แนะนําหนังตลกไทยยอดฮิตจากคู่ซี้แก๊งค์สาระแน สาระแนสิบล้อ

สวัสดีชาวคอหนังทุกท่านที่กำลังติดตามบทความในการแนะนำหนังไทยหรือการรีวิวหนังแบบฉบับจัดเต็มกันนะคะ สำหรับวันนี้หนังที่นักเขียนได้จากขึ้นมาที่จะอยากแนะนำให้กับเพื่อนๆได้ลองกลับไปย้อนดูรับรองว่าความสุขไม่หมดแน่ๆ ตลกพูดยังไงก็อย่างนั้นอย่างแน่นอนค่ะ ในหนังที่เราจะนำมาแนะนำในวันนี้ก็เป็นหนังเรื่อง สาระแนสิบล้อ ค่ะ โดยภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ถือว่าเป็นงานภาพยนตร์แรกของแก๊งค์สาระแน ที่ได้ออกมาปล่อยมุกให้กับแฟนคลับดูกันแบบสดๆเลยนะคะ เรียกได้ว่าถ้าหากใครที่เป็นแฟนคลับของแก๊งค์สาระแนก็ไม่ควรทานเลยนะคะพร้อมกับติดตามรับชมการแนะนำได้ในบทความนี้กันเลยค่ะ  สาระแนสิบล้อ กับเรื่องราวของหนังตลกที่ไม่ได้มีดีแค่ความตลกเท่านั้น เปิดเรื่องมาที่ เอก หนุ่มนักเรียนมปลายหน้าตาดี ขาวตี๋สไตล์เกาหลี ที่ถูกฟูมฟักมาเป็นอย่างดี ในปิดเทอมครั้งนี้พ่อของเอกก็อยากที่จะฝากฝังเอกให้ไปอยู่กับน้าเชในช่วงปิดเทอม โดยน้าเชและพ่อของเอกนั้นก็เป็นพี่น้องกัน และส่วนเหตุผลที่พ่อของเอกส่งเอกให้มาอยู่กับน้าเช ก็เพราะว่าอยากให้น้าเชฝึกให้เอกเป็นผู้ชายแมนทั้งแท่งและมีความอดทนไม่อยากให้เอกนั้นกลายเป็นตุ๊ดเพราะเห็นว่าเอกสำอางมาก น้าเชทำอาชีพเป็นคนขับสิบล้อ ทุกคนทั้งตลาดก็ต่างพากันรู้จักน้าเช และลูกน้องของน้าเชก็ยังตลกและสายหาอีกด้วยจึงทำให้เอกสามารถเข้ากับน้าเชและลูกน้องนะที่ได้เป็นอย่างดี โดยหลานใช้เวลาร่วมกันในช่วงปิดเทอมอยากสุดคุ้มไม่ว่าจะเป็นการชกต่อย เพื่อที่จะฝึกให้เอกนั้นเป็นผู้ชายและมีความกล้า และก็มีความรัก กับสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ มาเอาใจช่วยกันว่าปิดเทอมครั้งนี้เอก จะพบความแมนกลับไปหาพ่อได้กี่เปอร์เซ็นต์ และช่วงเวลาปิดเทอมอันยาวนานนี้เอกจะได้ประสบการณ์ชีวิตอะไรจากน้าเชบ้าง หลังจากที่ไปอยู่กับคนขับสิบล้อ ต้องติดตามชมได้ในหนังเรื่อง สาระแนสิบล้อ กันเลยนะคะ รับรองว่ากระตุกต่อมฮาไปตามๆกันค่ะ หากคุณไม่อยากพลาดทุกข้อมูลเกี่ยวกับเว็บรีวิวหนัง อย่าลืมติดตามหนังไทยเรื่องอื่นๆ เช่น รีวิว “ฮาว ทูทิ้ง” หนังรักสายติสท์ที่ทำให้เรารู้จักมูฟออนให้ชีวิตมากขึ้น ได้อีกที่ filmograd.net

เพื่อนที่ระลึก หนังผีสยองขวัญสุดระทึก ที่พาคุณลุ้นไปกับคำสัญญา

บางครั้งคำสัญญา ก็ถือว่าเป็นสิ่งหนึ่งที่ไม่ควรที่จะพูดกันเล่นๆ ไม่รู้ว่าตอนที่สัญญาพวกคุณจะตกลงกันอย่างไร แต่บางครั้งทำสัญญาจะกลับมาทวงคืนความจริง และความหลอนที่คุณไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ เพื่อนที่ระลึก หนังผีปี 2560  ที่ได้รับนักแสดงอย่างบีน้ำทิพย์ เข้ามาร่วมแสดงในหนังครั้งนี้ แถมยังเป็นหนังผีที่เป็นกระแสสำหรับวัยรุ่น หลังจากที่เข้าโรงมาก็ทำรายได้อย่างคาดหวัง ดูหนังเรื่องนี้ได้ค่ะทำที่ตึกแห่งหนึ่งในจังหวัดกรุงเทพฯซึ่งเป็นตึกร้างที่อยู่สูงแห่งย่านหนึ่ง  ที่มากมายหลายตำนานในเรื่องของสิ่งลี้ลับ ในวันนี้ซึ่งทำให้นักเขียนได้ไปหยิบเอาหนังเรื่อง เพื่อนที่ระลึก มารีวิวและแนะนำให้กับเพื่อนๆชาวคอหนังได้รับชมกันในวันนี้  เรื่องย่อของหนังเรื่อง “เพื่อนที่ระลึก” บุ๋ม และ อิ๊บ เด็กสาวมัธยมที่สนิทสนมกันเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก โดยพ่อแม่ของทั้งคู่นั้นก็ทำธุรกิจทั้งคู่ จึงทำให้ทั้งคู่เข้าใจกันมากเป็นพิเศษและครอบครัวของทั้งคู่ก็ต่างสนับสนุนให้ทั้งคู่เป็นเพื่อนกัน จนถึงวันหนึ่งช่วงนั้นประเทศไทยพบเจอกับปัญหาพิษเศรษฐกิจ จึงทำให้ครอบครัวของอิ๊บ ที่ได้ทำธุรกิจนั้นล้มละลายและไม่สามารถหาเงินไปใช้จ่ายและใช้ชีวิตๆ อิ๊บ ด้วยความที่เป็นเพื่อนสนิทกับบุ๋ม เธอจึงเลือกที่จะปรึกษาปัญหานี้กับบุ๋ม ในฝ่ายของบุ๋มก็ได้คอยช่วยเหลืออิ๊บตลอดมา มาทั้งคู่ก็ชอบที่จะไปคุยกันที่ตึกร้างที่มีความสูงเป็นอย่างมาก จนในวันนี้บุ๋มกลับมีปัญหากับแม่ เพราะแม่รู้ว่าบุ๋มเอาเงินจ่ายค่าเทอมไปให้อิ๊บ ในตอนนี้จึงทำให้บุ๋มรู้ว่า สถานการณ์เศรษฐกิจนะฐานะทางบ้านของเขาตอนนี้ก็แย่เหมือนกับอิ๊บ เธอทะเลาะกับแม่รุนแรง จึงนัดเจอกับอิ๊บ ทั้งคู่ได้มาเจอกันที่ตึกและสัญญาว่าจะไม่ทิ้งกัน พร้อมทั้งจะฆ่าตัวตายไปพร้อมกัน ในจังหวะนั้นเอง อิ๊บ ก็ได้หยิบปืนที่ขโมยพ่อมายิงตัวตาย แต่บุ๋ม กลับไม่กล้าและวิ่งหนีกลับบ้านไป หลายปีผ่านไปบุ๋มได้มีครอบครัว และมีงานทำและโชคชะตาก็นำพาให้เธอต้องกลับมาที่ตึกนี้อีกครั้ง ตึกที่เธอนั้นเธอละอิ๊บ สัญญากันว่าจะฆ่าตัวตายไปพร้อมกัน มาร่วมเอาใจช่วยกันว่าเธอจะทำอย่างไรถ้าหากต้องเผชิญหน้าในสถานที่ที่เคยอยู่กับเพื่อนสุดที่รัก วิญญาณของอิ๊บ จะรับรู้ได้หรือไม่ ตามชมได้ในหนังเรื่องเพื่อนที่ระลึก หากคุณไม่อยากพลาดทุกข้อมูลเกี่ยวกับเว็บรีวิวหนัง อย่าลืมติดตามหนังไทยเรื่องอื่นๆ เช่น “สุภาพบุรุษสุดซอย” เมื่อพี่ชายวัยโตทั้ง 3 ต้องมาเลี้ยงน้องเล็กที่มีอายุเพียง 6 ขวบ ได้อีกที่ filmograd.net

“สุภาพบุรุษสุดซอย” เมื่อพี่ชายวัยโตทั้ง 3 ต้องมาเลี้ยงน้องเล็กที่มีอายุเพียง 6 ขวบ

สำหรับท่านผู้อ่านที่ได้ติดตามอ่านบทความกับเรา อาจจะพอจำกันได้ว่าได้อ่านบทความเกี่ยวกับสุดยอด ซิทคอมของเมืองไทยอย่าง “3 หนุ่ม 3 มุม” กันมาแล้ว โดยซิทคอมเรื่องดังกล่าวถือเป็นซิทคอมตั้งแต่ยุคปี 90 ซึ่งมุ่งเน้นแสดงให้เห็นถึงครอบครัวชายหนุ่มทั้ง 3 ที่ต้องมาอยู่ร่วมกันในฐานะพี่น้องที่มีอายุต่างวัย เกิดเรื่องราวต่างๆเกิดขึ้นมากมาย อย่างไรก็ตาม ก่อนที่ 3 หนุ่ม 3 มุม X 2 จะถูกนำกลับมาออกอากาศในปี 2563 นี้ วงการซิทคอมไทยก็ได้มีการต้อนรับอีก 1 ซิตคอมแนวครอบครัวที่น่ารัก และน่าประทับใจแฟนเป็นอย่างมากจนถึงตอนนี้ซึ่งเป็นผลงานจากผู้กำกับซิทคอมชื่อดังบอย ถกลเกียรติ วีรวรรณ ที่ชื่อ “สุภาพบุรุษสุดซอย” “สุภาพบุรุษสุดซอย” เรื่องราวที่มีความเชื่อมต่อกันกับซิทคอมชุดบ้านสราญแลนด์ โดยสุภาพบุรุษสุดซอยเป็นหนึ่งในซิทคอมที่มีเรื่องราวเชื่อมต่อกันในชื่อซิทคอมชุดบ้านสราญแลนด์ โดยจะกล่าวถึงเรื่องวุ่นวายระหว่าง 4 ครอบครัวในหมู่บ้านแห่งนี้ ประกอบไปด้วยซิทคอมเรื่อง “ศึกรักข้ามรั้ว”  “ชะนีหนีคาน” “รักล้นๆคนเต็มบ้าน” และสุภาพบุรุษสุดซอย โดยทั้ง 4 เรื่อง จะมีเส้นเรื่องราวเป็นของตนเองแต่ในขณะเดียวกัน เรื่องราวก็จะเชื่อมต่อเหมือนดำเนินเรื่องไปพร้อมๆกับซีรีส์ซิทคอมเรื่องอื่น โดยทั้ง 4 เรื่อง ได้เริ่มออกอากาศมาตั้งแต่ต้นเดือนมกราคมปี 2561 หากแต่ในปัจจุบันซิทคอมที่ยังคงออกอากาศต่อเนื่องอยู่มีเพียงเรื่องสุภาพบุรุษสุดซอยเท่านั้น อาจเป็นเพราะเป็นซิทคอมที่มีแฟนติดตามและชื่นชอบมากที่สุดแม้ว่าซิทคอมเรื่องอื่นจะยุติไปแล้ว แต่สุภาพบุรุษสุดซอยที่จบเรื่องราวพร้อมกับซิทคอมเรื่องอื่นในช่วงปลายเดือนกันยายน พ.ศ. 2561 ได้ถูกสร้างต่อและอากาศต่อตั้งแต่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2561 มาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งสุภาพบุรุษสุดซอยดูจะมีกลิ่นไอคล้ายกับ 3 หนุ่ม 3 มุมในยุคเก่าอยู่พอสมควร เพราะเป็นเรื่องราวของพี่น้อง 3 คน 3 บุคลิกที่อยู่ร่วมกันในบ้านหลังหนึ่ง หากแต่ที่แตกต่างจาก 3 หนุ่ม 3 มุม นั่นก็คือ พวกเขาทั้งสามรับรู้มาตลอดว่าผู้เป็นพ่อได้หย่ากับแม่ของพวกเขา และไปแต่งงานใหม่ ทำให้หนึ่งในสามพี่น้องยังคงมีความทรงจำที่ไม่ดีกับผู้เป็นบิดา หากแต่อยู่มาวันหนึ่งสามพี่น้องซึ่งประกอบไปด้วย เอิร์ธ พี่คนโต วิน พี่ชายคนกลาง และ ซัน น้องชายคนเล็ก ซึ่งทั้ง 3 คน ต่างก็เรียนจบมีงานมีการทำกันอยู่แล้ว อยู่ๆก็ต้องมารับทราบว่าบิดาทิ้งพวกเขาไปนาน จนแม้แต่ช่วงที่มารดาของพ่อเขาเสียชีวิตไปก็ไม่โผล่ออกมาให้เห็น กลับเสียชีวิตลงไปอีกคนหนึ่งทิ้งไว้เพียงน้องเฌอ เด็กหญิงตัวน้อยวัย 6 ขวบ ซึ่งเป็นลูกสาวของบิดาพวกเขาซึ่งเกิดกับภรรยาคนใหม่ เอาไว้ให้พวกเขาช่วยเลี้ยงดู เรื่องราววุ่นวายของสามพี่ชายตัวโตที่ต้องมาช่วยกันเลี้ยงน้องสาวตัวเล็กจึงได้เริ่มต้นขึ้น หากคุณไม่อยากพลาดทุกข้อมูลเกี่ยวกับเว็บรีวิวหนัง อย่าลืมติดตามหนังไทยเรื่องอื่นๆ เช่น รีวิว เฮ้ย! ลูกเพ่ นี่ลูกพ่อ หนังตลกที่จะมาทำให้คุณคิดถึงพ่อแม่มากขึ้น ได้อีกที่ filmograd.net

รีวิว “ฮาว ทูทิ้ง” หนังรักสายติสท์ที่ทำให้เรารู้จักมูฟออนให้ชีวิตมากขึ้น

ในช่วงเวลาของชีวิตย่อมมีหลายครั้งที่เราจำยอมต้อง ‘ทิ้ง’ บางสิ่งบางอย่างออกไปจากชีวิตโดยไม่ได้ตั้งใจ เหมือนกับในหนังเรื่อง “ฮาว ทูทิ้ง” แต่บางทีเราอาจทำไปเพราะความจำเป็นหรือทำไปเพราะเหตุการณ์บางอย่างในชีวิต แน่นอนว่าก็มีอีกหลายครั้งเหมือนกันที่เราเลือกที่จะเก็บสิ่งที่ไม่จำเป็นกับชีวิตเอาไว้ข้างตัวเราอย่างไร้เหตุผล แต่เมื่อจำเป็นต้องมาคิดอีกครั้งว่าจะทิ้งมันหรือไม่ เราจะตัดใจจากมันได้จริงหรือไม่…เรื่องราวของหญิงสาวที่เพิ่งกลับมาที่ไทยหลังเรียนจบจากสวีเดนอย่าง “จีน” ที่ตั้งใจจะมาเคลียร์พื้นที่ในบ้านเพื่อทำเป็นออฟฟิศตามแนวแบบ “มินิมอล” คือเรียบ ๆ สีสว่าง ไม่ค่อยมีรายละเอียดหรือของจุกจิก เรียกง่าย ๆ ว่าโล่ง ๆ นั่นเอง แต่ตัดภาพมาที่สภาพบ้านที่ใช้งานมากว่า 30 ปีก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยในการเก็บกวาดของต่าง ๆ อีกทั้งที่ยากยิ่งกว่าคือการพูดคุยกับแม่ของเธอที่ดูเหมือนจะยังคงผูกพันกับของหลายชิ้นในบ้านหลังนี้ ในหนังเราจะเห็นนิสัยการทิ้งของแบบไม่คิดเลยของจีนที่ทำเอาพี่ชายของเธออย่าง “เจย์” รู้สึกแปลกใจไม่น้อย โดยระหว่างการเก็บกวาดก็ได้เพื่อนสนิทอย่าง “พิ้ง” มาช่วยด้วย แต่ระหว่างนั้นทั้งคู่ก็ได้มีส่วนทำให้จีนกลับมาเห็นคุณค่าและความทรงจำอันล้ำค่าของของพวกนั้นด้วย จนนำมาสู่การคืนของที่เธอเคยยืมเพื่อน ๆ มาตั้งแต่สมัยเรียน ทำให้เราได้เห็นว่าคนรอบข้างของเธอนั้นได้มีชีวิตเป็นไปอย่างไรกันบ้างแล้ว เมื่อถึงของที่เป็นของ “พี่เอ็ม” ซึ่งคือแฟนเก่าที่เธอไม่ได้บอกเลิกกับเขา แต่เลือกที่จะหายออกไปจากชีวิตเขาแบบดื้อ ๆ ไม่มีคำอธิบายใด ๆ ทิ้งให้แต่ฝ่ายชายคอยถามตัวเองทุกวันว่ามันเป็นเพราะอะไรกันแน่ และได้เห็นว่าตอนนี้เขาได้มีแฟนใหม่แล้วและถึงแม้เธอจะพยายามทำตัวเข้าใจเอ็มมากแค่ไหนเราก็ยังเห็นความเจ็บปวดของเธอได้อยู่ดี ส่วนตัวคิดว่าหนังเรื่องนี้เป็นงานอาร์ทที่เสพยาก ย่อยยากงานหนึ่งเลยทีเดียว ใครที่ไม่ใช่สายหนังแบบนี้ก็อาจจะงงและไม่ชอบได้ แต่หากใครที่ชอบเสพความติสท์บอกเลยว่าห้ามพลาดเพราะไม่ว่าจะโทนหนัง ตัวฟอนต์ บทพูด บุคลิกการถ่ายทอดลักษณะนิสัยตัวละคร โลเคชั่น แต่ละอย่างทำออกมาได้ลงตัวและมีความหมายลึกซึ้งในตัวของมันเองได้อย่างดีมาก ๆ  ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับหนัง ฮาว ทูทิ้ง ประเภท : ดราม่า โรแมนติก ผู้กำกับ : นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์ นักแสดงนำ : ชุติมณฑน์ จึงเจริญสุขยิ่ง,ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์,ษริกา สารทศิลป์สุภา,ถิรวัฒน์ โงสว่าง ความยาว : 1 ชั่วโมง 55 นาที กำหนดฉาย : 24 ธันวาคม 2562 หากคุณไม่อยากพลาดทุกข้อมูลเกี่ยวกับเว็บรีวิวหนัง อย่าลืมติดตามหนังไทยเรื่องอื่นๆ เช่น รีวิวคอมเมดี้เรื่องใหม่ของ โป๊ป-เต๋อ ใน “เฮ้ย ลูกเพ่ นี่ลูกพ่อ” กับความฮาที่ไม่จำกัด ได้อีกที่ filmograd.net

รีวิวคอมเมดี้เรื่องใหม่ของ โป๊ป-เต๋อ ใน “เฮ้ย ลูกเพ่ นี่ลูกพ่อ” กับความฮาที่ไม่จำกัด

“เฮ้ย ลูกเพ่ นี่ลูกพ่อ” จะกล่าวถึงเรื่องราวของ “ก๊อต” ชายหนุ่มผู้กำลังโล่ดแล่นในวงการแข่งรถทางเรียบและเขาก็ทำมันได้ดีถึงขั้นได้รับตำแหน่งแชมป์จากรายการการแข่งขันแม้ว่าผู้เป็นพ่อจะไม่ได้สนับสนุนและคอยขัดขวางเขามาตลอด ความสัมพันธ์ระหว่างก๊อตกับพ่อค่อนข้างระหองระแหงกันมาก แม่ของเขาก็ฆ่าตัวตายไปตั้งแต่หลายปีก่อนแล้ว แต่จนกระทั่งวันที่ประกาศรางวัลขณะที่ก๊อตกำลังขับรถไปส่งพ่อก็เกิดอุบัติเหตุ ทำให้เขาอาการหนักขั้นโคม่า และโชคชะตาก็เล่นตลกกับเขา เมื่อเขาตื่นขึ้นมาพบว่าตัวเองกำลังอยู่ในปี พ.ศ.2541 ซึ่งมันแค่ปีเดียวก่อนที่เขาจะเกิดขึ้นมา ก๊อตได้เจอกับ “เปรม” พ่อของตัวเองซึ่งตอนนี้เขายังหล่อเฟี้ยวและเป็นหัวหน้าแก๊งจิ๊กโก๋อย่าง “แก๊งเจ้าโลก” ที่คอยเก็บค่าคุ้มครองตามร้านค้าต่าง ๆ ไปทั่ว ทั้งยังเคยติดคุกมาแล้วอีกด้วย แต่ความวายป่วงยังไม่จบเมื่อทั้งคู่ต่างมาตกหลุมรักผู้หญิงคนเดียวกันด้วยนี้สิยิ่งไปกันใหญ่ เรื่องราวความสนุกของการที่ได้รู้จักลูกเพ่ ที่แท้จริงเขาเป็น ลูกพ่อเนี่ยเป็นพล็อตเรื่องที่ไม่ค่อยเห็นในหนังไทยสักเท่าไร แต่ถึงอย่างนั้นก็เป็นพล็อตเรื่องที่เดาทางได้ไม่ยาก ทำให้อีกตัวดึงเรื่องคือ “ความโบ๊ะบ๊ะ” ของคู่นักแสดง และความน่ารักของนางเอกนั่นเอง ความเห็นส่วนตัวคิดว่าหนังเรื่องนี้ถ้าดูเอาสนุกก็ถือว่าตอบโจทย์แต่ถ้าดูเอาพล็อตเรื่องถือว่ายังไม่โอเคร เพราะโปรดักชั่นต่าง ๆ ถือว่าบกพร่องหลายจุดเหมือนการนำของวินเทจมารวมกันทั้งที่มันอยู่กันคนละยุคสมัยเลย หรือจะเป็นความตั้งใจของทีมสร้างเองก็ไม่ทราบ เรื่องความสมเหตุสมผลของการย้อนเวลาที่หลายคนอาจจะรู้สึกว่า…เอ๊ะ ทำแบบนี้ได้ด้วยหรือโผล่มาให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง สำหรับใครที่ตั้งใจไปดูความบันเทิงบอกเลยว่าตอบโจทย์เพราะเคมีของคู่โป๊ป-เต๋อ นั้นกลมกล่อมอย่างบอกไม่ถูก เสน่ห์ของทั้งคู่ทำให้มุกต่าง ๆ มีความลื่นไหลมากขึ้นแม้ว่าจะมีมุกแปกอยู่บ้างก็ตาม ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับหนังเรื่อง “เฮ้ย ลูกเพ่ นี่ลูกพ่อ” ประเภท : คอมเมดี้ ผู้กำกับ : ภวัต พนังคศิริ นักแสดงนำ : ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ,ฉันทวิชช์ ธนะเสวี,แซมมี่ เคาวเวลล์ ความยาว : 1 ชั่วโมง 50 นาที กำหนดฉาย : 13 ตุลาคม 2563 หากคุณไม่อยากพลาดทุกข้อมูลเกี่ยวกับเว็บรีวิวหนัง อย่าลืมติดตามหนังไทยเรื่องอื่นๆ เช่น รีวิว แฟนเดย์…แฟนกันแค่วันเดียว พร้อมเฉลยตอนจบอีกแบบที่หนังไม่ได้นำเสนอ ได้อีกที่ filmograd.net

รีวิว เฮ้ย! ลูกเพ่ นี่ลูกพ่อ หนังตลกที่จะมาทำให้คุณคิดถึงพ่อแม่มากขึ้น

วันนี้จะพาทุกคนมาดู รีวิว เฮ้ย ลูกเพ่ นี่ลูกพ่อ เรื่องนี้กันเลย หลังจากที่เคยมีกระแสถึงความจิ้นระหว่าง โป๊ปและเต๋อมาสักพักก่อนที่หนังจะเข้า อาจจะด้วยความที่ดูแล้วทั้งคู่ดูเข้าขากันเป็นอย่างดี มันก็เลยเป็นเรื่องราวน่ารักๆของทั้งคู่นั่นเอง เอาเป็นว่า เรามาดูกันเลยดีกว่าว่าจะเป็นยังไงบ้าง? ชื่อเรื่อง : “เฮ้ย!ลูกเพ่ นี่ลูกพ่อ” แนว : คอมเมดี้ นักแสดง : โป๊ป -ธนวรรธน์, เต๋อ -ฉันทวิชช์, แซมมี่ เคาวเวลล์ ผู้กำกับ : ภวัต พนังคศิริ ค่าย : ทรานฟอร์เมชั่น ฟิล์ม วันฉาย : 13 ตุลาคม 2020 เวลา : 01 ชั่วโมง 45 นาที เรื่องย่อ เรื่องราวของ “ก๊อต” (รับบทโดย โป๊ป -ธนวรรธน์) ชายหนุ่มนักแข่งรถที่ไม่ค่อยลงรอยกับ “เปรม” (รับบทโดย เต๋อ –ฉันทวิชช์) พ่อของเขามากสักเท่าไร จนในวันหนึ่งก๊อตได้ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์จนทำให้เขาต้องย้อนเวลากลับไปยังปี พ.ศ.2541 หรือ 1 ปีก่อนที่เขาจะเกิดเท่านั้น ซึ่งในการย้อนเวลาครั้งนั้นก๊อตได้พบกับพ่อของเขาในวัยที่เป็นวัยรุ่น อีกทั้งพ่อของเขายังเป็นหัวหน้าแก๊งค์หรือหัวโจกในสมัยนั้นอีกด้วย แถมก๊อตยังมาตกหลุมรักผู้หญิงคนเดียวกันกับพ่อของเขาอย่าง “บิว” (รับบทโดย แซมมี่ เคาวเวลล์) หรือแม่ของเขาในปัจจุบันอีกด้วย นั่นทำให้ก๊อตต้องพยายามจีบบิวแข่งกับพ่อของเขาเองซะอย่างนั้น รีวิว เฮ้ย ลูกเพ่ นี่ลูกพ่อ ต้องเรียกได้ว่าค่อนข้างคาดหวังกับหนังเรื่องนี้เอาไว้มากเลยทีเดียว ด้วยเนื้อเรื่องที่น่าสนใจ และตัวอย่างหนังที่ทำออกมาเชิญชวนให้คนดูอย่างเราอยากเสียเงินเข้าไปดูมากๆ แล้วไหนจะเรื่องของผลงานการผลิตของใหม่-ภวัต เจ้าของผลงานละครที่โด่งดังไปทั่วประเทศอย่างเรื่อง “บุพเพสันนิวาส” อีก ทั้งหมดนี้มันยิ่งตอกย้ำเข้าไปใหญ่ว่า เราควรเสียเงินเข้าไปดูในโรงภาพยนตร์ให้ได้ แต่หลังจากที่ได้ดูแล้ว คือถ้าหากเราดูเพื่อความบันเทิง ไม่ได้อยากได้พล็อตเรื่องอะไรที่มันน่าตื่นเต้นมากนัก ก็สามารถดูได้อย่างเพลินๆ ดูได้เรื่อยๆ แต่แอดว่าในเรื่องของโลเคชั่น หรือยานพาหนะต่างๆนั้นมันไม่เหมือนปี พ.ศ.2541 อย่างที่ควรจะเป็น แต่มันเหมือนว่าจะย้อนไปไกลกว่านั้นอีกเยอะมากเลย ต้องเรียกได้ว่าหนังเรื่องนี้ถ้าไม่มีโป๊ปกับเต๋อก็น่าจะดับไปแล้วล่ะ เพราะเต๋อกับโป๊ปนั้นถือได้ว่าเป็นสเน่ห์อย่างเดียวในหนังเรื่องนี้เลย ตัวอย่าง หากคุณไม่อยากพลาดทุกข้อมูลเกี่ยวกับการรีวิวหนัง อย่าลืมติดตามหนังไทยเรื่องอื่นๆ เช่น รีวิว แฟนเดย์…แฟนกันแค่วันเดียว พร้อมเฉลยตอนจบอีกแบบที่หนังไม่ได้นำเสนอ ได้อีกที่ filmograd.net

รีวิว แฟนเดย์…แฟนกันแค่วันเดียว พร้อมเฉลยตอนจบอีกแบบที่หนังไม่ได้นำเสนอ

ต้องยอมรับเลยว่า ทุกๆคนคงต้องเคยผ่านประสบการณ์การแอบรักใครบางคนมาแล้วทั้งนั้น มันมีทั้งการแอบรักที่ไม่กล้าเปิดปากพูดออกไป เพราะกลัวว่าถ้าบอกไปว่ารักแล้วอีกฝ่ายกลับไม่ได้คิดอย่างที่เราคิด มันก็อาจจะทำให้ความสัมพันธ์ที่เคยมีต่อกันขาดหายไป จนกลายเป็นคนไม่รู้จักกันในที่สุด ดังนั้นฝ่ายที่แอบรักก็ทำได้แค่เพียงหวังว่า จะได้เป็นแฟนจริงๆกับคนที่เรารัก แค่สักวันก็เพียงพอแล้ว และในวันนี้เราจะทุกคนมาดู รีวิว แฟนเดย์ แฟนกันแค่วันเดียว ที่จะทำให้คุณเข้าใจคนแอบรักมากยิ่งขึ้น ชื่อเรื่อง : “แฟนเดย์…แฟนกันแค่วันเดียว” แนว : โรแมนติก ดราม่า นักแสดง : ฉันทวิชช์ ธนะเสวี, นิษฐา จิรยั่งยืน บทภาพยนตร์ : บรรจง ปิสัญธนะกูล, ฉันทวิชช์ ธนะเสวี ,นนตรา คุ้มวงศ์ ผู้กำกับ : บรรจง ปิสัญธนะกูล ค่าย : GDH วันฉาย : 01 กันยายน 2016 เวลา : 02 ชั่วโมง 16 นาที IMDb : 7.7 เรื่องย่อ เรื่องราวของ “เด่นชัย” (รับบทโดย ฉันทวิชช์ ธนะเสวี) เจ้าหน้าที่ไอทีสุดเนิร์ดประจำออฟฟิศที่เคยแอบน้อยใจอยู่บ่อยๆ เพราะว่าในเวลาปกตินั้นไม่ค่อยมีใครที่จะจำเขาได้นักหรอก ยกเว้นแต่ตอนที่เวลาคอมพิวพ์เตอร์มีปัญหาเท่านั้นแหละที่เขาดูจะมีค่าขึ้นมาทีเดียว จนกระทั่งวันหนึ่งเขาได้ซ่อมคอมพิวพ์เตอร์ให้กับ “นุ้ย” (รับบทโดย นิษฐา จิรยั่งยืน) มาเก็ตติ้งสาวสวย ผู้หญิงคนเดียวที่จำชื่อของเขาได้ นั่นทำให้เด่นชัยตกหลุมรักในความน่ารักและความจริงใจของเธอขึ้นมาทันที แต่เด่นชัยสามารถทำได้เพียงแอบมองนุ้ยอยู่ห่างๆเท่านั้น เพราะเขารู้ดีว่าเขาไม่ไม่เหมาะกับดอกฟ้าอย่างเธอหรอก จนในวันหนึ่งบริษัทได้จัดทริปให้พนักงานไปเที่ยวที่ญี่ปุ่น เด่นชัยจึงได้ขอพรกับระฆังความรักของโรงแรมที่เข้าพักว่า ขอให้เขาได้เป็นแฟนกับนุ้ย แค่เพียงวันเดียวก็ยังดี ทันใดนั้นโชคชะตากลับเล่นตลกให้นุ้ยประสบอุบัติเหตุจากสกีจนทำให้นุ้ยความจำเสื่อมชั่วคราว 1 วัน เด่นชัยจึงเห็นว่านี่เป็นโอกาศเดียวที่เขาจะได้ใกล้ชิดกับนุ้ย เขาจึงไปหลอกนุ้ยว่าเขา 2 คนเป็นแฟนกัน พวกเขาจึงได้ใช้เวลาอยู่เที่ยวด้วยตลอด 1 วันนั่นเอง รีวิว แฟนเดย์ แฟนกันแค่วันเดียว หลังจากที่ได้ดูหนังเรื่องนี้ คือมันน่ารักมาก มิว-นิษฐานางเอกของเราสวยมากๆ ไม่ว่าจะมองมุมไหน อารมณ์ดีหรือโกรธ โมโห ก็สวย รู้สึกหลงรักนางขึ้นมาทันทีเลย อ่ะนอกเรื่องซะงั้น กลับมาที่หนังกันดีกว่า 555 สำหรับหนังเรื่องนี้มีพล็อตเรื่องและคาแรคเตอร์ตัวละครแต่ละตัวที่ค่อนข้างแข็งแรงมากๆ นักแสดงหลัก 2 คน สามารถเอาคนดูได้อยู่จนจบเรื่องเลย พล็อตเรื่องอาจจะดูเพ้อฝัน เรื่องราวที่อาจจะดูเป็นไปไม่ได้นี้ก่อให้เกิดเรื่องราวดีๆขึ้นมากมาย อีกทั้งหนังเรื่องนี้ยังเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับนิสัยคนเราได้เป็นอย่างดีเลย เพราะในหนังนั้นได้สอนให้เรามองคนที่ด้านในจริงๆมากกว่าที่จะมองแค่ภายนอกเท่านั้น และแต่ละคนล้วนก็มีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกันไปอีกด้วย ตัวอย่าง และถ้าใครยังค้างคาในใจกับตอนจบของหนังแฟนเดย์…แฟนกันแค่วันเดียว เรื่องนี้นั้น วันนี้เรามีตอนจบอีกแบบที่ทางค่าย GDH ไม่ได้นำเสนอในหนังมาให้เรารับชมกันอีกครั้ง หากคุณไม่อยากพลาดทุกข้อมูลเกี่ยวกับการรีวิวหนัง อย่าลืมติดตามหนังไทยเรื่องอื่นๆ เช่น รีวิว ฮาชิมะ โปรเจกต์ ไม่เชื่อ ต้องลบหลู่ หนังผีที่ทุกอย่างดีหมด ยกเว้นผี! ได้อีกที่ filmograd.net

รีวิว ฮาชิมะ โปรเจกต์ ไม่เชื่อ ต้องลบหลู่ หนังผีที่ทุกอย่างดีหมด ยกเว้นผี!

เรื่องราวของคนที่ชอบลองของ ชอบท้าทายในเรื่องของสิ่งที่เรามองไม่เห็นอย่างวิญญาณนี่ก็ยังมีให้เห็นอยู่เรื่อยๆเลย ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมรายการต่างๆที่เกี่ยวกับผีถึงยังไม่หมดไปจากยุคเราสักที อาจจะด้วยความที่คนเราชอบอะไรที่มันน่าตื่นเต้นแบบนี้ด้วยแหละ อีกทั้งประเทศไทยเราเองกลุ่มชนบางกลุ่มก็ยังมีการไหว้ผี หรือเลี้ยงผีอยู่จนถึงปัจจุบันนั่นเอง และสำหรับวันนี้เราจะพาทุกคนมาดู รีวิว ฮาชิมะ โปรเจกต์ ไม่เชื่อ ต้องลบหลู่ อีกหนึ่งหนังผีของไทย ที่บอกเล่าเรื่องราวในมุมมองของผู้ผลิตที่ต้องผลิตคลิปมาให้พวกเราทุกคนรับชมกันนั่นเอง ชื่อเรื่อง : “ฮาชิมะ โปรเจกต์ ไม่เชื่อ ต้องลบหลู่” (H Project) แนว : สยองขวัญ นักแสดง : อเล็กซ์ เรนเดลล์, ไมค์ พิรัชต์,  อภิญญา สกุลเจริญสุข, สุชาร์ มานะยิ่ง, เมฆ เมฆวัฒนา, shô nishino บทภาพยนตร์ : อดิเรก วัฏลีลา ผู้กำกับ : ปิยะพันธ์ ชูเพ็ชร์ ค่าย : M39 วันฉาย : 30 ตุลาคม 2013 เวลา : 02 ชั่วโมง 06 นาที IMDb : 4.4 เรื่องย่อ เรื่องราวของกลุ่มเพื่อนทั้งหมด 5 คนที่เพิ่งเรียนจบภาพยนตร์มา ซึ่งประกอบไปด้วย “อ๊อฟ” (รับบทโดย อเล็กซ์ เรนเดลล์) , “นิก” (รับบทโดย ไมค์ พิรัชต์) , “แนน” (รับบทโดย อภิญญา สกุลเจริญสุข) , “เมย์” (รับบทโดย สุชาร์ มานะยิ่ง) และ “ด็อก” (รับบทโดย เมฆ เมฆวัฒนา) พวกเขาเป็นคนรุ่นใหม่ที่มั่นใจในตัวเองและไม่เชื่อเรื่องราวงมงายใดๆทั้งสิ้น พวกเขาพยายามถ่ายทำและนำผลงานไปนำเสนอตามค่ายหนังต่างๆ แต่ทุกที่ก็ตอบกลับมาเพียงว่า “จะติดต่อกลับ” เพียงเท่านั้นเอง พวกเขาจึงตัดสินใจนำคลิปผี CG ที่พวกเขาทำขึ้นมาอัพเดตลง Youtube และนั่นทำให้คลิปผีของพวกเขาประสบความสำเร็จจนมีแฟนคลับคอยติดตาม หลังจากนั้นได้มีโปรดิวเซอร์รายการโกสต์แลนด์ รายการที่มีชื่อเสียงเกี่ยวกับการพาไปค้นหาเรื่องราวลึกลับติดต่อมาที่พวกเขา เพื่อให้ไปถ่ายรายการผีที่ฮาชิมะ เกาะร้างที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นสถานที่ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของความน่ากลัวเป็นอันดับต้นๆของโลกเลยทีเดียว ด้วยความที่พวกเขาไม่เชื่อในเรื่องราวผีสางหรือวิญญาณใดๆเลย พวกเขาจึงตกปากรับคำทำงานนี้ และสนุกสนานกันจนเลยเถิดไปถึงขั้นลบหลู่สถานที่แห่งนี้ มันจึงส่งผลให้พวกเขาต้องเจอเรื่องราวที่น่ากลัวขึ้นเรื่อยๆ รีวิว ฮาชิมะ โปรเจกต์ ไม่เชื่อ ต้องลบหลู่ ต้องเรียกได้ว่า หนังเรื่องนี้ใช้การเล่าเรื่องได้น่าสนใจมากๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อน หรือแม้แต่เซอร์ไพส์ในตอนจบ อีกทั้งทางผู้กำกับของมีการเล่นกับบรรยากาศของเรื่องชวนให้เราหลอนตามได้เลย คือแอดว่าทุกอย่างของเรื่องนี้ไม่ว่าจะเป็นงานฉาก เนื้อเรื่อง นักแสดง ทุกอย่างคือสามารถทำออกมาได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว แต่ด้วยความที่สถานที่มันเป็นประเทศญี่ปุ่น ผีของเรื่องก็ต้องเป็นผีญี่ปุ่นถูกไหม? และด้วยความที่มันเป็นผีญี่ปุ่นที่มีการเล่าเรื่องผ่านหนังไทย แอดก็เลยว่ามันยังไม่สุดเท่าไร ผียังไม่ค่อยมีความน่ากลัวมากนัก หากใครที่งงว่าผีญี่ปุ่นมันเป็นยังไงกันนะ ให้ทุกคนลองนึกภาพของผีอย่างจูออนดูสิ เป็นแบบนั้นเลย ตัวอย่าง หากคุณไม่อยากพลาดทุกข้อมูลเกี่ยวกับการรีวิวหนัง อย่าลืมติดตามหนังไทยเรื่องอื่นๆ เช่น รีวิว O.T. ผี Overtime หนังผีภาคต่อคุณภาพดีๆของไทย ได้อีกที่ filmograd.net

รีวิว O.T. ผี Overtime หนังผีภาคต่อคุณภาพดีๆของไทย

หลังจากที่ภาพยนตร์เรื่องสั้นอย่างเรื่อง “ตีสาม” ที่ประสบความสำเร็จหลังจากออกฉายไปแล้วนั้น มันจะมีเรื่องสั้นเรื่องหนึ่งที่ถูกพูดถึงเป็นอย่างมากก็คงหนีไม่พ้นเรื่องสั้นเรื่องสุดท้ายไปกับ “รีวิว O.T. ผี Overtime” ซึ่งหลังจากประสบความสำเร็จผ่านไปประมาณ 2 ปีแล้วนั้น ทางค่ายไฟว์สตาร์ก็ไม่รอช้า รีบหยิบยกเรื่องสั้นเรื่องนี้มาสร้างแยกภาคต่อเป็นเรื่องคนตัวเองไปเลย ชื่อเรื่อง : “O.T. ผี Overtime” แนว : ตลก-สยองขวัญ นักแสดง : เรย์ แมคโดนัลด์, ชาคริต แย้มนาม, อนันดา เอเวอริ่งแฮม, อัครัฐ นิมิตชัย, พิมพ์ปวีณ์ โคกระบินทร์ บทภาพยนตร์ : ณัฐพจน์ พจน์จำเนียร, อิสรา นาดี, ชนินทร อุลิศ ผู้กำกับ : อิสรา นาดี ค่าย : Five Stars Production วันฉาย : 23 ตุลาคม 2014 เวลา : 1 ชั่วโมง 42 นาที IMDb : 5.7 เรื่องย่อ เรื่องราวหลังจากที่ “ที” (รับบทโดย เรย์ แมคโดนัลด์) และ “การัน” (รับบทโดย ชาคริต แย้มนาม) สองหนุ่มเจ้าของบริษัทที่หลอกผีจนลูกน้องอย่าง “บั๊ม” (รับบทโดย ประชากร ปิยะสกุลแก้ว) และ “งิ๊ง” (รับบทโดย กันยรินทร์ นิธินพรัศมิ์) พลัดตกตึกตายด้วยความตกใจไปแล้วนั้น ต่อมาที่บริษัทได้ประสบปัญหาทางด้านการเงินอย่างหนัก จึงได้ตามตัว “ดิน” (รับบทโดย อนันดา เอเวอริ่งแฮม) เจ้าของบริษัทอีกคนกลับมาช่วยกันแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ในขณะเดียวกัน “อั้น” (รับบทโดย อัครัฐ นิมิตชัย) และ “ตาล” (รับบทโดย พิมพ์ปวีณ์ โคกระบินทร์) รุ่นน้องที่มหาลัยที่กำลังจะแต่งงานกัน ได้เข้ามาติดต่อบริษัทออแกไนซ์ของดินและที เพื่อให้ช่วยจัดงานแต่งงานที่โรงแรมให้ แต่หารู้ไม่ว่าการที่อั้นมาจ้างบริษัทของดินและทีนั้น ทั้งหมดก็เพื่อต้องการที่จะแก้แค้นเรื่องราวในอดีตนั่นเอง รีวิว O.T. ผี Overtime สำหรับเรื่องนี้เรียกได้ว่ายังคงคอนเซ็ปเดิมเลย ก็คือการหลอกกันไปหลอกกันมานั่นเอง อาจจะเรียกได้ว่า นี่น่าจะเป็นสเน่ห์ของหนังเรื่องนี้ไปแล้วก็ได้ ซึ่งบางทีดูแล้วเรื่องบางเรื่องอาจจะดูแกล้งกันแรงไปหน่อย แต่ตัวละครในเรื่องกลับไม่โกรธอะไรกันสักนิด แถมยังรู้สึกได้ว่าอีกฝ่ายก็พยายามที่จะหาเรื่องแกล้งคืนอีกต่างหาก กลายเป็นว่าเป็นเรื่องปกติของแก๊งค์นี้เลยก็ว่าได้ สำหรับเรื่องของตัวนักแสดง เราอาจจะไม่ต้องพูดอะไรมาก เพราะตัวละครแต่ละตัวนี่ถือได้ว่าเป็นอันดับต้นๆของวงการหนังผีเลยก็ว่าได้ ชาคริตงี้ อนันดางี้ พี่เรย์งี้ โอ้ย…เรื่องนี้คือมาสานต่อเรื่องราวเรื่องสั้นในหนังเรื่องตีสามเป็นอย่างดีเลยทีเดียว อีกทั้งตอนจบยังมีการทิ้งปมเอาไว้ให้ผู้ชมได้ไปจินตนาการต่อเองอีกต่างหาก เพราะว่าตอนจบมันเป็นตอนจบแบบปลายเปิดมากๆ ตัวอย่าง หากคุณไม่อยากพลาดทุกข้อมูลเกี่ยวกับการรีวิวหนัง อย่าลืมติดตามหนัง Netflix เรื่องอื่นๆได้อีกที่ filmograd.net

หนังรักโรแมนติก The Letter จดหมายรัก นักแสดงมากฝีมืออย่างแอน ทองประสม

The Letter หนังไทยที่ถึงแม้ว่าจะเก่าและผ่านมาหลายปีแล้ว แต่ก็ยังคงเป็นหนังรักโรแมนติกที่ยังคงติดอยู่ในความทรงจำของคนดูที่ชื่นชอบและประทับใจในเนื้อเรื่องและการแสดงของนักแสดงมากฝีมือ อย่างคุณแอน ทองประสม และคุณอรรถพร ธีมากร รวมถึงผู้กับภาพยนต์อย่างคุณผอูน จัทรศิริ ซึ่งการันตีด้วยรางวัล สาขานักแสดงนำฝ่ายหญิงยอดเยี่ยม The Letter หรือชื่อไทยว่า จดหมายรัก ได้ถูกนำมาจากภาพยนต์แนวรักของเกาหลีใต้ เรื่อง Pyeon Ji โดยคุณดวงกมล ลิ่มเจริญ ได้ซื้อลิขสิทธิ์มาเพื่อทำการสร้างใหม่ในเวอร์ชั่นไทย เป็นจดหมายรักที่มีเนื้อความบีบอารมณ์ ตั้งแต่เริ่มเรื่องจนจบเรื่อง เป็นเรื่องราวของคนสองคนที่ได้มาพบกัน ระหว่าง ดิว (แอน ทองประสม) และต้น (อรรถพร ธีมากร) หลังจากที่ทราบข่าวยายเล็กเสียชีวิต และทำให้ดิวและต้นได้รู้จัก ติดต่อกันมาจากนั้น และรู้ถึงความเป็นตัวตนของอีกฝ่าย จนกระทั่งเพื่อนสนิทอย่างเกดเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ ดิวจึงตัดสินใจที่จะกลับมาอยู่บ้านที่ยายเล็กทิ้งไว้ให้ที่เชียงใหม่ จดหมายรัก หรือความรักที่อบอุ่นที่แท้จริงจึงเริ่มต้นขึ้นที่นี่ ดิวและต้นได้รู้ถึงการเติมเต็มความรักซึ่งกันและกัน ความห่วงใยและสายใยของคนสองคน จนกระทั่งต้นได้มาเจอจดหมายของยายเล็กและเกิดความประทับใจซึ่งเขียนโดยผู้ชายที่มีความรักให้กับยายเล็ก และนั่นเป็นการเริ่มต้นของความคิดที่ว่าสักวันจะเขียนจดหมายรักแบบนี้สักครั้ง ทิ้งท้ายไว้แค่ตรงนี้ดีกว่า เพราะหลังจากนี้ความพีคของเนื้อเรื่องจะเริ่มบีบคั้น จนน้ำตานองหน้า นักแสดงทั้งสองท่านได้ถ่ายทอดอารมณ์ส่งถึงคนดูได้อย่างมืออาชีพ The Letter หรือจดหมายรัก เป็นความรักที่ไม่มีวันตาย เป็นความห่วงหา รักที่จากกันแค่ไม่ได้พบกันอีก วิดีโอตัวอย่างภาพยนตร์ The Letter จดหมายรัก ต้องขอขอบคุณข้อมูลการรีวิวหนังจาก Ufabetwin มา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ ติดตามการรีวิวหนังและติดตามเกิดอะไรขึ้นตอนเธอฝัน รีวิวซีรีส์ While You Were Sleeping