Review ซีรี่ย์ “เวยเวย เธอยิ้มโลกละลาย” สร้างแรงบันดาลใจ “สายเกมส์”

ขึ้นประเด็นกันด้วยคำว่า “สายเกมส์” ซึ่งในประเทศไทยการเล่นเกมส์ถือว่าเป็นสิ่งที่ทำลายการศึกษามาก ๆ ทว่าพอเราได้ดูซีรี่ย์เรื่อง เวยเวย เธอยิ้มโลกละลายจบ ส่วนตัวเรามีความคิดว่าการเล่นเกมส์ไม่ได้แย่เสมอไปเพียงรู้จักการแยกแยะเวลาให้พอเหมาะนั้นเอง  เวยเวย เธอยิ้มโลกละลายเป็นซีรี่ย์ที่เล่าเรื่องราวของเวยเวยกับเซี่ยวไน ซึ่งเวยเวยเป็นนักศึกษาหญิงชั้นปีที่ 2 สาขาวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ที่ทั้งฉลาดและสวยมาก ๆ เซี่ยวไนนักศึกษาปี 4 สาขาวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์หล่อรวยครบจบที่สามีแห่งชาติ! เพราะผู้หญิงเกือบทั้งมหาวิทยาลัยหมายปองพระเอกกันแบบสุด ๆ หนึ่งในนั้นก็คือเวยเวย เรื่องราวความรักของทั้งคู่เริ่มต้นการจากเล่นเกมส์ เวยเวยเป็นนักเล่นเกมส์หญิงที่เก่งกาจจนติด Top 10 ของเกมส์ส่วนเซี่ยวไนคือชายหนุ่มลีกลับในเกมส์ความสามารถไม่มีผู้ใดทัดเทียมเขาคือที่หนึ่งนั้นเอง แต่ด้วยเรื่องบังเอิญหรือมีคนวางแผนไว้เซียวไนและเวยเวยก็ได้ตกลงแต่งงานกันในเกมส์เพื่อภารกิจบางอย่าง ทุกอย่างถูกดำเนินต่อไปจนเกิดเป็นความรักหวานขั้นสุด ส่วนพระเอกฉลาดมาก ๆ ทันทุกเหตุการณ์รับรองไม่เศร้า! มีแต่สนุกและเพลินจนตรึงตราใจ  หลายคนอ่านมาถึงจุดนี้คงแปลกใจสร้างแรงบันดาลใจสายเกมส์ได้อย่างไร ก็เพราะว่าพระเอกและนางเอกของเรื่องเป็นสายเกมส์ที่มีความฝันอยากเป็นนักพัฒนาเกมส์และเซี่ยวไนก็ได้พิสูจน์ให้พ่อแม่ที่เป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัยเห็นว่าการเล่นเกมส์และประกอบอาชีพด้านดังกล่าวก็ประสบความสำเร็จได้เช่นกัน ซึ่งในส่วนตรงนี้เราเห็นว่าเป็นข้อดีที่ควรบอกต่อ สำคัญ! ภายในเรื่องยังแสดงให้ถึงการใช้ชีวิตของนักศึกษาที่ต้องวางแผนการทำงานอย่างไรให้ประสบผลสำเร็จ การแบ่งเวลาต่าง ๆ ผ่านตัวละคร ซึ่งตัวละครทุกตัวไม่ได้ตั้งหน้าตั้งตาเรียนจนไม่ทำกิจกรรมที่วัยรุ่นควรทำ พวกเขาดำเนินชีวิตไปในทิศทางที่เรียกได้ว่า “ใช้ชีวิตในวัยเรียนได้คุ้มค่า” ทั้งทำงาน ทั้งเล่น ทั้งมีความรัก ทว่าการเรียนกลับไม่แย่ลงเลย ซึ่งนักแสดงนำในเรื่องคือหยางหยาง ( พระเอก ) และเจิ้งซ่วง ( นางเอก ) ประกอบด้วยนักแสดงอีกมากมายงานดีมากขอบอกต่อนะคะ หากคุณไม่อยากพลาดทุกข้อมูลเกี่ยวกับเว็บรีวิวหนัง อย่าลืมติดตามซีรี่ย์เรื่องอื่นๆ เช่น ซีรีส์ฮิต IT’S OKAY TO NOT BE OKAY ความรักที่ทำให้เราใส่ใจคนรอบตัวมากขึ้น ได้อีกที่ filmograd.net

“The School Nurse Files” ครูพยาบาลแปลก ปีศาจป่วน ซีรี่แฟนตาซีจาก Netflix

“The School Nurse Files” จะว่าด้วยเรื่องราวของครูพยาบาลสาวที่เกิดมาพร้อมความสามารถพิเศษที่เธอสามารถมองเห็นความปรารถนา และวิญญาณได้ผ่านรูปร่างของเยลลี่ชนิดต่าง ๆ อย่าง “อันอึนยอง” ซึ่งการที่ได้รับตำแหน่งครูประจำห้องพยาบาลนั้นก็ไม่ใช่เรื่องบังเอิญเพราะรุ่นพี่ที่เคารพในนิกายคนมี Sixth Sense ได้บอกว่าเหมือนโรงเรียนแห่งนี้จะมีอะไรไม่ชอบมาพากลเป็นเหตุให้เธอได้รับงานนี้มานั่นเอง ซึ่งเจ้าเยลลี่ที่อันอึนยองมองเห็นก็มีหลากหลายรูปแบบ มีทั้งอันตายและไม่อันตรายบางตัวก็ไม่มีอิทธิพลอะไรต่อมนุษย์ แต่บางตัวมันก็ร้ายเหลือหลายคอยจะแผลงฤทธิ์อยู่ตลอดจึงต้องเป็นหน้าที่ของเธอที่ต้องจัดการพวกมัน โดยได้รับความช่วยเหลือจาก “ฮงอินพโย” ครูสอนภาษาจีนที่มีศักดิ์เป็นหลานชายของผู้ก่อนตั้งโรงเรียนแห่งนี้ เขาเสมือนเป็นคนที่คอยเติมพลังให้แก่ครูสาวได้เนื่องจากเกราะวิเศษบางอย่างที่คอยปกป้องเขาเอาไว้ ซีรีส์เรื่องนี้มีความหลุดโลกสูงมาก รับรู้ได้ถึงจินตนาการที่ไร้ขีดจำกัดของทีมผู้สร้างอย่างแท้จริงเลยทีเดียว นักแสดงต่าง ๆ สามารถตีบทแตกจนละเอียด มีความเป็นตัวการ์ตูนสูงมาก จนรู้สึกเลยว่าซีรีส์เรื่องนี้ก้าวข้ามขีดจำกัดของซีรีส์เกาหลีเรื่องอื่น ๆ เป็นที่เรียบร้อย การไม่ได้สร้างตามสูตรสำเร็จทำให้เสน่ห์ของซีรีส์นั้นพุ่งกระฉูดพร้อม ๆ กับโปรดักชั่นที่ทำได้อย่างไม่ผิดหวัง CG คุณภาพที่มีความสากลและได้มาตรฐานมาก แต่ด้วยความยาวซีรีส์ที่มีเพียง 6 ตอนเท่านั้น ข้อจำกัดของเวลาทำให้เนื้อเรื่องไม่สามารถเล่าปูมหลังของตัวละครได้มากเท่าที่ควร บางประเด็นก็เล่าเร็วจนหลายครั้งก็ตามไม่ทันเหมือนกัน เช่น ประเด็นการบูลลี่ แบ่งชนชั้น การสอบที่เคร่งเครียดของนักเรียนเกาหลี การมุ่งมั่นในการสอบข้าวของเกาหลี เป็นต้น ซึ่งก็เป็นประเด็นที่น่าสนใจมากแต่ไม่ได้ลงรายละเอียดเพื่อรักษาเส้นเรื่องความแฟนตาซีไว้ ซึ่งเป็นเรื่องหลักมากกว่า สุดท้ายนี้ต้องขอปรบมือให้ทีมอาร์ตที่สร้างสรรค์น้องเยลลี่แต่ละตัวออกมา ซึ่งมีความสากลมาก เรียกได้ว่าหากทำเป็นโปรดักต้องมีคนอยากซื้อเก็บเอาไว้เป็นคอลเลกชันแน่นอน เพราะน้องน่าเอ็นดูมาก ๆ ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับซีรีส์ “The School Nurse Files” ครูพยาบาลแปลก ปีศาจป่วน ประเภท : แฟนตาซี ผู้กำกับ : Lee Kyoung-mi นักแสดงนำ : นัมจูฮยอก,จองยูมิ,มุนโซรี,ลี จู-ยัง ความยาว : 6 ตอน กำหนดฉาย : 2563 หากคุณไม่อยากพลาดทุกข้อมูลเกี่ยวกับเว็บรีวิวหนัง อย่าลืมติดตามหนัง Netflix เรื่องอื่นๆ เช่น Isn’t It Romantic เมื่อคนที่ไม่เชื่อในความรักต้องกลายเป็นนางเอกหนังเหล่านั้นเอง ได้อีกที่ filmograd.net

รีวิวหนัง “A Cinderella Story” นางสาวซินเดอเรลลา…มือถือสื่อรักกิ๊ง

หากคุณเป็นอีกหนึ่งคุณที่เคยฟังเรื่องราวระดับตำนานของนิทานเรื่อง “ซินเดอเรลลากับรองเท้าแก้ว” ล่ะก็ คุณต้องห้ามพลาดหนังรอมคอมฟีลกู้ดเรื่อง “A Cinderella Story” นี้ เพราะมันใช้การเล่าเรื่องจากพล็อตเดิมแต่ปรับหลายอย่างเพื่อให้เข้ากับโลกปัจจุบันได้อย่างแนบเนียนจนเราเองก็รู้สึกชื่นชมทีมเขียนบทเหมือนกัน หนังเล่าเรื่องราวของ นางเอกที่อาศัยอยู่กับพ่อของเธอเพราะแม่ของเธอได้เสียไปแล้ว พ่อของเธอมีธุรกิจร้านอาหารซึ่งกำลังเป็นไปด้วยดี แต่แล้ววันหนึ่งพ่อของเธอก็ได้เจอกับผู้หญิงที่ทำให้เขารู้สึกอยากแต่งงานด้วยอีกครั้ง แม้ว่าลูกสาวจะไม่ค่อยชอบหน้าเธอเท่าไร แถมยังได้พี่สาวฝาแฝดเพิ่มมากอีก 2 คนด้วย จากนั้นไม่นานพ่อของเธอก็ได้เสียชีวิต นางเอกเสียใจมากเพราะพ่อเป็นโลกทั้งใบของเด็กหญิง แต่เธอก็อยู่มาจนเติบโตภายใต้การเลี้ยงดูของแม่เลี้ยง ด้วยความที่พ่อไม่ได้เขียนพินัยกรรมอะไรทิ้งไว้เลยทำให้ทรัพย์สินทุกอย่างตกเป็นของแม่เลี้ยงรวมทั้งร้านอาหารที่เธอรักด้วย ตอนนี้นางเอกกลายเป็นลูกจ้างคนหนึ่งในร้านขณะที่แม่เลี้ยงและพี่สาวทำตัวเป็นเจ้าของร้านและหมดเงินไปกับค่าศัลยกรรม นางเอกตั้งใจจะสอบให้ได้มหาวิทยาลัยดี ๆ เพื่อหวังออกไปจากที่นี่ เธอมักโดนกดขี่และใช้งานจากแม่เลี้ยง และเมื่อไม่สบายใจเธอก็จะคุยกับเพื่อนในแชทของเธอ ซึ่งเขากับเธอนั้นมักจะเปิดใจพูดเรื่องความเศร้ากันอยู่เสมอ เหมือนกับว่าเขาเป็น Safe Zone ของเธอเลย ชีวิตไฮสคูลของเธอเป็นไปไม่ได้สวยนักเพราะเธอมักโดนสาวฮอตกลั่นแกล้งเสมอมีเพียงเพื่อนสนิท 1 คนที่คอยอยู่เคียงข้าง แต่สำหรับเธอนั่นก็เพียงพอแล้ว โรงเรียนได้จัดงานพรอมขึ้นทำให้นางเอกรีบไปขอแม่เลี้ยงทันทีแต่แม่เลี้ยงไม่อนุญาต รอนด้าหนึ่งในพนักงานเป็นเหมือนนางฟ้าแม่ทูนหัวที่คอยช่วยเหลือเธอตลอด รอนด้าให้นางเอกยืมชุดแต่งงานแสนสวยที่เธอเก็บไว้มานาน โดยเพื่อนของเธอวางแผนว่าจะไปและกลับมาที่ร้านก่อนเที่ยงคืนเพื่อไม่ให้แม่เลี้ยงรู้ได้ ทางนางเอกก็ได้นัดกับหนุ่มในแชทว่าจะเจอกันในคืนงานพรอมเพื่อให้รู้ความจริงว่าเขาเป็นใคร แต่เมื่อรู้ความจริงแล้ว….เธอกลับอึ้งและทำอะไรไม่ถูก ค่ำคืนนั้นช่างสวยงามราวเทพนิยาย แต่ทว่าเธอกลับทำมือถือตกเอาไว้ และนั่นก็เป็นสิ่งที่พระเอกใช้ตามหานางเอกต่อไป ใครที่กำลังตามหาหนังรอมคอมวัยรุ่นไฮสคูลบอกเลยว่าเรื่องนี้ดูกี่ครั้งก็ไม่เบื่อ แม้มันจะเป็นหนังที่ตามสูตรสำเร็จไปเสียหมด แต่ก็ทำให้เราได้เห็นแง่มุมทางความคิดของวัยรุ่นและได้ทำความเข้าใจมากขึ้น การที่เชื่อว่าการศึกษาเป็นเครื่องต่อยอดชีวิต และการเห็นใจคนอื่นเป็นสิ่งที่ควรทำอีกด้วย ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับหนัง “A Cinderella Story” ประเภท : โรแมนติก คอมเมดี้ ผู้กำกับ : มาร์ก รอสแมน นักแสดงนำ : ฮิลารี ดัฟ,แช็ด เมอร์เรย์,เจนนิเฟอร์ คูลิลิดจ์,จูลี่ กอนซาโล ความยาว : 1 ชั่วโมง 35 นาที หากคุณไม่อยากพลาดทุกข้อมูลเกี่ยวกับเว็บรีวิวหนัง อย่าลืมติดตามหนังต่างประเทศเรื่องอื่นๆ เช่น “I Love You Stupid : รักนะเจ้าโง่” หนังรอมคอมดูเพลินส่งตรงจากสเปน ได้อีกที่ filmograd.net

รีวิวคอมเมดี้เรื่องใหม่ของ โป๊ป-เต๋อ ใน “เฮ้ย ลูกเพ่ นี่ลูกพ่อ” กับความฮาที่ไม่จำกัด

“เฮ้ย ลูกเพ่ นี่ลูกพ่อ” จะกล่าวถึงเรื่องราวของ “ก๊อต” ชายหนุ่มผู้กำลังโล่ดแล่นในวงการแข่งรถทางเรียบและเขาก็ทำมันได้ดีถึงขั้นได้รับตำแหน่งแชมป์จากรายการการแข่งขันแม้ว่าผู้เป็นพ่อจะไม่ได้สนับสนุนและคอยขัดขวางเขามาตลอด ความสัมพันธ์ระหว่างก๊อตกับพ่อค่อนข้างระหองระแหงกันมาก แม่ของเขาก็ฆ่าตัวตายไปตั้งแต่หลายปีก่อนแล้ว แต่จนกระทั่งวันที่ประกาศรางวัลขณะที่ก๊อตกำลังขับรถไปส่งพ่อก็เกิดอุบัติเหตุ ทำให้เขาอาการหนักขั้นโคม่า และโชคชะตาก็เล่นตลกกับเขา เมื่อเขาตื่นขึ้นมาพบว่าตัวเองกำลังอยู่ในปี พ.ศ.2541 ซึ่งมันแค่ปีเดียวก่อนที่เขาจะเกิดขึ้นมา ก๊อตได้เจอกับ “เปรม” พ่อของตัวเองซึ่งตอนนี้เขายังหล่อเฟี้ยวและเป็นหัวหน้าแก๊งจิ๊กโก๋อย่าง “แก๊งเจ้าโลก” ที่คอยเก็บค่าคุ้มครองตามร้านค้าต่าง ๆ ไปทั่ว ทั้งยังเคยติดคุกมาแล้วอีกด้วย แต่ความวายป่วงยังไม่จบเมื่อทั้งคู่ต่างมาตกหลุมรักผู้หญิงคนเดียวกันด้วยนี้สิยิ่งไปกันใหญ่ เรื่องราวความสนุกของการที่ได้รู้จักลูกเพ่ ที่แท้จริงเขาเป็น ลูกพ่อเนี่ยเป็นพล็อตเรื่องที่ไม่ค่อยเห็นในหนังไทยสักเท่าไร แต่ถึงอย่างนั้นก็เป็นพล็อตเรื่องที่เดาทางได้ไม่ยาก ทำให้อีกตัวดึงเรื่องคือ “ความโบ๊ะบ๊ะ” ของคู่นักแสดง และความน่ารักของนางเอกนั่นเอง ความเห็นส่วนตัวคิดว่าหนังเรื่องนี้ถ้าดูเอาสนุกก็ถือว่าตอบโจทย์แต่ถ้าดูเอาพล็อตเรื่องถือว่ายังไม่โอเคร เพราะโปรดักชั่นต่าง ๆ ถือว่าบกพร่องหลายจุดเหมือนการนำของวินเทจมารวมกันทั้งที่มันอยู่กันคนละยุคสมัยเลย หรือจะเป็นความตั้งใจของทีมสร้างเองก็ไม่ทราบ เรื่องความสมเหตุสมผลของการย้อนเวลาที่หลายคนอาจจะรู้สึกว่า…เอ๊ะ ทำแบบนี้ได้ด้วยหรือโผล่มาให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง สำหรับใครที่ตั้งใจไปดูความบันเทิงบอกเลยว่าตอบโจทย์เพราะเคมีของคู่โป๊ป-เต๋อ นั้นกลมกล่อมอย่างบอกไม่ถูก เสน่ห์ของทั้งคู่ทำให้มุกต่าง ๆ มีความลื่นไหลมากขึ้นแม้ว่าจะมีมุกแปกอยู่บ้างก็ตาม ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับหนังเรื่อง “เฮ้ย ลูกเพ่ นี่ลูกพ่อ” ประเภท : คอมเมดี้ ผู้กำกับ : ภวัต พนังคศิริ นักแสดงนำ : ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ,ฉันทวิชช์ ธนะเสวี,แซมมี่ เคาวเวลล์ ความยาว : 1 ชั่วโมง 50 นาที กำหนดฉาย : 13 ตุลาคม 2563 หากคุณไม่อยากพลาดทุกข้อมูลเกี่ยวกับเว็บรีวิวหนัง อย่าลืมติดตามหนังไทยเรื่องอื่นๆ เช่น รีวิว แฟนเดย์…แฟนกันแค่วันเดียว พร้อมเฉลยตอนจบอีกแบบที่หนังไม่ได้นำเสนอ ได้อีกที่ filmograd.net

รีวิว The Shape Of Water สัมพันธ์สวาทที่ความต่างระหว่างสายพันธุ์ก็ไม่อาจกั้น

เรียกได้ว่าสมกับเป็นหนังรางวัลออสการ์ที่เลือกนำเสนอเรื่องด้วยการไม่ใช้สัญญะที่ซ่อนเร้นมากนักอย่างหลายเรื่องที่เรามีโอกาสได้เห็นกันเรื่อง “The Shape Of Water” นี้ถือเป็นอีกหนังที่ครองใจผู้ชมอย่างเราไปเรียบร้อยด้วยการเล่าเรื่องที่ประณีตแต่ไม่ได้เนิบช้า การใส่ใจทุกรายละเอียดจนทำให้เราประทับใจได้ไม่ยาก ซึ่งองค์ประกอบของหนังทำให้คนดูรู้สึกอินไปตามเรื่องและไม่ได้เพียงความบันเทิงแต่ยังได้ข้อคิดกลับมาในชีวิตนั่นถือเป็นสิ่งสูงสุด ฉากหลังของหนังเป็นเหตุการณ์ช่วงสงครามเย็นที่รัสเซียกับอเมริกา ยุค70s หนังได้เล่าถึง “เอไลซ่า” สาวใบ้ที่ทำงานเป็นพนักงานทำความสะอาดให้กับสถาบันวิจัยทางวิทยาศาสตร์แห่งหนึ่ง ซึ่งเธอใช้ชีวิตอย่างปกติทุกวัน แต่แล้ววันหนึ่งเมื่อทีมวิจัยได้ทำการจับตัว “มนุษย์น้ำ” จากแถบอเมริกาใต้มา ก็ทำให้ชีวิตเธอเปลี่ยนไป ในหนังเราจะได้เห็นความสัมพันธ์ของเอไลซ่ากับมนุษย์น้ำที่แม้ว่าทั้งสองจะไม่สามารถสื่อสารกันได้เลย แต่กลับเป็นความเข้าอกเข้าใจกันอย่างลึกซึ้งผ่านแววตาและท่าทีต่าง ๆ แทน จนความรู้สึกเหล่านั้นก่อเกิดเป็นความรักขึ้นมา ซึ่งก็ถือเป็นจุดแฟนตาซีของเรื่อง ความรักที่บางทีก็ไม่ได้นำมาเฉพาะความสุข มันนำพาให้เราทำเรื่องที่ยิ่งใหญ่เสมอ เอไลซ่าหวังจะลักลอบพามนุษย์ไปปล่อยที่ทะเลเพื่ออิสรภาพของเขา ไม่อย่างนั้นเขาคงต้องจบชีวิตลงในห้องทดลองนี้แน่ ๆ และหลังครึ่งหลังต่อจากนี้จะเป็นภารกิจการตามตัวเขากลับมาของตัวร้ายของเรื่อง ความเห็นส่วนตัวคิดว่าหนังเรื่องนี้แทรกประเด็นต่าง ๆ ได้แนบเนียบมาก เช่น การเหยียดสีผิว เพศ เชื้อชาติ อีกทั้งยังทำให้เห็นความมีมนุษยธรรมของมนุษย์แต่ละคนอีกด้วย สำหรับโปรดักชั่นนั้นทำออกมาได้ยอดเยี่ยมและน่าชื่นชมมาก ส่วนนักแสดงนั้นสามารถตีบทได้แตกกระจุยและทำให้คนดูอย่างเราอินไปกับบทบาทมากเสียจนเชื่อว่ากำลังดูชีวิตของหญิงสาวที่รักกับมนุษย์ต่างสายพันธุ์จริง ๆ หนังเรื่องนี้ถือเป็นงานละเอียดที่ควรค่าต่อการเสียเวลาชมอย่างยิ่ง ใครที่เป็นแฟนหนังแฟนตาซีไม่ควรพลาดอย่างแท้จริง ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับหนัง “The Shape Of Water” ประเภท : ดราม่า ระทึกขวัญ โรแมนติก ผู้กำกับ : กีเยร์โม เดล โตโร นักแสดงนำ : แซลลี ฮอว์กินส์,ดั๊ก โจนส์,ไมเคิล แชนนอน,ออคตาเวีย สเปนเซอร์ ความยาว : 2 ชั่วโมง 3 นาที กำหนดฉาย : 2562 หากคุณไม่อยากพลาดทุกข้อมูลเกี่ยวกับเว็บรีวิวหนัง อย่าลืมติดตามหนังต่างประเทศเรื่องอื่นๆ เช่น Airplane Mode หนังรักกุ๊กกิ๊กของเด็กสาวที่ติดโลกโซเชียลโดยไม่รู้ผลเสียของมัน! ได้อีกที่ filmograd.net

“I Love You Stupid : รักนะเจ้าโง่” หนังรอมคอมดูเพลินส่งตรงจากสเปน

หากใครที่กำลังตกอยู่ในห้วงความคิดว่าตัวเองนั้นกำลังเป็นขี้แพ้ คนที่ไม่เอาไหน ไม่ประสบความสำเร็จ แล้วอย่างยิ่งหากอายุอานามในช่วงวัยทำงานแล้วล่ะก็ บางทีหนังเรื่อง “I Love You Stupid : รักนะเจ้าโง่” นี้อาจทำให้คุณเปลี่ยนความคิดลบ ๆ พวกนั้นออกไปก็ได้ เรื่องราวของชายหนุ่มคนหนึ่งที่บุคลิกดูเนิร์ด ๆ ไม่ค่อยคูลนัก ซึ่งเขาเพิ่งถูกบอกเลิกจากแฟนสาวที่คบกันมานาน จนอายุ 35 ปี เหตุผลก็คงเพราะเห็นว่าพระเอกเรานี่ดูไม่เอาไหนเสียเลย ทำงานก็ไม่ได้เลื่อนตำแหน่งสูง ๆ ยังอยู่บ้านพ่อแม่ ไม่มีอะไรที่เชิดหน้าชูตาได้เลย ฝั่งพระเอกนั้นเฮิร์ทหนักมากเพราะเขารู้สึกผูกพันกับแฟนเก่าสุด ๆ แต่แล้วก็รู้สึกว่าตัวเองต้องมูฟออนไปให้เร็วที่สุดเพื่อหลุดพ้นจากความรู้สึกพวกนี้สักที ทำให้เขาตัดสินใจเสริชคำแนะนำจากอินเทอร์เน็ตและลองเอามาทำตามดู ทั้งการกินคลีน โกนขน ดูแลตัวเองแบบที่ไม่เคยคิดจะทำ ซึ่งการคิดเปลี่ยนแปลงเป็นคนที่ดีขึ้นนี้ก็ทำให้เขาได้เจอคนรอบตัวใหม่ ๆ เช่นกัน การได้เจอกับเพื่อนเก่าสมัยเรียนที่เธอได้แอบชอบเขาแต่ตอนนั้นเขาไม่ได้ชอบเพราะเธอไม่สวย จนตอนนี้เธอเปลี่ยนไปทีเดียว แต่เขาก็ยังไม่ได้รู้สึกอะไรกับเธอเกินกว่าเพื่อนอยู่ดี ความสัมพันธ์ของทั้งคู่พัฒนาไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป การที่เธอไม่เรียกพระเอกด้วยชื่อแต่เรียกด้วยคำว่า “เจ้าโง่” นั้นก็ฟังดูน่ารักดีอย่างประหลาดอีกอย่างมันเป็นคำอธิบายตัวตนของเขาได้ดีทีเดียว การที่นางเอกคอยให้คำปรึกษาเขาตลอดมา คอยอยู่เคียงข้าง ทำให้พระเอกได้เจอคำตอบของหัวใจ จนกระทั่งการกลับมาของแฟนเก่าที่เห็นว่าพระเอกเป็นคนที่ดีขึ้นเธอจึงกลับมาสนใจ ทำให้เขาเลือกที่จะปิดบังความจริงทุกอย่าง แม้ว่าในใจลึก ๆ เขาเองก็รู้ดีอยู่แล้วว่า…เขานั้นรักใครกันแน่ ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับหนัง “I Love You Stupid : รักนะเจ้าโง่” ประเภท : คอมเมดี้ ผู้กำกับ : ลอรา มานะ นักแสดงนำ : นาตาเลีย ทีน่า,Quim Gutierrez,Ernesto Alterio,อัลบา ริบาส ความยาว : 1 ชั่วโมง 33 นาที กำหนดฉาย : 24 มกราคม 2563 หากคุณไม่อยากพลาดทุกข้อมูลเกี่ยวกับเว็บรีวิวหนัง อย่าลืมติดตามหนังต่างประเทศเรื่องอื่นๆ เช่น The War with Grandpa สงครามชิงเตียงนอนระหว่างหลานสุดซ่ากับคุณปู่รุ่นเก๋า ได้อีกที่ filmograd.net

Born to be King (เกิดมาเป็นเจ้าพ่อ) ปลุกตำนานหนังแก๊งสเตอร์สูตรสำเร็จยุคเก่า

การกลับมาของ “Young and Dangerous” หรือ “กู๋ หว่า ใจ๋” ที่ดูเหมือนจะทิ้งทวนไปแล้วในภาค 5 แต่ 2 ปีต่อมา  ก็ได้คลอดภาคใหม่ในชื่อ “Born to be King”  ซึ่งนับเป็นภาค 6 ที่มีการเชื่อมเรื่องราวการพัฒนาการของตัวละครหลัก  และรวบรวมนักแสดงเก่า ๆ ที่อาจตายไปแล้วในภาคก่อน ๆ  มารับบทใหม่ในภาคนี้  และที่สำคัญการกลับมาของ เฉิน เสี่ยวชุน ผู้รับบทเป็น “ไก่ป่า”  ทำให้หนังภาคนี้ กลับมาปลุกตำนานหนังแก๊งสเตอร์อีกครั้งหนึ่ง “Born to be King” กำลังจะกลับมาอีกครั้ง Born to be Kingกล่าวถึง “ไก่ป่า” กำลังจะได้เป็นลูกเขยของ “แก๊งยามาโต้” แก๊งซึ่งทรงอิทธิพลในญี่ปุ่น ในขณะเดียวกัน “เฉิน ห้าว หนาน” เพื่อนสนิทของไก่ป่า กำลังจะก้าวสู่ผู้นำแห่ง “หงซิน” อย่างเต็มตัวอีกเช่นกัน  ขณะที่ “แก๊งสามสหาย” ของใต้หวัน ได้เกิดปัญหาภายใน  โดยมี “เสี่ยหลุย” ลูกชายหัวหน้าแก๊งคนเก่าผู้จบจากอเมริกา  เข้ามาเป็นกาวใจและแก้ไขสถานการณ์ดังกล่าว  โดยทั้งสามแก๊ง ทั้งยามาโต้  หงซิ่ง  และแก๊งสามสหาย  ต่างเป็นพันธมิตรที่ดีต่อกัน จนกระทั่งการเข้ามาของผลประโยชน์ด้านการเมือง  นำมาสู่เหตุการณ์วุ่นวายและการแตกหักระหว่างสามแก๊งดังกล่าว ในภาคนี้ ก็ได้แทรกกลิ่นไอของการเมืองอีกครั้งหนึ่ง  ซึ่งใช้การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของประเทศใต้หวัน เป็นจุดพลิกผันของเหตุการณ์ต่าง ๆ โดยการพลักบทบาทของ “ไก่ป่า” ให้มีความสำคัญอีกครั้ง  หลังจากหายไปในภาค 5 อย่างมีข้อกังขา ซึ่งสามารถทำหน้าที่ได้ดี  ในซีนอารมณ์ที่ต้องการความหนักเบาได้อย่างกลมกล่อม  ในขณะที่ “เฉิน ห้าว หนาน” พระเอกของเรื่องกลับไม่เด่นเท่าที่ควร  กลายเป็นเพียงแค่ประเด็นรอง ๆ ที่เน้นไปทางโหยหาความรักเก่า ๆ เสียมากกว่า ส่วนการไล่ฆ่า  แก้แค้น  และการหักหลังกัน ซึ่งเป็นสูตรสำเร็จของการปลุกตำนานหนังแก๊งสเตอร์  ก็มียังมีอยู่ให้เห็น  ได้หายคิดถึงกันบ้าง  แต่ก็ไม่มีอะไรใหม่ให้เซอร์ไพรส์มากมาย นอกจากงานโปรดักชันที่ดูพัฒนาไปอีกขั้นของหนังชุดนี้Born to be Kingเป็นการจับประเด็น จับแพะชนแกะที่ทำได้ดีพอสมควร  ซึ่งใช้ความคุกรุ่นของการเมืองการปกครองในฝั่งใต้หวันในช่วงนั้น  ในการเล่าเรื่องเชื่อมโยงกับแก๊งอิทธิพลต่าง ๆ   และนำมาซึ่งตัวละครหลัก ๆ ในภาคก่อน   ให้มารียูเนียนนอีกครั้งเพื่อปลุกตำนานหนังแก๊งสเตอร์ให้กระหึ่มอีกครั้งหนึ่ง  เพียงแต่การเปลี่ยนผันของหนังฮ่องกงที่เริ่มตกลงในช่วงนั้น  อาจไม่สบความสำเร็จด้านเสียงวิจารณ์มากที่ควร อัตราความสะเด่า เนื้อหา           3.5/5 ระทึกใจ 3.5/5 บทสรุป 3.5/5 หากคุณไม่อยากพลาดทุกข้อมูลเกี่ยวกับเว็บรีวิวหนัง อย่าลืมติดตามหนังต่างประเทศเรื่องอื่นๆ เช่น Airplane Mode หนังรักกุ๊กกิ๊กของเด็กสาวที่ติดโลกโซเชียลโดยไม่รู้ผลเสียของมัน! ได้อีกที่ filmograd.net

แวร์ ภาพยนตร์ มนุษย์หมาป่า ที่ยังเข้าถึงคนในยุคเทคโนโลยี

แม้ว่าเรื่องราวของ มนุษย์หมาป่า อาจจะลดความน่ากลัวลงไปในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามามีส่วนกับทุกชีวิตบนโลกใบนี้ แต่ทว่าผลงานของผู้กำกับวิลเลี่ยม เบนท์ เบล ได้พยายามถ่ายทอดเรื่องราวของปีศาจที่เคยน่ากลัวออกมาอีกรูปแบบหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นการที่พยายามอธิบายผ่านทางการแพทย์และการใช้จัมป์สแกร์ที่ทำให้ผู้ชมได้ตกใจตลอดเรื่องจนเป็นภาพยนตร์สยองขวัญที่ควรได้รับคำชื่นชมมากกว่าที่ควรจะเป็น ภาพยนตร์สยองขวัญเรื่อง มนุษย์หมาป่า ที่ยังดูได้อย่างสนุกในยุคนี้ เรื่องราวของแวร์นั้นก็เริ่มจากทนายสาวอย่างเคท มอร์ต้องไปว่าความให้กับผู้ต้องสงสัยคดีฆาตกรรมที่ชื่อว่าทาลัน กวีเนคว่าเขาอาจมีส่วนในการทำร้ายร่างกายครอบครัวพอตเตอร์ทั้งสามคน แต่ทว่าแม่ของทาลันกลับชี้แจงว่าเขาคงไม่มีทางไปทำร้ายคนอื่นได้จากการเป็นโรคทางพันธุกรรมของครอบครัวจนทำให้ทาลันมีร่างกายที่อ่อนแอ แม้ว่าสุดท้ายความจริงจะเปิดเผยว่าทาลันสามารถกลายเป็นมนุษย์หมาป่าที่มีพลังเหนือมนุษย์จริงๆ ก็ตาม หลังจากที่ภาพยนตร์เรื่องมนุษย์หมาป่าได้ออกฉายนั้น กระแสตอบรับของพวกเขาก็ถือว่าเป็นที่น่าพอใจสำหรับแฟนๆ ของภาพยนตร์สยองขวัญ ไม่ว่าจะเป็นการพยายามอธิบายที่มาของทาลันผ่านวิทยาศาสตร์และโรคพอร์ไฟเรียที่มีอยู่จริงๆ อีกด้วย แม้ว่าช่วงท้ายของเรื่องจะเปลี่ยนทิศทางไปเป็นภาพยนตร์แนวสืบสวนสอบสวนตามตัวละครหลักของเรื่องที่เป็นตำรวจและทนายนั่นเอง แต่ก็ถือว่าเพียงพอต่อแวร์ให้เป็นภาพยนตร์ที่ควรชมในช่วงฮัลโลวีนนั่นเอง นอกจากเนื้อเรื่องมนุษย์หมาป่าที่เล่าอย่างค่อยเป็นค่อยไปแล้ว ทางเทคนิคการใช้จัมป์สแกร์ที่ทำให้คนดูตกใจนั้นก็ยังใช้ได้ดีกับภาพยนตร์ที่ไม่ได้มีตัวประหลาดหรือปีศาจในเรื่อง โดยพวกเขาใช้จังหวะที่เหมาะสมในแต่ละครั้งจนผู้ชมไม่มีโอกาสตั้งตัว ซึ่งคงเป็นเรื่องที่ผู้กำกับภาพยนตร์สยองขวัญอย่างวิลเลี่ยม เบนท์ เบลคิดไว้แล้วอีกด้วย หากคุณไม่อยากพลาดทุกข้อมูลเกี่ยวกับเว็บรีวิวหนัง อย่าลืมติดตามหนังต่างประเทศเรื่องอื่นๆ เช่น เมื่อ “บัสเตอร์ คีตัน” ได้รับบาดเจ็บในหนังเรื่องเชอร์ล็อคจูเนียร์ ได้อีกที่ filmograd.net ขอขอบคุณการสนับสนุนจาก ufa9999 สำหรับข่าวสารในวงการภาพยนตร์ หรือซีรี่ย์ต่างๆ ทั้งเก่าและใหม่ ที่นำมาแบ่งปันกันในวันนี้

รีวิวภาพยนตร์ Abattoir สุดลี้ลับ ฉากสยอง ที่ครองใจแฟนๆหลายคน

สวัสดีครับมีใครชอบดูภาพยนตร์แนวลี้ลับ หรือสยองขวัญบ้างไหมครับ และบทความนี้เรามีภาพยนตร์แนวลี้ลับสยองขวัญมาฝากครับ โดยภาพยนตร์เรื่องนี้มีชื่อว่า Abattoir เป็นภาพยนตร์ที่ครองใจแฟนหลายคนและสร้างรายได้อันมหาศาล เราลองไปทำความรู้จักกับภาพยนตร์เรื่องAbattoirนี้กันเลย รีวิวภาพยนตร์ลี้ลับ-สยองขวัญในเรื่อง “Abattoir” ภาพยนตร์เรื่องAbattoirนี้เป็นภาพยนตร์แนวลี้ลับสยองขวัญ โดยดำเนินเรื่องโดยหญิงสาวคนหนึ่ง โดยเธอเป็นนักข่าวที่ทำข่าวเกี่ยวกับฆาตกรคนหนึ่ง จนเกิดเหตุการที่แม้แต่เธอก็ไม่คาดคิดมาก่อน เพราะเธอได้เข้าไปพัวพันกับเรื่องพวกนี้ไปแล้ว โดยฆาตกรจะกำจัดผู้คนที่เข้ามายุ่งเรื่องคดีของเขา จนอยู่มาวันหนึ่งพี่สาวและหลานของเธอเองได้ถูกฆ่าตายภายในบ้านของเธอเองโดยที่ไม่มีใครรู้ตัว เธอกลัวที่จะถูกฆ่าเธอจึงขายบ้านหลังนั้นไป แต่เมื่อเธอนั้นได้เดินเข้าไปภายในจุดที่พี่สาวและหลานของเธอตายนั้น ห้องนั้นก็เกิดความลี้ลับโดยจุดเกิดเหตุที่ผู้ตายนั้นได้ถูกยกออกไป และเธอก็ได้ยินข่าวนี้มาเหมือนกันว่าฆาตกรคนนี้เมื่อฆ่าไปแล้วจะอำพรางโดยยกห้องไป หรือซ่อมแซมห้องนั้นทำให้ดูเสมือนว่าไม่มีใครเข้ามา แต่ภาพยนตร์เรื่องAbattoirก็มีความลี้ลับอยู่อีกมาก เราไปหาคำตอบกันในภาพยนตร์เรื่องAbattoirเราไปหาคำตอบที่ว่า ฆาตกรคนนี้เขาต้องการอะไรกันแน่ และเขาทำลงไปเพื่ออะไร และวิธีที่เขาอำพรางตัวเองโดยการยกห้องออกจากบ้านเขาทำได้อย่างไร และเธอจะเจอจุดจบแบบพี่สาวและหลานของเธอหรือไม่ โปรดติดตามภาพยนต์เรื่องAbattoir สำหรับภาพยนตร์Abattoirนี้คุณจะได้รับทั้งความบันเทิงและความตื่นเต้นไปพร้อมๆกันโดยเนื้อเรื่องทำออกมาได้ดี ทำให้เรานั้นลุ้นอยู่ตลอดเวลาว่าจะเกิดอะไร และต่างก็สงสัยเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่คนร้ายอำพรางโดยการยกห้องออกจากบ้าน เพราะถ้าเป็นหลักความเป็นจริงแล้วมันแทบจะทำไม่ได้เลยที่จะยกเอาห้องทั้งห้องออกจากบ้านโดยที่คนในบ้านไม่มีใครรู้สึกตัว หากคุณไม่อยากพลาดทุกข้อมูลเกี่ยวกับเว็บรีวิวหนัง อย่าลืมติดตามหนังต่างประเทศเรื่องอื่นๆ เช่น “Nine Days” หนังสุดครีเอท เมื่อเทวดาหาคนมาเกิดใหม่ด้วยการ “สัมภาษณ์” ได้อีกที่ filmograd.net

รีวิวภาพยนตร์แฟนตาซีเรื่อง The Hunger Games สุดสนุกและสร้างรายได้มหาศาล

สวัสดีครับ คุณรู้จักภาพยนตร์ดีแค่ไหนแต่บอกได้เลยเรารู้จักภาพยนตร์เยอะกว่าคุณแน่นอน และบทความนี้จะพาคุณไปเยือนกับภาพยนตร์ที่มีชื่อว่า The Hunger Games ซึ่งเป็นภาพยนตร์อีกหนึ่งเรื่องที่ได้การตอบรับดีเยี่ยม แถมยังผลิตออกมาสร้างรายได้ให้กับวงการภาพยนตร์อันมหาศาล เราไปทำความรู้จักกับภาพยนต์ที่มีชื่อว่าThe Hunger Gamesกันเลยครับ รีวิว ภาพยนตร์แฟนตาซีเรื่อง “The Hunger Games” สำหรับภาพยนตร์เรื่องThe Hunger Gamesเป็นภาพยนตร์แนวแฟนตาซี โดยเนื้อเรื่องดำเนินโดย ระบบการปกครองที่เรียกกันว่า แคปปิตอล โดยปกครองทั้ง 12 เขต โดยแต่ละปีจะมีการจัดแข่งขันทางด้านการต่อสู้ โดยการต่อสู้นี้จะเป็นการเดิมพันที่คล้ายเกม โดยทั้ง 12 เขตนั้นจะต้องเลือกชายและหญิงออกมา 1 คู่ ใน1 เขตก็จะมีตัวแทน ละ 1 คู่ ออกมาต่อสู้กันเองรางวัลของผู้ที่ชนะหรือผู้ที่อยู่รอดเหลือคนสุดท้ายหรือคู่สุดท้ายนั้นก็คือผู้ชนะ และรางวัลคืออิสรภาพและความเป็นอยู่แบบปกติ แต่ภายในภาพยนตร์เรื่องนี้สื่อถึงอารมณ์ได้ชัดเจน ทุกคนที่เป็นผู้ถูกเลือกจากเขตต่างๆที่ออกมาสู้กันก็ต้องยอมรับระบบนี้เพราะระบบนี้เค้าทำกันมานานแล้ว จึงไม่มีใครที่จะกล้าล้มเลิกระบบในการต่อสู้นี้ ไม่ว่าอย่างไรก็ตามเราต้องไปลุ้นกันในภาพยนตร์ครับว่าเนื้อเรื่องจะเข้มข้นขนาดไหน และระบบที่ใช้กันมานานอย่างแคปปิตอลใช้ถูกล้มเลิกโดยใคร และจะมีใครต้องตายและใครที่จะอยู่รอดเป็นคนสุดท้ายต้องติดตามชมในThe Hunger Games          ภาพยนตร์เรื่องThe Hunger Gamesถึงแม้จะเป็นแนวแฟนตาซีแต่ก็ได้รับความสนุก ได้รับความบันเทิงเทิง และได้รับทั้งความรู้ที่หลากหลาย ถึงแม้ภาพยนตร์เรื่องนี้จะมีบางฉากที่ว่าดูน่าเบื่อเกินไป แต่โดยรวมแล้วภาพยนตร์เรื่องThe Hunger Gamesนี้ก็ทำออกมาได้ดีเลยทีเดียว สมแล้วที่สร้างรายได้อันมหาศาล เพราะต่างก็บอกกันปากต่อปากว่าภาพยนตร์เรื่องThe Hunger Gamesนี้มันสนุกและได้สาระประโยชน์จริงๆ เราขอฝากภาพยนตร์เรื่องThe Hunger Gamesนี้เอาไว้ในอ้อมกอดของคุณด้วยครับ หากคุณไม่อยากพลาดทุกข้อมูลเกี่ยวกับเว็บรีวิวหนัง อย่าลืมติดตามหนังต่างประเทศเรื่องอื่นๆ เช่น รีวิว Pandora หนังเกาหลีที่จะทำให้คุณเข้าใจความเห็นแก่ตัวในสังคมมากขึ้น ได้อีกที่ filmograd.net