CODA หนังสร้างแรงบันดาลใจที่จะทำให้หัวใจคุณพองโตได้อย่างไม่คิด

CODA

เรียกว่าเป็นหนังที่สร้างความประทับใจให้กับผู้ชมทุกเพศทุกวัยเลยทีเดียว กับ CODA หัวใจไม่ไร้เสียง หนังที่บอกเล่าเส้นทางความฝันของเด็กคนหนึ่ง ร่วมกับการสะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งในความรักของครอบครัว ลำดับการเล่าเรื่องจะค่อยๆ เพิ่มความรู้สึกบางอย่างให้เกิดขึ้นในจิตใจของผู้ชม แล้วก็ถือได้ว่าครบรส ได้ทั้งความอิ่มใจ เสียงหัวเราะและรอยยิ้ม ยิ่งกว่านั้นยังปลุกไฟในตัวเราได้ด้วย CODA เด็กสาวรักเสียงเพลงในครอบครัวหูหนวก           ในเรื่อง CODA จะมีเด็กสาวคนหนึ่งเป็นคนดำเนินเรื่อง เธอเติบโตมาในครอบครัวคนหูหนวก ทั้งพ่อแม่และพี่ชายต่างไม่ได้ยินอะไร ขณะที่เธอเป็นคนเดียวที่ สื่อสาร ได้เลยดูคล้ายว่าทุกคนต้องพึ่งพาเธอตลอดเวลา เพราะรายได้หลักของบ้านคือการหาปลาที่ต้องคุยกับคนอื่นเป็นประจำ ประเด็นก็คือตัวเธอเองมีความฝันว่าอยากจะร้องเพลง แต่ความฝันนั้นอาจทำให้ครอบครัวต้องลำบาก ทุกอย่างไม่เป็นใจให้เธอเลือกชีวิตได้อย่างที่ตัวเองต้องการ เว็บรีวิวหนัง เสน่ห์ของCODAคือความรักภายในครอบครัว           หนังเรื่องนี้จะไม่ต่างจากหนังล่าฝันอื่นๆ เลย ถ้าCODAไม่ชูจุดเด่นเรื่องความรักอันแน่นแฟ้นของคนในครอบครัว ถึงจะทะเลาะกันอย่างไร พูดจากันรุนแรงแค่ไหน แต่ลึกๆ แล้วทุกคนรักใคร่และหวังดีต่อกันอย่างมาก พ่อแม่ยอมเปลี่ยนตัวเองเพื่อให้ลูกได้มีโอกาสทำตามฝัน พี่ชายพร้อมยืดอกรับผิดชอบทุกอย่างแทนน้อง ขณะเดียวกันตัวเอกก็สนับสนุนครอบครัวกลับ ทุกคนจึงบรรลุเป้าหมายของตัวเองได้อย่างสมบูรณ์ในท้ายที่สุด ภาษามือเป็นอีกอย่างหนึ่งที่น่าติดตามในCODA           นอกจากรายละเอียดทั้งหมดที่อยากให้ผู้ชมไปติดตามต่อในหนังเรื่องCODAกันเอง ก็มีอย่างหนึ่งที่เชื่อว่าจะสะดุดใจหลายๆ คนเช่นกัน ก็คือวิธีการสื่อสารด้วยภาษามือตลอดทั้งเรื่อง บางครั้งพอเราไม่ได้ยินเสียง เราก็เห็นบางอย่างชัดเจนขึ้น เห็นความรู้สึกที่แท้จริงของคนอื่น เห็นความรักแท้ที่ไม่ถูกกลบเกลื่อนด้วยคำพูด และยังเตือนให้เราได้รู้ด้วยว่า เราควรจะต้องตั้งใจฟังคนอื่นมากขึ้นแค่ไหน Latest Posts

“Gate” หน่วยรบตะลุยโลกต่างมิติ นิยายแฟนตาซีแนวกองทัพสมัยใหม่บุกต่างโลก

นิยายหรือวรรณกรรมยังเป็นสื่อบันเทิงที่ให้สุขกับผู้อ่านผ่านตัวอักษรและนิยมมาตลอดหลายยุคสมัย แม้ว่าในปัจจุบันจะมีเทคโนโลยีใหม่ๆด้านสื่อบันเทิงออกมา แต่นิยายก็ยังคงเป็นสื่อที่มีแฟนๆนิยมกันอยู่ตลอด โดยหนึ่งในนิยายแฟนตาซีสมัยใหม่จากประเทศญี่ปุ่นที่ประสบความสำเร็จมากจนถึงขั้นถูกนำมาสร้างเป็น หนังสือการ์ตูน และอนิเมะมาแล้ว นั้นก็คือนิยายที่ชื่อ “หน่วยรบตะลุยโลกต่างมิติ” หรือชื่อภาษาอังกฤษว่า “Gate Jieitai Kanochi Nite Kaku Tatakaeri” ที่เรียกกันย่อ ๆ ว่า “Gate” ถือเป็นอีกหนึ่ง  อนิเมะชื่อดังจากประเทศญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยมพอสมควร  “Gate” อนิเมะเกี่ยวกับกองทัพชื่อดังอีกหนึ่งเรื่องจากญี่ปุ่น นิยายเรื่องนี้แต่งโดย “ทาคูมิยะ ไน” ซึ่งว่ากันว่า เว็บรีวิวหนัง ผู้แต่งเคยรับราชการอยู่ในหน่วยงาน “กองกำลังป้องกันตนเอง” ของประเทศญี่ปุ่น หรือ JSDF จึงทำให้การแต่งนิยายถึงขั้นตอนกลยุทธ์ที่หน่วยงานกองกำลังป้องกันตนเองจะตอบสนองเมื่อเกิดภัยพิบัติหรือกลยุทธ์ในการรบแบบสมัยใหม่นั้นสมจริงเป็นอย่างมาก “เล็กเซียวหงส์” สุดยอดนักสืบในนิยายกำลังภายในจากปลายปากกา “โกวเล้ง” โดยนิยายเรื่องนี้จะเปิดฉากเริ่มต้นที่ “โยจิ อิตามิ” พระเอกของเรื่องที่เป็นเจ้าหน้าที่ของ JSDF แต่กลับมีนิสัยที่เอื่อยเฉื่อยและไม่กระตือรือล้นในการรับราชการสักเท่าไหร่ โดยเขามีงานอดิเรกคือการสะสมหนังสือการ์ตูนต่าง ๆ ในเช้าวันหนึ่งที่เขามีวันหยุดและกำลังจะเดินทางไปร่วมงานเทศกาลหนังสือการ์ตูนประจำปีของประเทศญี่ปุ่น อยู่ ๆ ก็ ปรากฏประตูใหญ่มหาศาลบานหนึ่งขึ้นกลางย่านกินซ่า จากนั้นเมื่อประตูเปิดออกกองทัพปริศนาที่เหมือนมาจากยุคโบราณในโลกแฟนตาซีที่มีแต่ในนิยายเท่านั้นกลับออกมากจากประตูดังกล่าวบุกเข้าโจมตีประชาชนในบริเวณนั้น แม้ว่าจะมีอาวุธโบราณแต่พวกเขามาพร้อมกองทัพสัตว์ประหลาดไม่ว่าจะนายทหารที่ขี่ไวเวิร์ดเป็นพาหนะ หรือมีทหารเป็นสัตว์ประหลาดต่าง ๆ ทำให้พระเอกนิยายของเราต้องกลับมาทำหน้าที่ช่วยปกป้องประชาชนและนำพาประชาชนเข้าไปหลบในที่ปลอดภัย และในเวลาต่อมาเมื่อรัฐบาลญี่ปุ่นตั้งตัวได้ ก็ได้ระดมกำลังตำรวจและกองกำลังป้องกันตนเองเข้ามาปราบปรามกองทัพเหล่านี้จนราบคาบ เพราะดาบ หอก ธนู จะสู้อาวุธปืนสมัยใหม่ได้อย่างไร เมื่อจัดการความวุ่นวายได้แล้วรัฐบาลญี่ปุ่นจึงได้ทำการส่งกองกำลังกลับไปสำรวจอีกฝั่งของบานประตู โดยอิตามิพระเอกนิยายของเราที่ไม่เคยอยากเลื่อนตำแหน่งก็ได้เลื่อนตำแหน่งเพราะความดีที่ช่วยประชาชนเอาไว้ แต่ปัญหาก็คือเขาเป็นส่วนหนึ่งของกองกำลังที่ถูกส่งออกไปอีกฝากหนึ่งของประตูเพื่อนำทีมออกสำรวจโลกแฟนตาซีที่อยู่อีกฝั่งด้วยนั่นเองซึ่งเนื้อเรื่องจริง ๆ ของนิยายเรื่องนี้เกือบทั้งหมดจะเกิดขึ้นในโลกแฟนตาซีที่พระเอกของเราได้ก้าวข้ามประตูไป เราจะได้พบกับ สล็อต1234 การพัฒนาปฏิสัมพันธ์ระหว่างฝั่งมนุษย์โลก และฝั่งต่างโลก ความต่างชั้นของฝั่งมนุษย์ใยดินแดนแฟนตาซีที่ยังหลงในความยิ่งใหญ่ของดาบและธนูของอัศวิน ที่ต้องมาถูกทำลายลงด้วยอาวุธปืน รถถัง เครื่องบินรบ ที่สยบได้แม้แต่ “มังกรไฟ” ในตำนานของพวกเขา โดยนิยายเรื่องนี้ได้ถูกนำมาสร้างเป็นอนิเมชั่นเรื่องยาว 2 ภาคด้วยกันซึ่งสามารถดูได้ผ่าน Netflix แล้วในตอนนี้

Tale from the Crypt “And All Through the House” กับความระทึกขวัญที่ไหลลื่น

“Tale from the Crypt” กับความเป็นซีรีส์สยองขวัญในตำนาน ที่มักหยิบยกเรื่องใกล้ตัว  สิ่งแวดล้อมที่ปกติแต่ไม่ปกติ  และเหตุการณ์ที่เกี่ยวกับเทศกาลมาเกี่ยวข้อง  โดยสร้างสถานการณ์ให้ดูแปลกประหลาดและวุ่นวายภายในระยะเวลาสั้น ๆ ได้อย่างไม่ติดขัด  และใน “And All Through the House” ก็เป็นหนึ่งในตอน  ที่ใช้พล็อตแนวไล่เชือด สยองขวัญ  ระทึกขวัญ  มาใช้ได้อย่างอร่อยและกลมกล่อม “Tale from the Crypt” ซีรีย์สยองขวัญในตำนานที่ไม่ควรพลาด เนื้อหาหลักของ“Tale from theCrypt”ในตอน “And All Through the House” กล่าวถึง ในวันคริสต์มาสอีฟอันแสนสุข  หญิงวัยกลางคนได้วางแผนฆ่าสามีของตนเองเพื่อเอาเงินประกันจนสำเร็จ  โดยหาวิธีอำพรางศพให้แนบเนียนจากสายตาตำรวจมากที่สุด  ในขณะเดียวกัน  ก็ได้มีผู้ป่วยทางจิตที่หนีออกจากโรงพยาบาลจิตเวช  โดยได้แต่งตัวเลียนแบบซานตาคลอสมาสร้างความอลหม่าน วุ่นวาย  และหลอนระทึก  มายังที่พักอาศัยของเธอ  โดยที่เธอจะต้องปกป้องภัยร้ายเหล่านั้น  ให้พ้นจากลูกสาวตัวน้อย  ที่กำลังนอนหลับอยู่บนห้องตัวเองอีกด้วย  ในขณะเดียวกันศพของสามีเธอก็ยังไม่ถูกกำจัดเสียที พล็อต ที่ว่าด้วยการฆ่าสามีเพื่อเอาเงินประกัน  กับสถานการณ์ไม่ปกติ  ที่จะต้องหาวิธีซ่อนศพและอำพรางให้พ้นจากสายตามากที่สุด  อาจได้เห็นจากภาพยนตร์ทั้งเก่าและใหม่  ซึ่งมีการนำเสนอในความระทึกขวัญที่แตกต่างกัน แต่ในตอนนี้  ได้หยิบยกวันเทศกาล  ให้แปรเปลี่ยนจากวันแห่งความสุข  ให้เป็นวันแห่งความตายได้อย่างน่าติดตาม  โดยสถานการณ์รหรือปมที่ขัดแย้งที่เกิดขึ้น  ล้วนเป็นเหตุเป็นผลที่สามารถเกิดได้  ที่ไม่ใช่เพียงแค่การสร้างการไล่เชือด  หลอกหลอน ให้ตกใจและลุ้นเอาใจช่วยตัวละครเพียงเท่านั้น  ส่วนบทสรุปที่ทิ้งท้ายด้วยบางอย่าง  อาจเดาทางได้ง่ายไปหน่อย  แต่ก็ถือว่า ทำได้ปลายเปิดให้น่าขบคิด  พลางขำขันในสไตล์ตลกร้ายดีเหมือนกัน “And All Through the House” เป็นหนึ่งในตอนคลาสสิก  แห่งตำนานซีรีส์อย่าง “Tale from theCrypt”  ที่ผ่านไปกี่ปี  หากหยิบมารับชมก็รู้สึกสนุกได้เสมอ  ทั้งในแง่ของตัวละครหลักที่เล่นอย่างไหลลื่นหรือซานตาคลอส  ที่ออกแบบมาได้  ไม่แปลกประหลาดหรือเกินคนธรรมดาไป  มิหนำซ้ำยังมีการโดนเอาคืน  โดนฟาดไปหลายฉาก  ซึ่งได้อารมณ์ขันในเชิงหลอนพอประมาณ อัตราความสะเด่า เนื้อหา           4/5 ระทึกใจ 4/5 บทสรุป 4/5 หากคุณไม่อยากพลาดทุกข้อมูลเกี่ยวกับ เว็บรีวิวหนัง อย่าลืมติดตาม หนังวันสิ้นโลกฟอร์มยักษ์ จากทางฝั่งจีนอย่าง “The Wandering Earth” ได้อีกที่ filmograd.net หลายคนที่ได้ดูซีรีย์เรื่องนี้ไปแล้วนั้นคงจะมีภาพน่ากลัวๆติดตากันอยู่เป็นแน่ ดังนั้นเราจึงอยากชวนให้ทุกคนมาเล่นเกม Gclub5555 กัน โดยเกมนี้นั้นเป็นเกมที่ขึ้นชื่อเรื่องความบันเทิงเป็นอย่างมากเลย

รีวิวซีรี่ย์เรื่องใหม่อย่าง “Sweet home” ทั้งมันส์ ทั้งสนุก ครบรสสุดๆ

สวัสดีครับทุกคนวันนี้อยู่กับผมในหัวข้อรีวิวหนังใหม่และหนังที่เราจะนำมารีวิวในวันนี้คือ Sweet home ครับ ซีรีย์แนวระทึกสยองขวัญของเกาหลีจากทาง Netflix ที่เป็นที่จับตามองของผู้ชมหลายคนเลยทีเดียวตั้งแต่ทีเวซอร์ออกมาก็ทำให้ใครหลายๆคนถึงกับเตรียมตัวดูกันยาวๆเลยละ แล้วในที่สุดทาง Netflix ก็ได้ปล่อยตัวหนังมาให้ดูกันยาวๆเต็มๆถึง 10 ep. บอกเลยหนังจะมีความน่าสนุกขนาดไหนติดตามได้ต่อไปนี้เลยครับ เรื่องราวของซีรี่ย์ใหม่อย่างเรื่อง “Sweet home” หนังนะครับได้ว่าด้วยเรื่องราวของ หนุ่มคนนึงที่มีปมในใจเรื่องครอบครัวที่เขาเสียไปเพราะอุบัติเหตุ จึงได้หนีย้ายมาพักอยู่อพาร์ทเม้นท์ที่นึงในเกาหลี แต่แล้วเรื่องราวพิลึกและไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเมื่อโลกได้วิบัติเปลี่ยนคนเป็นสัตว์ประหลาดทั่วเมืองโดยผู้คนจะติดเชื้อจากภายในหรือเรียกว่าคำสาปก็ได้ แล้วจะกลายเป็นปีศาจในทันทีเหลือเพียงกลุ่มผู้รอดชีวิตในอพาร์ทเม้นท์เท่านั้นที่ต้องช่วยเหลือและรักษาความเป็นมนุษย์ ให้ได้นานที่สุด เหลือเพียงพระเอกคนเดียวเท่านั้นที่ดูเหมือนจะเป็นที่พึ่งเพราะเขามีพลังที่สามารถควบคุมสัตว์ประหลาดในตัวของเขาได้  บอกเลยครับหนังเรื่องนี้ได้แรงบันดาลหรืออ้างอิงมาจาก นิยายชื่อดังในWebtoonที่มีผู้คนดูเยอะมากๆอยู่แล้ว และยิ่งเอามาสร้างเป็นหนังทำให้ยิ่งน่าดูเข้าไปใหญ่และแล้วเมื่อได้ดูปรากฏว่าไม่ผิดหวังจริงๆ ทางเกาหลีทำซีรีย์เรื่องนี้ออกมาได้สนุกมากๆ ทั้งด้านการแสดง ภาพ เสียง ในด้านการแสดงนะครับได้ตัว นักแสดงชื่อดังมากมายทั้ง ซงคัง, ลีจินอุค,ลีซิยอง  และคนอื่นๆอีกมากมาย ที่มาร่วมความสนุกครั้งนี้ ในด้านภาพทางทีมงานทำCG สัตว์ประหลาดแต่ละตัวออกมาได้น่ากลัวสยดสยองมากๆ สมกับเป็นหนังสัตว์ประหลาดขึ้นหิ้งความน่ากลัวของเกาหลีเลย ต่อมาในด้านเสียงและฉากในส่วนนี้ทำออกมาได้ฟิวบรรยากาศอพาร์ทเม้นท์นึงที่รวมๆแล้วน่ากลัวมากๆ ส่วนเสียงของสัตว์ประหลาดบอกเลยทั้งน่ากลัวทั้งเเสบหู และในสว่นสำคัญที่สุดของหนังคือเนื้อเรื่อง ที่ทำออกมาได้ดีมากๆไม่มีความน่าเบื่อเลย สามารถดูได้เรื่อยๆและมีส่วนที่น่าติดตามในแต่ละ ep. ถือว่าสนุกมากๆครับ   ยังไงเนื้อหาต่อไปนี้ ต้องได้รับชมกันเอาเองครับถึงได้อารมณ์มากกว่า ทั้งสนุก ทั้งน่ากลัว ห้ามพลาดจริงๆ ยังไงถ้าเนื้อหาที่เรานำมาไม่ถูกต้องประการใดต้องขอกราบอภัยมานะทีนี้ด้วยครับ ในครั้งต่อไปเราจะนำหนังเรื่องไหนมารีวิวให้ผู้ชมได้ดูกันนั้นอย่าลืมติดตามกันด้วยนะครับ หากคุณไม่อยากพลาดทุกข้อมูลเกี่ยวกับ เว็บรีวิวหนัง อย่าลืมติดตาม รีวิวหนัง “เล มิเซราบล์” (Les Misérables) ความรัก อยุติธรรม และการปฏิวัติ ได้อีกที่ filmograd.net หลังจากที่ได้ดูหนังสนุกๆ ลุ้นระทึกไปแล้วนั้น เรามาผ่อนคลายสมองต่อกันที่ mm888bet เลยดีกว่า ต้องเรียกได้ว่าเมื่อคุณได้ลองแล้วจะสนุกจนลืมเรื่องราวเครียดๆไปได้ในทันที

รีวิวซีรีส์ดราม่าไซไฟเรื่อง “Away” ( ฝากบอกรักจากห้วงอวกาศ ซีซั่น 1)

Away (ฝากบอกรักจากห้วงอวกาศ) ซีรีส์ดราม่าไซไฟผลงานของ Netflix บอกเล่าเรื่องราวของชีวิตนักบินอวกาศที่ต้องห่างไกลบ้านและครอบครัวเพื่อมาทำภารกิจ แต่แอบเสียดสีประเด็นเชื้อชาติและการเมือง ผ่านนักบินทั้ง 5 คน จากสหรัฐ รัสเซีย อังกฤษ จีน และอินเดีย เรื่องราวของ “Away” (ฝากบอกรักจากห้วงอวกาศ) เรื่องมีอยู่ว่า องค์การนาซ่าได้ร่วมมือกับนานาชาติ เพื่อทำภารกิจส่งมนุษย์ไปสำรวจดวงจันทร์ ซึ่งมีนักบินจากมหาอำนาจทั้ง 5 ประเทศเข้าร่วม ภายใต้การนำของ “เอ็มม่า กรีน” ผู้บังคับการหญิงของสหรัฐอเมริกา ซึ่งตลอดการเดินทางบนห้วงอวกาศ เอ็มม่าต้องเผชิญกับปัญหาความไม่เชื่อมั่นในตัวเธอ ว่ามีความสามารถมากพอที่จะเป็นผู้บังคับบัญชาได้หรือไม่ และยังมีปัญหาความไม่ไว้วางใจกันของคนในทีม ส่งผลให้การเดินทางเต็มไปด้วยความตึงเครียดอย่างช่วยไม่ได้ ซึ่งซีรีส์ก็ได้นำเสนอปมความขัดแย้งต่างๆ มาให้เราได้เอาใจช่วยนางเอกเอ็มม่ากันแทบจะตลอดทั้งซีซั่น (10 ตอน) เพิ่งจะมีตอนท้ายๆ ที่ปมต่างๆ เริ่มคลี่คลาย  เมื่อคนจากหลายเชื้อชาติต้องมาใช้ชีวิตอยู่รวมกันในสถานที่จำกัด พวกเขาจึงต้องทำความรู้จักซึ่งกันและกัน และเรียนรู้ในความแตกต่างระหว่างกัน เมื่อมีปัญหาก็ต้องร่วมมือกันแก้ไขเพื่อให้ผ่านพ้นไปให้ได้ ซึ่งซีรีส์ก็พยายามจะนำเสนอว่า ที่สุดแล้วทุกชนชาติก็คือเพื่อนร่วมโลกกัน จึงควรรักและสามัคคีกันไว้ อีกจุดที่เป็นประเด็นหลักของเรื่องคือดราม่าครอบครัว ที่นักบินทุกคนจะต้องจากครอบครัวมาเป็นเวลานาน และไม่รู้ว่าคนข้างหลังจะเป็นตายร้ายดีอย่างไร แม้ว่าพวกเขาจะสามารถติดต่อกันได้ ซึ่งสำหรับบางคนอาจมองว่าซีรีส์นำเสนอประเด็นนี้มากเกินไป (แทบจะทุกตอน) จนดูซ้ำซากน่าเบื่อ              โดยภาพรวม Away จัดว่าเป็นซีรีส์ที่มีพลอตดีเรื่องหนึ่ง แต่การเล่าเรื่องที่ซ้ำซากและยืดเยื้อ อาจทำให้คนดูบางคนที่ชอบความกระชับฉับไว อาจรู้สึกไม่อยากดูต่อจนจบซีซั่นได้ และหากใครคาดหวังจะได้เห็นอารมณ์แบบหนังไซไฟ อาจต้องผิดหวัง เพราะถ้าให้จัดหมวดหมู่กันจริงๆ แล้วล่ะก็ เรื่องนี้จัดเป็นซีรีส์ดราม่าที่มีอวกาศเป็นฉากหลังเท่านั้น หากคุณไม่อยากพลาดทุกข้อมูลเกี่ยวกับ เว็บรีวิวหนัง อย่าลืมติดตาม หนังต่างประเทศ เรื่องอื่นๆ เช่น รีวิวหนัง The mountain between us (ฝ่าหุบเขา เย้ยมรณะ) ได้อีกที่ filmograd.net หลังจากที่ไปท่องโลกในอวกาศกับหนังที่เราแนะนำให้ไปดูมาแล้ว เรามาต่อกันที่ รวมเว็บสล็อตออโต้ ศูนย์รวมเกมดีๆที่กำลังจะมาเปลี่ยนชีวิตทุกคน

รีวิวซีรี่ย์สุดมันส์กับ “Alice in Borderland” (อลิซในแดนมรณะ ซีซั่น 1)

“Alice in Borderland” อลิสในแดนมรณะ ซีรีส์เรื่องใหม่ของ Netflix ที่ดัดแปลงมาจากหนังสือการ์ตูนขายดีของญี่ปุ่น เล่าถึงเรื่องราวของคนกลุ่มหนึ่งที่บังเอิญหลงมาติดอยู่ในดินแดนร้างด้วยกัน โดยยังหาที่มาที่ไปไม่ได้ว่าใครเป็นคนพาพวกเขามา และที่แห่งนี้ก็ได้กลายมาเป็นแดนมรณะที่ทุกคนถูกบังคับให้ต้องเข้าร่วมเล่นเกม และเป็นเกมที่ต้องใช้ชีวิตเป็นเดิมพัน ทุกคนจึงต้องหาหนทางเอาชนะ เพื่อให้ได้วีซ่าต่อชีวิตในดินแดนนี้ และได้กลับออกไปยังโลกปกติในสักวันหนึ่ง  “Alice in Borderland” (อลิสในแดนมรณะ) ซีรี่ย์ที่ดัดแปลงมาจากมังงะญี่ปุ่น ซีรีส์เดินเรื่องโดยตัวเอกคือ “อลิสึ” เด็กหนุ่มวัยยี่สิบต้นๆ ที่ครอบครัวและคนทั่วไปมองว่าไม่เอาไหน วันๆ ไม่สุงสิงกับใคร ไม่ทำงานอะไร นอกจากเล่นเกม แล้ววันหนึ่งเขาก็ได้ถูกดึงเข้ามาอยู่ในดินแดนที่เป็นเหมือนเกม ด้วยทักษะและพรสวรรค์ด้านการแข่งเกมที่ฝึกฝนมานาน จึงทำให้เขากลายเป็นดาวเด่นของที่นี่ ซึ่งถ้ามันเป็นเกมออนไลน์เขาคงจะสนุกไม่น้อย แต่นี่คือชีวิตจริงที่ไม่สนุกจนต้องหาทางหนี เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่เขาชนะ มันจะต้องแลกมาด้วยเลือดและชีวิตของผู้ที่แพ้เสมอ พลอตของซีรีส์ไม่ใช่แนวแปลกใหม่อะไร แต่ก็เป็นที่น่าจับตาเสมอเมื่อมีใครเอาการ์ตูนมาทำเป็นหนังหรือซีรีส์ ซึ่ง “Alice in Borderland” เรื่องนี้ก็ทำออกมาได้ไม่เลว ดูแล้วสนุก ตื่นเต้น เครียด กดดัน และทำให้เราได้ลุ้นระทึกไปกับตัวเอกของเรื่องแทบจะตลอดเวลาตามสไตล์ของหนังแนว survival ซึ่งคนที่ชอบเล่นเกมอยู่แล้วน่าจะอินได้มากกว่าคนทั่วไป เพราะมันเหมือนกับได้ดูหนังไปด้วยเล่นเกมไปด้วย ได้ช่วยพระเอกคิดหาวิธีไขปริศนาไปเรื่อยๆ  แนวการเล่าเรื่องจะเป็นการแข่งเกมซักประมาณครึ่งเรื่อง ส่วนครึ่งหลังจะเปลี่ยนไปเน้นแนวดราม่า เน้นเรื่องอารมณ์ของตัวละครเป็นหลัก ความสนุกและอารมณ์ลุ้นๆ แบบในตอนต้นเรื่องจะดรอปลงไป แต่ก็เรียกได้ว่าเป็นซีรีส์อีกเรื่องหนึ่งที่สามารถดูต่อเนื่องได้เพลินๆ แบบรวดเดียวจบ 8 ตอน โดยที่ไม่เบื่อเลยเหมือนกัน หากคุณไม่อยากพลาดทุกข้อมูลเกี่ยวกับ เว็บรีวิวหนัง อย่าลืมติดตาม ซีรี่ย์ เรื่องอื่นๆ เช่น แนะนำซีรี่ย์เรื่อง “West World” ซีรีส์ไซไฟคาวบอยจากช่อง HBO ได้อีกที่ filmograd.net และเรามามันส์กันอย่างต่อเนื่องกันใน เว็บสล็อต เกมสุดฮิตที่ดีที่สุดในปัจจุบันนี้ เพื่อเติมเต็ม Energy และปลุกไฟในร่างกายของเราให้ลุกโชนอีกครั้ง

แนะนำซีรี่ย์เรื่อง “West World” ซีรีส์ไซไฟคาวบอยจากช่อง HBO

“West World” ซีรีส์ไซไฟคาวบอยของ HBO ที่นอกจากจะมีพลอตเรื่องน่าติดตามและโปรดักชั่นสุดอลังการแล้ว ยังเป็นการรวมตัวของนักแสดงคุณภาพอัดแน่นไว้ทั้งเรื่อง ใครที่ชื่นชอบเนื้อเรื่องแนวจินตนาการผสมปรัชญาแนวๆ The Matrix แล้วล่ะก็ จะต้องหลงรักเรื่องนี้อย่างไม่ต้องสงสัย “West World” ซีรี่ย์ที่มีพลอตเรื่องและโปรดักชั่นสุดอลังการ สำหรับซีซั่น 1 ฉากในซีรีส์จะเป็นยุคคาวบอย ที่มีการขี่ม้า ดวลปืน มีโรงเหล้า หญิงบริการ มีนายอำเภอดูแลบ้านเมือง ซึ่งแท้ที่จริงแล้ว สิ่งที่เห็นทั้งหมดเป็นเพียงโลกจำลองที่สร้างขึ้นโดยนายทุนยักษ์ใหญ่ เพื่อให้เหล่าบรรดาเศรษฐีมหาเศรษฐีทั้งหลายได้มาใช้บริการเพื่อหาความสำราญเหมือนมาเที่ยวสวนสนุกเท่านั้น   ความน่าสนใจของเรื่องอยู่ตรงที่ ตัวละครทั้งหมดที่อยู่ในโลกจำลองแห่งนี้ ไม่ใช่นักแสดงที่ถูกจ้างเพื่อให้มารับบทต่างๆ แต่เป็นหุ่นจำลองเสมือนจริงที่นายทุนสร้างขึ้น ซึ่งพวกเขามีความเหมือนมนุษย์จริงๆทุกอย่าง ไม่ใช่แค่หน้าตา ผิวพรรณ เนื้อหนังภายนอกเท่านั้น  แต่พวกเขายังถูกออกแบบมาให้มีความคิดอ่าน การแสดงออก การโต้ตอบที่เหมือนมนุษย์จริงๆไม่มีผิดเพี้ยน แม้กระทั่งตัวของหุ่นเอง ยังเข้าใจว่าตัวเองคือมนุษย์จริงๆคนหนึ่ง! (และความสนุกอีกอย่างหนึ่งของคนดูก็คือ การดูไปแล้วต้องเดาไปตลอดเรื่องว่า ที่จริงแล้วตัวละครแต่ละตัวที่เห็นอยู่นั้น ใครบ้างที่เป็นคนจริงๆ และใครกันที่เป็นหุ่น?!) จากที่เคยคิดว่าตัวเองเป็นมนุษย์มาตลอด เมื่อต้องมารู้ความจริงว่าเป็นแค่หุ่นที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อความบันเทิงเท่านั้น ความรู้สึกหลากหลายจึงเกิดขึ้น ทั้งตกใจ แปลกใจ เสียใจ น้อยใจ และเคียดแค้น! บอกได้เลยว่า สำหรับใครที่ชอบเสพอารมณ์ดราม่าจัดๆ เรื่องนี้มีให้ดูแบบจัดเต็มแน่นอน และเชื่อว่าหลายฉากคงได้เสียน้ำตาเพราะอินกับความรู้สึกของตัวละครหุ่นเหล่านี้ โดยพลอตของเรื่องถือว่าสนุกและน่าติดตามทีเดียว แต่ก็มีหลายฉากที่เล่าสลับไปสลับมาจนคนดูอาจงงกับไทม์ไลน์ได้เหมือนกัน ดังนั้นถ้าอยากจะดูเรื่องนี้ให้อิน ขอแนะนำว่าต้องดูตอนที่สภาพร่างกายมีความพร้อมสักหน่อย เพราะถ้าเหนื่อยหรือเพลียจนสมองล้าเกินไป อาจตามเรื่องไม่ทันจนทำให้ดูไม่สนุกได้  หากคุณไม่อยากพลาดทุกข้อมูลเกี่ยวกับ เว็บรีวิวหนัง อย่าลืมติดตาม ซีรี่ย์ เรื่องอื่นๆ เช่น แนะนำซีรี่ย์ดีๆอย่าง “เอโนลา โฮมส์” (Enola Holmes) จาก netflix ได้อีกที่ filmograd.net ถ้าหากว่าดูหนังจบแล้ว และยังมูฟออนไม่ได้สักที เรามาเล่นเกมกันต่อได้ที่ ufabet เว็บตรง เเหล่งรวมเกมมันส์ๆที่มาเสิร์ฟทุกคนถึงที่

แนะนำซีรี่ย์ดีๆอย่าง “เอโนลา โฮมส์” (Enola Holmes) จาก netflix

“เอโนลา โฮมส์ (Enola Holmes)” หนังเรื่องใหม่ของ Netflix ที่เชื่อว่าหลายคนน่าจะสะดุดหูกันตั้งแต่ชื่อเรื่องเลยทีเดียว เพราะนามสกุลของนางเอกมันดันไปเหมือนกับ “เชอร์ล็อค โฮมส์ (Sherlock Holmes)” สุดยอดนักสืบในดวงใจของใครหลายคนนั่นเอง ใช่แล้วค่ะ เรื่องก็เป็นอย่างที่ทุกคนสงสัยนั่นแหล่ะ สาวน้อยเอโนลาคนนี้ เธอเป็นน้องสาวแท้ๆของพ่อเชอร์ล็อค โฮมส์ เขาจริงๆ  “เอโนลา โฮมส์” (Enola Holmes) อีกหนึ่งในซีรี่ย์ทรงคุณค่าที่คุณไม่ควรพลาด ความน่าสนใจของเรื่องนี้จึงมีอยู่หลายจุดด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการนำเอาหนุ่มซุปเปอร์แมนสุดล่ำอย่าง “เฮนรี่ คาวิลล์” มารับบทเชอร์ล็อค โฮมส์ พี่ชายนางเอก หรือพลอตของเรื่องที่มีความแปลกและน่าติดตาม หนังเริ่มด้วยการเล่าถึงเรื่องราวของตัวนางเอกคือสาวน้อยเอโนลา ที่อาศัยอยู่กับแม่เพียงสองคน เพราะพี่ชายทั้งสองคือไมครอฟต์และเชอร์ล็อค ได้ออกไปใช้ชีวิตกันเองตั้งแต่เธอนั้นยังเล็กมาก แต่จู่ๆ แม่ของเธอก็ได้หายตัวออกไปจากบ้านอย่างลึกลับ ลูกชายทั้งสองจึงต้องเดินทางกลับมาที่บ้านเกิดเพื่อช่วยน้องสาวสืบหาตัวแม่แท้ๆ ของพวกเขา  เรื่องราวดูเหมือนจะดีที่พี่น้องได้กลับอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา แต่อยู่ได้ไม่นาน เอโนลาก็ดันนึกพิเรนหนีออกจากบ้าน เพื่อไปตามหาแม่เองคนเดียว เพราะทนไม่ไหวกับพี่ชายคนโตจอมเฮี๊ยบอย่างไมครอฟต์ ที่เข้ามาจัดระเบียบชีวิตของเธอทุกอย่าง จนแทบจะกระดิกตัวไม่ได้เลย เรื่องราวการผจญภัยของสาวน้อยจอมซนจึงเริ่มต้นขึ้นหลังจากการหนีออกจากบ้านครั้งนี้นี่เอง            แม้ว่าหนังจะเป็นเรื่องราวของน้องสาวเชอร์ล็อค โฮมส์ แต่ถ้าใครคาดหวังจะได้ดูเรื่องราวการสืบเข้มๆ สไตล์เชอร์ล็อค โฮมส์แบบที่เคยดูมา ก็คงจะต้องผิดหวังกันพอสมควร เพราะหนังไม่ได้นำเสนอออกมาเป็นแนวนั้น ส่วนคาแรคเตอร์ของตัวเชอร์ล็อค โฮมส์เอง ก็ถูกตีความออกมาในแบบที่แตกต่าง ซึ่งรับรองว่าไม่เหมือนกับที่เคยดูมาจากเรื่องอื่นอย่างแน่นอน แต่จะเป็นแบบไหนนั้น คงต้องไปดูกันเอาเอง ส่วนถ้าใครที่จะตามมาดูเรื่องนี้เพราะเป็นแฟนคลับของนางเอก มิลลี่ บ็อบบี้ บราวน์ ล่ะก็ ได้ฟินกันแน่ๆ เพราะเรื่องนี้เธอดูเป็นสาวและสวยกว่าทุกเรื่องที่ผ่านมาเลยทีเดียว หากคุณไม่อยากพลาดทุกข้อมูลเกี่ยวกับ เว็บรีวิวหนัง อย่าลืมติดตาม ซีรี่ย์ เรื่องอื่นๆ เช่น The Untamed Liging Death ภาคต่อสุดประทับใจกับปรมาจารย์ลัทธิมาร ได้อีกที่ filmograd.net ถ้าหากว่าดูหนังจบแล้วแต่อารมณ์ยังไม่จบ เราแนะนำให้มาต่อกันที่ รวมเว็บสล็อต เว็บที่มีเกมต่างๆให้เราสนุกกันแบบต่อเนื่อง

The Untamed Liging Death ภาคต่อสุดประทับใจกับปรมาจารย์ลัทธิมาร

หลังจากประทับใจกับซีรีส์ปรมาจารย์ลัทธิมารไปกันแล้วในปี 2019 และสำหรับใครที่ยังมูฟออนไม่ได้ ยังคงมูฟออนเป็นวงกลมมองทางไหนก็หันกลับมาเจอวั่งจีกับเว่ยอิง เราคงต้องหาสิ่งอื่นมาเยียวยาความคิดถึงเหล่านี้ และทางผู้ผลิตซีรีส์ปรมาจารย์ลัทธิมารก็ได้ส่งภาพยนตร์ภาคต่อของเรื่องนี้ออกมาให้เราได้ชมกันกับเรื่อง The Untamed Liging Death The Untamed Liging Death กลับมาอีกครั้งในภาคต่อ หลังจากที่ประทับใจจนมูฟออนไม่ได้ไปนาน ภาพยนตร์The Untamed Liging Deathนำแสดงโดยสองอาหลานสุดน่ารักอย่างขุนพลผี เหวินหนิง และศิษย์ตระกูลหลานอย่างหลานซือจุย ที่ทั้งคู่เดิมทีเป็นอา-หลานร่วมตระกูลเหวินมาด้วยกัน และเรื่องราวของภาคนี้ก็เริ่มต้นขึ้นหลังจากการจบลงของเรื่องราวทั้งห้าสิบกว่าตอนในปรมาจารย์ลัทธิมารที่ทั้งเหวินหนิงและซือจุยตัดสินใจออกล่าราตรีร่วมกัน การออกผจญภัยของทั้งคู่เข้าไปพัวพันกับการฆาตกรรม ณ ตระกูลเซียว แห่งเมืองฝูเฟิง ภูเขาฉี ที่เดิมเมืองนี้ได้ชื่อว่าเป็นเมืองไร้ราตรี ที่มักมีโคมไฟส่องสว่างทั้งกลางวันกลางคืน แต่แล้วตระกูลเซียวที่เป็นช่างทำโคมของเมืองก็เสียชีวิตทั้งตระกูล จนเป็นสาเหตุให้เกิดเหตุการ์ จุดไฟ สังหารคน ที่ในยามค่ำคืนหากมีการจุดไฟ จะต้องมีผู้เสียชีวิตอย่างเป็นปริศนาและเกี่ยวข้องกับอาถรรพ์ ซึ่งการออกไล่ล่าปีศาจของตัวเอกทั้งคู่ก็ช่วยเปิดเผยความลับและวิญญาณร้ายเบื้องหลังเหตุการณ์น่าพรั่นพรึงเหล่านี้ซึ่งไปเกี่ยวข้องกับตราพยัคฆ์ทมิฬ และการกลายมาเป็นศพเดินได้ของตัวเอกของ The Untamed Liging Death ในภาคนี้  ภาพยนตร์ The Untamed Liging Death ภาคนี้เราจะได้เห็นการกลับมาของนักแสดงคนเดิม และความสามารถ คาถาอาคมตำรับเดิมที่เราเคยพบเจอจากภาคซีรีส์ เพิ่มเติมด้วยเรื่องราวที่ไปเกี่ยวข้องอันสุดแสนประทับใจ และจบลงด้วยความตราตรึง นักแสดงในภาคนี้ยังคงรับบทได้ดี และช่วยให้เราเห็นความผูกพันของอาหลานคู่นี้ได้ชัดเจนขึ้นกว่าในซีรีส์ที่ทั้งคู่แทบไม่รู้ความจริงข้อนี้เลย ทำให้แฟน ๆ ได้เต็มอิ่มกับบรรยากาศความผูกพันธ์ของตัวละครที่ยังไม่จางไป รวมถึงซีจีและโปรดักชั่นที่ทำได้อย่างยอดเยี่ยมตามมาตราฐานที่เราเคยพบมาในภาคซีรีส์ และใครที่ยังคิดถึงกลิ่นอายเหล่านี้อยู่ก็น่าหามาดูแก้ความคิดถึงเป็นอย่างยิ่ง ภาพยนตร์ The Untamed Liging Death ภาคนี้ไม่ได้เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ทั่วไป แต่มีให้ดูในแอปพลิเคชั่นสตรีมซีรีส์จีนทั่วไปอย่าง WeTV หรือ iQiYi และนั่นก็ทำให้เราได้เข้าถึงการรับชมภาพยนตร์ The Untamed Liging Death ภาคนี้ได้ง่ายยิ่งขึ้น และใครที่ยังไม่ได้ดูก็ควรได้ดูอย่างยิ่ง หากคุณไม่อยากพลาดทุกข้อมูลเกี่ยวกับเว็บรีวิวหนัง อย่าลืมติดตามซีรี่ย์เรื่องอื่นๆ เช่น ซีรีส์เกาหลีเรื่องใหม่น่าดูมาก “Dinner Mate” กับการบำบัดจิตด้วยการทานอาหาร ได้อีกที่ filmograd.net

ซีรีส์เกาหลีเรื่องใหม่น่าดูมาก “Dinner Mate” กับการบำบัดจิตด้วยการทานอาหาร

“Dinner Mate” กับเรื่องราวของจิตแพทย์หนุ่มสุดหล่ออย่าง “คิมแฮคยอง” ที่เขามักจะบำบัดและสังเกตลักษณะนิสัยของผู้ป่วยจิตเวชด้วยการไปดินเนอร์ด้วยกัน หรือไม่ก็ทำกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกัน แม้ว่าเขาจะเป็นคนใจเย็น โอบอ้อมอารีต่อคนอื่น แต่ตัวของเขาเองก็มีปมลึก ๆ ในใจของตนเองที่ต้องรอใครสักคนมาช่วยเยียวยาด้วยเช่นกัน วันหนึ่งเขาเข้าใจผิดนึกว่า “อูโดฮี” โปรดิวเซอร์สาวที่ทำงานให้กับบริษัทผลิตสื่อออนไลน์กำลังจะฆ่าตัวตาย เขาจึงรีบเข้าไปช่วยและชวนเธอไปทานข้าวด้วยกัน ซึ่งนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทั้งคู่ได้ทำความรู้จักกัน ซึ่งความจริงแล้วทั้งคู่ต่างก็เพิ่งได้รับแผลใจกันมาหมาด ๆ จากแฟนเก่า ไม่ว่าจะทางอูโอฮีที่ “จองแจฮยอก” ที่บอกเลิกกับเธอเสียดื้อ ๆ เพราะบอกว่าจะไปเรียนต่อ ส่วนคุณหมอก็ถูกฟิตเนสเทรนเนอร์สาวสุดแซ่บอย่าง “จินนาอึน” ขอยุติความสัมพันธ์เช่นเดียวกัน เรียกได้ว่ายังมีแผลสดกันทั้งคู่ และเหมือนโชคชะตากลั่นแกล้งเมื่อพวกเขาที่กำลังสานสัมพันธ์กัน เปิดใจคุยกันหลาย ๆ เรื่อง แต่ทว่าบรรดาแฟนเก่าก็กลับมาขอคืนดีเสียอย่างนั้น มันจะไม่ง่ายไปหน่อยหรอคิดว่าจะมาจะไปอย่างไรก็ได้หรือไง แม้ว่าพล็อตซีรีส์เรื่องนี้จะไม่ได้แปลกใหม่ออกจะดาษดื่นเสียด้วยซ้ำ แต่ด้วยเสน่ห์ความเป็นธรรมชาติของตัวละครเองและการดำเนินเรื่องที่เล่าเรื่องได้อย่างน่ารักน่าติดตามทำให้เราเผลอละสายตาจากเรื่องนี้ไปไม่ได้ อีกหนึ่งความประทับใจของเรื่องคือบทพูดของคุณหมอเพราะมันลึกซึ้งและให้แนวคิดเรากลับไปทบทวนหลาย ๆ อย่างในชีวิตเราได้มากทีเดียว นอกจากนี้หลักจิตวิทยาบำบัดด้วยอาหารนั้นก็ดีมากอย่างที่คุณหมอเคยบอกเอาไว้ว่าคู่รักที่ทานอาหารด้วยกันแล้วมีความสุขร่วมกัน ได้เห็นเวลาต่างฝ่ายต่างกินอาหารที่อร่อยนั้นสามารถครองรักกันได้ยาวนานมากกว่าคู่รักที่นอนบนเตียงเดียวกันเสียอีก ซึ่งครั้งแรกที่ฟังรู้สึกว้าวมาก เพราะเป็นบทสนทนาที่ล้ำลึกจริง ๆ  ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับซีรีส์ “Dinner Mate” ประเภท : โรแมนติก สถานีโทรทัศน์ : เอ็มบีซี ทีวี ผู้กำกับ : โกแจฮยอน นักแสดงนำ : ซอ จี-ฮเย,ซง ซึง-ฮ็อน,ซน นา-อึน,ลีจีฮุน ความยาว : 22 ตอน กำหนดฉาย : 25 พฤษภาคม 2563 หากคุณไม่อยากพลาดทุกข้อมูลเกี่ยวกับเว็บรีวิวหนัง อย่าลืมติดตามซีรี่ย์เรื่องอื่นๆ เช่น รีวิว Record of Youth เส้นทางสู่ดาว…ที่ยากลำบากแต่สวยงาม ได้อีกที่ filmograd.net