รีวิวหนังเรื่อง Look That Kill หนุ่มผู้มีใบหน้าที่หล่อ จนใครเห็นก็ต้องตาย

look That Kill

จะเกิดอะไรขึ้นถ้าหากคุณเกิดขึ้นมาบนโลกนี้แล้วมีใบหน้าที่หล่อเหลาที่สุดในโลก รีวิวหนังเรื่อง look That Kill หนุ่มผู้มีใบหน้าที่หล่อ จนใครเห็นก็ต้องตาย เด็กหนุ่มผู้หน้าตาดีที่สุดจนหมอทำคลอดต้องเอ่ยปากชมแต่หลังจากนั้นเพียงไม่กี่นาทีพ่อ และแม่ของเขาก็ต้องตกใจ เพราะหมอและพยาบาลที่ทำคลอดให้เขานั้น ต้องตายกันทุกคนหลังจากที่เห็นหน้าเขา  แล้วเด็กหนุ่มคนนี้จะใช้ชีวิตต่อไปอย่างไรล่ะ แม็คเด็กหนุ่มผู้ที่มีใบหน้าหล่อที่สุดในโลกจนใครเห็นก็ต้องตาย เรื่องมันเริ่มตั้งแต่ตอนที่เขานั้นเกิดขึ้นมาซึ่งใบหน้าของเขานั้นมันเหมือนถูกสาปถ้าเกิดใครได้เห็นก็จะต้องตายกันทุกคน ยกเว้นเพียงพ่อกับแม่ของเขาเท่านั้นที่สามารถเห็นได้ พ่อกับแม่ของเขาจึงพาเขาไปหาหมอจิตแพทย์ เพื่อรักษาอาการของแม็คแต่แล้วเขาก็ต้องทำให้หมอจิตแพทย์คนนั้นต้องตาย จนเขารู้สึกอับอายเลยเอาก้อนอิฐทุบไปที่ใบหน้าตัวเองแต่พ่อของแม่ก็มาห้ามทันเลยได้พาเขาไปหาหมอที่คลินิกแห่งหนึ่ง ในช่วงเวลาที่เขาเข้าไปในคลินิกนั้นเขารู้สึกอับอายมากเพราะมีแต่คนจ้องมองคนที่เขาอเล็กซ์ หญิงสาวที่อยู่ที่บ้านพักคนชราได้เข้ามาที่คลินิกนี้เช่นกัน จึงได้ยื่นหนังสือเล่มหนึ่งให้เขาได้เอาไปปิดหน้า หลังจากนั้น แม็คได้คิดจะไปฆ่าตัวตายโดยการกระโดดน้ำที่สะพานแต่อเล็กซ์ก็ได้เข้ามาเจอแม็คและพูดคุยกัน และนี่ก็คือจุดเริ่มต้นในการใช้ชีวิตของแม็คเด็กหนุ่มผู้ที่มีใบหน้าหล่อ  เพราะอเล็กซ์เป็นเพียงผู้หญิงคนเดียวที่ทำให้เขาอยากจะมีชีวิตต่อไป สำหรับรีวิวหนังเรื่อง Look That Kill  หนุ่มผู้มีใบหน้าที่หล่อ จนใครเห็นก็ต้องตาย นักเขียนดูเหมือนว่าผู้กำกับจะต้องการฝึกให้เราเห็นคุณค่าในชีวิต และ ยกตัวอย่างตัวละครที่ประสบปัญหากับชีวิตและสามารถหาทางออกได้เป็นอย่างดี และ สามารถนำความสามารถที่ตนมีนั้นไปช่วยเหลือผู้อื่นได้และเห็นคุณค่าในตัวเอง วิดีโอตัวอย่าง look That Kill ติดตามการรีวิวหนังและติดตามการรีวิวหนังเรื่อง Bird Box ถ้าไม่อยากตาย ระวังอย่ามองมัน !!!

รีวิวหนังเรื่อง Bird Box ถ้าไม่อยากตาย ระวังอย่ามองมัน !!!

Bird Box

ภาพยนตร์เรื่องนี้โด่งดังมาจาก Netflix  ซึ่งเป็นหนังประเภทภาพยนตร์สยองขวัญ ที่เอาใจคนรักหนังสยองขวัญและทำลายได้ไปถึง 629 ล้านดอลลาร์ทั่วโลกนับว่าประสบความสำเร็จกับผลงานของผู้กำกับสายหนังสยองขวัญยางซูซานเบียร์ ผู้กำกับสุดเก่งจากอเมริกาที่เข้าฉายเมื่อวันที่ 14 ธันวาคมเมื่อปีที่ผ่านมา วันนี้นักเขียนจะมารีวิวหนังเรื่อง Bird Box ให้กับทุก ๆ คนได้ติดตามไปพร้อม ๆ กัน เพื่อรับรู้ถึงความสยองและความน่าแปลกใจของหนังเรื่องนี้ว่าเพราะอะไรถึงทำให้ทุกคนตายถ้าหากเปิดผ้าปิดตา โดยหนังเรื่องนี้จะดำเนินเนื้อเรื่องหลักคือเมโลลี่ ซึ่งเธอก็คือนางเอกของเรื่องนี้นี่เอง ซึ่งหนังเรื่องนี้เปิดตัวขึ้นมาก็คือทุกคนในบ้านเมืองจะเกิดเหตุการณ์ชุลมุนพร้อมกับทุกคนในเมืองก็จะตายลงโดยที่ไม่ทราบสาเหตุและมีพฤติกรรมที่แปลก ๆ หลังจากนั้นเธอได้ขับรถมาจาก Jessica ซึ่งเป็นพี่สาวของเธออยู่ ๆ เธอก็มีอาการร้องไห้เหมือนเห็นอะไรบางอย่างแล้วรถบรรทุกก็พุ่งเข้าชนอย่างจังจนพี่สาวของเธอตายคาที่ ฉากตัดมาที่มีชาวบ้านเข้ามาช่วยมาโลลี่และพาเข้าไปอยู่ในบ้านซึ่งสิ่งที่แปลกคือ ทุกคนถ้าออกไปข้างนอกเมื่อไหร่จะต้องใส่ผ้าปิดตา  ถ้าหากใครที่ไม่ใส่ผ้าปิดตาจะเกิดเห็นภาพหลอนแล้วก็ตายในทันที แต่หนังคนอึดอัดตรงที่มักจะมีคนที่แวะเข้ามาในบ้านหลังนี้แล้วมาก่อกวนให้ทุกคนในบ้านเปิดผ้าปิดตาแล้วออกมามองดูโลกภายนอกซึ่งก็จะทำให้คนในบ้านตายไปทีละคน ซึ่งแต่ละวันก็จะมีเหตุการณ์ให้ทุกคนนั้นออกไปจากบ้านเช่นหาอาหาร ก็ทำให้แต่ละคนค่อยๆตายไป เหตุการณ์จะเป็นอย่างไรและมาโลลี่ จะใช้ชีวิตที่เหลือกับลูกของเขาอย่างไร ต้องลองไปติดตามกันในภาพยนตร์ Bird Box สำหรับการรีวิวหนังเรื่อง Bird Box ถ้าไม่อยากตาย ระวังอย่ามองมัน เป็นหนังแนวลึกลับทางวิทยาศาสตร์ปนกับหนังสยองขวัญ แต่ตัวเรื่องหนังต้องการจะสื่อเกี่ยวกับความรักของมาโลลี่ และลูกเป็นหลักและสอนในเรื่องของการไว้เนื้อเชื่อใจของคนแปลกหน้ารวมถึงฝึกประสาทการฟังได้เป็นอย่างดี ซึ่งนักเขียนคิดว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ก็เป็นอีกภาพยนตร์เรื่องหนึ่งที่น่าสนใจนะคะ ติดตามการรีวิวหนังและติดตามการแนะนำ หนังสร้างแรงบันดาลใจ ตลอดกาลที่ไม่ควรพลาด!!

แนะนำ หนังสร้างแรงบันดาลใจ ตลอดกาลที่ไม่ควรพลาด!!

หนังสร้างแรงบันดาลใจ

หนังสร้างแรงบันดาลใจ ถือว่าเป็นหนังที่สามารถแฝงข้อคิดดี ๆ ที่นอกจากตัวหนังจะมีเนื้อหาที่ทั้งสนุก และน่าติดตามมากเพียงใด แต่สำหรับผู้รับชมแล้วนั้น คุณยังสามารถได้รับข้อคิดดี ๆ หรือแรงบันดาลใจจากหนังเรื่องนั้น ๆ ได้อีกด้วย และนั้นจะทำให้ผู้ชมได้มีแง่คิด หรือมุมมองที่เปลี่ยนไป และยังช่วยให้เหล่าผู้ชมทั้งหลายนั้นมีแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตที่ดีอีกด้วย ดังนั้นทางเราจึงอยากนำเสนอหนังที่สามารถสร้างแรงบันดาลใจ หรือข้อคิดดี ๆ ให้กับผู้ชมได้ดังต่อไปนี้ 1. Forrest Gump (1994) ถ้าให้กล่าวถึงหนังสร้างแรงบันดาลใจแล้วล่ะก็ หนังเรื่องแรกที่หลาย ๆ คนนึกถึงคงหนีไม่พ้น หนังเรื่อง Forrest Gump อย่างแน่นอน ถึงแม้ว่าหนังเรื่องนี้จะถูกปล่อยฉายมามากกว่า 20 ปี แล้วก็ตาม แต่ด้วยเนื้อหาที่เน้นการมอบแรงบันดาลใจให้กับผู้ชม อย่างตัวเอกของเรื่องที่ไม่ว่าจะพบเจอสถานการณ์ใด หรือจะแย่ขนาดไหนก็ตาม แต่เขากับมีความสุข และใช้ชีวิตกับช่วงสถานการณ์ที่เลวร้ายได้อย่างดีเยี่ยมนั่นเอง 2. The Terminal (2004) เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่กล่าวได้ว่าสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ชมได้อย่างมากมาย กับเรื่องราวของชายคนหนึ่งที่ติดอยู่ในสนามบิน โดยที่เขาไม่สามารถเดินทางเข้าประเทศ หรือบินกลับประเทศตัวเองได้ นั้นทำให้เขาต้องติดอยู่ในสนามบินนานนับปี และเขาก็ได้พบกับเรื่องราวต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นมิตรภาพ หรือเหตุการณ์ที่คุณคาดไม่ถึง เรียกได้ว่าหนังสร้างแรงบรรดาลใจเรื่อง The Terminal นั้นจะสามารถให้ข้อคิดในการใช้ชีวิตของคุณได้อย่างดีเยี่ยมเลยทีเดียว 3. The Intern (2015) สำหรับหนังสร้างแรงบันดาลใจเรื่องนี้ เรียกได้ว่านอกจากจะมอบแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตให้กับผู้ชมแล้วนั้น ตัวหนังยังมอบข้อคิดดี ๆ กับเรื่องราวฟิลกู๊ดสุดน่ารัก ที่จะทำให้ผู้ชมนั้นกลับมาปรับเปลี่ยนแนวคิดของตนได้อย่างแน่นอน กับเนื้อเรื่องของหนังที่เริ่มต้นจาก ชายวัยเกษียณ เขาได้เริ่มงานใหม่อีกครั้งในวัย 60 ปี และยังต้องทำงานกับ CEO สาวสวยไฟแรง ผู้ที่ไม่ชอบผู้สูงอายุเป็นอย่างมาก ชายสูงวัยผู้นี้จะทำอย่างไรให้เขานั้นสามารถกับมาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกครั้ง พร้อมหาแรงบันดาลใจและเอาใจช่วยเขาได้ใน The intern ติดตามการรีวิวหนังและติดตามการรีวิว หนังไทยน่าดูใน Netflix ดูช่วงวันหยุดรับรองว่าสนุกถูกใจแน่นอน

รีวิว หนังไทยน่าดูใน Netflix ดูช่วงวันหยุดรับรองว่าสนุกถูกใจแน่นอน

หนังไทย น่าดูใน Netflix

รีวิวหนังไทน น่าดูใน Netflix ดูช่วงวันหยุดรับรองว่าสนุกถูกใจแน่นอน ในช่วงเวลาวันหยุดที่หลาย ๆ คนก็อยากที่จะใช้เวลาพักผ่อนดูหนังที่สนุก ๆ ชวนให้ได้รอยยิ้มและเสียงหัวเราะ ซึ่งวันนี้แอดอยากที่จะมารีวิว หนังไทยน่าดูใน Netflix ดูช่วงวันหยุดรับรองว่าสนุกถูกใจแน่นอน ใครที่อยู่บ้านเบื่อ ๆ ว่าง ๆ แอดบอกเลยว่าการดูหนังก็เป็นสิ่งที่น่าสนใจ ช่วยให้เราผ่อนคลายและพักสมองจากอาการเหนื่อยล้าต่าง ๆ ได้เยอะเลยทีเดียว หนังไทยน่าดูในNetflix เรื่องแรกที่แอดอยากจะมาแนะนำ คือ ตุ๊ดซี่ส์แอนด์เดอะเฟค บอกเลยว่าเป็นหนังที่เรียกเสียงหัวเราะให้คนที่ชมเป็นอย่างมาก เนื้อเรื่องแอดจะขอสรุปคร่าว ๆ เพื่อไม่ให้เป็นการสปอยมาเกินไป เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ แก๊งตุ๊ดซี่ส์ 3 ตุ๊ด 1 ดี้ เมื่อเกิดอุบัติเหตุกับ เคที่ รับบทโดย ชมพู่ – อารยา เอ ฮาร์เก็ต ในวันที่ใกล้จะถ่ายโฆษณาโดย เคที่ล้มหัวฟาดสลบอยู่ที่โรงพยาบาล เรื่องราวสุดเฟคก็เกิดขึ้น เมื่อเหล่าตุ๊ดซี่ต้องร่วมกันปลอม เจ้น้ำ แม่ค้าขายผัดกระหรี่ ให้มีเป็น ซุปตาร์ดัง อย่างเคที่ เป็นปฏิบัติการลวงโลกสุดฮา และ มีเรื่องเกี่ยวกับความรักครั้งเก่าและรับครั้งใหม่ของกัส รับบทโดย เพชร เผ่าเพชร ให้เราได้ติดตาม เป็นหนังที่สนุกมาก ๆ เลย สามารถดูแบบไม่ต้องคิดอะไรเยอะ ได้ที่ Netflix แอดแนะนำ หนังไทยน่าดูในNetflix เรื่องที่สองที่แอดอยากจะมาแนะนำ คือ ฮาวทูทิ้ง ทิ้งอย่างไรไม่ให้เหลือเธอ เป็นเรื่องราวความรักในอดีตที่พอกับมานึกถึงก็รู้สึกผิด ของจีน สาวสวยที่จะรีโนเวทบ้านที่อยู่มาตั้งแต่เด็กให้เป็นออฟฟิศสุดมินิมอล การเคลียร์บ้านครั้งใหญ่จึงเริ่มขึ้น เธอได้ทิ้งสิ่งของที่ไม่จำเป็นถึงแม่ว่าจะเป็นความทรงจำในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งในชีวิตก็ตาม แต่เมื่อได้เจอของในถุงสีขาว ของ เอ็ม เรื่องราวการทิ้งของที่ไม่จำเป็นครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายอีกต่อไป เธอเริ่มจากนำของที่ซื้อมาฝากเพื่อนเมื่อนานมาแล้ว ของที่เคยยืมเพื่อน ต่าง ๆ ไปคืนเจ้าของให้หมด จนมาถึงของในถุงสีขาวที่ตอนแรกกะจะส่งไปคืน ไม่ได้กะจะไปด้วยตัวเอง แต่เมื่อของที่ส่งให้ถูกตีกลับ เธอเลือกที่จะไปส่งของคืนเจ้าของให้ถึงมือด้วยตัวเอง เรื่องราวความรักที่ไม่ MOVE ON จึงเกิดเป็นปัญหาขึ้น แอดแนะนำเลยสำหรับใครที่ชอบดูหนังเศร้านิด ๆ เพราะนอกจอกจะมีเรื่องราวความรักเกี่ยวกับความรักแบบคนรักแล้ว ยังมีเรื่องราวเกี่ยวกับครอบครัว ที่ใครอ่อนไหวจะกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่แต่แอดชอบนะ ด้วยองค์ประกอบของรูป สี ดูมีความมินิมอลชวนให้เราอยากดู และตอนนี้เข้า Netflix เรียบร้อยแล้วหาดูง่ายมาก หนังไทยน่าดูในNetflix เรื่องที่สามแอดอยากจะมาแนะนำ คือ Classic Again จดหมาย สายลม ร่มวิเศษ หนังรักสไตล์ยก 90 หน่อย ๆ ที่เนื้อเรื่องจะเป็นเรื่องของความรักของคนสองรุ่น ที่เป็นเรื่องราวความรักที่มีความคล้ายกันมากในทั้งสองรุ่น แอดว่าในส่วนของตัวหนังดำเนินเรื่องได้ดีมีการสลับในส่วนของการเล่าเรื่องของความรักทั้ง 2 รุ่นด้วย ซึ่งเป็นความรักที่มีทั้งความงดงามในเรื่องของความรัก มีความเศร้าในตอนที่ต้องจากลา ถือว่าเป็นหนังที่น่าดูมาก แอดแนะนำเลยใครที่ชอบดูหนังรัก ซึ่งหาดูง่ายใน Netflix ก็ลงให้เราได้ดูกันแล้วด้วย ทั้งหมดก็เป็นที่แอดอยากจะมารีวิว หนังไทยน่าดูใน Netflix เป็นหนังไทยที่ถ้ามีเวลาว่างควรที่จะไปดูอย่างยิ่ง ใครที่สมัคร Netflix ไว้ถือว่า 3 เรื่องนี้เป็นหนังที่ไม่ควรพลาด ติดตามการรีวิวหนังและติดตามการรีวิวหนัง ฮาร์ทบีท เสี่ยงนัก..รักมั้ยลุง หนังรักฉบับกลิ่นอายความเป็น 90

รีวิวหนัง ฮาร์ทบีท เสี่ยงนัก..รักมั้ยลุง หนังรักฉบับกลิ่นอายความเป็น 90

ฮาร์ทบีท เสี่ยงนัก..รักมั้ยลุง

ใครที่กำลังมองหาหนังรัก ที่มาพร้อมกับบรรยากาศสวย ๆ เรื่อง ฮาร์ทบีท เสี่ยงนัก..รักมั้ยลุง ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของหนังใหม่ ๆ ที่แอดอยากจะมาแนะนำ เพราะเนื่องหาของเรื่องถือว่าไม่หนักมาจนเกินไป ซึ่งค่อนข้างที่จะสนุกและอาจจะจุดที่มีเสริมให้หนังดูมีความน่าสนใจ ที่เป็นจุดพีคใหญ่ ๆ สำหรับแอดคือจุดเดียวเลย นอกนั้นเนื้อเรื่องถือว่าเรื่อง ๆ ไม่มีอะไรที่หวือหวาเกี่ยวกับเรื่องของความรักมากเกินไป แอดจึงอาจขอที่จะมา รีวิวหนัง ฮาร์ทบีท เสี่ยงนัก..รักมั้ยลุง หนังรักฉบับกลิ่นอายความเป็น 90 ฮาร์ทบีท เสี่ยงนัก..รักมั้ยลุง จุดเริ่มต้นของหนังเริ่มจาก น้ำหวานสาวสวยลูกสาวเจ้าของโฮมสเตย์ทางภาคเหนือ รับบทโดย  มนสภรณ์ ชาญเฉลิม เธอมีปัญหาเกี่ยวกับโรคหัวใจ แม่ของน้ำหวานจึงไม่อยากให้น้ำหวานทำกิจกรรมที่โลดโผนมากเกินไปเพราะกลัวว่าจะเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ และน้ำหวานก็ได้พบกับ ชัย หนุ่มใหญ่ที่แสนอบอุ่น รับบทโดย ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์ ชัยเหมือนคนที่มาพักใจพร้อมกับรูบิคที่แฟนสาวที่เสียชีวิตไปได้มอบให้ เค้ามาตามหาคำตอบที่ยังติดค้างอยู่ในใจมากมาย ฮาร์ทบีท เสี่ยงนัก..รักมั้ยลุง ในช่วงเริ่มต้นและกลางเรื่องคือว่าเนื้อเรื่อดำเนินไปอย่างเรื่อย ๆ ชัยมีไกด์นำเที่ยวเป็นน้ำหวานและเพื่อน ๆ ชัยไปตามสถานที่ตาม ๆ ที่หมุนรูบิคได้เหมือนกับว่าเป็นการไขปริศนา เรื่องราวก็จะมีเกี่ยวกับการไปเที่ยวต่าง ๆ และบรรยากาศของทางภาคเหนือ มีการนำการแรปเข้ามาในส่วนของการดำเนินเรื่องราวเพื่อสร้างสีสันให้กับเรื่อง ฮาร์ทบีท เสี่ยงนัก..รักมั้ยลุง ในช่วงท้ายเรื่องจุดพีคก็ได้บังเกิด เมื่อน้ำหวานและชัยได้ทราบว่าหัวใจที่อยู่ในร่างกายของน้ำหวาน คือ หัวใจของแฟนเก่าชัยที่เสียชีวิตไปแล้ว ชัยทำตัวไปถูกว่ารู้สึกชอบหรือรักใคร เกิดอาการไม่รู้หัวใจตัวเอง หนีกลับกรุงเทพไป น้ำหวานเมื่อทราบว่าชัยไปหนีตัวเองไปอาการเกี่ยวกับหัวใจก็กำเริบต้องส่งเข้าโรงพยาบาล เมื่อออกจากโรงพยาบาลน้ำหวานก็ได้ขอแม่ ไปเที่ยวเวียดนามคนเดียว ในขณะที่ชัยมาตามหาน้ำหวานเพราะรู้หัวใจตัวเองแล้วว่ารักใคร ชัยตามน้ำหวานไปที่เวียดนาม ทั้งคู่คาดกันในทุก ๆ สถานที่ จนชัยตัดสินใจไลฟ์สดเพื่อตามหาและบอกความรู้สึก ในที่สุดทั้งคู่ก็พบกับ และสานความสัมพันธ์ต่อ เป็นอันจบเรื่อง ถือว่าเรื่ง ฮาร์ทบีท เสี่ยงนัก..รักมั้ยลุง เป็นหนังที่มีความน่าสนใจใครที่ชอบดูหนังรัก ว่าง ๆ ก็ลองหาดูได้ เบาสมองไม่ต้องคิดอะไรเยอะ แอดแนะนำเลยเนื่องจาหนังก็มีองค์ประกอบที่ดีทั้งสถานที่ถ่ายทำ ภาพ สี เสียงต่าง ๆ ถือว่าดึงดูดให้เราอยากดูได้ในระดับที่น่าพอใจเลยทีเดียว ติดตามการรีวิวหนังและติดตามการรีวิวหนัง ดิว ไปด้วยกันนะ หนังในยุคเก่าที่พาเราดำดิ่งสู่ความรักที่เป็นไปไม่ได้

รีวิวหนัง ดิว ไปด้วยกันนะ หนังในยุคเก่าที่พาเราดำดิ่งสู่ความรักที่เป็นไปไม่ได้

ดิว ไปด้วยกันนะ

เชื่อว่าหลายคนที่ชอบดูหนังเกี่ยวกับความรัก ทั้งในเรื่องของความรักที่มีความต่างเพศ ต่างในเรื่องของอายุ และความรักข้ามภพ ที่ถึงแม่ว่าตัวจะต้องตายจากกันโชคชะตาก็ทำให้ทั้งสองกลับมาพบกันได้อีกแบบนี้ วันนี้แอดอยากที่จะมารีวิวหนัง ดิว ไปด้วยกันนะ หนังในยุคเก่าที่พาเราดำดิ่งสู่ความรักที่เป็นไปไม่ได้ หนังที่พาเรากลับไปยังความรักในแบบฉบับ 90 ดิว ไปด้วยกันนะ เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นที่ ปางน้อย ดิว เด็กผู้ชายหน้าตาหน้ารักที่เพิ่งย้ายเข้ามาเรียนในโรงเรียน โดยที่ไม่มีใครรู้จักและไม่มีเพื่อน จนได้มาพบกับหนุ่ม ภพ ที่ทักทายก่อน ทั้งคู่สามารถเข้ากันได้ดีในเรื่องต่าง ๆ ความสัมพันธ์พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว แต่ด้วยความรักในแบบชายรักชาย ยุคก็ยังไม่ได้เป็นที่ยอมรับของสังคมสักเท่าไหร่ ทั้งคู่พยายามที่จะหนีไปด้วยกับแต่ด้วยเรื่องความสัมพันธ์ภายในครอบครัวทำให้ ดิว ไม่สามารถทิ้งแม่ให้อยู่คนเดียวได้ เนื่องจากดิวและแม่อยู่ด้วยกัน 2 คน ซึ่งเกิดเรื่องราวมากมายที่แอดบอกเลยว่าน้ำตาซึมสำหรับคนที่มีความอ่อนไหวในเรื่องของความรัก ช่วงกลางเรื่องของหนัง ดิว ไปด้วยกันนะ ในคืนที่ตั้งใจจะกันหนีแต่ดิวมาเจอกับแม่ก่อน แม่ได้ขอร้องให้ดิวไม่ทิ้งแม่ไปได้ไหม ในคืนนั้นคืนเดียวกันที่ภพตัดสินใจแล้วว่าจะหนีถึงแม้ว่าต้องไปคนเดียวก็ตาม ดิวได้พยายามที่จะขับรถมอเตอร์ไซค์ไปที่สถานีรถไฟด้วยความที่ขับรถไม่เป็นทำให้เกิดอุบัติเหตุ จนดิวเสียชีวิตในคืนที่ภพหนีไป ซึ่งภพเองก็ไม่ทราบ ดิว ไปด้วยกันนะ ในช่วงที่ดิวเกิดใหม่เป็นหลิน ภพตัดสินใจที่จะกลับมาที่ปางน้อยก็ได้รับรู้ความจริงว่า ดิว ได้ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตในคืนที่ภพหนีไป ตัวภพเองเสียใจ จนเวลาผ่าน ไม่รู้ว่าโชคชะตาเล่นตลกอะไรกับเค้า ทำให้เค้าได้เจอกับ หลิน หญิงสาวที่เกเรไม่ชอบเข้าเรียนและไปมั่วสุมอยู่กับรุ่นพี่ ทำให้ภพที่เมื่อเวลาผ่านไปก็มาเป็นครูที่ปางน้อย ต้องมาไร่ตาม มีเหตุการณ์ที่คูภพช่วยหลินไปแข่งความสามารถเกี่ยวกับวิชาการ ในเวลาของการซึ่งซ้อมและการไปแข่ง มีช่วงเวลาที่ทำให้ครูภพและหลิวมีเวลาพูดคุยกัน เรื่องราวต่าง ๆ ทำให้ภพรู้สึกว่าคุ้นกับหลิน เหมือนกับว่าหลินมีความคล้ายดิวมาก แทบจะเป็นคนเดียวกัน จนความจริงหลาย ๆ ก็ได้เฉลยพร้อมกับความจำของหลิน ว่าหลินคือดิวเมื่อชาติก่อน และมีความผูกพันกับภพอยู่มากเช่นกัน ซึ่งก็มีคลิปที่ปล่อยออกมาเป็นภาพหลินกับครูภพกอดกันในห้องหอพักของหลิน เมื่อตอนที่พบความจริงว่าหลินคือดิว หลุดออกไป ภพเลิกกับภรรยา และโดนสังคงวิพาวิจารต่าง ๆ นานา หลินและภพจับมือกันนั่งรถไฟไปที่สถานที่ต่าง ๆ เพื่อเก็บเกี่ยวความทรงจำ ก่อนที่จะไปในที่สุดท้ายคือ โดดบันจี้จั๊มป์ เพื่อเป็นการฆ่าตัวตายด้วยประโยคที่หลินถามว่า ข้างล่างนั่นไม่ใช่จุดจบใช่ไหม ติดตามการรีวิวหนังและติดตามการรีวิวภาพยนตร์ Tag เล่นเกมตลอด 30 ปีกับแรงบันดาลใจที่มาจากเรื่องจริง

รีวิวภาพยนตร์ Tag เล่นเกมตลอด 30 ปีกับแรงบันดาลใจที่มาจากเรื่องจริง

Tag

ในวัยเด็กคุณเคยมีเพื่อนที่เล่นด้วยกันมากถึงกี่คน? และในปัจจุบันเพื่อนในวัยเด็กของคุณยังเป็นเพื่อนคุณอยู่หรือเปล่า? หรือกลายเป็นเพียงคนแปลกหน้า ภาพยนตร์เรื่อง Tag จะทำให้คุณหวนคำนึงถึงเพื่อนวัยเด็กที่เล่นด้วยกันมาอย่างสนุกสนาน และในปัจจุบันพวกเขายังเล่นเกมแปะโป้งด้วยกันมามากกว่า 30 ปี ภาพยนตร์เรื่อง Tag เป็นหนังแนวคอมเมดี้ ที่นอกจากหนังจะนำเสนอเรื่องราวความตลกสุดแสบของแก๊งเพื่อนชายทั้ง 5 คนแล้วนั้น หนังยังได้แฝงข้อคิดดี ๆ ที่คุณคาดไม่ถึง หรือคุณอาจลืมที่จะนึกถึงมันไว้ได้อย่างดีเยี่ยมอีกด้วย ซึ่งหนังเรื่อง Tag ได้แรงบันดาลใจจากเรื่องจริงของกลุ่มชายวัย 30 กว่า ที่พวกเขาทั้งหมดนั้นเป็นเพื่อนเล่นด้วยกันในสมัยเด็ก และเกมยอดฮิตของเด็ก ๆ ในยุคที่ยังไม่มีสมาร์โฟนนั้นคงหนีไม่พ้นการเล่น แปะโป้ง เป็นแน่ โดยที่ในปัจจุบันพวกเขานั้นเติบโตและมีหน้าที่การงานที่มั่นคง แต่ในทุก ๆ เดือนพฤษภาคม พวกเขาได้นัดกันเล่นแปะโป้งในรูปแบบที่โตขึ้น มีลีลามากขึ้น และมีกลยุทธ์ที่แพรวพราวเพิ่มขึ้นอีกด้วย ถึงแม้ว่าหนังเรื่อง Tag จะเป็นภาพยนตร์ตลกที่มอบเสียงหัวเราะ และคลายเครียดได้อย่างดีเยี่ยม แต่แท้จริงแล้วถ้าผู้ชมได้รับชมหนังเรื่องนี้จบแล้วนั้น คุณจะทราบได้ถึงข้อคิด หรือการสะท้อนเรื่องราวการใช้ชีวิตของผู้คนทั่วไปได้อย่างดีเยี่ยม จากตัวหนังจะเห็นได้ว่า ถึงแม้ว่าพวกเขาจนโตจนมีหน้าที่การงาน หรือมีเรื่องราวให้คอยคิด และแก้ปัญหาในการใช้ชีวิตอยู่ตลอดนั้น พวกเขาก็ยังไม่ลืมถึงความสุขในวัยเด็ก ที่พวกเขาสามารถหาได้ง่าย ๆ จากการละเล่นในวัยเด็กของกลุ่มเพื่อนที่เข้าใจกัน และจริงใจต่อกันนั่นเอง และตัวหนังยังสะท้อนทำให้เราย้อนกลับมาคิดว่า เพราะอะไรผู้คนส่วนใหญ่ถึงละทิ้งความสุขที่สามารถหาได้ง่าย ๆ เหมือนอย่างการเล่นกับกลุ่มเพื่อนในวัยเด็ก ซึ่งนั้นอาจเป็นเพราะเมื่อเราโตมา เรามีหน้าที่การงานที่แสนจะเคร่งเครียด หรือเราหมกมุ่นกับการใช้ชีวิตที่สุดแสนจะกดดันมากเกิดไป จนทำให้เรานั้นลืมที่จะนึกถึงการมีความสุขง่าย ๆ จากการเล่นกับเพื่อนในวัยเด็กนั่นเอง โดยเราสามารถนำแรงบันดาลใจจากภาพยนตร์เรื่อง Tag ที่สร้างจากชีวิตจริงของแก๊งเพื่อนชายนี้ไปปรับใช้ในชีวิตได้เช่นกันอีกด้วย ติดตามการรีวิวหนังและเราขอแนะนำหนัง Into the wild เรื่องหดหู่ที่สร้างแรงบันดาลใจ

Low season สุขสันต์วันโสด หนังที่พาคุณไปสัมผัสบรรยายดี ๆ พร้อมรักครั้งใหม่

Low season สุขสันต์วันโสด

ว่าด้วยเรื่องของหนังที่กำลังเป็นกระแสในช่วงนี้ใครที่กำลังมองหาหนังที่ค่อนข้างเบาสมอง ไม่ต้องคิดอะไรมาก แถมยังได้ชมบรรยากาศที่สวยงามของทางภาคเหนือ สไตล์หนังมีความเป็นคอมเมดี้ เรียกรอยยิ้มและเสียงหัวเราะได้แน่นอน ซึ่งวันนี้แอดอยากที่จะมารีวิวหนัง Low season สุขสันต์วันโสด หนังที่พาคุณไปสัมผัสบรรยายดี ๆ พร้อมรักครั้งใหม่ที่ไม่คิดว่าจะได้พบ Low season สุขสันต์วันโสด เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับหลิว รับบทโดย พลอยไพลิน ตั้งประภาพร สาวสวยที่เห็นผีจนต้องเลิกกับแฟนหนุ่มที่กำลังเป็นดาราดัง เมื่ออกหักได้ทำความเข้าใจกับตัวเองและได้ข้อสรุปว่าเริ่มที่ไหนก็ต้องจบที่นั้น จึงพาเอาร่างกายและหัวใจพัง ๆ มาที่จุดเริ่มต้นของความรักระหว่างรุ่นพี่ดาราดังที่กิ้วแม่ปาน ในการเดินทางเพื่อจบอดีตเธอก็ได้พบกับเพื่อนร่วมทางอย่างหนุ่ม พุทธ นักเขียนอินดี้ที่ใจพังจากผู้กำกับหนังที่พุทธได้เขียนให้จนได้รับรางวัล พุทธจึงเปลี่ยนแนวในการเขียนเป็นเขียนหนังผี ซึ่งออกเดินทางตามหาแรงบันดาลใจจากคนที่เห็นผีอย่าง พี่จเร รับบทโดย เปิ้ล นาคร และในหนังเรื่องLow season สุขสันต์วันโสด หนังจากที่ทั้งพุทธและหลินได้พบเจอกับพี่จเร ก็เริ่มมีเหตุการณ์แปลก ๆ เกิดขึ้นซึ่งหลินหญิงสาวที่สามารถเหตุผีได้ ก็ได้พบความจริงสุดลึกลับว่าพี่จเรได้เสียชีวิตแล้วเป็นผี พยายามจะบอกพุทธอยู่หลายรอบและพุทธก็ไม่เชื่อและได้พูดคุยกับพี่จเรอย่างสนุกสนานแต่คนที่หลอนและไม่สนุกด้วยคือหลิน หลินจึงตัดสินใจบอกพุทธว่าปวดฉี่อยากเข้าห้องน้ำ ให้พุทธพาหลินไปหน่อย ได้จังหวะนี้พยายามที่จะบอกพุทธแต่พี่จเรก็โผล่มาซะก่อน ทั้งสามได้เดินไปดูทุ่งข้าวที่เหลืองอร่ามของพี่จเร ซึ่งพี่จเรได้สั่งเสียกับพุทธว่าให้ไปบอกชาวบ้านให้มาเกี่ยวไปบริจาคหรือไปทานเพราะอยากให้ผู้คนได้ทานข้าวดี ๆ ไม่มีสารพิษปนเปือน เมื่อคุยกับเสร็จก็พากกับขึ้นบ้านนอน ซึ่งพุทธก็ยังไม่ทราบว่าพี่จเรเสียชีวิตแล้ว ในตอนกลางเรื่องLow season สุขสันต์วันโสด เมื่อถึงตอนเช้าพุทธได้ตื่นนอนและมองหาหลินที่ไม่อยู่ ก็พยายามที่จะตามหาทุกที่แต่ไม่เจอ เปิดประตูไปที่โรงเก็บอุปกรณ์ของพี่จเรจึงได้พบศพพี่จเรที่เสียชีวิตแล้วทำเอาหนุ่มพุทธวิ่งป่าราบพอดีที่มาเจอกับหลิน และหลินก็ทำหน้าตาซะใจที่หนุ่มพุทธรู้สักทีจากที่พยายามบอกตั้งแต่เมื่อคืน หนุ่มพุทธโวยวาย แล้วโทษว่าหลินไม่ยอมบอก ทั้งคู่รีบออกจาบ้านพี่พี่จเร เพื่อที่จะกลับไปยังโฮมสเตย์ที่พักอยู่ แต่ก็เจอสัตว์ป่ามากมายที่ต้องหนี ทั้งปลิวต่าง ๆ หน่อยจึงที่กล้วยทานและเผลอหลับจนดึก เมื่อตื่นขึ้นในตอนมืดบรรยากาศเริ่มหน้ากลัวแต่โชคดีที่เจอเด็กชายมาเก็บหน่อไม้ จึงรอดมาได้ และได้ฝากฝังในเรื่องของพี่จเรให้เด็กน้อยไปบอกผู้ใหญ่ จากนั้นทั้งหลินและพุทธก็ได้กลับมาที่โฮมสเตย์อย่างปลอดภัย Low season สุขสันต์วันโสดในตอนท้ายเรื่อง ทั้งคู่เริ่มีการพัฒนาในเรื่องของความสัมพันธ์และเปิดใจให้กันมากขึ้น ทั้งคู่ไปเที่ยวด้วยกันและได้สร้างความทรงจำโดยที่พุทธได้ให้ของแทนใจกับหลินเป็นสร้อย จากนั้นทั้งคู่กลับมาที่โฮมสเตย์เจอกับเหล่าบรรดาคนพัง ๆ ซึ่งชวนกันดื่ม กลางดึกแฟนเก่าดาราดังของหลินก็ได้โทรมาบอกว่าอยากที่จะกลับมาเป็นเหมือนเดิม พุทธเศร้าและขับรถหนีไป และรุ่งเช้าหลินก็กลับกรุงเทพ มาพบกับแฟนเก่าจริง ๆ ซึ่งอาการเห็นผีของหลินก็ไม่เคยที่จะหายไป แฟนหนุ่มกลับคิดว่าหลินมีอาการทางจิตและบอกว่าจะพาไปรักษา เธอจึงรู้ได้ทันทีว่าเธอควรที่จะเลือกใคร และหลินได้เดินหนีกลับบ้านเลยทันที เมื่อเหตุการณ์ทั้งหมดผ่านไปหลินใช้ชีวิตปกติ จนถึงเทศกาลดนตรีที่จัดขึ้นที่โฮมสเตย์ที่เคยไปพัก หลินกลับไปที่นั้นอีกครั้งหวังจะได้เจอพุทธ และทั้งคู่ก็ได้พบกันจริง ๆ อีกครั้ง พร้อมกับเริ่มสานความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน แอดแนะนำเลยหนังLow season สุขสันต์วันโสด สามารถดูได้แบบเพลิน ๆ ไม่ต้องคิดอะไรมากและไม่หลักสมอง แถมยังได้ชมบรรยากาศสวย ๆ ของทางภาคเหนือถือว่าเป็นหนังที่ดีมากอีกเรื่องหนึ่งในปี 2020 เลยก็ว่าได้ ติดตามการรีวิวหนังและติดตามหนังแฟนเดย์แฟนกันแค่วันเดียวหนังรักหรือหนังโรแมนติก ของทางค่าย GDH

รีวิวหนังสะท้อนสังคม The Belko Experiment หนังไล่ฆ่าที่แฝงข้อคิดดี ๆ

The Belko Experiment

สำหรับภาพยนตร์สะท้อนสังคมแบบเลือดสาด หรือหนังไล่ฆ่าที่เรา ๆ เคยรับชมกันมานั้น ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นการนำเสนอเนื้อหาที่เน้นเรื่องความตื่นเต้น ความกดดัน และความลุ้นระทึก ที่จะทำให้ผู้ชมนั้นรู้สึกเอาใจช่วยเหล่าตัวละครในเรื่องเพียงเท่านั้น แต่นั้นยังไม่ทั้งหมดของหนังเรื่อง The Belko Experiment ที่นอกจากเป็นหนังแนวไล่ฆ่า ระทึกขวัญแล้วนั้น ตัวหนังยังได้แฝงข้อคิดที่สะท้อนการใช้ชีวิตของสังคมได้อย่างดีเยี่ยมอีกด้วย หนังสะท้อนสังคม The Belko Experiment เป็นหนังที่เล่าเรื่องราวของ ไมค์ พนักงานชาวอเมริกาที่มาทำงานอยู่ในบริษัทแห่งหนึ่งในโคลัมเบีย โดยที่บริษัทแห่งนี้จะรับพนักงานแค่คนอเมริกาเท่านั้น และในเช้าวันหนึ่งไมค์ได้มาทำงานปกติ แต่จู่ ๆ ก็มีประกาศจากทางบริษัทได้กล่าวว่า พนักงานทั้งหมดในบริษัทต้องทำการไล่ฆ่าเพื่อนร่วมงานทั้งหมด จนตนเองนั้นสามารถเหลือดรอดเป็นคนสุดท้ายได้ ถึงจะถูกปล่อยตัวออกไป และทางเข้าออกของบริษัทก็ได้ถูกปิดกั้นด้วยเหล็กหนาที่พวกเขาไม่สามารถหาทางออกได้ นอกจากการไล่ฆ่ากันเองเท่านั้น เรียกได้ว่าเป็นพล็อตเรื่องของหนังไล่ฆ่าโดยสมบูรณ์แบบ แต่หลังจากที่รับชมหนังสะท้อนสังคมเรื่อง The Belko Experiment จบแล้วนั้น คุณจะได้รับข้อคิดอย่างทันทีว่า แท้จริงแล้วหนังเรื่องนี้กำลังสะท้อนสังคมที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน อย่างการเป็นพนักงานในบริษัท ที่ตัวหนังนั้นจะนำเสนอให้เห็นถึง พนักงานบางคนที่ทำงานมานานจะคอยกดขี่พนักงานใหม่อยู่เสมอ หรืออย่างการให้ไล่ฆ่ากันเองที่สะท้อนให้เห็นถึงธาตุแท้ของเหล่าพนักงานบริษัทที่ยอมทำทุกอย่างเพื่อเป็นที่หนึ่ง แม้เขาจะต้องฆ่าเพื่อนร่วมงานที่สนิทกันก็ตาม ติดตามการรีวิวหนังมาใหม่และเราขอแนะนำหนัง The help หนังเสียดสีสังคม การเหยียดผิวที่แสนตลกร้าย

แนะนำหนัง The help หนังเสียดสีสังคม การเหยียดผิวที่แสนตลกร้าย

The help

ถ้ากล่าวถึงเรื่องราวการถูกเหยียดผิวของคนชาวผิวสีที่ผ่านมานั้น ต้องบอกเลยว่าไม่สามารถเรียบเรียงเหตุการณ์ได้หมดภายในบทความนี้เป็นแน่ เพราะเรื่องราวของการเหยียดผิว หรือเยียดชนชาตินั้นมีมาอย่างยาวนานหลายทศวรรษ และยิ่งในปัจจุบัน ถึงแม้ว่าเราจะก้าวเข้าสู่ยุค 2020 แล้วก็ตาม แต่เหตุการณ์สุดสะเทือนใจที่เกิดขึ้นเพราะการเหยียดผิวนั้นก็ยังคงให้มีเห็นได้อย่างไม่ขาดสาย จนต้องสร้าง The help หนังเสียดสีสังคมขึ้นมา สำหรับบทความนี้เราจึงขอนำเสนอภาพยนตร์ที่นอกจากสะท้อนสังคมและเป็นหนังเสียดสีสังคมของเรื่องราวการเหยียดผิวได้ดีแล้วนั้น ยังแฝงข้อคิดในการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันของประชากรโลกได้เป็นอย่างดี พร้อมการนำเสนอเนื้อหาของหนังที่แสนตลกร้าย ทำเอาผู้ชมนั่นเอนจอยกับหนังได้อย่างไม่กดดันอีกด้วย กับภาพยนตร์ที่มีชื่อว่า The help เป็นหนังที่ถูกฉายในปี 2011 โดยหนังเรื่องนี้ได้สร้างมาจากหนังสือขายดีตลอดกาลอย่าง The help ซึ่งมีชื่อเดียวกับหนังเรื่องนี้นั่นเอง โดยที่หนังเสียดสีสังคม เรื่อง The help นั้นเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในช่วงปี 1960 ถือว่าเป็นยุคที่ชาวผิวสีส่วนใหญ่นั้นยังเป็นได้แค่ทาส หรือคนรับใช้ของชาวผิวขาวเท่านั้น โดยตัวเอกคือสาวผิวขาวหัวสมัยใหม่ เธอเป็นนักเขียนคอลัมน์หนังสือ ที่เดินทางกลับมาบ้านเกิดในเมืองแห่งหนึ่ง และเธอก็ได้สนใจเขียนเรื่องราวของชาวผิวสี เพื่อที่จะสะท้อนสังคมให้ทุกคนได้ทราบ ถึงชีวิตที่ถูกกดขี้ ข่มเหง และโดนเยียบย่ำมาโดยตลอดของชาวผิวสีทุกคน โดยที่เธอต้องคอยรับมือกับปัญหาต่าง ๆ ในการตีพิมพ์เรื่องราวที่ชาวผิวขาวเกือบทั้งประเทศไม่ยอมรับอีกด้วย ภาพยนตร์เรื่อง The help นอกจากที่ตัวหนังเสียดสีสังคมจะสื่อเรื่องราวการถูกเหยียดผิวที่สุดจะสะเทือนใจแล้วนั้น ตัวหนังยังสามารถบอกเล่าเรื่องราวให้ออกมาในแนวเชิงเสียดสี และตลกร้ายได้อย่างดีเยี่ยม เรียกได้ว่าทำเอาคนดูสะใจไปตาม ๆ กัน แต่นั่นคงไม่ใช่จุดประสงค์ที่แท้จริงของหนังรางวัลออสการ์เรื่องนี้ เพราะเมื่อคุณได้รับชมหนังเรื่องนี้จบแล้วล่ะก็ ความคิดของคุณจะกลายเป็นคนได้อย่างแน่นอน ด้วยรูปแบบของหนังที่นอกจากจะสะท้อนสังคมให้เห็นในทุกแง่มุมแล้ว ข้อคิดต่าง ๆ ในหนังยังทำให้เรากลายเป็นบุคคลที่เห็นอกเห็นใจผู้อื่น หรืออย่างการเอาใจเขามาใส่ใจเราได้อย่างที่จริงอีกด้วย ติดตามการรีวิวหนังและติดตามการรีวิวหนังสุดโรแมนติก 365 DNI กับกระแสที่มาแรงที่สุดในตอนนี้