องมูฟออนไปให้เร็วที่สุดเพื่อหลุดพ้นจากความรู้สึกพวกนี้สักที ทำให้เขาตัดสินใจเสริชคำแนะนำจากอินเทอร์เน็ตและลองเอามาทำตามดู ทั้งการกินคลีน โกนขน ดูแลตัวเองแบบที่ไม่เคยคิดจะทำ ซึ่งการคิดเปลี่ยนแปลงเป็นคนที่ดีขึ้นนี้ก็ทำให้เขาได้เจอคนรอบตัวใหม่ ๆ เช่นกัน การได้เจอกับเพื่อนเก่าสมัยเรียนที่เธอได้แอบชอบเขาแต่ตอนนั้นเขาไม่ได้ชอบเพราะเธอไม่สวย จนตอนนี้เธอเปลี่ยนไปทีเดียว แต่เขาก็ยังไม่ได้รู้สึกอะไรกับเธอเกินกว่าเพื่อนอยู่ดี ความสัมพันธ์ของทั้งคู่พัฒนาไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป การที่เธอไม่เรียกพระเอกด้วยชื่อแต่เรียกด้วยคำว่า “เจ้าโง่” นั้นก็ฟังดูน่ารักดีอย่างประหลาดอีกอย่างมันเป็นคำอธิบายตัวตนของเขาได้ดีทีเดียว การที่นางเอกคอยให้คำปรึกษาเขาตลอดมา คอยอยู่เคียงข้าง ทำให้พระเอกได้เจอคำตอบของหัวใจ จนกระทั่งการกลับมาของแฟนเก่าที่เห็นว่าพระเอกเป็นคนที่ดีขึ้นเธอจึงกลับมาสนใจ ทำให้เขาเลือกที่จะปิดบังความจริงทุกอย่าง แม้ว่าในใจลึก ๆ เขาเองก็รู้ดีอยู่แล้วว่า…เขานั้นรักใครกันแน่ ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับหนัง “I Love You Stupid : รักนะเจ้าโง่” ประเภท : คอมเมดี้ ผู้กำกับ : ลอรา มานะ นักแสดงนำ : นาตาเลีย ทีน่า,Quim Gutierrez,Ernesto Alterio,อัลบา ริบาส ความยาว : 1 ชั่วโมง 33 นาที กำหนดฉาย : 24 มกราคม 2563 หากคุณไม่อยากพลาดทุกข้อมูลเกี่ยวกับเว็บรีวิวหนัง อย่าลืมติดตามหนังต่างประเทศเรื่องอื่นๆ เช่น The War with Grandpa สงครามชิงเตียงนอนระหว่างหลานสุดซ่ากับคุณปู่รุ่นเก๋า ได้อีกที่ filmograd.net