หนังแอนตี้ฮีโร่จากค่าย Netflix อย่าง “The Old Guard” ผลงานจากผู้สร้าง G.I.JO

จากผลงานนิยายชื่อดัง ที่ถูกดัดแปลก และแต่งเติมเข้าไปจนได้หนัง นักรบอมตะอย่าง The Old Guard ผลงานหนังแอนตี้ Hero จากทางค่าย Netflix ที่บอกเล่าเรื่องราวของกลุ่มคนที่มีพลังอมตะเหนือมนุษย์ ที่พวกเขาไม่มีวันแก่ และฆ่ายังไงก็ไม่ตาย แต่พลังของพวกเขานั้น ไม่แน่นอน พวกเขาไม่รู้ว่าพลังของพวกเขาจะหมดไปตอนไหน และวันนี้ผมจะมารีวิวThe Old Guardนักรบพันธ์อมตะให้เพื่อนๆได้ฟังกันครับ รีวิว “The Old Guard” หนังแอนตี้ฮีโร่เรื่องล่าสุดจากทายค่าย NetFlix The Old Guardเป็นหนังแอนตี้ฮีโร่ เรื่องล่าสุดจากทายค่าย NetFlix ที่ผสมผสานและดัดแปลงมาจากนิยายชื่อดัง อีกทั้งยังได้ทีมงานคุณภาพจากสตูดิโอที่ฝากผลงานต่างๆไว้มากมายมายมาร่วมสร้างสรรค์ผลงาน เช่น G.I.JO, Mission: Impossible, 6underground, โดยThe Old Guardจะพูดถึง กลุ่มนักรบที่มีพลังวิเศษ อมตะฆ่าไม่ตาย ที่ต้องใช้ชีวิตปะปนไปกับคนธรรมดา ซึ่งเหล่านักรบพันธ์อมตะนั้นมีผู้นำหญิงที่ชื่อว่า “Andy” ที่มีอายุยาวนานมากที่สุดในกลุ่ม และมีประสบการณ์ในการรบและการใช้ชีวิตที่ยาวนานสุด นำแสดงโดย  “Charlize Theron” (ชาร์ลีซ เทรัน) ซึ่ง Andy เป็นผู้รวบรวมกลุ่มคนที่มีพลังอมตะนี้เข้าไว้ด้วยกัน โดยเธอหวังที่จะไม่ใช้มนุษย์รู้เพราะอาจจะเป็นอันตรายต่อเผ่าพันธุ์ของเธอได้ และสมาชิกในกลุ่มได้แก่ “Kooker” นำแสดงโดย Matthias Schoenaerts และสมาชิกคนล่าสุดในกลุ่มอย่าง Kiki layne  รับบทโดย liyne และ “Nicky”, “Joe” ที่รับบทโดย Luca Marinelli และ Marwan kenzari ,และซึ่งทั้ง 2 ตัวละครนี้ เป็นคู่ ชายรักชายกันภายในหนัง โดยตรงจุดนี้ผมมองว่ามันทำให้หนังมีสเน่ห์ขึ้นเอามากๆ เพราะมีหนังแอคชั่นเพียงไม่กี่เรื่องที่ หยิบยกเพศที่สาม เข้ามามีบทบาทในหนังฮีโร่  ส่วนความสนุกของหนังจะเป็นอย่างไร เพื่อนๆสามารถไปรับชมกันแล้วได้ทาง Netflix และในส่วนความรู้สึกของผมนั้น หนังเรื่องนี้ ค่อนข้างสนุกและน่าติดตามตลอดทั้งเรื่อง ยิ่งทางฝั่งนักแสดงอย่าง “Charlize Theron” (ชาร์ลีซ เทรัน) เธอแสดงได้ดีเอามากๆ  เธอมีเสน่ห์ สวย เท่ และแบกหนังเรื่องนี้ได้อย่างดีเลยทีเดียวครับ หากคุณไม่อยากพลาดทุกข้อมูลเกี่ยวกับ เว็บรีวิวหนัง อย่าลืมติดตาม หนังที่ฝากคำถามไว้มากมายจาก Netflix อย่าง In The Tall Grass พงหลอนมรณะ ได้อีกที่ filmograd.net หลังจากที่ดูหนังสนุกสุดมันส์ไปแล้วนั้น เรามาต่อกันที่ gclub168 สถานที่ที่นักลงทุนให้ความสนใจกันเป็นอย่างมาก เพราะมันสามารถเปลี่ยนชีวิตทุกคนได้อย่างง่ายดายเลย

หนังวันสิ้นโลกฟอร์มยักษ์ จากทางฝั่งจีนอย่าง “The Wandering Earth”

หากพูดถึงหนังวันสิ้นโลกนั้น ก็มีออกมาให้เราได้รับชมกันต่างๆมากมาย แต่หนังส่วนใหญ่นั้นล้วนเป็นหนังจากฝั่งยุโรปไปเสียหมด เพราะหนังวันสิ้นโลกส่วนใหญ่ ย่อมมีการถ่ายทำที่ต้องใช้ต้นทุนที่สูง และต้องอาศัยกระสบการณ์การทำหนังประเภทนี้ที่ค่อนข้างเยอะพอสมควร แต่ในปี 2020 นี้ ก็ได้เกิดเป็นกระแสร้อนแรงอย่างต่อเนื่องกับหนังฟอร์มยักษ์จากประเทศจีนอย่าง The Wandering Earth หนังที่บอกเล่าเรื่องราววันสิ้นโลก และการอพยพเอาตัวรอดของมนุษย์โลก “The Wandering Earth” หนังที่บอกเล่าเรื่องราวของการเอาตัวรอดในช่วงวันสิ้นโลก The Wandering Earth นั้นจะพูดถึงวันสิ้นโลก ที่ดวงอาทิตใกล้ถึงจุดดับและกำลังขยายตัว จึงทำให้ระบบต่างๆของธรรมชาตินั้นผิดเพี้ยนและไม่ปกติ มนุษย์โลกจึงต้องอพยพเพื่อไปหาดวงอาทิตดวงใหม่ ถือเป็นความทะเยอทะยานของฝั่งจีนเอามากๆ ด้วยคอนเซ็ปหนังที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ โดยดัดแปลงมาจากนวนิยายขายดี  และภัยพิบัตินี้ก็รุนแรงยิ่งกว่าหนังวันสิ้นโลกเรื่องไหนๆ และนอกจากนี้ไอเดียร์การแก้ไขปัญหาต่างๆภายในหนังนั้น ก็ไม่น่าเชื่อ ว่าฝั่งจีนจะคิดค้นขึ้นมาใช้ภายในหนัง ที่โครตจะล้ำและไม่น่าเชื่อว่าพี่จีนจะคิดค้นขึ้นมาใช้กับหนัง เช่นการคิดค้นเครื่องยนต์ชนิดหนึ่งที่ทำให้โลกหยุดหมุน เครื่องที่ทำให้โลกเคลื่อนที่ การเผาดวงดาวต่างๆเพื่อรักษาโลกของเราไว้ รวมถึงไอเดียร์อื่นๆภายในหนังอีกมายมาก และจะมีไอเดียร์อะไรบ้าง เพื่อนๆคงต้องไปค้นหาคำตอบกันด้วยตัวเองภายในหนังกันครับ ส่วนเรื่องรายได้คงไม่ต้องพูดถึง เพราะเรื่องนี้ทำรายได้ไปถึง  690 ล้านเหรียญสหรัฐเลยทีเดียว จัดเป็นหนังที่ทำรายได้ภายในประเทศเป็นดันดับสองรองจากเรื่อง the wolf warrior2    เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับ หนังวันสิ้นโลกฟอร์มยักษ์ ฝั่งจีน อย่าง The Wandering Earth นอกจากไอเดียร์ภายในหนังที่สุดแสนแปลกใหม่แล้ว ด้านนักแสดงก็สุดจัดไม่แพ้กันเลยทีเดียว เพราะหนังเรื่องนี้ขนทัพนักแสดงที่มีเชื่อเสียงเข้ามามากหน้าหลายตา เช่น จ้าว จินม่าย, ชวี ฉุ่เซียว, แจ็คกี้ วู, และนักแสดงที่มีชื่อเสียงอื่นๆอีกมากมาย หากคุณไม่อยากพลาดทุกข้อมูลเกี่ยวกับ เว็บรีวิวหนัง อย่าลืมติดตาม ทำไมคนถึงจับตามองหนังเรื่อง Monsters Hunter เยอะและเป็นหนังที่น่าดูประจำปี ได้อีกที่ filmograd.net บางทีหนังที่เกี่ยวกับวันสิ้นโลกนี่ก็สอนเรื่องราวเกี่ยวกับการเอาชีวิตรอดให้กับเราเป็นอย่างดี ดังนั้นหากยังไม่รู้ว่าจะเล่น สล็อต เกมส์ ไหนดี นั้น เราขอแนะนำที่นี่เลย เพราะเราได้รับการยอมรับจากเหล่านักเดิมพันมากมาย ทำให้เพื่อนๆคลายความกังวลเรื่องการโกงได้ 100%

หนังเอเลี่ยนจากต่างดาวที่สอดแทรกประเด็นทางสังคมเข้าไปอย่าง “District 9”

หากพูดถึงหนังเอเลี่ยนจากต่างดาวแน่นอนครับ ว่ามีเยอะแยะมากมาย อีกทั้งยังเป็นหนังที่มีกลุ่มผู้ชมเฉพาะกลุ่มอยู่ค่อนข้างมาก หนังแนวนี้จึงมีความเป็นมาตรฐานของหนัง ที่ปล่อยออกมาทีไร ยากที่จะเจ๊ง แต่มีหนังเอเลี่ยนอยู่เรื่องหนึ่ง ที่จัดเป็นหนังเอเลี่ยนที่ค่อนข้างแตกต่าง และอินดี้เอามากๆ อย่าง District 9 หนังเก่าจากปี 2009 โดยจุดเก่งของหนังเรื่องนี้นั้น นอกจากการเล่าเรื่องที่แปลกใหม่แล้ว หนังยังผูกเนื้อเรื่องให้เชื่อมโยงกับประเด็ดของสังคมได้อย่างแยบยลเลยทีเดียวครับ District 9 หนังเอเลี่ยนไซไฟที่มีการผูกปมสังคมทางการเมืองอย่างเนียนๆ District 9นั้นจัดเป็นหนัง ไซไฟ เอเลี่ยน และประเด็นสังคมการเมือง เป็นหนังน้ำดีอีกเรื่อง ที่ทำออกมาได้สนุกและน่าติดตามไปตลอดทั้งเรื่อง รวมถึงงานด้าน CG ที่แทบไม่น่าเชื่อเลยว่านี่จะเป็นหนังเก่าเมื่อปี 2009 อีกทั้งหนังยังแสดงความแตกต่างของเอเลี่ยน ที่ไม่เหมือนในหนังเอเลี่ยนเรื่องอื่นๆ ที่ฝูงเอเลี่ยนตั้งตัวเป็นศัตรูกับมนุษย์ และก่อเกิดสงครามระหว่างเผ่าพันธ์ ซึ่งเรื่องDistrict 9นั้นไม่ได้เดินเรื่องแบบนั้นเลย แต่กลับใช้เอเลี่ยนเป็น เหมือนสัญญะ การแบ่งแยก แบ่งชนชั้น เบื้องบนเบื้องล่าง ได้อย่างแนบเนียนและมีชั้นเชิงเอามากๆ โดยหนังจะออกแนวเป็นไปในทางสารคดี สลับกับการเดินเรื่องแบบปกติ และหากใครที่อยากรับชมฉากไซไฟ สงครามการต่อสู้ District 9 ก็มีให้เราได้ดูกันอย่างเต็มอิ่มแน่นอน เรียกได้ว่าดูเรื่องนี้จบ ได้ความสนุกแบบครบรสกลับมาอย่างแน่นอน ทั้ง สนุก ตื่นเต้น ดราม่า และแง่คิดต่างๆที่หนังสอดแทรกเข้ามา ส่วนในเรื่องของรายได้นั้นก็ถือว่า District 9 ประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูงด้วยการทำรายได้ถึง  210.8 ล้านเหรียญสหรัฐ เลยทีเดียว โดยใช้ทุนสร้างไปเพียง 30 ล้านเหรียญสหรัฐ อีกทั้งหนังเรื่องนี้ ยังถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลถึง 6 สาขา เลยอีกด้วย พูดมาขนาดนี้แล้ว ไม่ดูไม่ได้แล้วนะครับเพื่อนๆ เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับ หนังเอเลี่ยนจากต่างดาวที่สอดแทรกประเด็นทางสังคมเข้าไป อย่าง District 9 ยังไงเพื่อนๆก็อย่างลืมไปค้นหา บทสรุปของ District 9 ภายในหนังกันดูนะครับ ไปพิสูจน์กันด้วยตัวเองว่าหนังเอเลี่ยนเรื่องนี้นั้นจะดีและน่าติดตามมากแค่ไหน หากคุณไม่อยากพลาดทุกข้อมูลเกี่ยวกับ เว็บรีวิวหนัง อย่าลืมติดตาม “Wonder Woman 1984” กับการกลับมาของ “ไดอาน่า พริ๊นซ์” ได้อีกที่ filmograd.net การที่จะสร้างหนังสักเรื่องนั้นมักจะมีการแฝงข้อคิดหรือแนวคิดอะไรดีๆเอาไว้ในหนังเสมอๆ ซึ่ง gclub5555 นั้นก็ได้มีการแฝงจุดประสงค์ที่ดีต่อตัวผู้เล่นด้วยเช่นกัน

หนังแฟนตาซีจัดจ้านเรื่องแรกจากทาง netflix อย่างเรื่อง “Bright”

หากพูดถึงหนังตำรวจคู่หูเพื่อนๆก็คงจะนึกถึงหนังตำรวจคู่หูจากหนังเรื่อง Bad Boys และหากพูดถึงหนังแฟนตาซีเพื่อนหลายๆคนก็คงจะนึกถึงหนังฟอร์มยักษ์ชื่อดังยัง The Lord of the Rings แต่จะเป็นอย่างไรหากหนังทั้งสองเรื่องนี้อยู่รวมกัน ใช่แล้วครับผมกำลังจะพูดถึงหนังเรื่องหนึ่งซึ่งเป็นหนังฟอร์มยักษ์จากทางค่าย Netflix อย่าง Bright ซึ่งมองดูผิวเผินอาจเหมือนกันหนังเรื่อง Bad Boys ฉบับเวทมนต์ และวันนี้ผมก็จะมารีวิวหนังแฟนตาซีจัดจ้าย เรื่องแรกจาก netflix  อย่างbrightให้เพื่อนๆได้ฟังกันครับ Bright หนังอีกเรื่องที่ควรค่าแก่การรับชมเป็นอย่างมาก สำหรับหนังฟอร์มยักษ์อย่างBrightนั้น จะพูดถึง โลกในอนาคตที่เกิดความแบ่งชนชั้น ความเสื่อมโทรมของอารยธรรม และการอยู่ร่วมกันระหว่างเผ่าพันธุ์ต่างๆ เช่น ออร์ค เอลฟ์ ภูต และมนุษย์ ซึ่งปกติแล้วหนังที่พูดถึงทั้ง 3 เผ่าพันนี้จะเป็นหนังแฟนตาซีย้อนยุค แต่สำหรับbrightนั้น กลับนำเสนอไอเดียร์ที่แตกต่างออกไปกว่านั้น เพราะหนังเดินเรื่องในโลกของอนาคตอันใกล้ แต่ยังคงความเป็นชนชั้นของแต่ละเผ่าไว้เช่นเดิม  โดย เอลฟ์ เป็นชนชั้นสูง มนุษย์เป็นชนชั้นกลาง ออร์คเป็นชนชั้นล่าง และภูตเป็นสิ่งมีชีวิตที่ต่ำต้อยที่สุด โดยหนังจะพูดถึงโลกที่อยู่สงบสุขมานาน แต่ต้องเผชิญภัยอันตรายที่กำลังจะมาถึง โดยมีเผ่าเอลที่ไม่หวังดีคิดจะรวบรวมไม้กายสิทธิ์วิเศษ ที่สามารถปลุกชีพจอมมารจากยุคโบราณมืดกลับขึ้นมาอีกครั้ง และคนที่จะมาพิทักษ์โลกนั้นคือ สองคู่หูตำรวจ ที่แตกต่างกันสุดขั้ว ทั้งนิสัย และเผ่าพันธุ์ นั่นคือ มนุษย์ที่นำแสดงโดย “Will Smith” (วิลล์ สมิธ) และ ออร์ค นำแสดงโดย “Joel Edgerton” (โจล เอ็ดเกอร์ทอน) และทั้งสองจะช่วยเหลือโลกนี้ได้อย่างไร คงต้องไปติดตามกันได้ในbrightทาง Netflix เท่านั้น สำหรับความรู้สึกหลังจากที่ผมได้ดู ต้องขอชื่นชมทางค่าย Netflix จริงๆครับที่กล้าจะสร้างความแตกต่างของหนังให้ออกมาได้อย่างลงตัว อาจจะมีเพียงเรื่องเดียวที่ผมรู้สึกเสียดายอยู่เล็กน้อย ถึงสเกลของหนัง ที่อยากให้ทำออกมาให้กว้างกว่านี้อีกหน่อย แต่ทางค่ายคงต้องการทำหนังแฟนตาซีที่เข้าใจง่าย และสเกลที่สั้นเพื่อสร้างความแตกต่างหรือเปล่าอันนี้ก็อาจจะเป็นไปได้ แต่ก็ถือเป็นหนังอีกเรื่องที่ควรค่าแก่การรับชมเอามากๆเลยครับ หากคุณไม่อยากพลาดทุกข้อมูลเกี่ยวกับ เว็บรีวิวหนัง อย่าลืมติดตาม รีวิวหนัง “เล มิเซราบล์” (Les Misérables) ความรัก อยุติธรรม และการปฏิวัติ ได้อีกที่ filmograd.net จะว่าไปตอนนี้หนังแนวแฟนตาซีและ gclub1688 ก็กำลังเป็นที่นิยมเป็นอย่างมากเลยเหมือนกัน ซึ่งคำว่าเป็นที่นิยมนั้นก็แสดงได้ว่า สิ่งนั้นมันดีจริงๆ ผู้คนถึงได้ให้ความสนใจกัน

หนังที่ฝากคำถามไว้มากมายจาก Netflix อย่าง In The Tall Grass พงหลอนมรณะ

เป็นหนังอีกเรื่องที่เมื่อดูตัวอย่างที่ทาง Netflix ปล่อยออกมา ก็สามารถกระตุกต่อมล้ำลายของคนที่ชื่นชอบหนังปริศนา ลึกลับ พิศวง ได้อย่างดีเลยทีเดียว แม้จะไม่ได้มีการโปรโหมดหนังอะไรที่มากมาย แค่เพียงคลิบตัวอย่างและรูปโปสเตอร์หนังก็ทำเอาน่ากลัวน่าขนลุก และชวนให้ไปค้นหาคำตอบเอามากๆ และวันนี้ผมจะมารีวิวหนังเรื่อง In The Tall Grass พงหลอนมรณะ ให้เพื่อนได้ฟังกันครับ In The Tall Grass (พงหลอนมรณะ) หนังจะเป็นแนวดราม่า ระทึกขวัญสยองขวัญที่มีพล็อตเรื่องน่าสนใจมากๆ In The Tall Grassพงหลอนมรณะ นั้นเป็นหนังจากค่ายสตรีมมิ่ง Netflix หนังเมื่อปี 2019 ที่ผ่านมานี่เอง โดยหนังจะเป็นแนว ดราม่า ระทึกขวัญ สยองขวัญ เป็นหนังที่มีพล็อตเรื่องน่าสนใจเอามากๆ โดยพล็อตของหนังเรื่องนี้นั้นคือ “ภายในพงหญ้านั้นมีอะไรซ่อนอยู่?” ซึ่งตรงนี้มันชวนให้เราอยากไปหาคำตอบภายในหนังแบบสุดๆ โดยหนังถือว่าเรียกความน่าสนใจขึ้นไปอีก ด้วยการสร้างจากนวนิยายสยองขวัญเรื่องสั้นขายดีของ “สตีเฟ่นคิง” โดยเรื่องย่อของหนังจะบอกเล่าถึง พี่น้องคู่หนึ่ง ที่กำลังขับรถไปตามทาง แต่ละหว่างทางที่พวกเขาจอดพัก ก็มีเสียงร้องเรียกของเด็กน้อยอันโหยหวน อยู่ในพงหญ้าที่ขึ้นสูงข้างทาง และพวกเขาก็ได้ตัดสินใจเข้าไปช่วยเหลือเด็กน้อย โดยเดินตามเสียงเรียกนั้นไป ก่อนที่พวกเขาจะได้เจอกับความลับอันน่าพิศวงที่แอบซ่อนอยู่ภายในพงหลอนมรณะแห่งนี้ ส่วนเรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป เพื่อนๆก็ต้องไปหาคำตอบกันภายในหนังกันต่อนะครับ สำหรับความรู้สึกของผมเมื่อได้ดูหนังเรื่องนี้ ค่อนข้างมีความเฉยๆ กับหนังเรื่องนี้ เพราะพล็อตเรื่องของ In The Tall Grass นั้นค่อนข้างดี และน่าสนใจเอามากๆ แต่หนังกลับเดินเรื่องได้ค่อนข้าง งง และเนือย เล็กน้อย แต่หากเพื่อนๆคนไหนที่ชอบความแปลกใหม่ เรื่องนี้น่าจะสามารถตอบโจทย์เพื่อนๆได้ไม่มากก็น้อยอย่างแน่นอน และในเรื่องของมุมมองภาพ และการตัดต่อ ถือว่าทำได้ดีอยู่มากพอสมควรเลยตามแบบฉบับของทาง Netflix หากใครที่อยากดู In The Tall Grass ก็สามารถรับชมได้ทาง Netflix เท่านั้นนะครับ หากคุณไม่อยากพลาดทุกข้อมูลเกี่ยวกับ เว็บรีวิวหนัง อย่าลืมติดตาม รีวิวซีรี่ย์เรื่องใหม่อย่าง “Sweet home” ทั้งมันส์ ทั้งสนุก ครบรสสุดๆ ได้อีกที่ filmograd.net หลังจากที่ได้รับชมหนังเรื่องนี้ไปแล้วนั้น หลายๆคนอาจจะรู้สึกค้างคากับตอนจบเป็นอย่างมาก แต่เราขอรับรองได้เลยว่าถ้าหากได้ลองใช้ สูตรบาคาร่า แล้วจะไม่มีคำว่าค้างคาอีกต่อไป

ทำไมคนถึงจับตามองหนังเรื่อง Monsters Hunter เยอะและเป็นหนังที่น่าดูประจำปี

สวัสดีครับทุกคนวันนี้อยู่กับเราอีกเช่นเคยนะครับและหัวข้อหนังที่เราจะนำมาวันนี้คือหนังมาแรงและจะออกฉายเร็วๆนี้อย่าง Monsters Hunter นักล่าอสูรกาย นั้นเองโดยนะครับเราจะมารีวิวพร้อมแกะตัวอย่างไปด้วยกันเลยว่าจะน่าสนุกและน่าดูขนาดไหนนั้นเอง ผู้กำกับ: พอล ดับบลิว.เอส. แอนเดอร์สัน งบประมาณในการสร้าง: 60 ล้าน USD บริษัทและสื่อ, ที่ผลิต: Tencent Pictures, สกรีน เจมส์, โตโฮ, คอนสแตนตินฟิล์ม, Impact Pictures Monsters Hunter หนังเรื่องนี้ดีอย่างไร ทำไมใครๆก็ชื่นชอบ โดยตัวหนังนั้นได้ดัดแปลงจากเกมส์ Monters Hunter world ที่เปิดตัวในปี 22 ธันวาคม 2560 บนเครื่อง PSP แล้วยังได้ Ryozo Tsujimoto, Yuya Tokuda และ Kaname Fujioka มาเป็นโปรดิวเซอร์และผู้กำกับ ของเกมส์จากเกมส์ที่เปิดตัวมาอย่างอลังการแล้วก็ประสบผลสำเร็จเมื่อวันที่เกมส์ออกมาสู่โลกออนไลน์ ก็เป็นไปในทางที่ดีมากๆทั้งด้านรายได้และคำวิจารณ์ ของผู้เล่นทั่วโลกบอกเลยตัวเกมส์สนุกมากๆ แต่เราจะไม่ลงข้อมูลส่วนนี้เยอะไปนะครับเดี๋ยวจะไปแยกในอีกเรื่องนึง  ต่อมาเมื่อได้ไปเข้าตาทาง พอล ดับบลิว ที่มีผลงานภาพยนตร์ชื่อดังอย่าง ผีชีวะ และปอมเปอี ที่เป็นชื่อเสียงและผลงานอันยอดเยี่ยมของเฮียแกเลยก็ว่าได้เมื่อได้มากำกับงานภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์อย่างเรื่องนี้ก็คงไม่แปลกที่จะมีแฟนๆจากหนังของแกตามมาชม นอกจากนั้นตัวหนังยังได้นักแสดงจากผีชีวะมาแสดงนำอย่าง มิลลา โยโววิช และ นักแสดงบู๊ชคูปเปอร์สตาร์แถวหน้าเมืองไทยอย่าง ทัชชกร ยีรัมย์ หรือ จา พนม นั้นเอง บอกเลยครับนี้เป็นอีกเรื่องของพี่แกเลยก็ว่าได้ที่จัดว่าเป็นหนังยักษ์ฮอลลีวู้ดที่จะพังหรือปังให้พี่แกนี้ ต้องดูให้ได้ครับ หนังนะครับว่าด้วยเรื่องราวของกลุ่มทหารกลุ่มนึงที่พบว่ามีโลกนึงปรากฏอยู่ในโลกมนุษย์ที่มันจะไม่เหมือนเดิม เพราะมันทำให้ นายทหารหญิงที่รอดจากเหตุการณ์อสูรกายโจมตี แล้วได้พบเจอกับ นักล่า ที่ดูเหมือนเขาจะเข้าใจในวิธีการเอาตัวรอดและได้เป็นผู้ฝึกให้เธอแข็งแกร่งและเตรียมพร้อมรับมือกับโลกใบใหม่ บอกเลยครับดูจากตัวอย่างแล้วน่าดูสุดๆใครที่ติดตามชมช่วงนี้ก็ต้องรอกันไปอีกนะครับ เพราะเนื่องจากสถานการณ์Covid-19 ที่ระบาดช่วงนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงไปสักระยะในการออกโรงฉาย ยังไงก็ติดตามไปพร้อมกันครับ บอกเลยครับต้องดูให้ได้สำหรับยังไงถ้าเนื้อหาที่เรานำมาผิดพลาดประการใดก็ต้องขอประทานอภัยด้วยนะครับ ส่วนวันนี้ก็จบการรีวิวไว้เพียงเเค่นี้ขอบคุณครับ หากคุณไม่อยากพลาดทุกข้อมูลเกี่ยวกับ เว็บรีวิวหนัง อย่าลืมติดตาม 3 อันดับหนัง “Tom hank” (ทอมแฮงค์) ที่ดีที่สุดตลอดกาล ได้อีกที่ filmograd.net ตื่นเต้นเร้าใจไปกับภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ดีๆแบบนี้แล้วนั้น เราอาจจะไม่รู้ว่าจะทำอะไรต่อดีถึงจะช่วยให้อารมณ์ของเรายังเต็มอิ่มได้ต่อไป เราขอแนะนำให้ไปเล่นเกม ufabet777 นี้เลย ดีจริงไม่มีหลอกลวงอย่างแน่นอน

3 อันดับหนัง “Tom hank” (ทอมแฮงค์) ที่ดีที่สุดตลอดกาล

สวัสดีครับทุกท่านวันนี้ก็อยู่กับผมอีกเช่นเคยครับในหมวดหมู่หนังของป๋า “Tom hank” (ทอมแฮงค์) อีกเช่นเคยนะครับและวันนี้จะมีหนังเรื่องไหนบ้างที่เป็นตำนานและเป็นที่สุดของวงการตลอดมา เราไปรับชมกันเลยครับ แนะนำหนังผลงานของ “Tom hank” (ทอมแฮงค์)  อันดับ 3 The green mile (ปาฏิหาริย์แดนประหาร) พ.ศ. 2542 หนังยอดเยี่ยมอีกเรื่องนึกตลอดกาล ที่ได้ตัวผู้กำกับ แฟรงค์ ดาราบอนท์ มาโชว์ฝีมือความเป็นอาชีพผ่านเรื่องราวของ จอห์น คอฟฟี่ ชายร่างยักษ์ผู้เกิดมาพร้อมพลังพิเศษและจิตใจอันโอบอ้อมอารีแต่เรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเมื่อเขาพยายามจะช่วยเด็กสาวตัวน้อยสองคนที่กำลังบาดเจ็บและกำลังจะสิ้นลมหายใจ แต่เขาก็ไม่สามารถช่วยไว้ได้ทัน มิหนำซ้ำยังโดนชาวบ้านเข้าใจผิดว่าเป็นคนลงมือฆ่าเด็กสาวเองจึงทำให้ถูกจับกุมและรับโทษประหารชีวิต นั้นจึงนำมาสู่เรื่องราวมากมายที่จะทำให้ชีวิตของแต่ละคนเปลี่ยนไปทั้งผู้คุมอย่าง พอล ที่รับบทโดย ทอม แฮงค์ และคนอื่นๆอีกมากมาย ที่นำมาสู่บทสรุปก่อนโดนประหาร บอกเลยครับเรื่องนี้สุดมากๆ ต้องดูให้ได้เลยครับถือเป็นหนังเรื่องนึงที่ผมรักมากที่สุดเลยก็ว่าได้ เรื่องนี้ดีจริงๆครับ อันดับ 2 Cast away คนหลุดโลก หนังผจญภัยชีวิต ที่หากใครได้ดูจำต้องตื้นตันในผลงานของผู้กำกับมากฝีมืออย่าง โรเบิร์ต เซเม็กคิส ที่ได้ว่าด้วยเรื่องราวของพนักงานบริษัทแต่วันธรรมดาวันนึงกลับเปลี่ยนโชคชะตาเขาไปตลอดกาลเมื่อเครื่องบินที่เขากำลังใช้ทำงานเกิดอุบัติเหตุ โดนพายุฝนฟ้าจนทำให้เครื่องบินได้ไปตกเกาะร้างอันไกลโพ้นที่ไม่มีวี่แววว่าจะได้รับการช่วยเหลือ เมื่อเขาต้องเอาชีวิตรอดยาวนานเป็นปีๆ แต่ก็มีสิ่งหนึ่งที่เขาคิดถึงตลอดเวลาและหาทางออกจาเกาะไปหานั้นก็คือ ภรรยาสุดที่รักของเขา เรื่องราวจะเป็นยังไงจะสนุกและน่าประทับใจแค่ไหนต้องติดตามชมครับ อันดับ 1 Forrest gump ฟอร์เรสท์ กัมพ์ อัจฉริยะปัญญานิ่ม หนังโรแมนติกและสร้างแรงบันดาลใจสุดโด่งดัง ในยุคที่ว่าแจ้งเกิด ทอม แฮงค์ เลยก็ว่าได้ เพราะนอกจากจะประสบความสำเร็จแล้วยังได้รับรางวัลและคำชมมากมายจนนำมาสู่หนังที่ดีที่สุดตลอดกาลของทอม แฮงค์ เลยก็ว่าได้ หรังนะครับว่าด้วยเรื่องราวการเล่าผ่านชีวิตและโชคชะตาของชายผู้ชื่อ ฟอร์เรสท์ กัมพ์ โดยที่ตอนเด็กเขาเป็นเด็กชายคนนึงที่มีความผิดปกติมาแต่กำเนิดแต่นั้นก็ไม่ใช่อุปสรรคของชีวิตของเขา แถมยังมีเล่าเรื่องความรัก การใช้ชีวิตในแต่ละช่วงวัยจนกระทั่งตอนบั้นปลายของชีวิต บอกเลยครับเป็นหนังที่ดีที่สุดของโลกเรื่องนึงเลยก็ว่าได้ ทั้งสร้างแรงบันดาล ทั้งให้ความประทับใจ จนคนดูและนักวิจารณ์พูดได้เเป็นเสียงเดียวกันว่าเป็นหนังที่ดีอันดับหนึ่งของทอม แฮงค์ เลยล่ะ  ยังไงก็ขอจบการนำเสนอไว้เพียงเท่านี้ครับ ต่อไปจะมีอะไรยังไงอย่าลืมติดตามชมกันด้วยนะครับ หากคุณไม่อยากพลาดทุกข้อมูลเกี่ยวกับ เว็บรีวิวหนัง อย่าลืมติดตาม “Wonder Woman 1984” กับการกลับมาของ “ไดอาน่า พริ๊นซ์” ได้อีกที่ filmograd.net วงการหนังที่ว่ามีการจัดอันดับหนังที่ดีที่สุดแล้วนั้น UFA666 ก็เป็นอีกหนึ่งในการจัดอันดับเกมที่ดีที่สุดอันดับ 1 ที่ผู้คนกำลังหันมาให้ความสนใจเป็นอย่างมาก

รีวิวซีรี่ย์เรื่องใหม่อย่าง “Sweet home” ทั้งมันส์ ทั้งสนุก ครบรสสุดๆ

สวัสดีครับทุกคนวันนี้อยู่กับผมในหัวข้อรีวิวหนังใหม่และหนังที่เราจะนำมารีวิวในวันนี้คือ Sweet home ครับ ซีรีย์แนวระทึกสยองขวัญของเกาหลีจากทาง Netflix ที่เป็นที่จับตามองของผู้ชมหลายคนเลยทีเดียวตั้งแต่ทีเวซอร์ออกมาก็ทำให้ใครหลายๆคนถึงกับเตรียมตัวดูกันยาวๆเลยละ แล้วในที่สุดทาง Netflix ก็ได้ปล่อยตัวหนังมาให้ดูกันยาวๆเต็มๆถึง 10 ep. บอกเลยหนังจะมีความน่าสนุกขนาดไหนติดตามได้ต่อไปนี้เลยครับ เรื่องราวของซีรี่ย์ใหม่อย่างเรื่อง “Sweet home” หนังนะครับได้ว่าด้วยเรื่องราวของ หนุ่มคนนึงที่มีปมในใจเรื่องครอบครัวที่เขาเสียไปเพราะอุบัติเหตุ จึงได้หนีย้ายมาพักอยู่อพาร์ทเม้นท์ที่นึงในเกาหลี แต่แล้วเรื่องราวพิลึกและไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเมื่อโลกได้วิบัติเปลี่ยนคนเป็นสัตว์ประหลาดทั่วเมืองโดยผู้คนจะติดเชื้อจากภายในหรือเรียกว่าคำสาปก็ได้ แล้วจะกลายเป็นปีศาจในทันทีเหลือเพียงกลุ่มผู้รอดชีวิตในอพาร์ทเม้นท์เท่านั้นที่ต้องช่วยเหลือและรักษาความเป็นมนุษย์ ให้ได้นานที่สุด เหลือเพียงพระเอกคนเดียวเท่านั้นที่ดูเหมือนจะเป็นที่พึ่งเพราะเขามีพลังที่สามารถควบคุมสัตว์ประหลาดในตัวของเขาได้  บอกเลยครับหนังเรื่องนี้ได้แรงบันดาลหรืออ้างอิงมาจาก นิยายชื่อดังในWebtoonที่มีผู้คนดูเยอะมากๆอยู่แล้ว และยิ่งเอามาสร้างเป็นหนังทำให้ยิ่งน่าดูเข้าไปใหญ่และแล้วเมื่อได้ดูปรากฏว่าไม่ผิดหวังจริงๆ ทางเกาหลีทำซีรีย์เรื่องนี้ออกมาได้สนุกมากๆ ทั้งด้านการแสดง ภาพ เสียง ในด้านการแสดงนะครับได้ตัว นักแสดงชื่อดังมากมายทั้ง ซงคัง, ลีจินอุค,ลีซิยอง  และคนอื่นๆอีกมากมาย ที่มาร่วมความสนุกครั้งนี้ ในด้านภาพทางทีมงานทำCG สัตว์ประหลาดแต่ละตัวออกมาได้น่ากลัวสยดสยองมากๆ สมกับเป็นหนังสัตว์ประหลาดขึ้นหิ้งความน่ากลัวของเกาหลีเลย ต่อมาในด้านเสียงและฉากในส่วนนี้ทำออกมาได้ฟิวบรรยากาศอพาร์ทเม้นท์นึงที่รวมๆแล้วน่ากลัวมากๆ ส่วนเสียงของสัตว์ประหลาดบอกเลยทั้งน่ากลัวทั้งเเสบหู และในสว่นสำคัญที่สุดของหนังคือเนื้อเรื่อง ที่ทำออกมาได้ดีมากๆไม่มีความน่าเบื่อเลย สามารถดูได้เรื่อยๆและมีส่วนที่น่าติดตามในแต่ละ ep. ถือว่าสนุกมากๆครับ   ยังไงเนื้อหาต่อไปนี้ ต้องได้รับชมกันเอาเองครับถึงได้อารมณ์มากกว่า ทั้งสนุก ทั้งน่ากลัว ห้ามพลาดจริงๆ ยังไงถ้าเนื้อหาที่เรานำมาไม่ถูกต้องประการใดต้องขอกราบอภัยมานะทีนี้ด้วยครับ ในครั้งต่อไปเราจะนำหนังเรื่องไหนมารีวิวให้ผู้ชมได้ดูกันนั้นอย่าลืมติดตามกันด้วยนะครับ หากคุณไม่อยากพลาดทุกข้อมูลเกี่ยวกับ เว็บรีวิวหนัง อย่าลืมติดตาม รีวิวหนัง “เล มิเซราบล์” (Les Misérables) ความรัก อยุติธรรม และการปฏิวัติ ได้อีกที่ filmograd.net หลังจากที่ได้ดูหนังสนุกๆ ลุ้นระทึกไปแล้วนั้น เรามาผ่อนคลายสมองต่อกันที่ mm888bet เลยดีกว่า ต้องเรียกได้ว่าเมื่อคุณได้ลองแล้วจะสนุกจนลืมเรื่องราวเครียดๆไปได้ในทันที

รีวิวหนัง “เล มิเซราบล์” (Les Misérables) ความรัก อยุติธรรม และการปฏิวัติ

“เล มิเซราบล์” (Les miserable) หนังเพลงมิวสิคัลที่สร้างจากวรรณกรรมฝรั่งเศสของวิกตอ อูโก ซึ่งมีเนื้อหาของหนังอยู่ในช่วงปี 1789-1832 ที่ถือเป็นปีแห่งการปฏิวัติฝรั่งเศส เป็นยุคที่ประชาชนถูกเอารัดเอาเปรียบ ยากจน อดอยากหิวโหย และไม่ได้รับความเป็นธรรม ในขณะที่ชนชั้นปกครองใช้ชีวิตกันอย่างหรูหราฟุ่มเฟือย สุขสบาย และยังคอยข่มเหงประชาชน จึงนำไปสู่การก่อปฏิวัติขึ้นโดยกลุ่มปัญญาชนผู้ต้องการเสรีภาพและต่อต้านรัฐบาล ซึ่งเรียกตัวเองว่า “กลุ่มอาเบเซ” เล มิเซราบล์ (Les miserable) หนังฟอร์มยักษ์ที่ถูกนำมาสร้างเป็นละครเวที และละครบรอดเวย์มาแล้วหลายครั้ง ก่อนจะมาเป็นหนังฟอร์มยักษ์เรื่องนี้ วรรณกรรมชิ้นนี้ได้ถูกนำมาสร้างเป็นละครเวที และละครบรอดเวย์มาแล้วหลายต่อหลายครั้ง ตัวเอกของเรื่องคือ “ฌอง วัลฌอง” และ “ฟองทีน” เป็นตัวแทนของคนในสังคมที่อดอยากหิวโหยและยากจน ถึงขั้นต้องกลายเป็นหัวขโมยและโสเภณี รูปแบบของหนังเดินเรื่องด้วยการร้องเพลงทั้งเรื่อง และยังให้นักแสดงร้องกันเองแบบสดๆ ไม่ใช่เอาเพลงที่อัดจากสตูดิโอมาวางทับ นักแสดงทุกคนจึงต้องได้รับการแคสต์มาแล้วเป็นอย่างดี ว่าสามารถร้องเพลงได้ไพเราะและใช้เสียงได้นานพอ ซึ่งนักแสดงหลักของเรื่องก็ทำออกมาได้น่าประทับใจ ไม่ว่าจะเป็น Hugh Jackman, Anne Hathaway, Russell Crowe, Eddie Redmayne และ Amanda Seyfried เรื่องของเพลงประกอบ ถึงไม่บอกก็คงพอเดากันออกว่าจะอลังการแค่ไหน เพราะหนังใช้เพลงในการเดินเรื่องตั้งแต่ต้นจนจบกว่า 3 ชั่วโมง  จึงอัดแน่นไปด้วยเพลงเพราะๆ มากมาย ดนตรีประกอบก็ยอดเยี่ยม ด้านเนื้อเรื่องแม้จะมีบางจุดที่ดูเกินจริงไปบ้าง แต่ก็ไม่ได้ถึงกับทำให้รู้สึกขัดใจมากนัก เพราะความดีงามของส่วนประกอบอื่นๆ ช่วยให้มองข้ามไปได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแสดงและร้องของ Anne Hathaway ซึ่งน้อยคนที่ดูแล้วจะไม่เสียน้ำตาให้กับบทของ “ฟองทีน” สาวอาภัพรักผู้น่าสงสาร และเธอก็ได้รางวัลออสกา สาขานักแสดงประกอบหญิงยอดเยี่ยมจากเรื่องนี้ไปครองด้วย รวมถึงการแสดงและร้องของ Hugh Jackman ก็ทำได้ยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน ส่วนนักแสดงคนอื่นๆ ก็ไม่ทำให้ผิดหวังเลย “Les Misérables” จึงเป็นหนังเพลงแห่งทศวรรษอีกเรื่องหนึ่งที่คนรักหนังควรต้องดู หากคุณไม่อยากพลาดทุกข้อมูลเกี่ยวกับ เว็บรีวิวหนัง อย่าลืมติดตาม หนังต่างประเทศ เรื่องอื่นๆ เช่น แนะนำหนังอิสระอย่าง “Jumper” หนังสุดมันส์ที่คุณต้องห้ามพลาด ได้อีกที่ filmograd.net เรามาสนุกกันต่อที่ xoslot69 เว็บไซต์ที่เป็นแหล่งรวมเกมต่างๆเอาไว้ให้เราเข้าไปลองเล่นกัน ไม่ว่าจะเกมแนวไหน เรามีให้ทุกคนมาเลือกเล่นกันทั้งหมด

“Wonder Woman 1984” กับการกลับมาของ “ไดอาน่า พริ๊นซ์”

จาก Wonder Woman ในภาคแรก เราได้เห็นเรื่องราวของเจ้าหญิงผู้มาจากดินแดนลึกลับ ซึ่งเดินทางออกมาสู่โลกภายนอก โดยมีความตั้งใจมุ่งมั่นเพื่อหยุดยั้งสงครามที่จะทำลายล้างมนุษยชาติลงให้ได้ ครั้งนั้นเธอเชื่อมั่นในคุณงามความดีว่าจะชนะทุกสิ่ง แต่แล้วสงครามก็สอนให้เธอได้เรียนรู้ในมุมที่แตกต่างและซับซ้อนมากขึ้น ทำให้เธอเริ่มมองโลกตามความเป็นจริง และกลายเป็นซูเปอร์ฮีโร่หญิงในมุมที่เป็นมนุษย์มากที่สุดในภาคนี้ “Wonder Woman 1984” เชื่อว่าหลายคนคงรอคอยการกลับมาของ “ไดอาน่า พริ๊นซ์” ซุปเปอร์ฮีโร่สาวจาก Amazon เจ้าของฉายาWonder Womanที่ได้เคยสร้างความประทับใจไว้อย่างมากมายในภาคแรกเมื่อปี 2017 กลับมาตื่นตาตื่นใจกันอีกครั้งใน “Wonder Woman 1984” หากมองแค่ภายนอกไดอาน่าเป็นคนที่ดูสมบูรณ์พร้อมทุกอย่างจนสาวๆ ทั่วไปพากันอิจฉาคือ ทั้งสวย เซ็กซี่ เก่ง ฉลาด มีแต่คนอยากเข้ามาทำความรู้จักเธอ แต่สิ่งที่ไม่มีใครรู้คือเธอมีความโดดเดี่ยวที่ฝังลึก และยังคงคิดถึงคนรักเก่าที่จากไปอยู่เสมอ ดังนั้นเมื่อมีโอกาสที่จะทำให้เขาคนนั้นกลับมาหาเธออีกครั้ง เธอจึงยินดีทำ แต่ทุกสิ่งล้วนย่อมต้องมีข้อแลกเปลี่ยน ความขัดแย้งจึงเกิดขึ้นเมื่อเธอได้คนรักกลับมา แต่ต้องแลกกับการสูญเสียที่ยิ่งใหญ่เช่นกัน ไดอาน่าจะเลือกอย่างไร เป็นเรื่องที่ต้องติดตาม หนังภาคนี้ให้น้ำหนักกับความสัมพันธ์ของนางเอก ไดอาน่า พริ๊นซ์ และสตีฟ เทรเวอร์ ค่อนข้างมาก จนอาจทำให้ส่วนอื่นๆ ถูกลดทอนลงไปบ้าง แต่เสน่ห์ของนักแสดงนำอย่าง Gal Gadot ก็ยังคงเหลือล้นเช่นเดิม เธอเหมาะสมแล้วกับบทของ Wonder Woman ด้วยประการทั้งปวง นอกจากนี้ยังมีอีก 2 ตัวร้ายที่โดดเด่นมากคือ แม็กซ์เวล ลอร์ด และบาร์บาร่าแอนน์ มิเนอร์วาที่ช่วยเสริมให้เรื่องนี้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น หลายคนที่ติดภาพหนังซุปเปอร์ฮีโร่ อาจจะผิดหวังกับฉากแอ็คชั่นที่ไม่ได้หนักหน่วงเหมือนในภาคแรก แต่ภาคนี้ก็ได้ทดแทนด้วยบทดราม่าดีๆ ที่สื่อถึงหายนะของความโลภ ความจำเป็นของการเสียสละ และที่สำคัญที่สุดก็คือ การรู้จักปล่อยวางและอยู่กับความเป็นจริง แม้ความจริงนั้น อาจไม่ได้เป็นอย่างที่ใจต้องการ หากคุณไม่อยากพลาดทุกข้อมูลเกี่ยวกับ เว็บรีวิวหนัง อย่าลืมติดตาม หนังต่างประเทศ เรื่องอื่นๆ เช่น รีวิวหนังที่มีเนื้อหาที่ทรงคุณค่าอย่าง The Martian : กู้ตาย 140 ล้านไมล์ ได้อีกที่ filmograd.net ความบันเทิงที่เรานำมาเสนอในวันนี้ไม่ได้มีเพียงแค่ภาพยนตร์เท่านั้น เพราะในวันนี้เรามาพร้อมกับเกมดีๆอย่าง ufa9889 มาฝากทุกคนด้วย ไปลองเล่นกันเลย!