The Untamed Liging Death ภาคต่อสุดประทับใจกับปรมาจารย์ลัทธิมาร

หลังจากประทับใจกับซีรีส์ปรมาจารย์ลัทธิมารไปกันแล้วในปี 2019 และสำหรับใครที่ยังมูฟออนไม่ได้ ยังคงมูฟออนเป็นวงกลมมองทางไหนก็หันกลับมาเจอวั่งจีกับเว่ยอิง เราคงต้องหาสิ่งอื่นมาเยียวยาความคิดถึงเหล่านี้ และทางผู้ผลิตซีรีส์ปรมาจารย์ลัทธิมารก็ได้ส่งภาพยนตร์ภาคต่อของเรื่องนี้ออกมาให้เราได้ชมกันกับเรื่อง The Untamed Liging Death The Untamed Liging Death กลับมาอีกครั้งในภาคต่อ หลังจากที่ประทับใจจนมูฟออนไม่ได้ไปนาน ภาพยนตร์The Untamed Liging Deathนำแสดงโดยสองอาหลานสุดน่ารักอย่างขุนพลผี เหวินหนิง และศิษย์ตระกูลหลานอย่างหลานซือจุย ที่ทั้งคู่เดิมทีเป็นอา-หลานร่วมตระกูลเหวินมาด้วยกัน และเรื่องราวของภาคนี้ก็เริ่มต้นขึ้นหลังจากการจบลงของเรื่องราวทั้งห้าสิบกว่าตอนในปรมาจารย์ลัทธิมารที่ทั้งเหวินหนิงและซือจุยตัดสินใจออกล่าราตรีร่วมกัน การออกผจญภัยของทั้งคู่เข้าไปพัวพันกับการฆาตกรรม ณ ตระกูลเซียว แห่งเมืองฝูเฟิง ภูเขาฉี ที่เดิมเมืองนี้ได้ชื่อว่าเป็นเมืองไร้ราตรี ที่มักมีโคมไฟส่องสว่างทั้งกลางวันกลางคืน แต่แล้วตระกูลเซียวที่เป็นช่างทำโคมของเมืองก็เสียชีวิตทั้งตระกูล จนเป็นสาเหตุให้เกิดเหตุการ์ จุดไฟ สังหารคน ที่ในยามค่ำคืนหากมีการจุดไฟ จะต้องมีผู้เสียชีวิตอย่างเป็นปริศนาและเกี่ยวข้องกับอาถรรพ์ ซึ่งการออกไล่ล่าปีศาจของตัวเอกทั้งคู่ก็ช่วยเปิดเผยความลับและวิญญาณร้ายเบื้องหลังเหตุการณ์น่าพรั่นพรึงเหล่านี้ซึ่งไปเกี่ยวข้องกับตราพยัคฆ์ทมิฬ และการกลายมาเป็นศพเดินได้ของตัวเอกของ The Untamed Liging Death ในภาคนี้  ภาพยนตร์ The Untamed Liging Death ภาคนี้เราจะได้เห็นการกลับมาของนักแสดงคนเดิม และความสามารถ คาถาอาคมตำรับเดิมที่เราเคยพบเจอจากภาคซีรีส์ เพิ่มเติมด้วยเรื่องราวที่ไปเกี่ยวข้องอันสุดแสนประทับใจ และจบลงด้วยความตราตรึง นักแสดงในภาคนี้ยังคงรับบทได้ดี และช่วยให้เราเห็นความผูกพันของอาหลานคู่นี้ได้ชัดเจนขึ้นกว่าในซีรีส์ที่ทั้งคู่แทบไม่รู้ความจริงข้อนี้เลย ทำให้แฟน ๆ ได้เต็มอิ่มกับบรรยากาศความผูกพันธ์ของตัวละครที่ยังไม่จางไป รวมถึงซีจีและโปรดักชั่นที่ทำได้อย่างยอดเยี่ยมตามมาตราฐานที่เราเคยพบมาในภาคซีรีส์ และใครที่ยังคิดถึงกลิ่นอายเหล่านี้อยู่ก็น่าหามาดูแก้ความคิดถึงเป็นอย่างยิ่ง ภาพยนตร์ The Untamed Liging Death ภาคนี้ไม่ได้เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ทั่วไป แต่มีให้ดูในแอปพลิเคชั่นสตรีมซีรีส์จีนทั่วไปอย่าง WeTV หรือ iQiYi และนั่นก็ทำให้เราได้เข้าถึงการรับชมภาพยนตร์ The Untamed Liging Death ภาคนี้ได้ง่ายยิ่งขึ้น และใครที่ยังไม่ได้ดูก็ควรได้ดูอย่างยิ่ง หากคุณไม่อยากพลาดทุกข้อมูลเกี่ยวกับเว็บรีวิวหนัง อย่าลืมติดตามซีรี่ย์เรื่องอื่นๆ เช่น ซีรีส์เกาหลีเรื่องใหม่น่าดูมาก “Dinner Mate” กับการบำบัดจิตด้วยการทานอาหาร ได้อีกที่ filmograd.net

ซีรีส์เกาหลีเรื่องใหม่น่าดูมาก “Dinner Mate” กับการบำบัดจิตด้วยการทานอาหาร

“Dinner Mate” กับเรื่องราวของจิตแพทย์หนุ่มสุดหล่ออย่าง “คิมแฮคยอง” ที่เขามักจะบำบัดและสังเกตลักษณะนิสัยของผู้ป่วยจิตเวชด้วยการไปดินเนอร์ด้วยกัน หรือไม่ก็ทำกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกัน แม้ว่าเขาจะเป็นคนใจเย็น โอบอ้อมอารีต่อคนอื่น แต่ตัวของเขาเองก็มีปมลึก ๆ ในใจของตนเองที่ต้องรอใครสักคนมาช่วยเยียวยาด้วยเช่นกัน วันหนึ่งเขาเข้าใจผิดนึกว่า “อูโดฮี” โปรดิวเซอร์สาวที่ทำงานให้กับบริษัทผลิตสื่อออนไลน์กำลังจะฆ่าตัวตาย เขาจึงรีบเข้าไปช่วยและชวนเธอไปทานข้าวด้วยกัน ซึ่งนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทั้งคู่ได้ทำความรู้จักกัน ซึ่งความจริงแล้วทั้งคู่ต่างก็เพิ่งได้รับแผลใจกันมาหมาด ๆ จากแฟนเก่า ไม่ว่าจะทางอูโอฮีที่ “จองแจฮยอก” ที่บอกเลิกกับเธอเสียดื้อ ๆ เพราะบอกว่าจะไปเรียนต่อ ส่วนคุณหมอก็ถูกฟิตเนสเทรนเนอร์สาวสุดแซ่บอย่าง “จินนาอึน” ขอยุติความสัมพันธ์เช่นเดียวกัน เรียกได้ว่ายังมีแผลสดกันทั้งคู่ และเหมือนโชคชะตากลั่นแกล้งเมื่อพวกเขาที่กำลังสานสัมพันธ์กัน เปิดใจคุยกันหลาย ๆ เรื่อง แต่ทว่าบรรดาแฟนเก่าก็กลับมาขอคืนดีเสียอย่างนั้น มันจะไม่ง่ายไปหน่อยหรอคิดว่าจะมาจะไปอย่างไรก็ได้หรือไง แม้ว่าพล็อตซีรีส์เรื่องนี้จะไม่ได้แปลกใหม่ออกจะดาษดื่นเสียด้วยซ้ำ แต่ด้วยเสน่ห์ความเป็นธรรมชาติของตัวละครเองและการดำเนินเรื่องที่เล่าเรื่องได้อย่างน่ารักน่าติดตามทำให้เราเผลอละสายตาจากเรื่องนี้ไปไม่ได้ อีกหนึ่งความประทับใจของเรื่องคือบทพูดของคุณหมอเพราะมันลึกซึ้งและให้แนวคิดเรากลับไปทบทวนหลาย ๆ อย่างในชีวิตเราได้มากทีเดียว นอกจากนี้หลักจิตวิทยาบำบัดด้วยอาหารนั้นก็ดีมากอย่างที่คุณหมอเคยบอกเอาไว้ว่าคู่รักที่ทานอาหารด้วยกันแล้วมีความสุขร่วมกัน ได้เห็นเวลาต่างฝ่ายต่างกินอาหารที่อร่อยนั้นสามารถครองรักกันได้ยาวนานมากกว่าคู่รักที่นอนบนเตียงเดียวกันเสียอีก ซึ่งครั้งแรกที่ฟังรู้สึกว้าวมาก เพราะเป็นบทสนทนาที่ล้ำลึกจริง ๆ  ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับซีรีส์ “Dinner Mate” ประเภท : โรแมนติก สถานีโทรทัศน์ : เอ็มบีซี ทีวี ผู้กำกับ : โกแจฮยอน นักแสดงนำ : ซอ จี-ฮเย,ซง ซึง-ฮ็อน,ซน นา-อึน,ลีจีฮุน ความยาว : 22 ตอน กำหนดฉาย : 25 พฤษภาคม 2563 หากคุณไม่อยากพลาดทุกข้อมูลเกี่ยวกับเว็บรีวิวหนัง อย่าลืมติดตามซีรี่ย์เรื่องอื่นๆ เช่น รีวิว Record of Youth เส้นทางสู่ดาว…ที่ยากลำบากแต่สวยงาม ได้อีกที่ filmograd.net

รีวิวซีรีส์เกมหมากรุกสุดมันส์ “The Queen’s Gambit” จากค่าย Netflix

จะเป็นอย่างไรเมื่อความเป็นอัจฉริยะต้องถูกเหนี่ยวรั้งเอาไว้ด้วยปมจากวัยเด็ก การที่ไม่มีครอบครัว ต้องเจอสภาพแวดล้อมที่สุดจะย่ำแย่ตั้งแต่เด็ก ความกดดันต่าง ๆ ได้หล่อหลอมให้กลายเป็นเด็กหญิงคนหนึ่งขึ้นมา ในหนังเรื่อง “The Queen’s Gambit” กับเรื่องราวของ “เบ็ธ” เด็กสาวที่ต้องสูญเสียแม่ของตนไปในอุบัติรถยนต์ชนเข้ากับรถบรรทุกซึ่งเธอได้รอดชีวิตมาได้ และที่สะเทือนใจเด็กหญิงที่สุดก็คือการที่เธอพอจะรู้สาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้ เมื่อเธอเสียแม่เธอก็ถูกส่งตัวไปอยู่สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า ซึ่งที่นั่นได้ให้ยาระงับประสาทกับเด็ก ๆ ทุกคน และเป็นจุดเริ่มต้นที่เธอได้รู้จักกับหมากรุก ผ่านคำสอนของภารโรงของสถานที่นั้น เขาสอนเธอเกี่ยวกับหมากรุกทุกสิ่งทุกอย่างทำให้เธอกลายเป็นอัจฉริยะด้านหมากรุกตั้งแต่อายุ 9 ขวบและด้วยปมในจิตใจทำให้เธอต้องการยาระงับประสาทแต่ภายหลังไม่มีการแจกให้แล้วเธอจึงต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้มันมา แม้ว่าเธอจะมีโอกาสได้มีครอบครัวอีกครั้งก็เหมือนโชคชะตาไม่เข้าข้าง เธอถูกทิ้งให้อยู่กับแม่เลี้ยงที่ไม่สามารถทำมาหาเลี้ยงชีพได้ ตั้งแต่นั้นเธอจึงเป็นคนทำงานหาเงินเข้าบ้านมาโดยตลอดด้วยการแข่งหมากรุก ชีวิตของเบ็ธคือชัยชนะในการประลองหมากรุก ความตั้งมั่นของเธอนั้นมีอยู่สูง เธอไม่ได้ต้องการแม้กระทั่งคำว่าเสมอกัน และแน่นอนว่าเกมกีฬาย่อมมีแพ้ชนะเป็นธรรมดา ในวงการหมากรุกเราจะได้เห็นหลายแง่มุมตั้งแต่กลวิธีการเล่น รวมไปถึงสังคมของผู้เข้าแข่งขันเอง ด้วยการที่เธออยู่คนเดียวทำให้เธอรู้สึกไม่ชอบสร้างพันธะผูกพันกับใครอีกต่อไปจึงตัดสินใจที่จะมี Sex แบบ One night stand กับชายหนุ่มในวงการหมากรุกด้วยกัน ความทะเยอทะยานของเธอทำให้เธอพยายามผลักดันตัวเองให้ได้เป็นตัวแทนของอเมริกาในการไปแข่งขันกับรัสเซียซึ่งได้ครองแชมป์มาหลายสมัย ในตัวหนังเราจะได้เห็นความแสดงสิทธิของสตรีอีกด้วย อิทธิพลด้านเฟมินิสต์นั้นแสนแรงกล้า ผู้หญิงมีอำนาจเหนือผู้ชายในบางทีซึ่งเป็นเรื่องที่น่าสนใจมาก  ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับหนัง “The Queen’s Gambit” ประเภท : ดราม่า ระทึกขวัญ ผู้กำกับ : สก็อตต์ แฟรงค์ นักแสดงนำ : โทมัส โบรดี แซงสเตอร์,เจคอบ ฟอร์จูน-ลอยด์,แมตทิว เดนนิส ลูวิส,Akemnji Ndifornyen ความยาว : 7 ตอน กำหนดฉาย : 23 ตุลาคม 2563 หากคุณไม่อยากพลาดทุกข้อมูลเกี่ยวกับเว็บรีวิวหนัง อย่าลืมติดตามซีรี่ย์เรื่องอื่นๆ เช่นรีวิว “He is psychometric” เมื่อเขาคนนี้สามารถอ่านภาพในจิตของคุณได้ ได้อีกที่ filmograd.net

รีวิว “He is psychometric” เมื่อเขาคนนี้สามารถอ่านภาพในจิตของคุณได้

“ความลับไม่มีในโลก” ฟังแล้วคิดว่ามันเป็นทั้งเรื่องจริงและไม่จริงในเวลาเดียวกันใช่ไหมล่ะ แต่แท้จริงแล้วมันเป็นเรื่องพิศวงที่ไม่มีใครเคยพิสูจน์ได้ว่าจริงหรือไม่ เพราะเราไม่รู้ว่ามีใครที่สามารถนำความลับเก็บไว้กับตนเองโดยไม่ให้ใครรู้จนเขาคนนั้นตายไปพร้อมความลับได้หรือไม่ เพราะหากเรารู้มันก็จะไม่ใช่ความลับอย่างไรล่ะ คงจะมีเพียงความลับที่รอการเปิดเผยอยู่เท่านั้นที่เป็นปริศนา เหมือนกับเรื่องราวในซีรี่ย์เรื่อง “He is psychometric” นั่นเอง ชีวิตของหญิงสาวที่ชื่อ “ยุนแจอิน” ซึ่งพยายามจะซ่อนบางอย่างเอาไว้ในใจของเธอ เพราะปมในอดีตจากวัยเด็กที่แสนโหดร้ายของเธอเมื่อผู้เป็นพ่อต้องได้รับความอยุติธรรมทำให้เธอตั้งมั่นว่าชีวิตนี้เธอจะเป็น “ตำรวจสืบสวน” เพื่อหวังจะขุดคุ้นคดีความนั้นกลับมาอีกครั้งหนึ่ง โดยตามจริงแล้วเธอพยายามซ่อนความคิดและความรู้สึกนี้เอาไว้ แต่ทว่าเมื่อบังเอิญได้สัมผัสตัวกับ “อีอัน” ชายหนุ่มผู้มีความสามารถพิเศษในการเห็นภาพและรับรู้ความทรงจำของคนนั้น ๆ ผ่านการสัมผัสเพียงภายนอกได้ ทำให้อีอันได้เห็นภาพในอดีตแสนเลวร้ายแลตั้งใจจะร่วมมือกับนางเอกเพื่อหวังช่วยเหลือเธอตามความตั้งใจของเขาว่าจะใช้ความสามารถนี้ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด ตัวซีรีส์มีพล็อตเรื่องที่ค่อนข้างน่าสนใจและแปลกใหม่การเล่าเรื่องที่มีปมสลับซับซ้อนนับเป็นเรื่องท้าทายตั้งแต่การปูบทและการเลือกแนวทางในการเล่าออกมาอีกด้วย ซึ่งบอกเลยว่าซีรีส์เกาหลีเรื่องนี้ทำออกมาได้ดี การถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกต่าง ๆ ของนักแสดงทำออกมาได้สมบทบาททำให้คนดูอย่างเราอินตามพร้อมความลุ้นระทึกในการหาคำตอบที่ซ่อนเร้นได้อย่างดี หากจะหาซีรีส์แนวสืบสวนสอบสวนน้ำดีสักเรื่องจากแดนกิมจิเรื่องนี้คงต้องเป็นซีรีส์ที่อยู่ในอันดับต้น ๆ อย่างแน่นอนแม้ว่าบางช่วงจะมีการเล่าที่เอื่อย ๆ ไปบ้างก็ตามที ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับซีรีส์ “He is psychometric” ประเภท : ลึกลับ ระลึกขวัญ แฟนตาซี โรแมนติก ผู้กำกับ : คิมบยองซู นักแสดงนำ : Shin Ye-eun,Park Jin-young,Kwon Kim,Kim Da-som ความยาว : 16 ตอน กำหนดฉาย : มีนาคม 2019 หากคุณไม่อยากพลาดทุกข้อมูลเกี่ยวกับเว็บรีวิวหนัง อย่าลืมติดตามซีรี่ย์เรื่องอื่นๆ เช่น รีวิว Record of Youth เส้นทางสู่ดาว…ที่ยากลำบากแต่สวยงาม ได้อีกที่ filmograd.net

รีวิว Record of Youth เส้นทางสู่ดาว…ที่ยากลำบากแต่สวยงาม

จะเป็นอย่างไรเมื่อเส้นทางความฝันที่เลือกเดินกลับเต็มไปด้วยขวากหนามแถมทางข้างหน้ายังดูเหมือนไร้แสงดูอย่างไรก็เป็นหนทางที่ยากลำบาก จะเลือกเดินต่อไปเพราะมันคือความฝันหรือหันเหไปทางอื่นที่ดูมีความเป็นจริงจับต้องได้มากกว่า ใน “Record of Youth” กับเรื่องราวของ “Sa Hye-Jun” นายแบบหนุ่มวัย 20 ปีที่ต้องการผลักดันตัวเองเข้าสู่วงการบันเทิงด้วยความสามารถและผลักหนทางที่มาจากเส้นสายออกจนหมด จนทำให้ตัวเขาห่างจากความสำเร็จเข้าไปเรื่อย ๆ พร้อมทั้งอยู่ในครอบครัวที่ไม่ได้ให้การสนับสนุนเพราะมีปมหลังในอดีตที่แสนโหดร้าย คือ คุณปู่ของเขาก็เคยเป็นนายแบบและมีความฝันเดียวกับเขาแต่ความดำมืดของวงการก็ทำให้เขาต้องเป็นหนี้จำนวนมาก ทำให้พ่อของพระเอกต้องแบกรับผลกรรมนั้นต่อด้วยการทำงานหนักตั้งแต่เป็นเด็กจนตอนนี้อายุ 60 ปีแล้วก็ยังต้องทำงานอยู่ นั่นยิ่งทำให้พระเอกไม่ได้รับการเชื่อมั่นว่าความฝันอันแสนเลือนลางของเขาจะเป็นความจริงขึ้นมาได้ ผิดกับเพื่อนของเขาที่ดูเหมือนโชคชะตาจะเข้าข้างไปเสียหมด ได้งานอย่างที่ตั้งใจมาอย่างง่ายดาย แถมยังมีแม่ที่คอยซัพพอร์ทอยู่ตลอด จนวันหนึ่งพระเอกก็ได้มาเจอกับ Won Hae-Hyo ช่างแต่งหน้าสาววัยเดียวกันที่เลือกอาชีพจากความฝันเช่นเดียวกัน ซึ่งเธอเป็นแฟนคลับของพระเอกแบบเงียบ ๆ มาโดยตลอด แม้ว่าจะได้มาเป็นช่างแต่งงานให้พระเอกในที่สุดก็ยังเป็นเรื่องยากที่จะบอกความในใจนี้ออกไป ซีรีส์ได้เล่าถึงประเด็นการไม่เข้าใจกันของคนในครอบครัวซึ่งเป็นคนต่างเจนกัน ความคิดความเชื่อที่แตกต่างกันก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดรอยร้าวในความสัมพันธ์ จะเห็นได้ว่าทั้งพระเอกและนางเอกต่างต้องเจอปัญหาที่คล้ายกัน แต่มีรูปแบบการรับมือที่ต่างกัน พระเอกมักตอบโต้ด้วยใบหน้าเรียบเฉยแทนการโต้เถียง ส่วนนางเอกจะตอบกลับด้วยคำพูดกระแทกกระทั้นเสียมากกว่า ซึ่งก็ถือเป็นการแสดงบุคลิกภาพที่สำคัญของตัวละครได้ชัดเจน ส่วนข้อพิจารณาน่าจะเป็นการใส่บทสนทนาที่มากเกินไปทำให้เนื้อเรื่องเอื่อยไปหน่อย คนดูอาจรู้สึกเบื่อได้ ผนวกกับแนวเรื่องที่เป็นดราม่ายิ่งไปกันใหญ่ แต่การตีแผ่ปมเบื้องหลังวงการบันเทิงที่ไม่ได้สวยหรูอย่างที่หลายคนเข้าใจนั้นทำได้ดีมาก ๆ ได้เห็นความเป็นจริงของการใช้เส้นสายต่าง ๆ ได้มากและเห็นการหลอกลวงหรือการชักจูงต่าง ๆ ได้อย่างดีและสมจริง ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับซีรีส์ “Record of Youth” ประเภท : โรแมนติก ดราม่า ผู้สร้างรายการ : สตูดิโอ ดรากอน นักแสดงนำ : พัคโบกอม,พัคโซดัม,คว็อน ซู-ฮยอน ความยาว : 16 ตอน กำหนดฉาย : 7 กันยายน 2563 หากคุณไม่อยากพลาดทุกข้อมูลเกี่ยวกับเว็บรีวิวหนัง อย่าลืมติดตามซีรี่ย์เรื่องอื่นๆ เช่น เกิดอะไรขึ้นตอนเธอฝัน รีวิวซีรีส์ While You Were Sleeping ได้อีกที่ filmograd.net

รีวิวซีรีส์ “Flower of Evil” ปมซ่อนปม เขาจะใช่ฆาตกรหรือไม่?

“Flower of Evil” นั้นเรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งซีรีส์เกาหลีที่กำลังมาแรงในไทยอย่างแท้จริง เรื่องราวของปมคดีฆาตกรรมกับชายผู้ต้องสงสัยผ่านการดำเนินเรื่องที่สลับซับซ้อนแต่ลึกซึ้ง เรื่องราวของ “โดฮยอนซู” ชายผู้เลือกที่จะทิ้งชีวิตในวัยเด็กการเป็นลูกชายของฆาตกรต่อเนื่อง และเขาถูกสงสัยว่าเกี่ยวพันกับการเสียชีวิตของคนในหมู่บ้านอีกด้วย เขาสร้างชีวิตใหม่ในชื่อ “แบคฮีซอง” ชายหนุ่มแสนอบอุ่นที่มีครอบครัวน่ารัก ๆ กับ “ชาจีวอน” ตำรวจแผนกสืบสวนคดีความและมีลูกสาววัยกำลังน่ารักด้วยกัน 1 คนโดยเขาจะทำงานที่บ้านและรับผิดชอบงานบ้านเป็นหลัก ทำอาหารอร่อย ใจดี เรียกได้ว่าเป็นคุณสามีและคุณพ่อในฝันของใครหลายคน จริงหรือ? เรื่องราวความพลิกผันของเรื่องก็มาถึงเมื่อชาจีวอนได้รับมอบหมายให้ไขคดีที่เกิดเมื่อ 18 ปีที่แล้ว ซึ่งตัวพระเอกเนี่ยเข้าไปเป็นผู้ต้องสงสัย โดยแม้เขาจะอยู่ใกล้กับเธอมากแต่เธอกลับไม่รู้ความจริงที่เขาพยายามกลบมันไว้ ความน่าสงสัยของแต่ละตัวละครนั้นสร้างได้น่าสนใจเป็นอย่างมาก ปมซ่อนปมทำให้เนื้อเรื่องมีเสน่ห์ หลังจากที่พระเอกตัดสินใจทิ้งชีวิตอันแสนโหดร้ายเขาก็ได้รับการเลี้ยงดูจากพ่อและแม่เลี้ยงที่เป็นเจ้าของโรงพยาบาลและเภสัชกรซึ่งบอกได้เลยว่าพวกเขาก็น่าสงสัยไม่แพ้กัน อีกหนึ่งเขาหลอนของซีรีส์เรื่องนี้คือความเป็นไซโคพาธของพระเอกที่เป็นโรคต่อต้านสังคมที่ได้รู้จากพฤติกรรมแปลก ๆ ของเขา เช่น การพยายามฝึกยิ้มหรือแสดงสีหน้าต่าง ๆ หน้ากระจกก่อนจะมาแสดงให้คนอื่นเห็นอย่างแนบเนียน หรือการสอนลูกสาวด้วยตรรกะแปลก ๆ ที่ดูแล้วน่ากลัวมาก ๆ  ส่วนตัวคิดว่าซีรีส์เรื่องนี้ทำออกมาได้ดีมาก สมบูรณ์ทั้งโปรดักชัน แสงสี และการแสดงของนักแสดงที่ทำให้รู้สึกว่าสงสารไปพร้อมกับน่ากลัวได้ดี บทมีความสมเหตุสมผลหนักแน่น การที่ตัวนางเอกเป็นคนที่ช่างสังเกตและเป็นคนฉลาดทำให้เราลุ้นอยากให้นางพบความจริง แต่การที่อยู่ด้วยกันมานานถึง 14 ปีแต่ไม่รู้เรื่องพระเอกนั้นเป็นเพราะเขาได้ฝึกมาอย่างดีก่อนที่หลอกเธอได้ และเป็นการแสดงที่รอบคอบมากจริง ๆ ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับซีรีส์ “Flower of Evil” ประเภท : อาชญากรรม ดราม่า ลึกลับระทึกขวัญ ผู้สร้างรายการ : สตูดิโอ ดรากอน นักแสดงนำ : อี จุน-กี,มูน แชวอน,คิมจิฮุน,จาง ฮีจิน ความยาว : 16 ตอน กำหนดฉาย : 23 กันยายน 2563 หากคุณไม่อยากพลาดทุกข้อมูลเกี่ยวกับเว็บรีวิวหนัง อย่าลืมติดตามซีรี่ย์เรื่องอื่นๆ เช่น ซีรีส์ฮิต IT’S OKAY TO NOT BE OKAY ความรักที่ทำให้เราใส่ใจคนรอบตัวมากขึ้น ได้อีกที่ filmograd.net

Review ซีรี่ย์ “เวยเวย เธอยิ้มโลกละลาย” สร้างแรงบันดาลใจ “สายเกมส์”

ขึ้นประเด็นกันด้วยคำว่า “สายเกมส์” ซึ่งในประเทศไทยการเล่นเกมส์ถือว่าเป็นสิ่งที่ทำลายการศึกษามาก ๆ ทว่าพอเราได้ดูซีรี่ย์เรื่อง เวยเวย เธอยิ้มโลกละลายจบ ส่วนตัวเรามีความคิดว่าการเล่นเกมส์ไม่ได้แย่เสมอไปเพียงรู้จักการแยกแยะเวลาให้พอเหมาะนั้นเอง  เวยเวย เธอยิ้มโลกละลายเป็นซีรี่ย์ที่เล่าเรื่องราวของเวยเวยกับเซี่ยวไน ซึ่งเวยเวยเป็นนักศึกษาหญิงชั้นปีที่ 2 สาขาวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ที่ทั้งฉลาดและสวยมาก ๆ เซี่ยวไนนักศึกษาปี 4 สาขาวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์หล่อรวยครบจบที่สามีแห่งชาติ! เพราะผู้หญิงเกือบทั้งมหาวิทยาลัยหมายปองพระเอกกันแบบสุด ๆ หนึ่งในนั้นก็คือเวยเวย เรื่องราวความรักของทั้งคู่เริ่มต้นการจากเล่นเกมส์ เวยเวยเป็นนักเล่นเกมส์หญิงที่เก่งกาจจนติด Top 10 ของเกมส์ส่วนเซี่ยวไนคือชายหนุ่มลีกลับในเกมส์ความสามารถไม่มีผู้ใดทัดเทียมเขาคือที่หนึ่งนั้นเอง แต่ด้วยเรื่องบังเอิญหรือมีคนวางแผนไว้เซียวไนและเวยเวยก็ได้ตกลงแต่งงานกันในเกมส์เพื่อภารกิจบางอย่าง ทุกอย่างถูกดำเนินต่อไปจนเกิดเป็นความรักหวานขั้นสุด ส่วนพระเอกฉลาดมาก ๆ ทันทุกเหตุการณ์รับรองไม่เศร้า! มีแต่สนุกและเพลินจนตรึงตราใจ  หลายคนอ่านมาถึงจุดนี้คงแปลกใจสร้างแรงบันดาลใจสายเกมส์ได้อย่างไร ก็เพราะว่าพระเอกและนางเอกของเรื่องเป็นสายเกมส์ที่มีความฝันอยากเป็นนักพัฒนาเกมส์และเซี่ยวไนก็ได้พิสูจน์ให้พ่อแม่ที่เป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัยเห็นว่าการเล่นเกมส์และประกอบอาชีพด้านดังกล่าวก็ประสบความสำเร็จได้เช่นกัน ซึ่งในส่วนตรงนี้เราเห็นว่าเป็นข้อดีที่ควรบอกต่อ สำคัญ! ภายในเรื่องยังแสดงให้ถึงการใช้ชีวิตของนักศึกษาที่ต้องวางแผนการทำงานอย่างไรให้ประสบผลสำเร็จ การแบ่งเวลาต่าง ๆ ผ่านตัวละคร ซึ่งตัวละครทุกตัวไม่ได้ตั้งหน้าตั้งตาเรียนจนไม่ทำกิจกรรมที่วัยรุ่นควรทำ พวกเขาดำเนินชีวิตไปในทิศทางที่เรียกได้ว่า “ใช้ชีวิตในวัยเรียนได้คุ้มค่า” ทั้งทำงาน ทั้งเล่น ทั้งมีความรัก ทว่าการเรียนกลับไม่แย่ลงเลย ซึ่งนักแสดงนำในเรื่องคือหยางหยาง ( พระเอก ) และเจิ้งซ่วง ( นางเอก ) ประกอบด้วยนักแสดงอีกมากมายงานดีมากขอบอกต่อนะคะ หากคุณไม่อยากพลาดทุกข้อมูลเกี่ยวกับเว็บรีวิวหนัง อย่าลืมติดตามซีรี่ย์เรื่องอื่นๆ เช่น ซีรีส์ฮิต IT’S OKAY TO NOT BE OKAY ความรักที่ทำให้เราใส่ใจคนรอบตัวมากขึ้น ได้อีกที่ filmograd.net

“The School Nurse Files” ครูพยาบาลแปลก ปีศาจป่วน ซีรี่แฟนตาซีจาก Netflix

“The School Nurse Files” จะว่าด้วยเรื่องราวของครูพยาบาลสาวที่เกิดมาพร้อมความสามารถพิเศษที่เธอสามารถมองเห็นความปรารถนา และวิญญาณได้ผ่านรูปร่างของเยลลี่ชนิดต่าง ๆ อย่าง “อันอึนยอง” ซึ่งการที่ได้รับตำแหน่งครูประจำห้องพยาบาลนั้นก็ไม่ใช่เรื่องบังเอิญเพราะรุ่นพี่ที่เคารพในนิกายคนมี Sixth Sense ได้บอกว่าเหมือนโรงเรียนแห่งนี้จะมีอะไรไม่ชอบมาพากลเป็นเหตุให้เธอได้รับงานนี้มานั่นเอง ซึ่งเจ้าเยลลี่ที่อันอึนยองมองเห็นก็มีหลากหลายรูปแบบ มีทั้งอันตายและไม่อันตรายบางตัวก็ไม่มีอิทธิพลอะไรต่อมนุษย์ แต่บางตัวมันก็ร้ายเหลือหลายคอยจะแผลงฤทธิ์อยู่ตลอดจึงต้องเป็นหน้าที่ของเธอที่ต้องจัดการพวกมัน โดยได้รับความช่วยเหลือจาก “ฮงอินพโย” ครูสอนภาษาจีนที่มีศักดิ์เป็นหลานชายของผู้ก่อนตั้งโรงเรียนแห่งนี้ เขาเสมือนเป็นคนที่คอยเติมพลังให้แก่ครูสาวได้เนื่องจากเกราะวิเศษบางอย่างที่คอยปกป้องเขาเอาไว้ ซีรีส์เรื่องนี้มีความหลุดโลกสูงมาก รับรู้ได้ถึงจินตนาการที่ไร้ขีดจำกัดของทีมผู้สร้างอย่างแท้จริงเลยทีเดียว นักแสดงต่าง ๆ สามารถตีบทแตกจนละเอียด มีความเป็นตัวการ์ตูนสูงมาก จนรู้สึกเลยว่าซีรีส์เรื่องนี้ก้าวข้ามขีดจำกัดของซีรีส์เกาหลีเรื่องอื่น ๆ เป็นที่เรียบร้อย การไม่ได้สร้างตามสูตรสำเร็จทำให้เสน่ห์ของซีรีส์นั้นพุ่งกระฉูดพร้อม ๆ กับโปรดักชั่นที่ทำได้อย่างไม่ผิดหวัง CG คุณภาพที่มีความสากลและได้มาตรฐานมาก แต่ด้วยความยาวซีรีส์ที่มีเพียง 6 ตอนเท่านั้น ข้อจำกัดของเวลาทำให้เนื้อเรื่องไม่สามารถเล่าปูมหลังของตัวละครได้มากเท่าที่ควร บางประเด็นก็เล่าเร็วจนหลายครั้งก็ตามไม่ทันเหมือนกัน เช่น ประเด็นการบูลลี่ แบ่งชนชั้น การสอบที่เคร่งเครียดของนักเรียนเกาหลี การมุ่งมั่นในการสอบข้าวของเกาหลี เป็นต้น ซึ่งก็เป็นประเด็นที่น่าสนใจมากแต่ไม่ได้ลงรายละเอียดเพื่อรักษาเส้นเรื่องความแฟนตาซีไว้ ซึ่งเป็นเรื่องหลักมากกว่า สุดท้ายนี้ต้องขอปรบมือให้ทีมอาร์ตที่สร้างสรรค์น้องเยลลี่แต่ละตัวออกมา ซึ่งมีความสากลมาก เรียกได้ว่าหากทำเป็นโปรดักต้องมีคนอยากซื้อเก็บเอาไว้เป็นคอลเลกชันแน่นอน เพราะน้องน่าเอ็นดูมาก ๆ ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับซีรีส์ “The School Nurse Files” ครูพยาบาลแปลก ปีศาจป่วน ประเภท : แฟนตาซี ผู้กำกับ : Lee Kyoung-mi นักแสดงนำ : นัมจูฮยอก,จองยูมิ,มุนโซรี,ลี จู-ยัง ความยาว : 6 ตอน กำหนดฉาย : 2563 หากคุณไม่อยากพลาดทุกข้อมูลเกี่ยวกับเว็บรีวิวหนัง อย่าลืมติดตามหนัง Netflix เรื่องอื่นๆ เช่น Isn’t It Romantic เมื่อคนที่ไม่เชื่อในความรักต้องกลายเป็นนางเอกหนังเหล่านั้นเอง ได้อีกที่ filmograd.net

ซีรีส์ฮิต IT’S OKAY TO NOT BE OKAY ความรักที่ทำให้เราใส่ใจคนรอบตัวมากขึ้น

IT’S OKAY TO NOT BE OKAY นั้นเรียกได้ว่าเป็นซีรีส์เกาหลีน้ำดี งานละเอียด ที่รู้ถึงความประณีตของทีมงานผู้สร้างอย่างแท้จริง โดยเป็นเรื่องราวชีวิตของชายหนุ่มเจ้าหน้าที่สาธารณสุขผู้ดูแลผู้ป่วยในวอร์ดจิตเวชอย่าง “มุนคังแท” ที่เขาเองก็มีหน้าที่ดูแลพี่ชายแท้ ๆ ที่เป็น “ออทิสติกส์” ด้วยคนหนึ่ง ชื่อ “มุนซังแท” ชีวิตของสองพี่น้องต้องร่อนเร่ ออกเดินทางบ่อยครั้ง มุนคังแทเลือกที่จะเปลี่ยนที่ทำงานไปเรื่อย ๆ ด้วยเหตุผลที่เชื่อมโยงกับอดีตในวัยเด็กที่แสนโหดร้าย แม้จะเป็นคนที่พยายามมีความสุขกับสิ่งรอบข้างแค่ไหนแต่ใจลึก ๆ ของเขาเองเต็มไปด้วยความเศร้า ทำให้รอยยิ้มที่เราเห็นนั้นไม่ต่างอะไรกับน้ำตาลที่เคลือบยาขมเอาไว้  เขาและพี่ชายสูญเสียแม่ไปตั้งแต่เด็กในเหตุการณ์ฆาตกรรมซึ่งเหตุการณ์ครั้งนั้นมีมุนซังแทเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด แต่มันกระทบกระเทือนจิตใจของเขาจนสมองดัดแปลงความจำไป จนเขามีปมกับ “ผีเสื้อ” ซึ่งเป็นสัตว์ที่เห็นระหว่างการตายของแม่เท่านั้น ซึ่งการเสียแม่ไปชีวิตของทั้งสองก็เปลี่ยนไปตลอดกาลเพราะตั้งแต่นั้นมุนคังแทก็เหมือนโลกทั้งใบของมุนซังแท เขาต้องสละเวลาเกือบทั้งหมดให้พี่ชายและนั่นทำให้บางครั้งเขาก็ได้แต่น้อยใจและไม่อยากมีพี่ชายอีกต่อไป แต่เมื่อคิดให้ดีแล้วทุกอย่างก็ไม่ใช่ความผิดของมุนคังแทเลย เขาจึงต้องยอมรับและดูแลเขาต่อไป นางเอกของเรา “โกมุนยอง” นักเขียนนิทานเด็กที่แฝงไปด้วยความดาร์กชื่อดังที่เธอเองก็มีอดีตอันแสนเจ็บปวดในวัยเด็กเช่นเดียวกัน และมันก็ทำให้เธอมีอาการทางจิต เช่น การต่อต้านสังคม ความคิดบิดเบี้ยว และโรคชอบลักเล็กขโมยน้อย อีกด้วย แม้ทั้งสามต่างก็เป็นเหยื่อของความเศร้าในจิตใจและดูไม่น่าจะมาเกี่ยวข้องกันได้ แต่พวกเขาก็กลายมาเป็นคนสำคัญของกันและกันในชีวิตด้วยโชคชะตาของพวกเขาเอง เนื้อเรื่องของซีรีย์มีความแปลกใหม่มากในวงการซีรีส์เกาหลีเองและซีรีส์ทั่วโลก เพราะการแฝงข้อคิดด้านจิตวิทยาและสภาพจิตใจยังไม่ค่อยแพร่หลายในปัจจุบัน แม้ว่าจะเป็นเรื่องที่คนปัจจุบันมักประสบปัญหาแต่มักจะไม่แสดงออกอย่างชัดเจนจนบางครั้งเราก็ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ากำลังป่วยทางจิตอยู่ สิ่งที่ต้องชมต่อไปคืองานภาพซึ่งซีรีส์เรื่องนี้ทำออกมาได้ดีงามพระรามแปดที่สุด! ความ Contrast ของสี การโชว์ลายเส้นของหนังสือนิทาน การใช้แสงมัวตอนเล่าอดีต คือลงตัวอย่างสมบูรณ์ ทำให้ซีรีส์มีเสน่ห์ ลึกลับ และดูน่าค้นหาคำตอบมากยิ่งขึ้นอีกด้วย ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับซีรีส์ “IT’S OKAY TO NOT BE OKAY” ประเภท : โรแมนติก,ดราม่า,แฟนตาซี ผู้กำกับ : ปาร์ค ชินวู นักแสดงนำ : ซอ เย-จี,คิม ซู-ฮยอน,โอจองเซ ความยาว : 16 ตอน กำหนดฉาย : 20 มิถุนายน 2563 หากคุณไม่อยากพลาดทุกข้อมูลเกี่ยวกับการรีวิวหนัง อย่าลืมติดตามซีรี่ย์เรื่องอื่นๆ เช่น หนังจีน ดีๆที่ท่านผู้ชอบนิยมดูหนังไม่ควรพลาดตังต่อไปนี้ ได้อีกที่ filmograd.net

หนังจีน ดีๆที่ท่านผู้ชอบนิยมดูหนังไม่ควรพลาดตังต่อไปนี้

สำหรับแฟนหนังสมัยใหม่หากจะถามว่าชอบหนัง หรือภาพยนตร์แนวไหนแน่นอนว่า คนส่วนใหญ่มักจะชอบชมหนังฝรั่ง หรือแฟนตาซีไซไฟซึ่งเป็นที่ยอดนิยมในยุคปัจจุบัน หากแต่ถ้าย้อนกลับไปหลายสิบปีก่อนที่หนังฝรั่งยังไม่เข้ามาตีตลาดมากนักจนถึงตอนนี้  วันเวลาผันเปลี่ยนไปทำให้หนังจีนที่เคยเป็นหนังยอดฮิตในอดีตกลับแทบไม่มีที่ยืน เหลือไว้เพียงความทรงจำในยุคสมัยที่หนังจีนโด่งดัง ในบทความนี้เราจึงขอแนะนำ หนังจีน ดีๆที่ท่านผู้ชอบนิยมดูหนังไม่ควรพลาดตังต่อไปนี้ 1.หงษ์ทองคะนองศึก 1966 หนังจีน ระดับมาสเตอร์พีซจากบริษัทสร้างภาพยนตร์ชื่อดังของฮ่องกงในอดีต ชอร์บราเธอร์สสตูดิโอ ผลงานการสร้างสรรค์เรื่องราวจากนักเขียนและผู้กำกับชื่อดัง King Hu ผู้ให้กำเนิดหนังจีนชื่อดังมากมายหลายเรื่องราว และยังเป็นหนังจีนเรื่องแรก ๆ ที่มีตัวละครนำเป็นตัวละครหญิง จึงถือเป็นขวัญใจแฟนหนังจีนที่เป็นสุภาพสตรีมาก 2.ฤทธิ์มีดสั้นลี้คิมฮวง 1981 หนังจีนชื่อดังที่คุ้นหูแฟนหนังจีนทุกคน เพราะเป็นหนังจีนที่ดัดแปลงมาจากนิยายกำลังภายในอันยอดเยี่ยมของพญามังกรโกวเล้ง ซึ่งมีต้นฉบับจากนิยายเรื่อง เสียวลี้ปวยตอมีด มีดบินไม่พลาดเป้านั้นเอง ด้วยหนังจีนเรื่องนี้ถือว่าดังมากในยุคนั้นทำให้บริษัท ชอร์บราเธอร์สสตูดิโอ เจ้าเดิม เพิ่มเติมคือสร้างภาคต่ออีก 2 ภาค ในปี 1977 และในปี 1981 แถมยังเป็นหนังจีนที่สร้างชื่อให้กับ ตี้หลุน นักแสดงอาวุโสแห่งดินแดนจีนที่เรารู้จักกันดีอีกด้วย 3.ม่านประเพณี 1963 หากจะพูดถึงหนังจีนในยุคเก่าแล้วล่ะก็อีกหนึ่งหนังจีนที่เราจะไม่กล่าวไม่ได้เลย นั่นก็คือหนังจีนในชื่อม่านประเพณี ซึ่งคาดกันว่าแต่เดิมเป็นตำนานจีนโบราณเล่าสืบต่อกันมาตั้งแต่ยุคราชวงศ์จิ้นตะวันออก สืบทอดเรื่องราวต่อกันมาเป็นบทขับร้องงิ้ว ซึ่งหนังจีนในเวอร์ชั่นนี้ก็ยังคงมีบทขับร้องงิ้วดังกล่าวคงเอาไว้เหมือนกัน ทำให้เป็นที่ประทับใจแฟนหนังจีนยุคเก่ามากนั่นเอง 4.ฤทธิ์ดาบฟ้าลั่น  1978 เธอเป็นหนังจีนยอดนิยมในยุคดังกล่าวซึ่งหากจะบอกว่ามันมาจากนิยายจีนกำลังภายในเรื่องใดแล้ว เราก็คงต้องบอกว่ามันมาจากนิยายชื่อดังที่เราคุ้นหูกันดีนั่นก็คือนิยายเรื่องกระบี่เย้ยยุทธจักรของกิมย้งนั่นเอง เพียงแต่มีการดัดแปลงเนื้อเรื่องให้สั้นลงเพื่อให้สามารถสร้างเป็นหนังได้ในเวลาจำกัด 5.ชอลิ้วเฮียง 1982 เป็นอีกหนึ่งหนังจีนชื่อดังจากชอร์บราเธอร์สสตูดิโอเจ้าเดิมแถมนำแสดงโดย ตี่หลุน อีกเช่นเดียวกัน แต่เป็นชอลิ้วเฮียงที่ค่อนข้างจะพิสดารซะหน่อย เพราะแทนที่เนื้อเรื่องจะเอามาจากนิยายชุดชอลิ้วเฮียงของโกวเล้ง แต่หนังจีนเรื่องนี้กันไปเอาเนื้อเรื่องบางส่วนจากนิยายจีนเรื่องเล็กเซียวหงส์ดำเนินเรื่องแทนซะอย่างนั้น ก็สนุกไปอีกแบบและที่กล่าวมานี้ก็เป็น 5 หนังจีนชื่อดังในยุคเก่าที่เราอยากให้ท่านได้หามาชมอย่างไม่ควรพลาด ด้วยประการทั้งปวงแน่นอนมันอาจจะไม่มีเทคนิค หรืองานภาพคมชัดเช่นหนังยุคปัจจุบันแต่ที่มันมีให้เราก็คือเสน่ห์หนังจีนที่หนังยุคใหม่ไม่มีนั่นเอง ต้องขอขอบคุณข้อมูลการรีวิวหนังจาก Ufa9999 มา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ ติดตามการรีวิวหนังและติดตามภาพยนตร์ 2012 วันสิ้นโลก ภาพยนตร์วันที่โลกล่มสลายสู่เรื่องโกหกบันลือโลก