CODA หนังสร้างแรงบันดาลใจที่จะทำให้หัวใจคุณพองโตได้อย่างไม่คิด

CODA

เรียกว่าเป็นหนังที่สร้างความประทับใจให้กับผู้ชมทุกเพศทุกวัยเลยทีเดียว กับ CODA หัวใจไม่ไร้เสียง หนังที่บอกเล่าเส้นทางความฝันของเด็กคนหนึ่ง ร่วมกับการสะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งในความรักของครอบครัว ลำดับการเล่าเรื่องจะค่อยๆ เพิ่มความรู้สึกบางอย่างให้เกิดขึ้นในจิตใจของผู้ชม แล้วก็ถือได้ว่าครบรส ได้ทั้งความอิ่มใจ เสียงหัวเราะและรอยยิ้ม ยิ่งกว่านั้นยังปลุกไฟในตัวเราได้ด้วย CODA เด็กสาวรักเสียงเพลงในครอบครัวหูหนวก           ในเรื่อง CODA จะมีเด็กสาวคนหนึ่งเป็นคนดำเนินเรื่อง เธอเติบโตมาในครอบครัวคนหูหนวก ทั้งพ่อแม่และพี่ชายต่างไม่ได้ยินอะไร ขณะที่เธอเป็นคนเดียวที่ สื่อสาร ได้เลยดูคล้ายว่าทุกคนต้องพึ่งพาเธอตลอดเวลา เพราะรายได้หลักของบ้านคือการหาปลาที่ต้องคุยกับคนอื่นเป็นประจำ ประเด็นก็คือตัวเธอเองมีความฝันว่าอยากจะร้องเพลง แต่ความฝันนั้นอาจทำให้ครอบครัวต้องลำบาก ทุกอย่างไม่เป็นใจให้เธอเลือกชีวิตได้อย่างที่ตัวเองต้องการ เว็บรีวิวหนัง เสน่ห์ของCODAคือความรักภายในครอบครัว           หนังเรื่องนี้จะไม่ต่างจากหนังล่าฝันอื่นๆ เลย ถ้าCODAไม่ชูจุดเด่นเรื่องความรักอันแน่นแฟ้นของคนในครอบครัว ถึงจะทะเลาะกันอย่างไร พูดจากันรุนแรงแค่ไหน แต่ลึกๆ แล้วทุกคนรักใคร่และหวังดีต่อกันอย่างมาก พ่อแม่ยอมเปลี่ยนตัวเองเพื่อให้ลูกได้มีโอกาสทำตามฝัน พี่ชายพร้อมยืดอกรับผิดชอบทุกอย่างแทนน้อง ขณะเดียวกันตัวเอกก็สนับสนุนครอบครัวกลับ ทุกคนจึงบรรลุเป้าหมายของตัวเองได้อย่างสมบูรณ์ในท้ายที่สุด ภาษามือเป็นอีกอย่างหนึ่งที่น่าติดตามในCODA           นอกจากรายละเอียดทั้งหมดที่อยากให้ผู้ชมไปติดตามต่อในหนังเรื่องCODAกันเอง ก็มีอย่างหนึ่งที่เชื่อว่าจะสะดุดใจหลายๆ คนเช่นกัน ก็คือวิธีการสื่อสารด้วยภาษามือตลอดทั้งเรื่อง บางครั้งพอเราไม่ได้ยินเสียง เราก็เห็นบางอย่างชัดเจนขึ้น เห็นความรู้สึกที่แท้จริงของคนอื่น เห็นความรักแท้ที่ไม่ถูกกลบเกลื่อนด้วยคำพูด และยังเตือนให้เราได้รู้ด้วยว่า เราควรจะต้องตั้งใจฟังคนอื่นมากขึ้นแค่ไหน Latest Posts

หนังครอบครัวเบาสมอง “Think Like A Dog” เหมาะกับดูช่วงวันหยุดกับคนที่คุณรัก

หนังเบาสมองอย่าง “Think Like A Dog” จะกล่างถึงเรื่องราวของหนุ่มน้อยนักประดิษฐ์อย่าง “โอลิเวอร์” ที่ตั้งใจประดิษฐ์เครื่องอ่านความคิด แต่เมื่อนำเครื่องนี้ไปโชว์ที่งานโรงเรียนมันก็ล้มเหลวไม่เป็นท่าเพราะเกิดข้อขัดข้องทางเทคนิค ทำให้เครื่องไม่สามารถทำงานได้ จนทำให้เขารู้สึกขายหน้ามาก ๆ เมื่อกลับมาถึงบ้านโอลิเวอร์จึงตัดสินใจทดลองกับสุนัขที่เป็นเหมือนเพื่อนสนิทของเขาอีกคนอย่าง “เฮนรี่” และได้รับความช่วยเหลือจากเพื่อนทางไกลที่เป็นชาวจีน ช่วยให้แฮกดาวเทียมของจีนได้สำเร็จ ทำให้สิ่งประดิษฐ์ของเขามีความก้าวหน้าและพัฒนาจนมันใช้งานจริงได้ ซึ่งการที่พวกเขาทำการแฮกดาวเทียมของจีนก็ทำให้รัฐบาลพยายามสืบหาและต้องการจับตัวเขา ส่วนเรื่องสิ่งประดิษฐ์สุดล้ำก็ไปเข้าหูเจ้าของบริษัทตัวร้ายที่มองว่ามันต้องเป็นเครื่องผลิตเงินให้เขาในอนาคตจึงวางแผนที่จะขโมยมันจากเด็ก ๆ  ด้วยความที่เป็นหนังดูง่าย สบาย ๆ ปมเรื่องจึงไม่ได้สลับซับซ้อนมาก การที่อ่านความคิดของน้องเฮนรี่ได้ก็เป็นเหมือนตัวช่วยในการแก้ปัญหาในชีวิตของโอลิเวอร์ได้อย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งประเด็นที่พ่อแม่ของเขากำลังจะเลิกกัน หรือแม้กระทั่งการที่เขาไม่กล้าชวนสาวที่แอบหมายปองไปงานก็ตาม แม้มันจะดูง่ายดายไร้ซึ่งอุปสรรคไปเสียหน่อย แต่ก็ทำให้เรื่องราวไม่จืดชืดด้วยความสนุกปนฮาในการพยายามขโมยจากฝั่งตัวร้ายที่ทำออกมาได้ดีระดับหนึ่งเลยทีเดียว นอกจากนั้นเรายังเห็นประเด็นเล็ก ๆ เกี่ยวกับความรักความอบอุ่นในครอบครัว มิตรภาพระหว่างคนกับสัตว์เลี้ยง และแรงสนับสนุนในการทำความฝันของเด็ก ๆ  อย่างที่กล่าวมาข้างต้นว่าหนังเรื่องนี้เป็นหนังที่ดูเอาสบายเสพความบันเทิงเป็นหลัก ทำให้ความคาดหวังไม่ได้มากเท่าหนังเรื่องอื่น ๆ แต่ก็มีข้อควรพิจารณาอย่างเช่น การที่ควรเสริมความโดดเด่นให้น้องสุนัขมากขึ้นกว่านี้ เพราะทำให้เกิดแรงดึงดูดจากผู้ชมได้มากขึ้น ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับหนังเบาสมองอย่าง “Think Like A Dog” ประเภท : ดราม่า ไซไฟ ผู้กำกับ : กิล จังเจอร์ นักแสดงนำ : เกเบรียล เบตแมน,เมแกน ฟอกซ์,จอช เดอเมล,นีโอ โฮ ความยาว : 1 ชั่วโมง 35 นาที กำหนดฉาย : 23 กรกฎาคม 2563 หากคุณไม่อยากพลาดทุกข้อมูลเกี่ยวกับการรีวิวหนัง อย่าลืมติดตามหนังต่างประเทศเรื่องอื่นๆ เช่น รีวิว Pandora หนังเกาหลีที่จะทำให้คุณเข้าใจความเห็นแก่ตัวในสังคมมากขึ้น ได้อีกที่ filmograd.net

The Internship คู่ป่วนอินเทิร์นดูโอ

The Internship

The Internship คู่ป่วนอินเทิร์นดูโอ เป็นเรื่องราวการพลิกผันเพื่อการเปลี่ยนแปลง เมื่อคู่หูยอดนักขายสุดฮามีอาชีพเป็นเซลล์ขายนาฬิกา ตลอดเวลาการทำงานด้านการตลาดของพวกเขาเต็มไปด้วนสีสันแห่งความสำเร็จ ในบริษัทการตลาดพวกเขาต่างได้รับการยกย่องให้เป็นคู่หูยอดนักขาย ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด จนกระทั่งวันหนึ่งในร้านอาหารสุดหรู ที่พวกเขากำลังทำการนำเสนอถึงนาฬิกาเรือนใหม่ ที่กำลังจะออกสู่ท้องตลาดให้กับนักธุรกิจที่เป็นเพื่อนซี้ของเขา แต่สุดท้ายแล้วใน The Internship คู่ป่วนอินเทิร์นดูโอ เขาทั้งคู่ต้องคอตกเมื่อได้รับรู้ถึงความจริงบางอย่างว่าบริษัทที่เขาทำการตลาดให้กำลังจะปิดตัวลง ทำให้คู่หูยอดนักขายต้องตกงานอย่างกะทันหัน เขาแทบไม่เชื่อเรื่องที่ตนเองได้ยิน จึงพากันเดินทางไปหาเจ้าของบริษัทพร้อมกับการตอกหน้ากลับมา ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีอย่างมือถือ ทำให้ผู้คนแทบจะไม่ใช้นาฬิกากันแล้ว และนั่นก็เป็นการปิดเส้นทางของคู่หูยอดนักขายลง และต่างแยกย้ายกันไปประกอบอาชีพอื่น แต่ทว่าความฝันที่จะไปยังจุดสุดยอดทั้งคู่ยังคงไม่สิ้นสุด คู่หูยอดนักขาย จึงตัดสินใจเริ่มมองหาอาชีพใหม่ที่ท้าทายกว่าและดีกว่าและต้องไฮเทคกว่าเดิม จนกระทั่งเขาเห็นการประกาศรับสมัครของบริษัท Google จึงตัดสินใจสมัครเป็น The Internship ที่นั่น แต่ด้วยเงื่อนไขที่ Google กำหนดทำให้เขาทั้งคู่ที่ไม่มีคุณสมบัติที่เข้าข่ายใด ๆ เลยต้องโกหกและปลอมแปลงตัวตน จนได้รับการคัดเลือกและเขาต้องแข่งขันกับบรรดานักศึกษาที่เด็กกว่าและมีความรู้มากกว่า นี่จึงเป็นเป็นจุดเริ่มต้นของชายวัยกลางคนที่ต้องดิ้นรนเพื่อให้ได้รับสิทธิ์ที่จะได้งาน แต่ระหว่างทางสู่ความสำเร็จเขาต้องพบกับอุปสรรคชิ้นโตที่ได้สร้างบททดสอบให้กับผู้เข้าคัดเลือก เขาจึงนำวิชาการขายมาใช้เพื่อให้ได้รับชัยชนะ แต่ความสนุกยังไม่จบเพียงเท่านั้น เมื่อจู่ๆปัญหาเรื่องความรัก และเพื่อนต่างวัย และคู่แข็งคนสำคัญ กับงานที่จะตัดสินชะตาชีวิต ทำให้เขาต้องเจอกับความกดดันเพิ่มขึ้น มาตามลุ้นไปพร้อมกันว่าเซลล์เมนคู่หูยอดนักขายสุดฮาจะสามารถผ่านบททดสอบนี้ไปได้หรือไม่ มาร่วมลุ้นร่วมติดตามไปพร้อมกันได้ใน The Internship คู่ป่วนอินเทิร์นดูโอ ติดตามหนังใหม่ คลิก ตัวอย่างหนัง คลิก

สุดยอดหนังดี Green Book

สุดยอดหนังดี

ช่วงนี้เพื่อนๆ คงมีเวลาว่าง อยู่ที่บ้านกันมากกว่าเดิม และอยากจะหา หนังดีๆ ดูกับครอบครัวสักเรื่อง แอดอยากแนะนำ สุดยอดหนังดี Green Book ที่ไม่ควรพลาด เป็นหนังชีวประวัติของอเมริกัน หนังดี เนื้อเรื่องดี หนัง feel good แนวตลก-ชีวิต เป็นหนังที่ “แบ่งแยกผิวสี” เข้าฉายในปี 2018 เป็นผลงานของ สุดยอดผู้กำกับ ปีเตอร์ ฟาร์เรลลี ผู้ที่ได้รับ “รางวัลออสการ์” สาขา ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ปี 2018 หนังเรื่องนี้ถูกเขียนโดย ปีเตอร์, เบรนด์ และลูกชายของ โทนี่ เข้าฉายครั้งแรกที่ สหรัฐอเมริกา วันที่ 16 พฤศจิกายน 2018 และทำรายทั่วโลกได้มากกว่า 328 ล้านเหรียญ ความยาวหนัง 124 นาที สุดยอดหนังดี ปี 2018 ก็ต้องยกให้ Green Book เค้าเลยล่ะ เป็นหนังที่ ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก เรื่องจริง ในเรื่องเขียนเกี่ยวกับ การแบ่งแยกสีผิว การดูถูก และการทำร้าย ไม่ว่าจะด้วย คำพูด และการกระทำ เป็นหนังที่สนุก เพราะมีครบทุกสีสัน ไม่ว่าจะ ดราม่า ตลก และมีแง่คิดในการใช้ชีวิต เป็นการเดินทางแบบ Road trip เพื่อ ออกทัวร์ ของ นักเปียโนผิวสี ดอน เชอร์ลีย์ ( มาเฮอร์ชาลา อาลี ) และ คนขับรถคู่ใจ โทนี ลิป ( วิกโก มอร์เทนเซน ) พร้อมกับ “หนังสือเล่มสีเขียว” อีกหนึ่งเล่ม มีสุดยอดหนังดี ที่เคยฉายในสมัยก่อน ในสมัยก่อน สหรัฐอเมริกา มีการแบ่งแยกคนผิวสี The Negro Motorist Green Book เป็นคู่มือเดินทาง ของคนผิวดำ ที่รองรับโดย “กฏหมาย” ใช้กันในปี คศ. 1936-1966 ในปี 2018 ได้นำมาทำในรูปแบบใหม่ โดยเสนอผ่านการเดินทางแบบ “Road Trip” และ ย่อ เหลือแค่คำว่า Green Book ในยุคนั้น ไม่ว่าจะเป็น ร้านอาหาร โรงแรม ผับ บาร์ ต่างๆ มีกฏห้ามคนผิวสี ใช้บริการ ดังนั้นถ้าคนผิวสี ต้องการเดินทาง ก็ต้องใช้ “หนังสือสีเขียว” เล่มนี้ ในการช่วยวางแพลนต่างๆ สุดยอดหนังดี เรื่องนี้ มีตัวละครหลักอยู่ 2 คน คนที่หนึ่ง คือ ดอน เชอร์ลีย์ เรียนเปียโน ตั้งแต่ ป.2 แถมยังพูดได้อีก 8 ภาษา เป็น “นักเปียโนชื่อดัง” แนวแจ๊ส และ คลาสสิก ชาวจาเมก้า – อเมริกัน “รวย จนเรียกว่าเป็น มหาเศรษฐี” ก็ว่าได้ ดอนต้องการ “คนขับรถ” สักคนที่จะช่วยเค้า จากปัญหาต่างๆบน Road trip ที่เค้ากำลังจะออกทัวร์ จนดอนได้พบกับ โทนี่ ลิป เป็นตัวละครหลัก คนที่สอง ผู้ที่จบการศึกษาแค่ ป.6 ชาวอิตาเลียน – อเมริกัน ทำงานเป็น รปภ. หรือ Bouncer ตามผับทั่วไปใน นิวยอร์ก ดอน ต้องการให้ โทนี่ มาเป็น คนขับรถ และ บอดี้การ์ด ส่วนตัว เพื่อช่วยสะสาง ปัญหา ระหว่างทัวร์ และเพื่อ ความปลอดภัย ของตัวเขาเอง ซึ่ง โทนี่ ก็เหมาะที่จะทำงานกับ ดอน มาก เพราะ โทนี่ เคยทำงานเกี่ยวกับ การดูแลความปลอดภัยของลูกค้าในผับมาก่อน เป็นยังไงบ้างคะ สุดยอดหนังดีเรื่องนี้ น่าติดตามใช่มั้ยคะ แม้ ดอน จะร่ำรวย หรือ มีชื่อเสียงมากแค่ไหน แต่เค้าก็ไม่สามารถใช้ชีวิต อย่างมีความสุขได้ ต่างกับ โทนี่ ถึงแม้จะยากจน แต่เค้าก็มีครอบครัว ที่แสนอบอุ่น และไปไหนมาไหนได้อย่าง อิสระ และตามที่ได้นำเสนอมา ทั้งหมดนั้น เป็นแค่ เรื่องย่อนะคะ ถ้าอยากรู้ว่า เรื่องราวมิตรภาพระหว่าง ดอน กับ โทนี่ ในการออก Road trip นี้จะเป็นอย่างไร จะสุข จะเศร้า หรือฮาแค่ไหน อยากให้เพื่อนๆได้ลองรับชมในส่วนภาพยนตร์กันต่อเลยค่ะ ส่วนตัวแอดให้คะแนนเรื่องนี้ 10/10 คะแนนไปเลย แนะนำว่าอย่าพลาด สุดยอดหนังดี Green Book เรื่องนี้เด็ดขาดจ้าาาา คลิกที่นี่ เพื่อติดตามหนังเรื่องอื่นๆนะคะ ปีเตอร์ ฟาร์เรลลี #GreenBook #Movie #Filmograd #สุดยอดหนังดี