รีวิว Low Season สุขสันต์วันโสด หนังผีน่ารัก ที่คนโสดต้องดู

ต้องยอมรับว่าเป็นระยะเวลานานพอสมควรที่ผู้ขมอย่างเราไม่ได้ชมฝีมือการแสดงภาพยนตร์รักโรแมนติก น่ารัก จากพระเอกหนุ่มสุดหล่อขวัญใจสาวไทยตลอดกาลอย่าง “มาริโอ เมาเร่อ” จนถึงภาพยนตร์เรื่อง Low Season สุขสันต์วันโสด เรื่องนี้ที่ทำให้ได้เห็นเคมีความมุ้งมิ้ง กุ๊กกิ๊กสุดฟินของมาริโอ่เองและนักแสดงและยูทูบเบอร์สาวที่แม้ยังมีประสบการณ์ด้านภาพยนตร์ค่อนข้างน้อย อย่าง พลอยไพลิน ตั้งประภาพร ตัวหนังได้เล่าถึง “หลิน” อดีตแฟนสาวซุปตาร์ดัง ที่ขอพักใจหนีมายังจุดเริ่มต้นของความรักครั้งนี้ การตัดสินใจในครั้งนี้ทำให้เธอได้มาเจอกับ “พุธ” ชายหนุ่มมาดกวนที่ตั้งใจมาหาแรงบันดาลใจในการเขียนบทละครผี โดยตั้งใจจะมาสัมภาษณ์ “คนเห็นผี” อย่างพี่จเรโดยตรง ทั้งสองได้ร่วมทริปการเดินทางสุดอลหม่านไปด้วยกัน ระหว่างการเดินทางก็ทำให้พวกเราได้เห็นความสวยงามของธรรมชาติในจังหวัดเชียงใหม่ช่วงหน้าฝน ซึ่งถือเป็น Low Season ได้อย่างละมุนมาก เทคนิคการถ่ายภาพค่อนข้างลงตัวและโรแมนติกมาก แม้ว่าพล็อตเรื่องจะบอกว่านางเอกก็เป็นคนเห็นผี และเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เธอไม่สมหวังกับผู้ชายคนไหนกับเขาสักที ก็เล่าแบบไม่ค่อยสมูทเท่าที่ควร รู้สึกว่าการเล่าเรื่องยังหลวมบ้างในบางจุด แต่เสน่ห์ของนักแสดงทุกคนในเรื่องนี้ก็ถือเป็นจุดสำคัญที่ทำให้หนังน่าดูและน่าติดตามขึ้นเป็นกอง ไม่ว่าจะความน่ารักและเป็นธรรมชาติของคู่พระนาง ที่ไม่ได้รู้สึกว่าลุ้นให้รักกัน แต่พอเข้าฉากด้วยกันก็ถือว่าละมุนละไม เข้ากับโทนของเรื่องดี ส่วนแก๊งคนใจพังที่มารวมตัวกันก็แสดงเหมือนไม่แสดงเลยจริง ๆ เพราะเหมือนแสดงเป็นตัวเองอย่างที่ดี ถือว่าผู้สร้างค่อนข้างฉลาดในการใช้จุดเด่นของนักแสดงมาไว้ในหนังได้ค่อนข้างแนบเนียน ลงตัว หนังเรื่องนี้แม้มีพล็อตเรื่องไม่ว้าวเท่าที่ควร แต่การถ่ายทำที่เน้นความสงบและสวยงามของพื้นที่ก็ทำให้ใครหลายคนอดไม่ได้ที่จะกลับไปจองตั๋วเตรียมไปเที่ยวเชียงใหม่ในหน้าฝนเลยทีเดียว เรียกได้ว่าเป็นหนังที่กระตุ้นการท่องเที่ยวได้ดี และทำให้เราได้แง่คิดในการใช้ชีวิตหลายอย่างด้วย ว่าแท้ที่จริงแล้วการเลือกจะรักใครสักคนบางที…มันควรเริ่มจากการที่เราฟัง และรักตัวเองให้ได้ก่อน วิดีโอตัวอย่างภาพยนตร์ Low Season สุขสันต์วันโสด ต้องขอขอบคุณข้อมูลการรีวิวหนังจาก ufa777 มา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ ติดตามการรีวิวหนังและติดตามการรีวิว The House With A Clock In Its Walls ตามล่า เสียงติ้กตอก อยู่ในกำแพง!

รีวิว The House With A Clock In Its Walls ตามล่า เสียงติ้กตอก อยู่ในกำแพง!

The House With A Clock In Its Walls หนังแฟนตาซีน่าดูแห่งปี ที่กลับมาสตรีมมิ่งบน Netflix ซึ่งต้องยอมรับว่าหลังจากปล่อยตัว Teaser และ Trailer ออกมาก็เรียกเสียงฮือฮาจากเหล่าแฟนภาพยนตร์แฟนตาซีได้พอสมควร เพราะ CG และพล็อตเรื่องค่อนข้างน่าสนใจเนื่องจากปูเรื่องความลึกลับของบ้านได้น่าสนใจอย่างมาก ซึ่งได้ผู้กำกับหนังเลือดสาดอย่าง อีไล ร็อธ มากำกับ และเขียนบทโดย อีริค คริปเก้ ก็ต้องคอยลุ้นกันว่าความไม่คุ้นเคย ความแปลกใหม่นี้จะเป็นเรื่องท้าทายสำหรับพวกเขาแค่ไหน และเขาจะทำออกมาได้ดีเพียงใด เรื่องราวของหนัง The House With A Clock In Its Wallsเล่าถึง “ลูอิส” หนุ่มน้อยหน้ามนคนน่ารัก ที่ต้องกลายเป็นเด็กกำพร้าเนื่องจากทั้งพ่อและแม่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ทำให้เขาต้องเดินทางมาอยู่กับ ลุงแท้ ๆ ที่ดูยังไงก็เป็นคนพิลึกซึ่งอยู่ในบ้านเก่าซ่อมซ่อซึ่งในบ้านเต็มไปด้วยนาฬิกาเต็มไปหมด โดยเขามีข้อตกลงกับหลานชายว่า เขาจะทำอะไรก็ได้แต่ห้ามไปยุ่งกับตู้ลึกลับในบ้านเด็ดขาด ตามฉบับของหนังลึกลับ ถ้ามีการห้ามนั่นคือการยุทันที หนุ่มน้อยแทนที่จะเชื่อฟังแต่กลับเต็มไปด้วยความสงสัย เขาจึงตัดสินใจเปิดตู้นั้น! และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวสุดโกลาหลและอันตรายที่จะตามมา ความลับเรื่องที่ลุงและเพื่อนสนิทของเขาเป็นพ่อมดและแม่มดนั้นเป็นเรื่องที่ทำให้หนุ่มน้อยลูอิสตกใจเป็นอย่างมาก แต่ด้วยความที่เป็นเด็กชอบการเรียนรู้ชอบอ่านหนังสือทำให้เขาได้รับการฝึกฝนให้เป็นพ่อมดได้อย่างไม่ยากเย็นนัก เรื่องราวของหนังแม้จะค่อนข้างราบเรียบไปบ้างในช่วงกลางและช่วงท้าย ไม่มีความหวือหวาในการเล่าเรื่องของเวทมตร์อย่างที่ใครหลายคนคาดหวังก็ตาม แต่เรื่องการทำ CG และ Visual Effect ทำออกมาได้สวย สมจริง และตระการตาอย่างมา ทำให้หนังมีเสน่ห์มากยิ่งขึ้นอีกเท่าตัว เหมาะสำหรับใครที่อยากพาลูกหลานหรือครอบครัวไปดูแบบเพลิน ๆ ไม่ต้องคิดอะไรมากอย่างที่สุด โดยนักแสดงนำก็ไม่ทำให้ผิดหวังฝีมือการแสดง แต่เนื่องจากเรื่องไม่ได้ส่งอะไรมาก เลยไม่ได้เห็นความแปลกใหม่หรือการแสดงที่น่าทึ่งเท่าที่ควร ยอมรับว่าการผูกปมเรื่องยังทำได้ไม่ดีพอ ยิ่งการเฉลยต่าง ๆ ยิ่งพังพอสมควร ท้ายเรื่องมีหลายคนแอบหลับหรือใครที่ตั้งใจดูจนจบเรื่องอาจมีคิดว่า นี่หนังจบแบบนี้จริงหรือก็เป็นได้ ต้องขอขอบคุณข้อมูลการรีวิวหนังจาก ufa777 มา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ วิดีโอตัวอย่างหนังเรื่อง The House With A Clock In Its Walls ติดตามการรีวิวหนังและติดตามหนัง ซีรีส์ และการ์ตูนที่ดังที่สุด จัดอันดับ 5 ซีรีส์ยอดฮิตของ Netflix ปี 2020

หนัง ซีรีส์ และการ์ตูนที่ดังที่สุด จัดอันดับ 5 ซีรีส์ยอดฮิตของ Netflix ปี 2020

Netflix เป็นค่ายทำหนัง ซีรีส์ และการ์ตูนที่ดังที่สุดในยุคนี้เลยล่ะ นอกจากจะมีช่องหนังของตัวเองให้ผู้คนจ่ายรายเดือนเพื่อรับชมหนังใหม่ ๆ ทุกวันแล้วนั้นยังสร้างหนังและซีรีส์ที่มีคุณภาพออกมาได้อีกต่างหาก ไม่แปลกใจว่าทำไมใคร ๆ ถึงดู Netflix กัน ด้วยความที่ซีรีส์ของทาง Netflix มีมากมายเหลือเกินจนไม่รู้จะดูเรื่องไหนก่อนเราได้ทำการจัดอันดับซีรีส์ยอกนิยมตามคะแนนของทาง IMDb ฝั่งอเมริกามาเป็นเกณฑ์ให้เพื่อน ๆ ลองตัดสินเลือกดูกัน จัดอันดับ 5 ซีรีส์ยอดฮิตของ Netflix ปี 2020 อันดับที่ 5: Mindhunter – ซีรีส์ยอดฮิตของ Netflix ปี 2020ทำออกมาแล้วทั้งหมดเพียง 2 seasons ตอนทั้งหมด 19 episodes ได้รับคะแนนจาก IMDb: 8.6/10 เป็นเรื่องราวที่ดัดแปลงมาจากเรื่องจริงของ John E. Douglas นักวิทยาศาสตร์ที่ทำงานภายใต้ FBI เป็นนักวิเคราะห์และสำรวจทีท่าของอาชญากรในช่วงที่ 1970s ถึง 80s โดยซีรีส์ได้สร้างตัวเอก Holden Ford ที่มีความสนใจในจิตวิทยาของฆาตกรต่อเนื่อง ดำเนินเรื่องจากความสงสัยใคร่รู้ของพ่อหนุ่มคนนี้ อันดับที่ 4: American Vandal – ซีรีส์ยอดฮิตของ Netflix ปี 2020 ทำออกมาแล้วทั้งหมด 2 seasons ตอนทั้งหมด 16 episodes ได้รับคะแนนจาก IMDb: 8.2/10 เป็นซีรีส์ที่รวมเรื่องราวอาชญากรรมที่เกิดขึ้นจริงในอเมริกามาทำเป็นแนว Documentary หรือสารคดีที่ไม่ใช่มีเพียงเรื่องของฆาตกรฆ่าคนเท่านั้นแต่ยังรวมถึงอาชญากรรมเล็ก ๆ อย่างอาชญากรรมในโรงเรียนอีกด้วย อันดับที่ 3: Orange is the New Black – ซีรีส์ยอดฮิตของ Netflix ปี 2020ทำออกมาแล้วทั้งหมด 7 seasons ตอนทั้งหมด 91 episodes ได้รับคะแนนจาก IMDb: 8.1/10 ยังคงเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับอาชญากรรมอีกเช่นเคยที่ได้รับคะแนนสูงจาก IMDb เรื่องนี้ค่อนข้างสนุกและครบรส เป็นการถ่ายทอดเรื่องราวของนักโทษหญิงคนหนึ่งกับชีวิตในคุกและเรื่องราวที่เธอได้เรียนรู้ในการเป็นผู้ถูกคุมขัง อันดับที่ 2: BoJack Horseman – ซีรีส์ยอดฮิตของ Netflix ปี 2020ทำออกมาแล้วทั้งหมด 6 seasons ตอนทั้งหมด 77 episodes ได้รับคะแนนจาก IMDb: 8.6/10 เป็นซีรีส์ที่ห้ามดูถูกเขาเลยล่ะ แม้จะดูเป็นซีรีส์การ์ตูนกิ๊กก๊อกแต่ก็ได้คะแนนในการรับชมสูงเป็นอันดับสองในปีนี้เลยทีเดียว เป็นเรื่องของ BoJack ม้าหนุ่มอดีตดาราซิตคอมเมื่อปี 1990 ที่อยากหวนคืนสู่วันวานกับเพื่อน ๆ ของเขาในวงการบันเทิง อันดับที่ 1: Stranger Things – ซีรีส์ยอดฮิตของ Netflix ปี 2020ทำออกมาแล้วทั้งหมด 3 seasons ตอนทั้งหมด 25 episodes ได้รับคะแนนจาก IMDb: 8.8/10 อีกเรื่องที่น่าติดตามที่สุดของปีนี้เลยล่ะแม้ไม่รู้ว่าจะมีซีซันต่อมาออกมาหรือไม่ แต่ก็นับเป็นเรื่องที่น่าติดตามเลยล่ะ เป็นเรื่องราวของหมู่บ้านหนึ่งที่มักจะเกิดเรื่องแปลก ๆ อยู่เสมอจนเด็ก ๆ รวมถึงคนอื่น ๆ ในหมู่บ้านต้องออกตามหาสาเหตุของเหตุการณ์เหนือธรรมชาติที่เกิดขึ้น ต้องขอขอบคุณข้อมูลการรีวิวหนังจาก ufa777 มา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ ติดตามการรีวิวหนังและติดตามการรีวิวซีรีส์ The Crown มงกุฎิราชินี ซีรีส์สุดปังจาก Netflix!

รีวิวซีรีส์ The Crown มงกุฎิราชินี ซีรีส์สุดปังจาก Netflix!

รีวิวซีรีส์มาก็หลายเรื่องมีเรื่องที่ประทับใจมากมายและนี่ก็เป็นอีกซีรีส์ที่อยากบอกว่าเขียนบทออกมาได้ปังมาก ๆ ที่สำคัญนักแสดงเล่นกันถึงบทบาทกันสุด ๆ และขึ้นหิ้งซีรีส์ที่น่ารอดูในปีนี้อีกหนึ่งรายการเลยทีเดียว เรื่องนี้จะเป็นเรื่องอื่นไปไม่ได้นอกจาก The Crown มงกุฎิราชินี ซีรีส์สุดปังจาก Netflix! ซีรีส์นี้เป็นแนวดราม่า-ประวัติศาสตร์ สร้างขึ้นมาจากโครงเรื่องของ Queen Elizabeth II เขียนบทโดย Peter Morgan ซึ่งเขาได้ขยายเรื่องมาจากภาพยนตร์อีกเรื่องที่เขาเขียนบทเช่นกันนั่นคือ The Queen (2006) ซีรีส์ The Crown มงกุฎิราชินี ซีรีส์สุดปังที่เขาเขียนบทให้ Netflix นั้นได้ Left Bank Pictures และ Sony Pictures มาเป็นผู้สนับสนุนเรียกได้ว่ายิ่งใหญ่มาตั้งแต่ก่อนจะทำการถ่ายทำเสียอีก โดยปีเตอร์วางแพลนว่าจะมีซีรีส์ทั้งหมด 6 ซีซัน ขณะนี้ออกมาแล้วทั้งหมด 3 ซีซันและซีซันที่ 4 ก็กำลังจะลง Netflix ในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2020 นี้  The Crownมงกุฎิราชินี ซีรีส์สุดปังจาก Netflix ได้รับรางวัลอย่างล้นหลามตั้งแต่ที่ออกซีซันแรกออกมาในปี 2016 รางวัลแรกที่ได้รับคือ Top 10 TV Programs of the Year จาก American Film Institute Awards 2016 และได้รับรางวัลอย่างต่อเนื่องหลังจากนั้น นางเอกของเรื่องหรือ Claire Foy ที่รับบทเป็น Queen Elizabeth II ก็ได้รับรางวัลนักแสดงยอดเยี่ยมจาก Television Series Drama 2017 ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีรางวัลอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งปีนี้ก็ได้ส่งชื่อเข้าชิงหลายรายการและคาดว่าจะได้รับรางวัลกลับมาอย่างแน่นอน คะแนนโหวตจาก IMDb ของปีนี้อยู่ที่ 8.7/10 ยิ่งตอกย้ำความปังของซีรีส์เรื่องนี้อย่างมากเลยทีเดียว  เรื่องย่อของ The Crownมงกุฎิราชินี ซีรีส์สุดปังจาก Netflix เป็นเรื่องที่เน้นไปในเชิงการเมืองสมัยที่ Queen Elizabeth II ขึ้นครองราชย์ โดยเรื่องดำเนินโดยมุมมองของ Elizabeth ที่ต้องดูแลทุกอย่างหลังจากที่พ่อหรือกษัตริย์ของอังกฤษตอนนั้นสวรรคต ความฝันที่เธอเคยคิดว่าจะได้ใช้ชีวิตที่ง่ายดายไม่เกี่ยวกับเรื่องการเมืองหรือใด ๆ ก็เป็นไปไม่ได้อีก ในซีซันที่หนึ่งเนื้อเรื่องจะเป็นการปูความหลังของ Queen Elizabeth II มีการแต่งงานกับเจ้าชาย Philip, Duke of Edinburgh ในปี 1947 ซีซันสองและสามต่อมาจะเน้นไปที่เรื่องของนายก และการเมืองที่เข้มข้นมากขึ้น ฉากและการแสดงของนักแสดงแต่ละคนทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม ทั้งนักแสดงนำและนักแสดงสมทบต่างได้รับการเสนอชื่อให้รับรางวัลทั้งสิ้น บทพูดที่ต้องใช้คำโบราณก็ถือเป็นเรื่องท้าทายของนักแสดงและผู้ชมต่างชาติอย่างเรา ๆ กันพอสมควร ถ้าไม่มีซับคือดูไม่รู้เรื่องทันที แต่ด้วยเนื้อเรื่องแล้วต้องยกให้ The Crownเป็นที่หนึ่งเลยล่ะ ต้องขอขอบคุณข้อมูลการรีวิวหนังจาก ufa777 มา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ วิดีโอตัวอย่างซีรีส์ The Crown ติดตามการรีวิวหนังและติดตามการรีวิว SEX EDUCATION ซีรีส์วัยรุ่นแนวใหม่ที่คนทุกวัยควรดู

รีวิว SEX EDUCATION ซีรีส์วัยรุ่นแนวใหม่ที่คนทุกวัยควรดู

SEX EDUCATION

ยังคงอยู่กับออริจินอลซีรีส์ของทาง Netflix ที่ออกมาอย่างต่อเนื่องให้ดูกันอย่างไม่หวาดไม่ไหวกันเลยทีเดียว และเรื่องที่เรายิบยหมาในวันนี้ก็เป็นซีรีส์ที่เป็นที่วิพากย์วิจารณ์กันมาตั้งแต่ต้นปีที่แล้วที่ซีซันแรกออกมาใหม่ ๆ จนถึงปีนี้ที่ซีซันที่สองเพิ่งจะออกมา จะเป็นซีรีส์เรื่องอื่นใดไปไม่ได้นอกจาก SEX EDUCATION ซีรีส์ที่เปิดโลกของวัยรุ่นอย่างสุด ๆ ไปเลย ยุคนี้ใครไม่พูดถึงก็คงไม่ได้แล้วล่ะ รีวิวซีรีส์วัยรุ่นแนวใหม่ที่คนทุกวัยควรดู SEX EDUCATION ซีรีส์วัยรุ่นแนวใหม่ที่คนทุกวัยควรดู เปิดหัวมาแบบนี้เพื่อที่จะบอกกับผู้อ่านทุกคนว่าเรื่องนี้ไม่ได้เป็นเรื่องที่เน้นไปเรื่องการมีเพศสัมพันธ์อย่างพวกหนังเรท R อะไรพวกนั้นแต่อย่างใด แต่เป็นเรื่องที่พูดคุยเกี่ยวกับเพศสัมพันธ์กันอย่างเปิดเผยระหว่างคนในครอบครัว ระหว่างเพื่อน หรือระหว่างคนรักกันก็ตาม เรื่องนี้ได้เปิดเผยแนวคิดใหม่ ๆ ให้คนดูว่าเรื่องเซ็กซ์ไม่ใช่เรื่องที่ห้ามพูด แต่เป็นเรื่องที่ควรพูดกันเพื่อความเข้าใจกันนั่นเอง โดยเรื่อง SEX EDUCATIONเป็นแนวดราม่า-คอเมดี้ เขียนขึ้นโดย Laurie Nunn นักเขียนบทชาวอังกฤษ โดยให้ตัวละครเอกของเรื่อง Otis Milburn รับบทโดย Asa Butterfield เป็นเด็กนักเรียนที่มีแม่เป็นนักบำบัดเรื่องเพศสัมพันธ์ ทำให้ตัวพระเอกของเรามีความรู้เกี่ยวกับเรื่องพวกนี้โดยไม่ตั้งใจ และด้วยความที่มีแม่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านนี้จึงเป็นเหตุให้อยากรู้เรื่องเซ็กซ์ของลูกหรือเรื่องส่วนตัวอื่น ๆ ไปโดยไม่ตั้งใจ กลายเป็นเรื่องอึดอัดใจของเด็กวัยรุ่นกันไป เรื่องราวของ SEX EDUCATIONเริ่มต้นจริง ๆ เมื่อโอทิสได้ไปให้คำปรึกษาเกี่ยวกับเรื่องเซ็กซ์กับเพื่อของเขา ซึ่งดันได้ผลออกมาดีกว่าที่คิด แน่นอนว่าเขาไม่เคยมีเซ็กซ์แค่จำมาจากแม่เท่านั้น แต่นั่นก็ทำให้เขากลายเป็นคนดังในโรงเรียนชั่วข้ามคืนเลยทีเดียว SEX EDUCATIONซีรีส์วัยรุ่นแนวใหม่ที่คนทุกวัยควรดู อย่างที่บอกไปข้างต้นว่าเนื้อหาในเรื่องไม่ได้นำเสนอเรื่องราวของเซ็กซ์ที่ไม่ดีแต่อย่างใด แต่เน้นไปในการสอนให้รู้ด้วยซ้ำว่าเซ็กซ์ไม่ใช่เรื่องน่าอายแต่เป็นเรื่องที่ต้องเตรียมความพร้อมและมีความเข้าใจที่ถูกต้องนั่นเอง ในซีซันสองเรื่องราวมีความเข้มข้นมากขึ้นมีตัวละครใหม่ ๆ แถมยังนำเสนอเนื้อหาเกี่ยวกับการรักร่วมเพศที่ถูกพ่อแม่ขัดขวางอีกด้วย ถือเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ในสถานการณ์ ด้วยความที่มีเนื้อหาที่ดีและน่าสนใจขนาดนี้แน่นอนว่า Netflix เปิดทางให้ไปต่อ และเตรียมรอซีซันที่สามต่อมาได้เลย ต้องขอขอบคุณข้อมูลการรีวิวหนังจาก ufa777 มา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ วิดีโอตัวอย่างซีรีส์เรื่อง SEX EDUCATION ติดตามการรีวิวหนังและติดตามซีรีส์หาญท้าชะตาฟ้าปริศนายุทธจักร ที่สุดแห่งซีรีส์จีนหักเหลี่ยมเฉือนคม 2019

หาญท้าชะตาฟ้าปริศนายุทธจักร ที่สุดแห่งซีรีส์จีนหักเหลี่ยมเฉือนคม 2019

ไม่ดูถือว่าพลาด! สำหรับ หาญท้าชะตาฟ้าปริศนายุทธจักร ซีรีส์จีนหักเหลี่ยมเฉือนคมเรื่องที่โด่งดังที่สุดในปี 2019 และเรื่องนี้ก็เป็นอีกหนึ่งซีรีส์จีนที่ถูกรีเมคขึ้นมาจากนิยายอันโด่งดังชื่อเดียวกันของนักเขียนแห่งยุค มาวนี่ (Maoni) ผู้เขียนสยบฟ้าพิชิตปฐพี ตัวเรื่องของซีรีส์และนิยายแม้จะเดินไปบนพล็อตและตัวละครเดียวกัน แต่ซีรีส์มีการเติมเต็ม ทวิสต์ และวางเส้นเรื่องได้เหนือกว่าเวอร์ชั่นนิยายอยู่มาก ดังนั้นเพื่อไม่ให้ยืดเยื้อเราก็จะมาพูดถึงเฉพาะความดีงามของหาญท้าชะตาฟ้าปริศนายุทธจักรในเวอร์ชั่นซีรีส์กัน เรื่องราวของหาญท้าชะตาฟ้าเริ่มต้นจากตัวละครเอกถูกส่งมาในโลกคล้ายจีนโบราณในร่างทารกด้วยความทรงจำเด็กหนุ่มวัย 20 ต้น ๆ ของยุคปัจจุบัน ด้วยชาติกำเนิดของมารดาและบิดาที่เป็นปริศนา อนาคตที่ถูกกรุยทางไว้ให้ตบแต่งกับองค์หญิงในวัง ทำให้เด็กน้อยอย่างฟ่านเสียนถูกหมายหัวไว้ตั้งแต่ยังเล็ก ด้วยแผนการอันซับซ้อนแยบยล ผนวกเข้ากับกลเกมช่วงชิงอำนาจของเหล่าองค์ชายในวัง ความขัดแย้งระหว่างแคว้น และการตามหาปริศนาของมารดาที่ทิ้งไว้ ทำให้ฟ่านเสียนที่มีความทรงจำอย่างคนปัจจุบันทั้งยังฉลาดหลักแหลมฝึกลมปราณจนกลายเป็นยอดฝีมือ ต้องเข้าไปอยู่ท่ามกลางชุมนุมมังกรซ่อนพยัคฆ์รวมทั้งสาวงาม ก่อเกิดเป็นเรื่องราวการผจญภัยแกะเงื่อนปมแบบพลิกตลบแล้วกระตุกเงื่อนปมครั้งหนึ่งก็ช็อกคนดูให้เปลี่ยนความคิดใหม่ทั้งหมดได้ นับเป็นการวางเรื่องที่ไม่ธรรมดาจริง ๆ อีกหนึ่งความดีงามของซีรีส์จีนเรื่องหาญท้าชะตาฟ้านี้ไม่ใช่มีแค่เรื่องราวตลบซ้อนแบบเหนือชั้น การเดินเรื่องนี้กลับไม่ได้หนักหน่วงชวนกดดันแต่อย่างใด เพราะตัวละครหลักหลักอย่างฟ่านเสียนที่รับบทโดย จางรั่วอวิ๋น เอาอยู่กับบทนี้จริง ๆ ด้วยความทะเล้นหน้าตายรวมถึงมุกมากมายที่คนเขียนบทวางไว้ และนี่เป็นอีกหนึ่งความแตกต่างที่ชัดเจนระหว่างหาญท้าชะตาฟ้าเวอร์ชั่นซีรีส์จีนและเวอร์ชั่นนิยาย จนกลายเป็นซีรีส์จีนหนึ่งในไม่กี่เรื่องที่คนดูล้วนชมเปาะว่ารีเมคออกมาได้ยอดเยี่ยม มีเสน่ห์และน่าติดตามได้ยิ่งกว่านิยายฉบับดั้งเดิมเสียอีก อย่างไรก็ดี ซีรีส์จีน หาญท้าชะตาฟ้าปริศนายุทธจักร ที่ออกมาในปี 2019 นั้นก็เป็นเพียงการเริ่มต้นของเรื่องราวเท่านั้น หากนับจากเวอร์ชั่นนิยายเรื่องราวก็เพิ่งดำเนินไปได้เพียง 7 ใน 37 เล่มเท่านั้น ถึงอย่างนั้นซีรีส์จีนเรื่องนี้ก็ดูเพลินยิ่งกว่าเพลิน และหากจะมีเวลาว่างช่วงสุดสัปดาห์ ซีรีส์จีนอย่างหาญท้าชะตาฟ้าปริศนายุทธจักรก็นับเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากทีเดียว สามารถดูได้ฟรีผ่านแอป WeTV โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ต้องขอขอบคุณข้อมูลการรีวิวหนังจากufa777 มา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ วิดีโอตัวอย่างซีรีส์จีน หาญท้าชะตาฟ้าปริศนายุทธจักร ติดตามการรีวิวหนังและติดตามREVIEW : Idiocracy เมื่อโลกห้าร้อยปีข้างหน้ามีแต่คนโง่

REVIEW : Idiocracy เมื่อโลกห้าร้อยปีข้างหน้ามีแต่คนโง่

บนโลกนี้ไม่มีใครเก่งมาตั้งแต่กำเนิด ทุกคล้วนมีพื้นฐานทางความคิดที่เท่ากัน จะเก่งหรือไม่เก่งขึ้นอยู่กับปัจจัยระหว่างการใช้ชีวิต เรียกได้ว่าทุกคนมีโอกาสที่จะเก่งเท่าเทียมกัน แต่จะเป็นอย่างไรถ้าโลกในอนาคตเต็มไปด้วยคนโง่ และทุกคนล้วนมีไอคิวต่ำยิ่งกว่าเด็กอนุบาล อาจจะเป็นเรื่องที่ดูเหลือเชื่อ แต่มันเกิดขึ้นจริงแล้ว ใน Idiocracy โจ บาวเวอร์ ทหารหนุ่มรากหญ้าที่ใช้ชีวิตในแต่ละวันไปกับการนั่งเฝ้าห้องสมุดที่มีคนเข้าใช้บริการแค่ปีละคน อยู่มาวันนึงเขาได้รับเลือกให้เข้าทดลองโครงการจำศีลของมนุษย์พร้อมกับโสเภณีคนนึง นายพลแจ้งว่าเขาจะได้ตื่นอีกครั้งคือ 1000 ปีข้างหน้า ซึ่งเทคโนโลยีคงก้าวไกลมากพอที่จทะให้เข้าใช้ชีวิตอย่างสุขสบายแล้ว คนเบื่อ ๆ เบ ๆ อย่างโจมีหรือจะปฏิเสธ เขาตอบรับทันทีเมื่อได้รับโอกาสสุดแสนจะวิเศษนี้ โชคร้ายหน่อยที่นายพอของเขาดันเป็นพวกเสเพลและขี้ยา มักจะพี้ยาและหมกหญิงอยู่เป็นประจำ เขาคงจะเคยชินมากเกินไปเลยถูกจับได้ ทำให้เขาต้องติดคุกมากกว่า 10 คดี เรื่องราวผ่านไปหลายปี นายพลที่ถูกจับก็กลายเป็นขี้คุก แต่โครงการที่นายพลคนนี้ทำไว้ โครงการจำศีลมนุษย์ของโจและโสเภณียังคงดำเนินต่อไปโดยที่ไม่มีใครรู้เพราะมันคือโครงการเพื่อการฟอกเงิน ทั้งสองยังคงหลับในแคปซูล แคปซูลของพวกเขาถูกทุบและทำลายไปพร้อมกับเศษขยะจากบ้านานยพลมากมาย และเขาก็ตื่นขึ้นจากข้อผิดพลาดของแคปซูล มันคือโลกในอีก 500 ปีข้างหน้าที่ทุกคนโง่กันหมด โง่ขนาดไหนน่ะหรือ คนที่นี้อ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ ภาวะเศรษฐกิจล้มเหลวโดยสิ้นเชิง ทุกคนเป็นโรคมากมายอาทิเช่น เบาหวานจากการกินมั่วซั่ว แผลกระดูกกดทับจากการนอนทั้งวัน สายตาไม่ดีจากการเสพติดหน้าจอ และอื่นๆ อีกมากมายที่คุณพอจะนึกออกเกี่ยวกับคนโง่  สำหรับโจยังโชคร้ายไม่พอ เขาดันสอบข้อสอบที่ง่ายยิ่งกว่าของเด็กอนุบาลได้ ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติอยู่แล้วแต่ดันไม่ปกติสำหรับคนที่นี่ เขาจึงได้เข้ารับทำงานกับรัฐบาลในฐานะอัจฉริยะ เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป การทำงานในโลกที่คนโง่ที่สุดจะไปรอดหรือไม่ ติดตามได้ใน Idiocracy วิดีโอตัวอย่างภาพยนตร์เรื่อง Idiocracy ติดตามการรีวิวหนังและติดตาม EXTRACTION หนังแอคชั่น NETFLIX ถ่ายทำเมืองไทยให้กลายเป็นบังคลาเทศ

EXTRACTION หนังแอคชั่น NETFLIX ถ่ายทำเมืองไทยให้กลายเป็นบังคลาเทศ

EXTRACTION เป็นหนังค่าย NETFLIX ที่สร้างกระแสครึกโครมในไทยตั้งแต่ก่อนหนังฉายด้วยซ้ำ เพราะเทพเจ้าสายฟ้าตัวเป็น ๆ อย่าง “คริส เฮมส์เวิร์ท” มาหมกตัวถ่ายหนังถึงเมืองไทยอยู่หลายเดือน โดยใช้โลเคชั่นในเมืองไทยมากถึง 80 % ที่น่าสนใจไปกว่านั้นคือ EXTRACTION เป็นการกลับมาร่วมงานกันของคนคุ้นเคยระหว่าง คริส แฮมเวิด กับ สองพี่น้องรุสโซที่อยู่เบื้องหลังจักรวาลหนังซุปเปอร์ฮีโร่ MARVEL ซึ่งมารับหน้าที่เป็นโปรดิวเซอร์ของ EXTRACTIONโดยมีผู้กำกับหนุ่มไฟแรงอย่าง แซม ฮาร์เกรฟ (Sam Hargrave) ที่เคยฝากผลงานแอคชั่นสุดเดือดอย่าง Atomic Blonde ในปี 2017 มารับหน้าที่คุมการถ่ายทำ EXTRACTIONเรื่องย่อแสนเรียบง่าย แต่อัดแน่นด้วยฉากแอคชั่นสุดเดือด EXTRACTIONว่าด้วยเรื่องราวของกลุ่มทหารรับจ้างที่นำโดย “ไทเลอร์” (Chris Hemsworth) ได้ถูกว่าจ้างจากพ่อค้ายาชาวอินเดียให้บุกไปช่วยลูกชายของตนที่ถูกพ่อค้าคู่อริจับไปขังไว้ที่กรุงธากา เมืองหลวงของบังคลาเทศ แต่ภารกิจที่ดูเหมือนแค่การชิงตัวประกันธรรมดากลับพลิกผันไปอย่างคาดไม่ถึง เมื่อผู้ไปช่วยกลับกลายเป็นผู้ต้องการให้ช่วยสะเอง กลายเป็นการต่อสู้เอาตัวรอดสุดเดือด EXTRACTIONฉากแอคชั่นมันระเบิดจนลืมไปเลยว่าถ่ายที่เมืองไทย EXTRACTIONถือเป็นหนังอีกหนึ่งเรื่องที่เลือกใช้พล็อตและบทแสนเรียบง่าย แต่เน้นขายฉาก “แอคชั่น” เป็นสำคัญ โดยเฉพาะการต่อสู้ระยะประชิดที่ถูกออกแบบมาได้อย่างดุเดือดสมจริง มีความดิบเถื่อนได้ใจคนดู แม้หลายฉากจะมีกลิ่นอาย “กันฟู” แบบ John Wick (2014) แต่ก็ถือว่าทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมไม่ซ้ำใคร ซึ่งปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ฉากต่อสู้ในหนังดูตื่นเต้นสมจริงก็คือ “มุมกล้อง” และ “เทคนิคการถ่ายทำ” กลายเป็นหนังแอคชั่นลุ้นระทึกจนนั่งไม่ติด  โดย EXTRACTIONมีการใช้มุมกล้องที่หลากหลาย ทั้งมุมกล้องในฉากต่อสู้พื้นที่แคบ ๆ หรือมุมกล้องติดตามตัวละครแบบไปไหนไปกัน แม้แต่กระโดดลงจากตึกไปพร้อมตัวละครก็มี แต่ที่พลาดไม่ได้เลยคือ เทคนิคการถ่ายทำแบบ Long Take เนียน ๆ ที่ทำให้คนดูลุ้นระทึกแบบต่อเนื่องยาว ๆ แม้ว่า EXTRACTIONจะมีฉากหลังเป็นบังคลาเทศ แต่ตัวหนังแทบทั้งหมดล้วนถ่ายทำในประเทศไทย ดังนั้น ฉากส่วนใหญ่ที่เห็นคือ โลเคชั่นในประเทศไทยทั้งสิ้น แต่ด้วยฝีมือการเซ็ตฉากและการจัดแต่งองค์ประกอบต่าง ๆ ของทีมงานระดับโลก ทำให้สามารถเนรมิตโลเคชั่นแถว ๆ จังหวัดนครปฐมและราชบุรีให้มีลักษณะคล้ายกับเมืองในบังคลาเทศได้อย่างไม่น่าเชื่อ แถมฉากแอคชั่นลุ้นระทึกยังดึงความสนใจคนดูจนหลายคนอาจไม่รู้เลยว่า EXTRACTIONแทบทั้งเรื่องถ่ายทำในประเทศไทย  หากใครกำลังมองหาหนังแอคชั่นนานแท้แบบมันสะใจ รับรองว่าจะไม่ทำให้คุณผิดหวัง วิดีโอตัวอย่างภาพยนตร์ EXTRACTION ติดตามการรีวิวหนังและติดตามหนัง Mulan จากเวอร์ชั่นการ์ตูนสู่ภาพยนตร์แอคชั่นสุดอลังการ

Mulan จากเวอร์ชั่นการ์ตูนสู่ภาพยนตร์แอคชั่นสุดอลังการ

จากเวอร์ชั่นการ์ตูนของดีสนีย์ มาสู่ภาพยนตร์แอคชั่นสุดอลังการ Mulan หรือสาวจีน ฮัว มู่หลาน ลูกสาวคนหัวปีของนักรบนามกระเดื่อง ต้องมารับหน้าที่แทนพ่อที่ออกรบไม่ได้เนื่องจากแก่ชราและเจ็บป่วย แต่ต้องอำพรางตัวเป็นชายหนุ่มนามว่า ฮัว จุน เธอต้องผ่านการทดสอบหลายขั้นตอนกว่าจะได้รับการยอมรับจากกองทัพ  ชื่อของเธอเป็นที่ยอมรับทั้งในวรรณกรรจีน และในสื่ออื่น ๆ อีกมาก และยังไม่ถูกนำมาสร้างเป็นทั้งหนังใหญ่ ซีรีย์ และเกมออนไลน์ แต่ที่โด่งดังที่สุดคงหนีไม่พ้น ภาพยนตร์การ์ตูนแอนนิเมชั่นจากฝีมือของวอลท์ ดีสนีย์ ในชื่อของเธอเองว่า “มู่หลาน”  Mulan เป็นหนังการ์ตูนที่ดีสนีย์ประสบความสำเร็จอีกเรื่องหนึ่ง ในปี 2019 ประเภทหนังที่สร้างจากการ์ตูนดังในอดีต ออกแยทั้งหมดถึง 3 ภาค ที่นำโดย The Lion King ที่ทำรายได้ไป 1,600 ล้าน และ Aladdin ที่มีท่าทีตอนแรกว่าจะไปไม่รอด ก็ทำรายได้ไป 1,000 ล้านจนได้ ก็มีเฉพาะ Dumbo ที่ทำรายได้ไม่ถึงขั้นคือได้แค่ 353 ล้านเท่านั้น ซึ่ง มู่หลายเป็นอีกเรื่องที่ทางดีสนีย์ก็ได้ปล่อยตัวอย่างออกมาแล้ว คาดว่าจะได้รับการต้อนรับอย่างดีโดยเฉพาะในตลาดชาวจีน เรื่องราวชอง ฮัว มู่หลายเป็นเรื่องในวรรณกรรมจีนในศตวรรษที่ 6 ได้แก่เรื่อง The Ballad of Mulan ที่ได้เล่าต่อ ๆ กันมาของหญิงสาวที่ปลอมตัวเป็นชายเข้าไปอยู่ในกองทัพ เพื่อเป็นการแทนคุณบิดา และออกรบแทนผู้เป็นพ่อ ต่อมาเธอได้กลายเป็นยอดนักรบคนสำคัญของจีนจนทำให้ชายชาติทหารทั้งหลายต้องยอมรับ และยังได้ช่วยชีวิตจักรพรรดิของจีนในเงื้อมือของมองโกล ไว้ได้อีกต่างหาก ในภาคที่เป็นภาพยนตร์นี้ ไม่มีการดัดแปลงจากฉบัยเดิมที่เป็นการ์ตูนแต่อย่างใด แต่ได้เพิ่มเนื้อหาหลายอย่างเพื่อให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น และตัวหนังเองก็ยังได้ผู้สร้างจากจีนมาร่วมลงทุนอีกด้วยด้วยการนำเพลง My Reflection มาประกอบเรื่องได้อย่างลงตัว แต่สำหรับเพลง Score นั้นทำให้เกิดอารมณ์สะท้อนความจริงขึ้นมาอย่างน่าแปลก มีการเปลี่ยนบทของเจ้ามังกรตัวน้อยที่เป็นทั้งเพื่อนซี้และคู่ปรับของมู่หลายให้เป็นนกฟินิกส์ได้อย่างเหมาะสมอีกด้วย จึงไม่ต้องกลัวว่าจะผิดหวัง สามารถดูได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ วิดีโอตัวอย่างภาพยนตร์เรื่อง Mulan ติดตามการรีวิวหนังและติดตามหนัง THE OLD GUARD หนังแอคชั่นมัน ๆ ย่อยง่ายสไตล์ NETFLIX

THE OLD GUARD หนังแอคชั่นมัน ๆ ย่อยง่ายสไตล์ NETFLIX

THE OLD GUARD หนังดัดแปลงจากการ์ตูนชื่อดังของค่าย IMAGE COMICS กำกับโดย “จีน่า พรินซ์-บาธวูด” ผู้กำกับหญิงฝีมือยอดเยี่ยม ส่วนนักแสดงก็ถือว่าได้นักแสดงตัวแม่ของวงการอย่าง “ชาร์ลิส เธอรอน” มารับบทนำ แถมช่วงหลัง ๆ เธอหันมาจับงานแสดงประเภทแอคชั่นดิบ ๆ โหด ๆ หลายเรื่อง ตั้งแต่ Mad Max: Fury Road (2015) THE OLD GUARDพล็อตเรื่องแสนเรียบง่าย เน้นแอคชันมัน ๆ  THE OLD GUARDเรื่องราวของหน่วยทหารรับจ้างที่มีชีวิต “อมตะ” คอยต่อสู้ปกปองโลกมานับพันปี โดยมี “แอนดี้” (Charlize Theron) เป็นหัวหน้า จนกระทั่งองค์กรวายร้ายต้องการนำตัวพวกเขาไปทดลองเพื่อหวังจะครอบครองพลังอมตะ ทำให้ แอนดี้ ต้องร่วมมือกับ “ไนล์” (KiKi Layne) สมาชิกทหารอมตะน้องใหม่เพื่อหยุดยั้งแผนการร้ายขององค์กรนี้  THE OLD GUARDฉากแอคชั่นดูเพลินแต่ยังไปได้ไม่สุด THE OLD GUARDเป็นหนังที่เรียบง่าย ดูได้เรื่อย ๆ ความสนุกของหนังขึ้นอยู่กับฉากแอคชั่นล้วน ๆ ซึ่งก็ถือว่าทำออกมาได้ดีในระดับหนึ่ง แต่มันก็ไม่ได้ถึงกับทำให้คนดูรู้สึก “ว้าว” เหมือนหนังแอคชันทุนสร้างไม่เยอะเรื่องอื่น ๆ เช่น John Wick (2014) ที่บทแสนเรียบง่าย แต่ฉากแอคชันทำให้คนดูลุ้นจนนั่งไม่ติด แต่สำหรับ THE OLD GUARDแม้ว่าสกิลการต่อสู้หรือศิลปะการป้องกันตัวหลายฉากมันจะให้อารมณ์คล้าย ๆ ได้รับอิทธิพลจาก “กันฟู” (ใช้ปืนผสมศิลปะการต่อสู้ระยะประชิด) ของ John Wick แต่ด้วยความที่ จีน่า พรินซ์-บาธวูด ผู้กำกับเพิ่งมาจับงานแอคชั่นเป็นครั้งแรก จึงทำให้ฉากแอคชั่นดูจืดและขาดความดุเดือดไปหน่อย  แต่อย่างไรก็ตาม จุดเด่นของ THE OLD GUARDชาร์ลิซ เธอรอน ที่แสดงฝีมืออย่างเต็มความสามารถฉายออร่าสมกับเป็นเจ้าแม่แห่งฮอลลีวูดแทบทุกฉากที่มีเธอ แม้เธอจะไม่ใช่นักแสดงที่โด่งดังจากหนังแอคชัน แต่หลายปีมานี้เธอหันมาจับงานแอคชันดิบเถื่อนหลายเรื่อง ซึ่งเธอทำออกมาได้ดีทุกเรื่องจนหาใครมาเทียบได้ยาก   THE OLD GUARDโดยรวมแล้วถือว่าเป็นหนัง NETFLIX ที่ดูสนุกฆ่าเวลาได้เพลิน ๆ แบบไม่ต้องคิดมาก แถมเนื้อเรื่องก็ย่อยง่ายไม่ต้องเก็บมานั่งคิดวิเคราะห์หลังดูจบ ถึงแม้ว่าฉากแอคชั่นจะทำได้ไม่สุด แต่ในเรื่องคุณภาพการถ่ายทำถือหรือโปรดักชั่นต่าง ๆ ถือว่าหนัง NETFLIX ตอนนี้แทบจะไม่แตกต่างจากหนังโรงแล้ว วิดีโอตัวอย่างหนัง THE OLD GUARD ติดตามการรีวิวหนังและติดตาม สำหรับวันนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปพบกับ 3 อันดับหนัง Top Netflix ประจำสัปดาห์