รีวิวหนังรอมคอมเรื่องใหม่ Love Guaranteed ฉายแล้วทาง Netflix

ความรักสามารถการันตีได้หรือไม่? นี่คงเป็นคำถามที่พวกเราหลายคนคิดอยากหาคำตอบทั้งที่ก็เหมือนจะรู้คำตอบกันอยู่แล้ว แต่ก็ยังเลือกที่จะออกค้นหามันต่อไปอย่างมีความหวังว่าสักวันจะได้เจอ ไม่ว่าความรักจะสามารถการันตีได้หรือไม่ก็คงสุดแล้วแต่ตัวของเราเองมากกว่าว่าจะให้คุณค่าและความหมายกับคำนี้อย่างไร ทาง Netflix เองก็คงเห็นความสำคัญกับรักแท้ไม่น้อยจึงสร้างหนังรักรอมคอมเรื่องใหม่เรื่อง “Love Guaranteed” นี้ขึ้นมา แม้ดูภายนอกแล้วจะเป็นหนังที่ไม่ได้น่าตื่นเต้นหรือน่าติดตามเรื่องราวต่อ แต่บอกเลยว่าเมื่อได้ดูแล้วจะพบกับความลึกซึ้งของหนังเรื่องนี้และหลงรักตัวละครในเรื่องอย่างถอนตัวไม่ขึ้น เรื่องราวของ “ซูซาน” ทนายหญิงที่ต้องพยายามหาเงินจำนวนมากมาค้ำจุนสำนักงานทนายความของเธอเอาไว้ให้ได้ จนทำให้เธอต้องรับว่าจ้างคดีให้กับหนุ่มผิวสีคนหนึ่งชื่อ “นิค” ซึ่งเขาตั้งใจจะฟ้องร้องเว็บไซต์หาคู่หนึ่งที่ชื่อ Love Guaranteed ที่เขานั้นได้ใช้งานและพบว่าไม่เห็นจะพบความรักอย่างที่เว็บไซต์อวดอ้างมาแต่น้อยเลย ซึ่งการว่าความนั้นก็เป็นไปอย่างดุเดือดทีเดียว การที่เว็บไซต์ถูกจอมตีนั้นก็ได้ให้การมาหากจะโจมตีเว็บไซต์นี้ก็เหมือนโจมตีแอปหาคู่อื่น ๆ ด้วย และทำให้ตลอดการที่เราชมหนังเรื่องนี้ก็ได้กลับมาฉุกคิดอยู่ตลอดว่า “ความรักมันการันตีได้ไหม” อยู่ตลอด ซึ่งก็เป็นประเด็นที่น่าสนใจมากทีเดียว อีกทั้งการที่ทนายสาวเริ่มจะมีใจให้กับนิคที่เป็นลูกความก็ทำให้เนื้อเรื่องดูน่าติดตามขึ้นไปอีกมาก สุดท้ายแล้วฝ่ายไหนจะได้รับชัยชนะในการฟ้องครั้งนี้คงต้องติดตามต่อไปภายในเรื่อง แล้วคุณล่ะคิดว่าความรักสามารถการันตีได้หรือไม่ ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับหนัง “Love Guaranteed” ประเภท : โรแมนติก ดราม่า ผู้กำกับ : มาร์ก สตีเวน จอห์นสัน นักแสดงนำ : เรเชล ลีห์คุ๊ก,เดม่อน วายนส์ จูเนียร์,เฮเทอร์ แกรห์ม,แคนดิส แมคเคลอร์ ความยาว : 1 ชั่วโมง 30 นาที กำหนดฉาย : 3 กันยายน 2563 หากคุณไม่อยากพลาดทุกข้อมูลเกี่ยวกับเว็บรีวิวหนัง อย่าลืมติดตามหนัง Netflix เรื่องอื่นๆ เช่น รีวิวอนิเมชั่นเรื่องฮิตอย่าง “Over The Moon” กับการผจญภัยบนดวงจันทร์ ได้อีกที่ filmograd.net

ซีรีส์เกาหลีเรื่องใหม่น่าดูมาก “Dinner Mate” กับการบำบัดจิตด้วยการทานอาหาร

“Dinner Mate” กับเรื่องราวของจิตแพทย์หนุ่มสุดหล่ออย่าง “คิมแฮคยอง” ที่เขามักจะบำบัดและสังเกตลักษณะนิสัยของผู้ป่วยจิตเวชด้วยการไปดินเนอร์ด้วยกัน หรือไม่ก็ทำกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกัน แม้ว่าเขาจะเป็นคนใจเย็น โอบอ้อมอารีต่อคนอื่น แต่ตัวของเขาเองก็มีปมลึก ๆ ในใจของตนเองที่ต้องรอใครสักคนมาช่วยเยียวยาด้วยเช่นกัน วันหนึ่งเขาเข้าใจผิดนึกว่า “อูโดฮี” โปรดิวเซอร์สาวที่ทำงานให้กับบริษัทผลิตสื่อออนไลน์กำลังจะฆ่าตัวตาย เขาจึงรีบเข้าไปช่วยและชวนเธอไปทานข้าวด้วยกัน ซึ่งนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทั้งคู่ได้ทำความรู้จักกัน ซึ่งความจริงแล้วทั้งคู่ต่างก็เพิ่งได้รับแผลใจกันมาหมาด ๆ จากแฟนเก่า ไม่ว่าจะทางอูโอฮีที่ “จองแจฮยอก” ที่บอกเลิกกับเธอเสียดื้อ ๆ เพราะบอกว่าจะไปเรียนต่อ ส่วนคุณหมอก็ถูกฟิตเนสเทรนเนอร์สาวสุดแซ่บอย่าง “จินนาอึน” ขอยุติความสัมพันธ์เช่นเดียวกัน เรียกได้ว่ายังมีแผลสดกันทั้งคู่ และเหมือนโชคชะตากลั่นแกล้งเมื่อพวกเขาที่กำลังสานสัมพันธ์กัน เปิดใจคุยกันหลาย ๆ เรื่อง แต่ทว่าบรรดาแฟนเก่าก็กลับมาขอคืนดีเสียอย่างนั้น มันจะไม่ง่ายไปหน่อยหรอคิดว่าจะมาจะไปอย่างไรก็ได้หรือไง แม้ว่าพล็อตซีรีส์เรื่องนี้จะไม่ได้แปลกใหม่ออกจะดาษดื่นเสียด้วยซ้ำ แต่ด้วยเสน่ห์ความเป็นธรรมชาติของตัวละครเองและการดำเนินเรื่องที่เล่าเรื่องได้อย่างน่ารักน่าติดตามทำให้เราเผลอละสายตาจากเรื่องนี้ไปไม่ได้ อีกหนึ่งความประทับใจของเรื่องคือบทพูดของคุณหมอเพราะมันลึกซึ้งและให้แนวคิดเรากลับไปทบทวนหลาย ๆ อย่างในชีวิตเราได้มากทีเดียว นอกจากนี้หลักจิตวิทยาบำบัดด้วยอาหารนั้นก็ดีมากอย่างที่คุณหมอเคยบอกเอาไว้ว่าคู่รักที่ทานอาหารด้วยกันแล้วมีความสุขร่วมกัน ได้เห็นเวลาต่างฝ่ายต่างกินอาหารที่อร่อยนั้นสามารถครองรักกันได้ยาวนานมากกว่าคู่รักที่นอนบนเตียงเดียวกันเสียอีก ซึ่งครั้งแรกที่ฟังรู้สึกว้าวมาก เพราะเป็นบทสนทนาที่ล้ำลึกจริง ๆ  ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับซีรีส์ “Dinner Mate” ประเภท : โรแมนติก สถานีโทรทัศน์ : เอ็มบีซี ทีวี ผู้กำกับ : โกแจฮยอน นักแสดงนำ : ซอ จี-ฮเย,ซง ซึง-ฮ็อน,ซน นา-อึน,ลีจีฮุน ความยาว : 22 ตอน กำหนดฉาย : 25 พฤษภาคม 2563 หากคุณไม่อยากพลาดทุกข้อมูลเกี่ยวกับเว็บรีวิวหนัง อย่าลืมติดตามซีรี่ย์เรื่องอื่นๆ เช่น รีวิว Record of Youth เส้นทางสู่ดาว…ที่ยากลำบากแต่สวยงาม ได้อีกที่ filmograd.net

รีวิวซีรีส์เกมหมากรุกสุดมันส์ “The Queen’s Gambit” จากค่าย Netflix

จะเป็นอย่างไรเมื่อความเป็นอัจฉริยะต้องถูกเหนี่ยวรั้งเอาไว้ด้วยปมจากวัยเด็ก การที่ไม่มีครอบครัว ต้องเจอสภาพแวดล้อมที่สุดจะย่ำแย่ตั้งแต่เด็ก ความกดดันต่าง ๆ ได้หล่อหลอมให้กลายเป็นเด็กหญิงคนหนึ่งขึ้นมา ในหนังเรื่อง “The Queen’s Gambit” กับเรื่องราวของ “เบ็ธ” เด็กสาวที่ต้องสูญเสียแม่ของตนไปในอุบัติรถยนต์ชนเข้ากับรถบรรทุกซึ่งเธอได้รอดชีวิตมาได้ และที่สะเทือนใจเด็กหญิงที่สุดก็คือการที่เธอพอจะรู้สาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้ เมื่อเธอเสียแม่เธอก็ถูกส่งตัวไปอยู่สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า ซึ่งที่นั่นได้ให้ยาระงับประสาทกับเด็ก ๆ ทุกคน และเป็นจุดเริ่มต้นที่เธอได้รู้จักกับหมากรุก ผ่านคำสอนของภารโรงของสถานที่นั้น เขาสอนเธอเกี่ยวกับหมากรุกทุกสิ่งทุกอย่างทำให้เธอกลายเป็นอัจฉริยะด้านหมากรุกตั้งแต่อายุ 9 ขวบและด้วยปมในจิตใจทำให้เธอต้องการยาระงับประสาทแต่ภายหลังไม่มีการแจกให้แล้วเธอจึงต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้มันมา แม้ว่าเธอจะมีโอกาสได้มีครอบครัวอีกครั้งก็เหมือนโชคชะตาไม่เข้าข้าง เธอถูกทิ้งให้อยู่กับแม่เลี้ยงที่ไม่สามารถทำมาหาเลี้ยงชีพได้ ตั้งแต่นั้นเธอจึงเป็นคนทำงานหาเงินเข้าบ้านมาโดยตลอดด้วยการแข่งหมากรุก ชีวิตของเบ็ธคือชัยชนะในการประลองหมากรุก ความตั้งมั่นของเธอนั้นมีอยู่สูง เธอไม่ได้ต้องการแม้กระทั่งคำว่าเสมอกัน และแน่นอนว่าเกมกีฬาย่อมมีแพ้ชนะเป็นธรรมดา ในวงการหมากรุกเราจะได้เห็นหลายแง่มุมตั้งแต่กลวิธีการเล่น รวมไปถึงสังคมของผู้เข้าแข่งขันเอง ด้วยการที่เธออยู่คนเดียวทำให้เธอรู้สึกไม่ชอบสร้างพันธะผูกพันกับใครอีกต่อไปจึงตัดสินใจที่จะมี Sex แบบ One night stand กับชายหนุ่มในวงการหมากรุกด้วยกัน ความทะเยอทะยานของเธอทำให้เธอพยายามผลักดันตัวเองให้ได้เป็นตัวแทนของอเมริกาในการไปแข่งขันกับรัสเซียซึ่งได้ครองแชมป์มาหลายสมัย ในตัวหนังเราจะได้เห็นความแสดงสิทธิของสตรีอีกด้วย อิทธิพลด้านเฟมินิสต์นั้นแสนแรงกล้า ผู้หญิงมีอำนาจเหนือผู้ชายในบางทีซึ่งเป็นเรื่องที่น่าสนใจมาก  ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับหนัง “The Queen’s Gambit” ประเภท : ดราม่า ระทึกขวัญ ผู้กำกับ : สก็อตต์ แฟรงค์ นักแสดงนำ : โทมัส โบรดี แซงสเตอร์,เจคอบ ฟอร์จูน-ลอยด์,แมตทิว เดนนิส ลูวิส,Akemnji Ndifornyen ความยาว : 7 ตอน กำหนดฉาย : 23 ตุลาคม 2563 หากคุณไม่อยากพลาดทุกข้อมูลเกี่ยวกับเว็บรีวิวหนัง อย่าลืมติดตามซีรี่ย์เรื่องอื่นๆ เช่นรีวิว “He is psychometric” เมื่อเขาคนนี้สามารถอ่านภาพในจิตของคุณได้ ได้อีกที่ filmograd.net

รีวิวหนังคลาสิคในดวงใจ กับเรื่อง “Atonement” ตราบาปลิขิตรัก

“Atonement” (ตราบาปลิขิตรัก) เรื่องราวของความผิดหวัง ความรัก ความป้ายสี การโกหก และการไถ่โทษ ได้ถูกเรียงร้อยผ่านเรื่องราวของเด็กหญิงที่เติบโตขึ้นมาในครอบครัวที่มั่งคั่งและร่ำรวยอย่าง “ไบรโอนี่” เธอชื่นชอบงานเขียนเป็นพิเศษเพราะรู้สึกว่ามันสามารถรองรับอารมณ์ความรู้สึกที่ต้องการถ่ายทอดได้อย่างดี เธอมีพี่สาวแสนสวยอย่าง “ซิซิเลีย” ที่ได้มีความรู้สีกดี ๆ ให้กับชายหนุ่มลูกของคนรับใช้ที่ได้รับการอุปถัมภ์เลี้ยงดูอย่าง “ร็อบบี้” และมันก็ดูเป็นไปด้วยดีเพราะเขาก็หลงรักซิซิเลียมาโดยตลอด จนกระทั่งวันหนึ่งร็อบบี้ตัดสินใจเขียนจดหมายรักเพื่อหวังสารภาพความรู้สึกในใจ แต่ด้วยความเสน่หา ความต้องการอันแรงกล้าทำให้เขาได้เลือกใช้ถ้อยคำที่เย้ายวนทางเพศไปด้วย แต่เขาก็ไม่คิดจะส่งจดหมายฉบับนั้นและพิมพ์ขึ้นมาใหม่แทนแต่เขาก็ใส่จดหมายผิดซองไป และเมื่อไปถึงบ้านของซิซิเลียเขาก็ขอให้ไบรโอนี่ช่วยส่งจดหมายให้เขา แต่ทว่าเด็กหญิงก็แอบเปิดอ่านดูและเมื่อพบว่ามีถ้อยคำที่ดูไม่น่าไวใจและดูลามกมากเธอยอมรับไม่ได้ และมองว่าเขาเป็นผู้ชายที่ช่างหื่นกามอีกทั้งยังเอาเรื่องนี้ไปฟ้องซิซิเลียแต่ดูเหมือนพี่สาวจะไม่ได้สนใจจนนำไปสู่ฉากพรอดรักระหว่างพวกเขาทั้งสองในห้องสมุดและน้องสาวอย่างไบรโอนี่ก็ดันไปเห็นเข้าอีก นั่นทำให้เธอปักใจเชื่อไปอีกว่าร็อบบี้เป็นผู้ชายที่ไม่ดี หลังจากเหตุการณ์นั้นไม่นานก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นเพราะ “โลล่า” เด็กหญิงอายุไล่เลี่ยกับเธอนั้นกำลังถูกข่มขืน เจ้าหนูไบรโอนี่ก็ไปเห็นอีก แต่เธอไม่เห็นว่าแท้จริงผู้ชายที่ทำนั้นเป็นใคร และสุดท้ายก็พูดออกไปด้วยใบหน้าที่เรียบเฉยว่า “ร็อบบี้” เป็นคนทำเพราะเธอเห็นด้วยตาของเธอเอง นั่นทำให้ร็อบบี้กลายเป็นแพะรับบาปที่เขาไม่ได้ก่อ จากนั้นซิซิเลียก็ออกห่างจากครอบครัวของตนเอง เวลาผ่านไปหลายปีตอนนี้ซิซิเลียได้เป็นพยาบาลและน้องสาวของเธอก็เป็นพยาบาลเช่นกันแต่ทว่าสิ่งที่ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปก็คือความสัมพันธ์ของทั้งคู่เพราะความโกรธนั้นคับคั่งอยู่ในใจของพี่สาว จนเธอได้สัญญากับร็อบบี้ว่าพวกเขาจะไปเจอกันอีกครั้งตอนที่เขาได้ออกมาเป็นทหารที่รบในสงครามโลกครั้งที่ 2 เรื่องราวทั้งหมดนี้ถูกถ่ายทอดอยู่ในนิยายของไบรโอนี่เมื่อเธออายุได้ 80 ปี เนื่องจากเธอหวังว่าความจริงที่เธอได้ออกมาเปิดเผยจะเปลี่ยนแปลงอะไรได้สักเล็กน้อยก็ยังดี ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับหนัง Atonement ตราบาปลิขิตรัก ประเภท : โรแมนติก สงคราม ดราม่า ผู้กำกับ : โจ ไรท์  นักแสดงนำ : เคียรา ไนต์ลีย์,เจมส์ แม็กอะวอย,เซอร์ชา โรนัน,โรโมล่า กาไร ความยาว : 2 ชั่วโมง 10 นาที กำหนดฉาย : 7 กุมภาพันธ์ 2551 หากคุณไม่อยากพลาดทุกข้อมูลเกี่ยวกับเว็บรีวิวหนัง อย่าลืมติดตามหนังต่างประเทศเรื่องอื่นๆ เช่น รีวิวหนัง “The Invasion” อย่าแสดงสีหน้าหากไม่อยากตาย! ได้อีกที่ filmograd.net

รีวิวหนัง “The Invasion” อย่าแสดงสีหน้าหากไม่อยากตาย!

จะเป็นอย่างไรหากผู้คนในเมืองที่คุณอาศัยอยู่นั้นไร้ซึ่งความรู้สึกของตนเองจนหมดสิ้น กับ “The Invasion” เรื่องราวความระทึกขวัญและสยดสยองของเหตุการณ์ที่มียานที่คาดว่าเป็นของมนุษย์ต่างดาวได้ระเบิดบริเวณชั้นบรรยากาศโลกโดยพวกมันหวังที่โจมตีมนุษย์และล้างเผ่าพันธุ์มนุษย์ผ่านการขยายพันธุ์มนุษย์ต่างดาวเข้าแทนที่ผ่านการกระจายตัวของสปอร์นำมาสู่โรคระบาดที่ชื่อว่า โรคสแนทเชอร์ ที่มีผลให้มนุษย์ที่ติดเชื้อไม่สามารถควบคุมตนเองได้รวมถึงบุคลิกท่าทางของคนนั้น ๆ ก็จะถูกเปลี่ยนแปลงไปด้วย ซึ่งหนทางรอดชีวิตเดียวก็คือต้องแสดงท่าทีเป็นคนไร้อารมณ์ ตัวนางเอกอย่าง “แครอล” ซึ่งตัวเธอนั้นเป็นจิตแพทย์สาวเธอจำเป็นต้องรู้ให้ได้ว่าจะหยุดโรคร้ายนี้ได้อย่างไรเพื่อมุ่งหวังไปช่วยชีวิตลูกชายของเธออย่าง “โอลิเวอร์” ซึ่งเธอมีประสบการณ์ที่เห็นผู้ป่วยในความดูแลของเธอและเธอรู้ทันทีว่าหากยังเกิดเรื่องราวเหล่านี้ต่อไป โลกก็จะต้องเปลี่ยนไปตลอดกาลเพราะมนุษย์กำลังเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่มีอารมณ์ความรู้สึกซึ่งนั่นฟังดูเลวร้ายที่สุดเกินจินตนาการ แม้ว่าช่วงแรกของหนังจะมีความเอื่อยอยู่บ้างเนื่องจากเป็นการเล่าอธิบายถึงอาการของผู้ติดเชื้อและที่มาที่ไปของมัน แต่เมื่อเข้าสู่กลางเรื่องที่นางเอกเริ่มสืบหาความจริงไปพร้อม ๆ กับการดูแลลูกชายของตนเองไม่ห่างทำให้เธอไม่สามารถพักผ่อนได้เต็มที่ก็เป็นเนื้อเรื่องที่เข้มข้นมากยิ่งขึ้น น่าติดตามมากยิ่งขึ้น และทำให้เราได้เห็นมุมมองของหนังที่ค่อนข้างแปลกใหม่ทีเดียว บทสนทนาของตัวละครที่ประจำใจเกี่ยวกับการขบคิดเรื่องเปลือกนอกของมนุษย์นั้นแยบคายมากทีเดียว ทำให้เห็นว่าแท้จริงแล้วจิตใจของมนุษย์มีความสำคัญมากขนาดไหน แม้ว่าหนังจะเป็นหนังเอาชีวิตรอกแต่ทว่าฉากต่าง ๆ ก็ไม่ได้ยิ่งใหญ่มากนักมีเพียงไม่กี่ฉากที่รู้สึกว่าสมจริง ส่วนข้อพิจารณาน่าจะเป็นการขมวดปมเรื่องตอนท้ายที่ดูจะง่ายและเป็นตามสูตรสำเร็จมากเกินไปหน่อย ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับหนัง “The Invasion” ประเภท : ไซไฟ สยองขวัญ ผู้กำกับ : Oliver Hirschbiegel,เจมส์ แมคเทก นักแสดงนำ : นิโคล คิดแมน,เวอโรนิก้า คาร์ทไรท์,แดเนียล เคร็ก,Jeremy Northam ความยาว : 1 ชั่วโมง 39 นาที กำหนดฉาย : 17 สิงหาคม 2550 หากคุณไม่อยากพลาดทุกข้อมูลเกี่ยวกับเว็บรีวิวหนัง อย่าลืมติดตามหนังต่างประเทศเรื่องอื่นๆ เช่น รีวิวหนังรักอย่างเรื่อง “Love,Rosie (เพื่อนรักกั๊กเป็นแฟน)” ได้อีกที่ filmograd.net

รีวิวหนังรักอย่างเรื่อง ” Love,Rosie (เพื่อนรักกั๊กเป็นแฟน) “

บางครั้งโชคชะตาก็ชอบเล่นตลกกับชีวิตของคนเราอยู่เสมอ แล้วอย่างยิ่งสิ่งที่ดูใจร้ายมากที่สุดก็น่าจะเป็นการเล่นตลกกับความรู้สึกที่เรามีให้กับความรักนี่แหละ แต่หากลองมองย้อนกลับมาเพื่อขบคิดให้ดี ๆ แล้วบางทีอาจจะไม่ใช่โชคชะตาก็ได้นะที่มาเล่นตลกกับเรา เพราะแท้จริงมันอาจจะเป็น “ตัวเราเอง” ที่ฝืนทุกสิ่งทุกอย่าง และไม่ยอมทำตามหัวใจตนเองตั้งแต่แรก? อย่างในหนังเรื่อง “Love,Rosie (เพื่อนรักกั๊กเป็นแฟน)” นั่นเอง เรื่องราวความรักสุดอลหม่านที่คลุกเคล้าส่วนผสมของความโรแมนติกและคอมเมดี้แบบตลกร้ายผสมกับดราม่าของชีวิตได้อย่างลงตัว ชีวิตของสองเพื่อนรักอย่าง “โรซี่” สาวสวยตัวเล็กสุดเปรี้ยว ที่เธอเชื่อมาตลอดว่าเธอนั้นดูแลตัวเองได้ กับเพื่อนชาย “อเล็กซ์” พวกเขาสนิทกันมาตั้งแต่เด็ก ไปโรงเรียนด้วยกันตลอดและตั้งมั่นว่าจะต่อมหาวิทยาลัยเดียวกันอีกด้วย แต่ก็เกิด accident ขึ้นกับสาวโรซี่เพราะเธอดันพลาดท้องในคืนปาร์ตี้อย่างไม่ตั้งใจ เธอไม่ได้บอกกับอเล็กซ์เพราะอยากให้เขามีอนาคตที่ไกลและได้ทำตามความฝัน จากความสัมพันธ์ที่ไกลห่างและโรซี่ที่พยายามจะตีตัวออกจากเขาทำให้หลายอย่างเปลี่ยนแปลงไป การที่อเล็กซ์ได้พบเจอคนใหม่ ๆ สังคมใหม่ๆ ก็ถือเป็นเครื่องพิสูจน์ความแข็งแรงของมิตรภาพและความสัมพันธ์ของทั้งคู่ได้อย่างดี อีกทั้งเราจะเห็นชัดเจนว่าพวกเขามักจะคลาดกันไปคลาดกันมาเสมอ จึงเป็นจุดสำคัญที่ทำให้เราได้ลุ้นเอาใจช่วยตามอยู่เสมอ หนังเรื่องนี้แม้จะเปิดมาด้วยพล็อตเรื่องที่แสนธรรมดาและพบเห็นได้บ่อย ๆ ไม่ได้มีความหวือหวาแต่กลับมัดใจคนดูได้อยู่หมัดด้วยวิธีเล่าเรื่องที่เล่นกับความรู้สึกอยู่ตลอดเวลาจนเราคล้อยตามเนื้อเรื่องไปและรู้ตัวอีกทีหนังก็ใกล้จะจบแล้ว การเล่าแบบคั่นด้วยตลกและดราม่าทำให้ได้รสชาติที่แปลกใหม่ของหนัง อีกทั้งการหยิบยกประเด็นเรื่องรักทางไกลหรือการตีตัวออกห่างถือเป็นตัวอย่างการพิสูจน์ความรักที่หลายคนอาจจะเจอได้ในชีวิตจริง ซึ่งคิดให้ดีแล้วหนังเรื่องนี้ก็สะท้อนแง่มุมความรักได้ดีทีเดียว ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับหนัง “Love,Rosie (เพื่อนรักกั๊กเป็นแฟน)” ประเภท : โรแมนติก คอมเมดี้ ผู้กำกับ : คริสเตียน ดิทเทอร์ นักแสดงนำ : ลิลี คอลลินส์,แซม คลาฟริน,ซูกี้ วอเตอร์เฮาส์,คริสเตียน คุ๊ก ความยาว : 1 ชั่วโมง 42 นาที กำหนดฉาย : 6 พฤศจิกายน 2557 หากคุณไม่อยากพลาดทุกข้อมูลเกี่ยวกับเว็บรีวิวหนัง อย่าลืมติดตามหนังต่างประเทศเรื่องอื่นๆ เช่น รีวิวหนังฟีลกู้ดเติมพลังชีวิต The Bucket List เพราะชีวิตต้องการเราจึงต้องทำมัน ได้อีกที่ filmograd.net

รีวิว “He is psychometric” เมื่อเขาคนนี้สามารถอ่านภาพในจิตของคุณได้

“ความลับไม่มีในโลก” ฟังแล้วคิดว่ามันเป็นทั้งเรื่องจริงและไม่จริงในเวลาเดียวกันใช่ไหมล่ะ แต่แท้จริงแล้วมันเป็นเรื่องพิศวงที่ไม่มีใครเคยพิสูจน์ได้ว่าจริงหรือไม่ เพราะเราไม่รู้ว่ามีใครที่สามารถนำความลับเก็บไว้กับตนเองโดยไม่ให้ใครรู้จนเขาคนนั้นตายไปพร้อมความลับได้หรือไม่ เพราะหากเรารู้มันก็จะไม่ใช่ความลับอย่างไรล่ะ คงจะมีเพียงความลับที่รอการเปิดเผยอยู่เท่านั้นที่เป็นปริศนา เหมือนกับเรื่องราวในซีรี่ย์เรื่อง “He is psychometric” นั่นเอง ชีวิตของหญิงสาวที่ชื่อ “ยุนแจอิน” ซึ่งพยายามจะซ่อนบางอย่างเอาไว้ในใจของเธอ เพราะปมในอดีตจากวัยเด็กที่แสนโหดร้ายของเธอเมื่อผู้เป็นพ่อต้องได้รับความอยุติธรรมทำให้เธอตั้งมั่นว่าชีวิตนี้เธอจะเป็น “ตำรวจสืบสวน” เพื่อหวังจะขุดคุ้นคดีความนั้นกลับมาอีกครั้งหนึ่ง โดยตามจริงแล้วเธอพยายามซ่อนความคิดและความรู้สึกนี้เอาไว้ แต่ทว่าเมื่อบังเอิญได้สัมผัสตัวกับ “อีอัน” ชายหนุ่มผู้มีความสามารถพิเศษในการเห็นภาพและรับรู้ความทรงจำของคนนั้น ๆ ผ่านการสัมผัสเพียงภายนอกได้ ทำให้อีอันได้เห็นภาพในอดีตแสนเลวร้ายแลตั้งใจจะร่วมมือกับนางเอกเพื่อหวังช่วยเหลือเธอตามความตั้งใจของเขาว่าจะใช้ความสามารถนี้ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด ตัวซีรีส์มีพล็อตเรื่องที่ค่อนข้างน่าสนใจและแปลกใหม่การเล่าเรื่องที่มีปมสลับซับซ้อนนับเป็นเรื่องท้าทายตั้งแต่การปูบทและการเลือกแนวทางในการเล่าออกมาอีกด้วย ซึ่งบอกเลยว่าซีรีส์เกาหลีเรื่องนี้ทำออกมาได้ดี การถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกต่าง ๆ ของนักแสดงทำออกมาได้สมบทบาททำให้คนดูอย่างเราอินตามพร้อมความลุ้นระทึกในการหาคำตอบที่ซ่อนเร้นได้อย่างดี หากจะหาซีรีส์แนวสืบสวนสอบสวนน้ำดีสักเรื่องจากแดนกิมจิเรื่องนี้คงต้องเป็นซีรีส์ที่อยู่ในอันดับต้น ๆ อย่างแน่นอนแม้ว่าบางช่วงจะมีการเล่าที่เอื่อย ๆ ไปบ้างก็ตามที ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับซีรีส์ “He is psychometric” ประเภท : ลึกลับ ระลึกขวัญ แฟนตาซี โรแมนติก ผู้กำกับ : คิมบยองซู นักแสดงนำ : Shin Ye-eun,Park Jin-young,Kwon Kim,Kim Da-som ความยาว : 16 ตอน กำหนดฉาย : มีนาคม 2019 หากคุณไม่อยากพลาดทุกข้อมูลเกี่ยวกับเว็บรีวิวหนัง อย่าลืมติดตามซีรี่ย์เรื่องอื่นๆ เช่น รีวิว Record of Youth เส้นทางสู่ดาว…ที่ยากลำบากแต่สวยงาม ได้อีกที่ filmograd.net

รีวิวหนังฟีลกู้ดเติมพลังชีวิต The Bucket List เพราะชีวิตต้องการเราจึงต้องทำมัน

เคยสงสัยกันหรือไม่ว่าคนเรานั้นเกิดขึ้นมาเพื่ออะไร มันเป็นคำถามที่ตอบยากเพราะหากกล่าวว่าเราทุกคนเกิดมาเพื่อจุดประสงค์เดียวกันก็คงไม่ถูกต้องนัก การที่เราเกิดขึ้นมาแล้วเฝ้าแต่หาคำตอบในเรื่องนี้ถือเป็นการเสียเวลาชีวิตอย่างสูงสุด เพราะเวลาเป็นสิ่งที่มีค่ายิ่ง ตอนเป็นเด็กหรือวัยรุ่นเราจะรู้สึกว่าชีวิตของเรากำลังเดินไปข้างหน้าและเติบโต แต่เมื่อเราเติบโตมาจนถึงจุดหนึ่งเรากลับรู้สึกว่าชิวตกำลังนับถอยหลังอย่างอกไม่ถูก…การใช้ชีวิตให้มีความสุขจึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งเหมือนกับหนังเรื่อง “The Bucket List” นั่นเอง หนังเรื่องThe Bucket Listนี้เป็นอีกหนังฟีลกู้ดระดับตำนานและนำมาซึ่งแนวคิดใหม่ ๆ ในการใช้ชีวิตที่ดูจะทำให้เราเปิดใจกล้าทำอะไร ๆ ที่ต้องการมากขึ้น เรื่องราวของ “เอ็ดเวิร์ด” มหาเศรษฐีแสนร่ำรวยที่ได้มาเจอกับ “คาร์เตอร์” ช่างยนต์คนหนึ่ง พวกเขามาจากต่างครอบครัว ต่างฐานะ มีเงินทองและประสบการณ์ชีวิตที่แตกต่างกัน แต่วันนี้พวกเขากำลังเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายเหมือนกัน และกำลังเดินทางเส้นเดียวกันในไม่ช้า เวลาของทั้งคู่กำลังนับถอยหลังแต่พวกเขาก็ไม่ได้ร้อนรนใจเสียสติกับสภาวะดังกล่าว แต่กลับพากันมาเขียนสิ่งที่อยากทำก่อนลาโลกแล้วใส่ลงในกระป๋องจึงเป็นที่มาของ Busket List โดยคาร์เตอร์ได้พูดสิ่งที่น่าสนใจกับเอ็ดเวิร์ดคือ ในความเชื่อของชาวอียิปต์เกี่ยวกับโลกหลังความตายคือเมื่อเราไปถึงประตูสวรรค์จะมีเทวดาคอยถามเรา 2 คำถามด้วยกันคือ เราเคยมีความสุขกับชีวิตที่ผ่านมาหรือไม่และเราเคยทำให้ผู้อื่นมีความสุขหรือไม่ คำตอบของเราจะเป็นตัวกำหนดว่าเราจะได้ไปที่ไหน หนังเรื่องนี้มักจะเล่าผ่านบทสนทนาของชายทั้งสองเป็นหลัก เราจะได้เห็นคนที่ทำสิ่งที่พวกเขาทำได้อย่างไม่มีข้อจำกัด ได้ทำอย่างไม่ต้องพะวงหน้าพะวงหลังเหมือนชีวิตที่ผ่าน ๆ มาของพวกเขา มันทำให้เราเห็นว่าคนที่ใช้ชีวิตเพื่อตนเองมาตลอดกับใช้ชีวิตเพื่อคนอื่นมาโดยตลอดนั้นแตกต่างกันอย่างไร และเราจะมีวิธีเติมเต็มความสุขให้แก่ชีวิตของเราขณะที่มีชีวิตอยู่บนโลกได้อย่างไร ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับหนัง “The Bucket List” ประเภท : คอมเมดี้ ดราม่า ผู้กำกับ : ร็อบ ไรเนอร์ นักแสดงนำ : แจ็ก นิโคลสัน,มอร์แกน ฟรีแมน,ฌอน เฮยส์,ร็อบ มอร์โรว์ ความยาว :  1 ชั่วโมง 37 นาที กำหนดฉาย : 15 ธันวาคม 2550 หากคุณไม่อยากพลาดทุกข้อมูลเกี่ยวกับเว็บรีวิวหนัง อย่าลืมติดตามหนังต่างประเทศเรื่องอื่นๆ เช่น รีวิวหนังฮาแบบหลุดโลกกับ “The Wrong Missy” มิสซี่สาวในฝัน (ร้าย) ได้อีกที่ filmograd.net

รีวิว Record of Youth เส้นทางสู่ดาว…ที่ยากลำบากแต่สวยงาม

จะเป็นอย่างไรเมื่อเส้นทางความฝันที่เลือกเดินกลับเต็มไปด้วยขวากหนามแถมทางข้างหน้ายังดูเหมือนไร้แสงดูอย่างไรก็เป็นหนทางที่ยากลำบาก จะเลือกเดินต่อไปเพราะมันคือความฝันหรือหันเหไปทางอื่นที่ดูมีความเป็นจริงจับต้องได้มากกว่า ใน “Record of Youth” กับเรื่องราวของ “Sa Hye-Jun” นายแบบหนุ่มวัย 20 ปีที่ต้องการผลักดันตัวเองเข้าสู่วงการบันเทิงด้วยความสามารถและผลักหนทางที่มาจากเส้นสายออกจนหมด จนทำให้ตัวเขาห่างจากความสำเร็จเข้าไปเรื่อย ๆ พร้อมทั้งอยู่ในครอบครัวที่ไม่ได้ให้การสนับสนุนเพราะมีปมหลังในอดีตที่แสนโหดร้าย คือ คุณปู่ของเขาก็เคยเป็นนายแบบและมีความฝันเดียวกับเขาแต่ความดำมืดของวงการก็ทำให้เขาต้องเป็นหนี้จำนวนมาก ทำให้พ่อของพระเอกต้องแบกรับผลกรรมนั้นต่อด้วยการทำงานหนักตั้งแต่เป็นเด็กจนตอนนี้อายุ 60 ปีแล้วก็ยังต้องทำงานอยู่ นั่นยิ่งทำให้พระเอกไม่ได้รับการเชื่อมั่นว่าความฝันอันแสนเลือนลางของเขาจะเป็นความจริงขึ้นมาได้ ผิดกับเพื่อนของเขาที่ดูเหมือนโชคชะตาจะเข้าข้างไปเสียหมด ได้งานอย่างที่ตั้งใจมาอย่างง่ายดาย แถมยังมีแม่ที่คอยซัพพอร์ทอยู่ตลอด จนวันหนึ่งพระเอกก็ได้มาเจอกับ Won Hae-Hyo ช่างแต่งหน้าสาววัยเดียวกันที่เลือกอาชีพจากความฝันเช่นเดียวกัน ซึ่งเธอเป็นแฟนคลับของพระเอกแบบเงียบ ๆ มาโดยตลอด แม้ว่าจะได้มาเป็นช่างแต่งงานให้พระเอกในที่สุดก็ยังเป็นเรื่องยากที่จะบอกความในใจนี้ออกไป ซีรีส์ได้เล่าถึงประเด็นการไม่เข้าใจกันของคนในครอบครัวซึ่งเป็นคนต่างเจนกัน ความคิดความเชื่อที่แตกต่างกันก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดรอยร้าวในความสัมพันธ์ จะเห็นได้ว่าทั้งพระเอกและนางเอกต่างต้องเจอปัญหาที่คล้ายกัน แต่มีรูปแบบการรับมือที่ต่างกัน พระเอกมักตอบโต้ด้วยใบหน้าเรียบเฉยแทนการโต้เถียง ส่วนนางเอกจะตอบกลับด้วยคำพูดกระแทกกระทั้นเสียมากกว่า ซึ่งก็ถือเป็นการแสดงบุคลิกภาพที่สำคัญของตัวละครได้ชัดเจน ส่วนข้อพิจารณาน่าจะเป็นการใส่บทสนทนาที่มากเกินไปทำให้เนื้อเรื่องเอื่อยไปหน่อย คนดูอาจรู้สึกเบื่อได้ ผนวกกับแนวเรื่องที่เป็นดราม่ายิ่งไปกันใหญ่ แต่การตีแผ่ปมเบื้องหลังวงการบันเทิงที่ไม่ได้สวยหรูอย่างที่หลายคนเข้าใจนั้นทำได้ดีมาก ๆ ได้เห็นความเป็นจริงของการใช้เส้นสายต่าง ๆ ได้มากและเห็นการหลอกลวงหรือการชักจูงต่าง ๆ ได้อย่างดีและสมจริง ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับซีรีส์ “Record of Youth” ประเภท : โรแมนติก ดราม่า ผู้สร้างรายการ : สตูดิโอ ดรากอน นักแสดงนำ : พัคโบกอม,พัคโซดัม,คว็อน ซู-ฮยอน ความยาว : 16 ตอน กำหนดฉาย : 7 กันยายน 2563 หากคุณไม่อยากพลาดทุกข้อมูลเกี่ยวกับเว็บรีวิวหนัง อย่าลืมติดตามซีรี่ย์เรื่องอื่นๆ เช่น เกิดอะไรขึ้นตอนเธอฝัน รีวิวซีรีส์ While You Were Sleeping ได้อีกที่ filmograd.net

รีวิวหนังฮาแบบหลุดโลกกับ “The Wrong Missy” มิสซี่สาวในฝัน (ร้าย)

“The Wrong Missy” จะกล่าวถึงเรื่องราวความวายป่วงสุดวุ่นวายของผู้ชายเจ้าเสน่ห์ที่มีสาวมาชอบถึง 3 คนอย่าง “ทิม” ที่ต้องการชวนสาวในฝันที่เขาชอบอย่าง “มิสซี่” ไปงานเลี้ยงของบริษัทเพื่อหวังที่จะได้เลื่อนขั้นในการทำงาน แต่ทว่าเหมือนมีสายฟ้าผ่าลงมากลางอกตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มต้น เพราะเขาดันส่งข้อความไปผิด เขาเผลอกดส่งไปให้กับ “มิสซี่” อีกคนที่เป็นเหมือนฝันร้ายของเขา เพราะเขาเคยเดทกับเธอแต่ปรากฏว่าเธอนั้นช่างเป็นคนที่สัปดน ลามก และน่ารำคาญที่สุด! แต่เธอดันตอบตกลงไปเรียบร้อยทำให้เขาไม่มีทางเลือกจึงจำยอมต้องควงมิสซี่คนนี้ไปงานแทน ภายในงานสาวมิสซี่ก็ไม่ทำให้ผิดหวังเพราะเธอแสดงความไม่เต็มอย่างสุดขั้ว มุกลามก มุกสัปดนก็จัดส่งให้อย่างรัว ๆ หวังว่าจะเป็นสีสันของงานสักหน่อยแต่กลับเป็นว่าเธอทำให้งานกร่อยไปเสียได้เพราะหลายคนนั้นรับไม่ได้กับความทะลึ่งตึงตังของเธอ ผู้เป็นพระเอกอย่างทิมก็หัวเสียสุด ๆ เขาไม่พอใจที่เธอทำตัวแบบนี้และคิดว่านี่มันฝันร้ายของเขาชัด ๆ จนกระทั่งเมื่อทั้งคู่มีโอกาสอยู่ใกล้ชิดกันมากขึ้นก็เหมือนได้เปิดใจต่อกัน ทิมเองก็ได้เห็นด้านดีของมิสซี่บ้างและรู้สึกว่าตกหลุมรักเธอเข้า แต่สุดท้ายก็มีเหตุต้องบาดหมางกันจนนำไปสู่การตามง้อของพระเอก ขุ่นพระ! ใครที่กำลังตามหาหนังคอมเมดี้ที่หลุดโลก ฮาไม่มีเขตจำกัดบอกเลยว่าเรื่องนี้ตอบโจทย์ แต่ขอเตือนว่าอย่าดูหนังเรื่องนี้ด้วยความคาดหวังเป็นอันขาดเพราะนอกจากความสมเหตุสมผลของตัวหนังที่หาไม่ได้แล้ว นักแสดงในเรื่องก็ไม่ได้มีความน่าดึงดูดเลยด้วย และใครที่ไม่ชอบเรื่องใต้สะดือ มุกลามกต่าง ๆ บอกเลยว่าไม่ควรดูเพราะหนังเรื่องนี้เล่นเกี่ยวกับมุกพวกนี้ซึ่งเป็นตัวตนของนางเอกถี่มาก ๆ เฉพาะอย่างยิ่งการเปิดให้เด็ก ๆ ดูยิ่งไม่เหมาะสมเลยทีเดียว ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับหนัง “The Wrong Missy” ประเภท : โรแมนติก คอมเมดี้ ผู้กำกับ : ไทเลอร์ สปินเดล นักแสดงนำ : ลอเรน แลปคัส,เดวิด สปด,แจ็กกี้ แซนด์เลอร์,ซาราห์ ชอล์ก ความยาว : 1 ชั่วโมง 30 นาที กำหนดฉาย : 13 พฤษภาคม 2563 หากคุณไม่อยากพลาดทุกข้อมูลเกี่ยวกับเว็บรีวิวหนัง อย่าลืมติดตามหนังต่างประเทศเรื่องอื่นๆ เช่น “I Love You Stupid : รักนะเจ้าโง่” หนังรอมคอมดูเพลินส่งตรงจากสเปน ได้อีกที่ filmograd.net