รีวิวภาพยนตร์เกาหลีเรื่อง “Sweet Home” ภาพยนตร์แนวแฟนตาซีที่ไม่ควรพลาด

สวัสดีครับ หากคุณเป็นอีกหนึ่งคนที่ชื่นชอบภาพยนตร์แนวแฟนตาซีเหนือธรรมชาติ และกำลังเจอปัญหาในการเลือกดูภาพยนตร์อยู่ และบทความนี้เราเชื่อมั่นเหลือเกินว่าคุณต้องขอความช่วยเหลือจากเรา เพราะบทความนี้หวังคุณจะได้ประโยชน์ไม่มากก็น้อย เพราะเราได้มารีวิวภาพยนตร์แนวแฟนตาซีที่คิดว่าจะทำให้คุณหลงรักได้ โดยภาพยนตร์เรื่องนี้มีชื่อว่า Sweet Home ซึ่งถ้าหากแปลเป็นไทยแล้วก็จะแปลว่า บ้านที่แสนอบอุ่น ซึ่งเป็นภาพยนตร์อีกหนึ่งเรื่องที่มีนักแสดงเป็นชาวเกาหลี เราไปสัมผัสกับภาพยนตร์เรื่องนี้กันเลยครับ ภาพยนตร์แฟนตาซีของเกาหลีอย่างเรื่อง “Sweet Home” ที่มีดีมากกว่าที่คิด ภาพยนตร์เรื่องSweet Homeก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่มีทั้งความสนุกและความเพลิดเพลิน หากคุณเป็นคนที่ชอบแนวแฟนตาซีอยู่นั้นยิ่งไม่ควรพลาด โดยภาพยนตร์เรื่องsweet homeจะดำเนินเรื่อง โดยชายหน่มผู้ที่ชอบเก็บตัวอยู่ในห้องเพียงคนเดียว มีนิสัยที่ไม่ชอบเข้าสังคม จนกระทั่งพ่อและแม่ที่อาศัยอยู่กับเขานั้นเกิดเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุ เขาจึงไปอาศัยอยู่เพียงคนเดียวและยังคงใช้ชีวิตในแบบเดิม โดยการเก็บตัวอยู่เพียงในห้อง ทำกิจกรรมเพียงคนเดียว แต่ทว่า เรื่องที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อมีเหตุการณ์ประหลาดเกิดขึ้นบนโลกของเขา โดยผู้คนทุกคนบนโลกเปลี่ยนไป โดยคนในสังคมเปลี่ยนไปและมีความแตกต่างกันในแต่ละคน เสมือนกับพวกเขากำลังจะกลายเป็นปีศาจที่มีหน้าตาและนิสัยขึ้นอยู่กับกิเลสและผลกรรมของพวกเขา และนี่ก็คือจุดเริ่มต้นของเรื่องนี้ครับ ไปเอาใจช่วยเขาได้ในsweet homeและลุ้นไปด้วยกัน ว่าเหตุการประหลาดที่เกิดขึ้นบนโลกของเขาเกิดจากอะไรกันแน่ และเขาจะใช้ชีวิตกับคนในสังคมที่จะกลายเป็นปีศาจนี้ได้หรือไม่ และใครกันจะแก้ไขเรื่องทั้งหมดให้กลับสู่สภาพเดิม และสำหรับภาพยนตร์sweet homeคนส่วนใหญ่ก็มักจะบอกกันเป็นเสียงเดียวเลยว่าภาพยนตร์เรื่องนี้สนุกมากๆ เพราะนักแสดงในภาพยนตร์เรื่องนี้ถ่ายทอดทางความรู้สึกออกมาได้ดีเยี่ยม เพราะเป็นภาพยนตร์ที่ทำให้ผู้ชมนั้นลุ้นอยู่ตลอด หากคุณไม่อยากพลาดทุกข้อมูลเกี่ยวกับเว็บรีวิวหนัง อย่าลืมติดตามหนังต่างประเทศเรื่องอื่นๆ เช่น ภาพยนตร์ Resident Evil เตรียมกลับมาอีกครั้งแบบเคารพต้นฉบับเนื้อเรื่องในเกม ได้อีกที่ filmograd.net

ภาพยนตร์ Resident Evil เตรียมกลับมาอีกครั้งแบบเคารพต้นฉบับเนื้อเรื่องในเกม

สำหรับเด็ก ๆ ที่เกิดมาในยุค 90 และได้สัมผัสเครื่องเล่นเกมส์แห่งยุค อย่างเพลย์สเตชั่น 1 น่าจะพอรู้จักกันดีกับอีกหนึ่งเกมชื่อดังในยุคนั้นอย่าง Resident Evil หรือในชื่อที่ใช้ในญี่ปุ่น รวมถึงประเทศไทยในช่วงแรกที่เกมเข้ามาว่า “ไบโอ ฮาซาร์ด” ซึ่งเป็นลักษณเกมแนวสยองขวัญเอาชีวิตรอด ซึ่งจัดทำโดยบริษัทเกมชื่อดังอย่าง Capcom โดยภาคแรกออกมาในปี 1996 ภาพยนตร์ Resident Evil เตรียมถ่ายทำ พร้อมเนื้อเรื่องตามต้นฉบับในเกม Resident Evilในภาคแรกจะกล่าวถึงกลุ่มเจ้าหน้าที่หน่วยพิเศษที่ชื่อ S.T.A.R.S ที่ต้องออกสืบสวนเรื่องลึกลับในเมืองแร็กคูนซิตี้ จนต้องเข้าไปผจญภัยในคฤหาสน์ปริศนาบริเวณชานเมืองที่เต็มไปด้วยซอมบี้ และสัตว์ประหลาดที่เกิดจากไวรัสและการทดลองทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งได้รับการตอบรับจากผู้เล่นด้วยดี ทำให้ได้มีการสร้างResident Evilออกมาอีกหลายภาคและเป็นเกมลงเครื่องเล่นเกมอีกหลายชนิดด้วยกัน โดยปัจจุบันนับเกมภาคหลักได้ ทั้งหมด 7 ภาค ทั้งนี้ยังมีภาคเสริม ภาคแยก ภาคย้อนอดีตไปเล่าในช่วงเวลาต่าง ๆ โดยหลัก ๆResident Evilจะเล่าถึงอัมเบรล่าคอเปอเรชั่น บริษัทยาและอาวุธชีวภาพ ได้ทำการวิจัยไวรัสที่ทำให้เกิดโรคระบาด ทำให้สิ่งมีชีวิตกลายเป็นซอมบี้และสัตว์ทดลองต่าง ๆ ที่จะถูกนำไปใช้เป็นอาวุธได้ ส่วนตัวเองในแต่ละภาคก็มักจะเข้าไปพัวพันกับเหตุการณ์แพร่ระบาดของไวรัสนี้ที่ถูกนำไปใช้เป็นอาวุธ โดยเกมภาคหลักที่กำลังจะออกคือ Resident Evil8 ที่มีกำหนดจะวางจำหน่ายในปี 2021  โดยสำหรับภาพยนตร์Resident Evilถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์คนแสดงครั้งแรกออกฉายในปี 2002 ในชื่อไทยว่า “ผีชีวะ” ซึ่งผู้กำกับเอาโครงเรื่องบ้างส่วนจากเกมResident Evilมาใช้ แต่จะไม่อยากให้เหมือนมาก จึงเพิ่มตัวละครซึ่งกลายเป็น “นางเอก” ของเรื่องนี้เข้าไป โดยที่ไม่ใช่ตัวละครเดิมที่เคยมีในเกมResident Evilภาคไหนเลยอย่าง “อลิซ” ที่แสดงโดย มิลลา โยโววิช ซึ่งมีทั้งหมด 6 ภาค โดยภาคสุดท้ายก็คือภาค “อวสานผีชีวะ” ในปี 2016 ซึ่งแม้ว่าResident Evilเวอร์ชั่นของภาพยนตร์ที่แสดงโดย มิลลา โยโววิช จะดูทำรายได้มากพสมควร แต่ด้วยความที่ผู้สร้างนำเพียงโครงเรื่องและบรรยากาศจากเกม รวมทั้งตัวละครสำคัญบ้างตัวมาใช้เท่านั้น โดยยึดตัวละคร “อลิซ” เป็นหลัก ทำให้แฟนเกมResident Evilมองว่า เนื้อเรื่อง “มั่วมาก” เพราะแตกต่างจากต้นฉบับในเกมที่พวกเขาเคยเล่น นอกจากนี้ตัวละครหลักที่สำคัญของเกมResident Evilในแต่ละภาค กลับถูกนำมาเป็นตัวประกอบให้ “อลิซ” เท่านั้น ก่อนที่จะถูกตัดบทไปดื้อ ๆ ในภาคต่อไป เรียกว่าตัวบทแย่มาก ๆ  ทำให้ล่าสุดมีข่าวออกมาว่า หลังจากตัวภาพยนตร์Resident Evilชุดชองอลิซจบลงในปี 2016 ได้มีการประกาศทำภาพยนตร์Resident Evilขึ้นมาใหม่ โดยจะรีเมคใหม่หมดและนำตัวละครจากในเกมResident Evilมาเป็นตัวละครหลักในการดำเนินเรื่อง รวมทั้งลบตัวละครส่วนเกินที่ไม่เคยมีในเกมอย่าง อลิซ ออกไป รวมทั้งยึดเนื้อเรื่องตามต้นฉบับเกมแบบเต็มที่ ตามที่แฟนเกมเรียกร้อง ซึ่งตามข่าวยังบอกอีกว่าผู้ที่จะมานำแสดงหลัก ๆ ก็มี คายา สโคเดลาริโอ ที่จะมารับบท แคลร์ เรดฟิลด์ แฮนนาห์ จอห์น-คาเมน มารับบท จิล วาเลนไทน์ และรอบบี้ อเมล มารับบท คริส เรดฟิลด์ เร็ว ๆ นี้ไม่นานเกิดรอ รอชมได้เลย หากคุณไม่อยากพลาดทุกข้อมูลเกี่ยวกับเว็บรีวิวหนัง อย่าลืมติดตามหนังต่างประเทศเรื่องอื่นๆ เช่น รีวิวหนังคลาสิคในดวงใจ กับเรื่อง “Atonement” ตราบาปลิขิตรัก ได้อีกที่ filmograd.net

“สุภาพบุรุษสุดซอย” เมื่อพี่ชายวัยโตทั้ง 3 ต้องมาเลี้ยงน้องเล็กที่มีอายุเพียง 6 ขวบ

สำหรับท่านผู้อ่านที่ได้ติดตามอ่านบทความกับเรา อาจจะพอจำกันได้ว่าได้อ่านบทความเกี่ยวกับสุดยอด ซิทคอมของเมืองไทยอย่าง “3 หนุ่ม 3 มุม” กันมาแล้ว โดยซิทคอมเรื่องดังกล่าวถือเป็นซิทคอมตั้งแต่ยุคปี 90 ซึ่งมุ่งเน้นแสดงให้เห็นถึงครอบครัวชายหนุ่มทั้ง 3 ที่ต้องมาอยู่ร่วมกันในฐานะพี่น้องที่มีอายุต่างวัย เกิดเรื่องราวต่างๆเกิดขึ้นมากมาย อย่างไรก็ตาม ก่อนที่ 3 หนุ่ม 3 มุม X 2 จะถูกนำกลับมาออกอากาศในปี 2563 นี้ วงการซิทคอมไทยก็ได้มีการต้อนรับอีก 1 ซิตคอมแนวครอบครัวที่น่ารัก และน่าประทับใจแฟนเป็นอย่างมากจนถึงตอนนี้ซึ่งเป็นผลงานจากผู้กำกับซิทคอมชื่อดังบอย ถกลเกียรติ วีรวรรณ ที่ชื่อ “สุภาพบุรุษสุดซอย” “สุภาพบุรุษสุดซอย” เรื่องราวที่มีความเชื่อมต่อกันกับซิทคอมชุดบ้านสราญแลนด์ โดยสุภาพบุรุษสุดซอยเป็นหนึ่งในซิทคอมที่มีเรื่องราวเชื่อมต่อกันในชื่อซิทคอมชุดบ้านสราญแลนด์ โดยจะกล่าวถึงเรื่องวุ่นวายระหว่าง 4 ครอบครัวในหมู่บ้านแห่งนี้ ประกอบไปด้วยซิทคอมเรื่อง “ศึกรักข้ามรั้ว”  “ชะนีหนีคาน” “รักล้นๆคนเต็มบ้าน” และสุภาพบุรุษสุดซอย โดยทั้ง 4 เรื่อง จะมีเส้นเรื่องราวเป็นของตนเองแต่ในขณะเดียวกัน เรื่องราวก็จะเชื่อมต่อเหมือนดำเนินเรื่องไปพร้อมๆกับซีรีส์ซิทคอมเรื่องอื่น โดยทั้ง 4 เรื่อง ได้เริ่มออกอากาศมาตั้งแต่ต้นเดือนมกราคมปี 2561 หากแต่ในปัจจุบันซิทคอมที่ยังคงออกอากาศต่อเนื่องอยู่มีเพียงเรื่องสุภาพบุรุษสุดซอยเท่านั้น อาจเป็นเพราะเป็นซิทคอมที่มีแฟนติดตามและชื่นชอบมากที่สุดแม้ว่าซิทคอมเรื่องอื่นจะยุติไปแล้ว แต่สุภาพบุรุษสุดซอยที่จบเรื่องราวพร้อมกับซิทคอมเรื่องอื่นในช่วงปลายเดือนกันยายน พ.ศ. 2561 ได้ถูกสร้างต่อและอากาศต่อตั้งแต่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2561 มาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งสุภาพบุรุษสุดซอยดูจะมีกลิ่นไอคล้ายกับ 3 หนุ่ม 3 มุมในยุคเก่าอยู่พอสมควร เพราะเป็นเรื่องราวของพี่น้อง 3 คน 3 บุคลิกที่อยู่ร่วมกันในบ้านหลังหนึ่ง หากแต่ที่แตกต่างจาก 3 หนุ่ม 3 มุม นั่นก็คือ พวกเขาทั้งสามรับรู้มาตลอดว่าผู้เป็นพ่อได้หย่ากับแม่ของพวกเขา และไปแต่งงานใหม่ ทำให้หนึ่งในสามพี่น้องยังคงมีความทรงจำที่ไม่ดีกับผู้เป็นบิดา หากแต่อยู่มาวันหนึ่งสามพี่น้องซึ่งประกอบไปด้วย เอิร์ธ พี่คนโต วิน พี่ชายคนกลาง และ ซัน น้องชายคนเล็ก ซึ่งทั้ง 3 คน ต่างก็เรียนจบมีงานมีการทำกันอยู่แล้ว อยู่ๆก็ต้องมารับทราบว่าบิดาทิ้งพวกเขาไปนาน จนแม้แต่ช่วงที่มารดาของพ่อเขาเสียชีวิตไปก็ไม่โผล่ออกมาให้เห็น กลับเสียชีวิตลงไปอีกคนหนึ่งทิ้งไว้เพียงน้องเฌอ เด็กหญิงตัวน้อยวัย 6 ขวบ ซึ่งเป็นลูกสาวของบิดาพวกเขาซึ่งเกิดกับภรรยาคนใหม่ เอาไว้ให้พวกเขาช่วยเลี้ยงดู เรื่องราววุ่นวายของสามพี่ชายตัวโตที่ต้องมาช่วยกันเลี้ยงน้องสาวตัวเล็กจึงได้เริ่มต้นขึ้น หากคุณไม่อยากพลาดทุกข้อมูลเกี่ยวกับเว็บรีวิวหนัง อย่าลืมติดตามหนังไทยเรื่องอื่นๆ เช่น รีวิว เฮ้ย! ลูกเพ่ นี่ลูกพ่อ หนังตลกที่จะมาทำให้คุณคิดถึงพ่อแม่มากขึ้น ได้อีกที่ filmograd.net

รีวิว “ฮาว ทูทิ้ง” หนังรักสายติสท์ที่ทำให้เรารู้จักมูฟออนให้ชีวิตมากขึ้น

ในช่วงเวลาของชีวิตย่อมมีหลายครั้งที่เราจำยอมต้อง ‘ทิ้ง’ บางสิ่งบางอย่างออกไปจากชีวิตโดยไม่ได้ตั้งใจ เหมือนกับในหนังเรื่อง “ฮาว ทูทิ้ง” แต่บางทีเราอาจทำไปเพราะความจำเป็นหรือทำไปเพราะเหตุการณ์บางอย่างในชีวิต แน่นอนว่าก็มีอีกหลายครั้งเหมือนกันที่เราเลือกที่จะเก็บสิ่งที่ไม่จำเป็นกับชีวิตเอาไว้ข้างตัวเราอย่างไร้เหตุผล แต่เมื่อจำเป็นต้องมาคิดอีกครั้งว่าจะทิ้งมันหรือไม่ เราจะตัดใจจากมันได้จริงหรือไม่…เรื่องราวของหญิงสาวที่เพิ่งกลับมาที่ไทยหลังเรียนจบจากสวีเดนอย่าง “จีน” ที่ตั้งใจจะมาเคลียร์พื้นที่ในบ้านเพื่อทำเป็นออฟฟิศตามแนวแบบ “มินิมอล” คือเรียบ ๆ สีสว่าง ไม่ค่อยมีรายละเอียดหรือของจุกจิก เรียกง่าย ๆ ว่าโล่ง ๆ นั่นเอง แต่ตัดภาพมาที่สภาพบ้านที่ใช้งานมากว่า 30 ปีก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยในการเก็บกวาดของต่าง ๆ อีกทั้งที่ยากยิ่งกว่าคือการพูดคุยกับแม่ของเธอที่ดูเหมือนจะยังคงผูกพันกับของหลายชิ้นในบ้านหลังนี้ ในหนังเราจะเห็นนิสัยการทิ้งของแบบไม่คิดเลยของจีนที่ทำเอาพี่ชายของเธออย่าง “เจย์” รู้สึกแปลกใจไม่น้อย โดยระหว่างการเก็บกวาดก็ได้เพื่อนสนิทอย่าง “พิ้ง” มาช่วยด้วย แต่ระหว่างนั้นทั้งคู่ก็ได้มีส่วนทำให้จีนกลับมาเห็นคุณค่าและความทรงจำอันล้ำค่าของของพวกนั้นด้วย จนนำมาสู่การคืนของที่เธอเคยยืมเพื่อน ๆ มาตั้งแต่สมัยเรียน ทำให้เราได้เห็นว่าคนรอบข้างของเธอนั้นได้มีชีวิตเป็นไปอย่างไรกันบ้างแล้ว เมื่อถึงของที่เป็นของ “พี่เอ็ม” ซึ่งคือแฟนเก่าที่เธอไม่ได้บอกเลิกกับเขา แต่เลือกที่จะหายออกไปจากชีวิตเขาแบบดื้อ ๆ ไม่มีคำอธิบายใด ๆ ทิ้งให้แต่ฝ่ายชายคอยถามตัวเองทุกวันว่ามันเป็นเพราะอะไรกันแน่ และได้เห็นว่าตอนนี้เขาได้มีแฟนใหม่แล้วและถึงแม้เธอจะพยายามทำตัวเข้าใจเอ็มมากแค่ไหนเราก็ยังเห็นความเจ็บปวดของเธอได้อยู่ดี ส่วนตัวคิดว่าหนังเรื่องนี้เป็นงานอาร์ทที่เสพยาก ย่อยยากงานหนึ่งเลยทีเดียว ใครที่ไม่ใช่สายหนังแบบนี้ก็อาจจะงงและไม่ชอบได้ แต่หากใครที่ชอบเสพความติสท์บอกเลยว่าห้ามพลาดเพราะไม่ว่าจะโทนหนัง ตัวฟอนต์ บทพูด บุคลิกการถ่ายทอดลักษณะนิสัยตัวละคร โลเคชั่น แต่ละอย่างทำออกมาได้ลงตัวและมีความหมายลึกซึ้งในตัวของมันเองได้อย่างดีมาก ๆ  ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับหนัง ฮาว ทูทิ้ง ประเภท : ดราม่า โรแมนติก ผู้กำกับ : นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์ นักแสดงนำ : ชุติมณฑน์ จึงเจริญสุขยิ่ง,ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์,ษริกา สารทศิลป์สุภา,ถิรวัฒน์ โงสว่าง ความยาว : 1 ชั่วโมง 55 นาที กำหนดฉาย : 24 ธันวาคม 2562 หากคุณไม่อยากพลาดทุกข้อมูลเกี่ยวกับเว็บรีวิวหนัง อย่าลืมติดตามหนังไทยเรื่องอื่นๆ เช่น รีวิวคอมเมดี้เรื่องใหม่ของ โป๊ป-เต๋อ ใน “เฮ้ย ลูกเพ่ นี่ลูกพ่อ” กับความฮาที่ไม่จำกัด ได้อีกที่ filmograd.net

รีวิวหนังเรื่อง “The Ghost Writer” พลิกปริศนา สภาซ่อนเงื่อน

อาชีพนักเขียนไม่ใช่อาชีพที่คอยป้อนข้อมูลด้านตัวหนังสือ นำมาเรียบเรียงแล้วพิมพ์หรือเขียนลงในกระดาษอย่างที่หลายคนเข้าใจเพราะการเป็นนักเขียนแท้จริงแล้วต้องใช้จิตวิญญาณอย่างมากในการกลั่นกรองความรู้สึกของตน ให้มาเป็นเรื่องราวที่จะเข้าไปสู่ความทรงจำของผู้อ่านหลายร้อนชีวิต ซึ่งเป็นหน้าที่สำคัญที่ต้องถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ของตนลงไปอย่างแยบคายมากทีเดียว อย่างในหนังเรื่อง “The Ghost Writer” ที่เป็นเรื่องราวนี้ได้เล่าเรื่องของ The Ghost ซึ่งเป็นฉายาในวงการของนักเขียนที่ไม่ออกนามคนหนึ่งหรือที่เรียกว่า Ghostwriter ซึ่งเขาเองก็รับเขียนให้นักเขียนชื่อดังหลายคนเลยทีเดียว จนกระทั่งงานเขียนหนึ่งได้ติดต่อมาเป็นการเขียนเกี่ยวกับบันทึกความทรงจำของอดัม แลง ซึ่งนักเขียนคนเก่านั้นได้เสียชีวิตไปอย่างปริศนาระหว่างทำการแต่งหนังสือเล่มนี้ขึ้นมา แต่เมื่อ The Ghost ศึกษาข้อมูลต่าง ๆ มากยิ่งขึ้นก็ได้พบว่านายกรัฐมนตรีคนนี้ได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับ CIA และการละเมิดสิทธิมนุษยชนกับการทรมาณนักโทษอีกด้วย นั่นทำให้ The Ghost ต้องการที่จะไขความจริงของเรื่องราวทั้งหมดและดันไปเจอข้อมูลของใครบางคนเข้า ซึ่งเขาคนนั้นได้ทำให้ The Ghost ต้องเผชิญกับอันตรายครั้งใหญ่ของชีวิต ส่วนตัวคิดว่าเรื่องนี้ค่อนข้างปูเรื่องมาได้น่าสนใจ แต่การเล่าเรื่องนั้นออกจะหนักไปหน่อย ไม่ค่อยน่าติดตามหรือตราตรึงสักเท่าไร หลายฉากที่เราเห็นความรุนแรงที่ถ่ายทอดออกมาใครที่มีอารมณ์หวั่นไหวง่ายอาจจะไม่ค่อยเหมาะสักเท่าไร ส่วนใครที่ชอบความระทึกขวัญดูไปหัวใจเต้นไปมาตึกตัก ๆ ชอบความเสี่ยง ๆ หน่อยบอกเลยว่าเหมาะมากเพราะการลุ้นให้พระเอกของเรารอดไปได้ในแต่ละฉากบอกเลยว่ามีปาดเหงื่อกันเลนทีเดียว แม้หนังเรื่องนี้จะไม่ได้เป็นหนัง Perfect แต่ก็ได้สะท้อนอะไรมากมายให้เรากำลังไปคิดให้ดีขึ้นได้แน่นอน ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับหนัง “The Ghost Writer” ประเภท : กระตุกขวัญ ลึกลับ ผู้กำกับ : โรมัน โปรันสกี นักแสดงนำ : ยวน แม็กเกรเกอร์,เพียร์ซ บรอสแนน,โอลิเวีย วิลเลียมส์,คิม แคตทรอลล์ ความยาว : 2 ชั่วโมง 20 นาที กำหนดฉาย : พฤษภาคม 2563 หากคุณไม่อยากพลาดทุกข้อมูลเกี่ยวกับเว็บรีวิวหนัง อย่าลืมติดตามหนังต่างประเทศเรื่องอื่นๆ เช่น รีวิวหนังฟีลกู้ดเติมพลังชีวิต The Bucket List เพราะชีวิตต้องการเราจึงต้องทำมัน ได้อีกที่ filmograd.net

รีวิวหนังรอมคอม “She is the Man” แอบแมน มาปิ๊งแมน

จะเป็นอย่างไรหากเราเลือกที่จะทำตามความฝันของเราด้วยการดื้อดึงที่จะโกหก มันจะได้ผลที่ดีกว่าหรือแย่กว่ากัน และเราจะสามารถเอาตัวรอดได้จริงหรือ? อย่างในหนังเรื่อง “She is the Man” จะว่าถึงเรื่องราวของหญิงสาววัยรุ่นที่รักกีฬาฟุตบอลเท่าชีวิตอย่าง “ไวโอล่า” แต่เหมือนกับฝันได้ดับสลายเพราะโค้ชบอกกับทีมว่าทีมของเธอกำลังจะถูกยุบ และยังดูถูกจากทีมนักเรียนชายอีกด้วยว่าผู้หญิงไม่ควรจะเตะฟุตบอลนั่นทำให้เธอต้องคิดแผนเพื่อทำอะไรสักอย่าง เธอจึงตัดสินใจเอาเรื่องราวสุดเซ็งนี้ไปเล่าให้พี่ชายของเธอฟังซึ่งเขาเองก็อยู่ทีมฟุตบอลเหมือนกันแต่อยู่คนละโรงเรียน และเมื่อเธอรู้ว่าเขาจะแอบโดดเรียนเพื่อไปหนีเที่ยวต่างประเทศกับเพื่อนเป็นเวลาถึง 14 วัน เธอจึงปิ๊งไอเดียที่จะแอบปลอมเป็นพี่ชายตัวเองขึ้นมา นั่นทำให้เธอต้องไปเรียนและเข้าฝึกซ้อมกับทีมของพี่ชาย รวมถึงไปอยู่หอพักร่วมกับนักเรียนชายด้วยกันอีกด้วย เรียกได้ว่าแค่พล็อตเรื่องหลักก็อลหม่านและเล่าเรื่องได้ฮาสุด ๆ แล้วมิหนำซ้ำยังขยี้ด้วยการใส่ประเด็นเกี่ยวกับสาว ๆ เข้ามาอีก ที่คนที่พระเอกชอบดันมาชอบนางเอกซะนี่ อย่างงี้นางเอกจะหนีแผนจับผู้ของสาวฮอตได้สำเร็จหรือไม่ และเธอเองก็แอบชอบพระเอกที่พักอยู่ห้องเดียวกันอีกด้วย ต้องคอยมาลุ้นกันว่าสุดท้ายแต่ละคู่จะลงเอยกันได้อย่างไร และความฝันในการเป็นได้แข่งขันฟุตบอลของไวโอล่าจะสำเร็จหรือไม่ต้องคอยติดตามชม ส่วนตัวคิดว่าหนังเรื่องนี้ถ่ายทอดความเป็นรอมคอมได้ลงตัวมาก หนังน่ารักสดใส ประเด็นดราม่าต่าง ๆ ก็ใส่มาได้อย่างพอดี ๆ ไม่ได้มากเกินไปจนเนื้อเรื่องเครียดและไม่ได้เบาโหวงไร้สาระไปเลย อีกทั้งยังพยายามให้ความสำคัญกับฟุตบอลพอ ๆ กับเรื่องความรักแม้ว่าสุดท้ายเราจะเห็นเรื่องความรักเด่นกว่ามาก ๆ เลยก็ตามที ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับหนัง “She is the Man” ประเภท : โรแมนติก คอมเมดี้ ผู้กำกับ : แอนดี ฟิกแมน นักแสดงนำ : อแมนดา ไบน์ส,แชนนิง เททัม,ลอรา แรมซีย์,อเล็กซานดร้า เบรคเคนริดจ์ ความยาว : 1 ชั่วโมง 45 นาที กำหนดฉาย : 30 มีนาคม 2549 หากคุณไม่อยากพลาดทุกข้อมูลเกี่ยวกับเว็บรีวิวหนัง อย่าลืมติดตามหนังต่างประเทศเรื่องอื่นๆ เช่น รีวิวหนังฮาแบบหลุดโลกกับ “The Wrong Missy” มิสซี่สาวในฝัน (ร้าย) ได้อีกที่ filmograd.net

รีวิวหนังรอมคอมเรื่องใหม่ Love Guaranteed ฉายแล้วทาง Netflix

ความรักสามารถการันตีได้หรือไม่? นี่คงเป็นคำถามที่พวกเราหลายคนคิดอยากหาคำตอบทั้งที่ก็เหมือนจะรู้คำตอบกันอยู่แล้ว แต่ก็ยังเลือกที่จะออกค้นหามันต่อไปอย่างมีความหวังว่าสักวันจะได้เจอ ไม่ว่าความรักจะสามารถการันตีได้หรือไม่ก็คงสุดแล้วแต่ตัวของเราเองมากกว่าว่าจะให้คุณค่าและความหมายกับคำนี้อย่างไร ทาง Netflix เองก็คงเห็นความสำคัญกับรักแท้ไม่น้อยจึงสร้างหนังรักรอมคอมเรื่องใหม่เรื่อง “Love Guaranteed” นี้ขึ้นมา แม้ดูภายนอกแล้วจะเป็นหนังที่ไม่ได้น่าตื่นเต้นหรือน่าติดตามเรื่องราวต่อ แต่บอกเลยว่าเมื่อได้ดูแล้วจะพบกับความลึกซึ้งของหนังเรื่องนี้และหลงรักตัวละครในเรื่องอย่างถอนตัวไม่ขึ้น เรื่องราวของ “ซูซาน” ทนายหญิงที่ต้องพยายามหาเงินจำนวนมากมาค้ำจุนสำนักงานทนายความของเธอเอาไว้ให้ได้ จนทำให้เธอต้องรับว่าจ้างคดีให้กับหนุ่มผิวสีคนหนึ่งชื่อ “นิค” ซึ่งเขาตั้งใจจะฟ้องร้องเว็บไซต์หาคู่หนึ่งที่ชื่อ Love Guaranteed ที่เขานั้นได้ใช้งานและพบว่าไม่เห็นจะพบความรักอย่างที่เว็บไซต์อวดอ้างมาแต่น้อยเลย ซึ่งการว่าความนั้นก็เป็นไปอย่างดุเดือดทีเดียว การที่เว็บไซต์ถูกจอมตีนั้นก็ได้ให้การมาหากจะโจมตีเว็บไซต์นี้ก็เหมือนโจมตีแอปหาคู่อื่น ๆ ด้วย และทำให้ตลอดการที่เราชมหนังเรื่องนี้ก็ได้กลับมาฉุกคิดอยู่ตลอดว่า “ความรักมันการันตีได้ไหม” อยู่ตลอด ซึ่งก็เป็นประเด็นที่น่าสนใจมากทีเดียว อีกทั้งการที่ทนายสาวเริ่มจะมีใจให้กับนิคที่เป็นลูกความก็ทำให้เนื้อเรื่องดูน่าติดตามขึ้นไปอีกมาก สุดท้ายแล้วฝ่ายไหนจะได้รับชัยชนะในการฟ้องครั้งนี้คงต้องติดตามต่อไปภายในเรื่อง แล้วคุณล่ะคิดว่าความรักสามารถการันตีได้หรือไม่ ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับหนัง “Love Guaranteed” ประเภท : โรแมนติก ดราม่า ผู้กำกับ : มาร์ก สตีเวน จอห์นสัน นักแสดงนำ : เรเชล ลีห์คุ๊ก,เดม่อน วายนส์ จูเนียร์,เฮเทอร์ แกรห์ม,แคนดิส แมคเคลอร์ ความยาว : 1 ชั่วโมง 30 นาที กำหนดฉาย : 3 กันยายน 2563 หากคุณไม่อยากพลาดทุกข้อมูลเกี่ยวกับเว็บรีวิวหนัง อย่าลืมติดตามหนัง Netflix เรื่องอื่นๆ เช่น รีวิวอนิเมชั่นเรื่องฮิตอย่าง “Over The Moon” กับการผจญภัยบนดวงจันทร์ ได้อีกที่ filmograd.net

ซีรีส์เกาหลีเรื่องใหม่น่าดูมาก “Dinner Mate” กับการบำบัดจิตด้วยการทานอาหาร

“Dinner Mate” กับเรื่องราวของจิตแพทย์หนุ่มสุดหล่ออย่าง “คิมแฮคยอง” ที่เขามักจะบำบัดและสังเกตลักษณะนิสัยของผู้ป่วยจิตเวชด้วยการไปดินเนอร์ด้วยกัน หรือไม่ก็ทำกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกัน แม้ว่าเขาจะเป็นคนใจเย็น โอบอ้อมอารีต่อคนอื่น แต่ตัวของเขาเองก็มีปมลึก ๆ ในใจของตนเองที่ต้องรอใครสักคนมาช่วยเยียวยาด้วยเช่นกัน วันหนึ่งเขาเข้าใจผิดนึกว่า “อูโดฮี” โปรดิวเซอร์สาวที่ทำงานให้กับบริษัทผลิตสื่อออนไลน์กำลังจะฆ่าตัวตาย เขาจึงรีบเข้าไปช่วยและชวนเธอไปทานข้าวด้วยกัน ซึ่งนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทั้งคู่ได้ทำความรู้จักกัน ซึ่งความจริงแล้วทั้งคู่ต่างก็เพิ่งได้รับแผลใจกันมาหมาด ๆ จากแฟนเก่า ไม่ว่าจะทางอูโอฮีที่ “จองแจฮยอก” ที่บอกเลิกกับเธอเสียดื้อ ๆ เพราะบอกว่าจะไปเรียนต่อ ส่วนคุณหมอก็ถูกฟิตเนสเทรนเนอร์สาวสุดแซ่บอย่าง “จินนาอึน” ขอยุติความสัมพันธ์เช่นเดียวกัน เรียกได้ว่ายังมีแผลสดกันทั้งคู่ และเหมือนโชคชะตากลั่นแกล้งเมื่อพวกเขาที่กำลังสานสัมพันธ์กัน เปิดใจคุยกันหลาย ๆ เรื่อง แต่ทว่าบรรดาแฟนเก่าก็กลับมาขอคืนดีเสียอย่างนั้น มันจะไม่ง่ายไปหน่อยหรอคิดว่าจะมาจะไปอย่างไรก็ได้หรือไง แม้ว่าพล็อตซีรีส์เรื่องนี้จะไม่ได้แปลกใหม่ออกจะดาษดื่นเสียด้วยซ้ำ แต่ด้วยเสน่ห์ความเป็นธรรมชาติของตัวละครเองและการดำเนินเรื่องที่เล่าเรื่องได้อย่างน่ารักน่าติดตามทำให้เราเผลอละสายตาจากเรื่องนี้ไปไม่ได้ อีกหนึ่งความประทับใจของเรื่องคือบทพูดของคุณหมอเพราะมันลึกซึ้งและให้แนวคิดเรากลับไปทบทวนหลาย ๆ อย่างในชีวิตเราได้มากทีเดียว นอกจากนี้หลักจิตวิทยาบำบัดด้วยอาหารนั้นก็ดีมากอย่างที่คุณหมอเคยบอกเอาไว้ว่าคู่รักที่ทานอาหารด้วยกันแล้วมีความสุขร่วมกัน ได้เห็นเวลาต่างฝ่ายต่างกินอาหารที่อร่อยนั้นสามารถครองรักกันได้ยาวนานมากกว่าคู่รักที่นอนบนเตียงเดียวกันเสียอีก ซึ่งครั้งแรกที่ฟังรู้สึกว้าวมาก เพราะเป็นบทสนทนาที่ล้ำลึกจริง ๆ  ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับซีรีส์ “Dinner Mate” ประเภท : โรแมนติก สถานีโทรทัศน์ : เอ็มบีซี ทีวี ผู้กำกับ : โกแจฮยอน นักแสดงนำ : ซอ จี-ฮเย,ซง ซึง-ฮ็อน,ซน นา-อึน,ลีจีฮุน ความยาว : 22 ตอน กำหนดฉาย : 25 พฤษภาคม 2563 หากคุณไม่อยากพลาดทุกข้อมูลเกี่ยวกับเว็บรีวิวหนัง อย่าลืมติดตามซีรี่ย์เรื่องอื่นๆ เช่น รีวิว Record of Youth เส้นทางสู่ดาว…ที่ยากลำบากแต่สวยงาม ได้อีกที่ filmograd.net

รีวิวซีรีส์เกมหมากรุกสุดมันส์ “The Queen’s Gambit” จากค่าย Netflix

จะเป็นอย่างไรเมื่อความเป็นอัจฉริยะต้องถูกเหนี่ยวรั้งเอาไว้ด้วยปมจากวัยเด็ก การที่ไม่มีครอบครัว ต้องเจอสภาพแวดล้อมที่สุดจะย่ำแย่ตั้งแต่เด็ก ความกดดันต่าง ๆ ได้หล่อหลอมให้กลายเป็นเด็กหญิงคนหนึ่งขึ้นมา ในหนังเรื่อง “The Queen’s Gambit” กับเรื่องราวของ “เบ็ธ” เด็กสาวที่ต้องสูญเสียแม่ของตนไปในอุบัติรถยนต์ชนเข้ากับรถบรรทุกซึ่งเธอได้รอดชีวิตมาได้ และที่สะเทือนใจเด็กหญิงที่สุดก็คือการที่เธอพอจะรู้สาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้ เมื่อเธอเสียแม่เธอก็ถูกส่งตัวไปอยู่สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า ซึ่งที่นั่นได้ให้ยาระงับประสาทกับเด็ก ๆ ทุกคน และเป็นจุดเริ่มต้นที่เธอได้รู้จักกับหมากรุก ผ่านคำสอนของภารโรงของสถานที่นั้น เขาสอนเธอเกี่ยวกับหมากรุกทุกสิ่งทุกอย่างทำให้เธอกลายเป็นอัจฉริยะด้านหมากรุกตั้งแต่อายุ 9 ขวบและด้วยปมในจิตใจทำให้เธอต้องการยาระงับประสาทแต่ภายหลังไม่มีการแจกให้แล้วเธอจึงต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้มันมา แม้ว่าเธอจะมีโอกาสได้มีครอบครัวอีกครั้งก็เหมือนโชคชะตาไม่เข้าข้าง เธอถูกทิ้งให้อยู่กับแม่เลี้ยงที่ไม่สามารถทำมาหาเลี้ยงชีพได้ ตั้งแต่นั้นเธอจึงเป็นคนทำงานหาเงินเข้าบ้านมาโดยตลอดด้วยการแข่งหมากรุก ชีวิตของเบ็ธคือชัยชนะในการประลองหมากรุก ความตั้งมั่นของเธอนั้นมีอยู่สูง เธอไม่ได้ต้องการแม้กระทั่งคำว่าเสมอกัน และแน่นอนว่าเกมกีฬาย่อมมีแพ้ชนะเป็นธรรมดา ในวงการหมากรุกเราจะได้เห็นหลายแง่มุมตั้งแต่กลวิธีการเล่น รวมไปถึงสังคมของผู้เข้าแข่งขันเอง ด้วยการที่เธออยู่คนเดียวทำให้เธอรู้สึกไม่ชอบสร้างพันธะผูกพันกับใครอีกต่อไปจึงตัดสินใจที่จะมี Sex แบบ One night stand กับชายหนุ่มในวงการหมากรุกด้วยกัน ความทะเยอทะยานของเธอทำให้เธอพยายามผลักดันตัวเองให้ได้เป็นตัวแทนของอเมริกาในการไปแข่งขันกับรัสเซียซึ่งได้ครองแชมป์มาหลายสมัย ในตัวหนังเราจะได้เห็นความแสดงสิทธิของสตรีอีกด้วย อิทธิพลด้านเฟมินิสต์นั้นแสนแรงกล้า ผู้หญิงมีอำนาจเหนือผู้ชายในบางทีซึ่งเป็นเรื่องที่น่าสนใจมาก  ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับหนัง “The Queen’s Gambit” ประเภท : ดราม่า ระทึกขวัญ ผู้กำกับ : สก็อตต์ แฟรงค์ นักแสดงนำ : โทมัส โบรดี แซงสเตอร์,เจคอบ ฟอร์จูน-ลอยด์,แมตทิว เดนนิส ลูวิส,Akemnji Ndifornyen ความยาว : 7 ตอน กำหนดฉาย : 23 ตุลาคม 2563 หากคุณไม่อยากพลาดทุกข้อมูลเกี่ยวกับเว็บรีวิวหนัง อย่าลืมติดตามซีรี่ย์เรื่องอื่นๆ เช่นรีวิว “He is psychometric” เมื่อเขาคนนี้สามารถอ่านภาพในจิตของคุณได้ ได้อีกที่ filmograd.net

รีวิวหนังคลาสิคในดวงใจ กับเรื่อง “Atonement” ตราบาปลิขิตรัก

“Atonement” (ตราบาปลิขิตรัก) เรื่องราวของความผิดหวัง ความรัก ความป้ายสี การโกหก และการไถ่โทษ ได้ถูกเรียงร้อยผ่านเรื่องราวของเด็กหญิงที่เติบโตขึ้นมาในครอบครัวที่มั่งคั่งและร่ำรวยอย่าง “ไบรโอนี่” เธอชื่นชอบงานเขียนเป็นพิเศษเพราะรู้สึกว่ามันสามารถรองรับอารมณ์ความรู้สึกที่ต้องการถ่ายทอดได้อย่างดี เธอมีพี่สาวแสนสวยอย่าง “ซิซิเลีย” ที่ได้มีความรู้สีกดี ๆ ให้กับชายหนุ่มลูกของคนรับใช้ที่ได้รับการอุปถัมภ์เลี้ยงดูอย่าง “ร็อบบี้” และมันก็ดูเป็นไปด้วยดีเพราะเขาก็หลงรักซิซิเลียมาโดยตลอด จนกระทั่งวันหนึ่งร็อบบี้ตัดสินใจเขียนจดหมายรักเพื่อหวังสารภาพความรู้สึกในใจ แต่ด้วยความเสน่หา ความต้องการอันแรงกล้าทำให้เขาได้เลือกใช้ถ้อยคำที่เย้ายวนทางเพศไปด้วย แต่เขาก็ไม่คิดจะส่งจดหมายฉบับนั้นและพิมพ์ขึ้นมาใหม่แทนแต่เขาก็ใส่จดหมายผิดซองไป และเมื่อไปถึงบ้านของซิซิเลียเขาก็ขอให้ไบรโอนี่ช่วยส่งจดหมายให้เขา แต่ทว่าเด็กหญิงก็แอบเปิดอ่านดูและเมื่อพบว่ามีถ้อยคำที่ดูไม่น่าไวใจและดูลามกมากเธอยอมรับไม่ได้ และมองว่าเขาเป็นผู้ชายที่ช่างหื่นกามอีกทั้งยังเอาเรื่องนี้ไปฟ้องซิซิเลียแต่ดูเหมือนพี่สาวจะไม่ได้สนใจจนนำไปสู่ฉากพรอดรักระหว่างพวกเขาทั้งสองในห้องสมุดและน้องสาวอย่างไบรโอนี่ก็ดันไปเห็นเข้าอีก นั่นทำให้เธอปักใจเชื่อไปอีกว่าร็อบบี้เป็นผู้ชายที่ไม่ดี หลังจากเหตุการณ์นั้นไม่นานก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นเพราะ “โลล่า” เด็กหญิงอายุไล่เลี่ยกับเธอนั้นกำลังถูกข่มขืน เจ้าหนูไบรโอนี่ก็ไปเห็นอีก แต่เธอไม่เห็นว่าแท้จริงผู้ชายที่ทำนั้นเป็นใคร และสุดท้ายก็พูดออกไปด้วยใบหน้าที่เรียบเฉยว่า “ร็อบบี้” เป็นคนทำเพราะเธอเห็นด้วยตาของเธอเอง นั่นทำให้ร็อบบี้กลายเป็นแพะรับบาปที่เขาไม่ได้ก่อ จากนั้นซิซิเลียก็ออกห่างจากครอบครัวของตนเอง เวลาผ่านไปหลายปีตอนนี้ซิซิเลียได้เป็นพยาบาลและน้องสาวของเธอก็เป็นพยาบาลเช่นกันแต่ทว่าสิ่งที่ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปก็คือความสัมพันธ์ของทั้งคู่เพราะความโกรธนั้นคับคั่งอยู่ในใจของพี่สาว จนเธอได้สัญญากับร็อบบี้ว่าพวกเขาจะไปเจอกันอีกครั้งตอนที่เขาได้ออกมาเป็นทหารที่รบในสงครามโลกครั้งที่ 2 เรื่องราวทั้งหมดนี้ถูกถ่ายทอดอยู่ในนิยายของไบรโอนี่เมื่อเธออายุได้ 80 ปี เนื่องจากเธอหวังว่าความจริงที่เธอได้ออกมาเปิดเผยจะเปลี่ยนแปลงอะไรได้สักเล็กน้อยก็ยังดี ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับหนัง Atonement ตราบาปลิขิตรัก ประเภท : โรแมนติก สงคราม ดราม่า ผู้กำกับ : โจ ไรท์  นักแสดงนำ : เคียรา ไนต์ลีย์,เจมส์ แม็กอะวอย,เซอร์ชา โรนัน,โรโมล่า กาไร ความยาว : 2 ชั่วโมง 10 นาที กำหนดฉาย : 7 กุมภาพันธ์ 2551 หากคุณไม่อยากพลาดทุกข้อมูลเกี่ยวกับเว็บรีวิวหนัง อย่าลืมติดตามหนังต่างประเทศเรื่องอื่นๆ เช่น รีวิวหนัง “The Invasion” อย่าแสดงสีหน้าหากไม่อยากตาย! ได้อีกที่ filmograd.net