รีวิวหนัง The Grudge หนังสยองขวัญสุดสยองกับหนังผีคลาสสิค

รีวิวหนัง The Grudge

ในช่วงต้นปีที่มาได้มีการปล่อยตัวหนังเรื่อง The Grudge บ้านผีดุ ที่ทำการเข้าฉายในโรงเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ถึงแม้ว่ากระแสข่าวโควิดจะทำให้หนังเรื่องนี้นั้นเงียบ ๆ ไปและไม่ได้มีการกล่าวถึงกับมาเท่าไหร่ แต่สำหรับคอหนังผี, หนังสยองขวัญแล้วล่ะก็ หนังเรื่อง The Grudge นั้นถือว่าเป็นภาพยนตร์ที่สาวกหนังสยองขวัญนั้นรอคอยกันเลยทีเดียว ด้วยรูปแบบของหนังที่เล่าเนื้อเรื่องได้อย่างตรงไปตรงมา และได้แรงบรรดาลใจมาจากหนังผีสุดคลาสสิคอย่าง จูออน นั่นเอง สำหรับเนื้อเรื่องย่อของหนังเรื่องThe Grudge นั่นเริ่มจาก ปีเตอร์ นายหน้าขายบ้านที่ได้ทำการเข้าไปสำรวจบ้านหลังหนึ่ง ก่อนที่จะถูกนำไปขายทอดตลาด แต่เขากลับพบ ศพ ที่ร่างกายนั้นเปื่อยและเน่าเฟะอยู่ในอ่างน้ำภายในบ้านหลังนี้ ซึ่งนั้นทำให้ปีเตอร์ได้ทำการโทรแจ้งตำรวจ ซึ่งตำรวจที่ได้รับมอบหมายในงานนี้คือ มัลดูน ตำรวจสาวที่ต้องเข้ามาเกี่ยวพันกับเรื่องราวการตายของศพร่างนี้ และยิ่งเธอทำการสืบค้นเรื่องราวมากเท่าไหร่ เธอก็ต้องพบกับเรื่องราวสุดสยองขวัญมากเท่านั้น ไม่เพียงแต่ มัลดูน เท่านั้นที่ต้องพบเจอเหตุการณ์อันน่าสะพรึงกลัว แต่ ปีเตอร์ หรือผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อในคดี ก็ต้องประสบพบเจอกับเรื่องราวสุดสยองขวัญ หลอนประสาทไปตาม ๆ กัน ซึ่งหนังเรื่องThe Grudge นี้ได้ทีมผู้สร้างจากภาพยนตร์ชื่อดังอย่าง Don’t Breathe และ Evil Dead ที่รับประกับความสยองขวัญ รวมถึงเนื้อหาที่ทำให้ผู้ชมนั้นกดดัน และลุ้นไปตาม ๆ กัน โดยที่แท้จริงแล้วหนังเรื่องThe Grudge นั้นเป็นการรีเมคหนังจากเรื่อง Ju-On เป็นภาพยนตร์สยองขวัญของญี่ปุ่นที่ได้สร้างชื่อเสียงไว้อย่างมากมาย แต่สำหรับการนำกลับมาทำใหม่ของหนังเรื่องThe Grudge นั้นเนื้อหาจะถูกปรับให้เข้าใจง่ายมากขึ้น และจะเน้นในเรื่องของตัวละครผี ที่สุดสยอง และน่าสะพรึงกลัวเป็นที่สุด พร้อมฉากสะดุ้งกับตัวละครผีที่แสนน่าเกียดน่ากลัวอีกด้วย หลังจากประสบการณ์การรับชมThe Grudge จบแล้วนั้น หนังผีเรื่องนี้ไม่ได้เน้นความแปลกใหม่สักเท่าไหร่ แต่จะเน้นในเรื่องการโชว์ความคลาสสิคของหนังผีแบบยุคก่อน ที่จะมาพร้อมฉากสะดุ้งตุ้งแช่มากหน่อย และมีเนื้อเรื่องที่เข้าใจง่าย แต่โดยรวมแล้วทั้งมุมภาพ สีของหนัง และตัวละครต่าง ๆ นั้นได้สวมบทบาทได้อย่างดีเยี่ยม เรียกได้ว่า เหล่าคอหนังผี หรือสาวกหนังสยองขวัญไม่ควรพลาดชมหนังเรื่องThe Grudge ด้วยประการทั้งปวง ติดตามการรีวิวหนัง และ ติดตามหนังสุดโหดสุดสยองขวัญได้ที่นี่

หนังที่พ่อแม่ควรดูที่สุดต้องเป็นหนังต่างประเทศ เรื่อง Cruel Intentions 1999

หนังที่พ่อแม่ควรดูที่สุด

หนังที่พ่อแม่ควรดูที่สุดต้องเป็นหนังต่างประเทศ เรื่อง Cruel Intentions 1999วัยรุ่นเป็นวัยที่ไม่มีอะไรที่จะหยุดเขาได้ในบางเรื่อง เพราะด้วยวัยที่มีความคึกคะนองมีความอยากรู้อยากเห็น และเป็นวัยที่ไม่สามารถจะยับยั้งชั่งใจได้ ฉะนั้น วัยรุ่นจึงเป็นวัยที่พ่อแม่ควรให้ความใส่ใจมากที่สุด ซึ่งบางครั้งพฤติกรรมที่เราเห็นนั้นอาจจะไม่ใช่พฤติกรรมอีกด้านหนึ่งของเขาก็ได้ ฉะนั้น อยากให้พ่อแม่ได้สนใจเด็กๆที่อยู่ในช่วงวัยรุ่นมากขึ้น เลยขอแนะนำให้พ่อแม่ควรดูหนังต่างประเทศในเรื่อง Cruel Intentions 1999 Cruel Intentions 1999 เป็นหนังต่างประเทศที่จะทำให้พ่อแม่ได้รู้จักพฤติกรรมอีกหลายๆด้านที่ไม่รู้ อย่างเช่น การมีความคิดที่ไปในทางลบ มีการวางแผนพนันกันในเรื่องบางเรื่อง ซึ่งเรื่องที่พนันนั้นก็มีพฤติกรรมที่ไม่มีความเหมาะสมเลย เนื่องจากมีเรื่อง sex เข้ามาเกี่ยวข้อง หรือแม้แต่เรื่องของการใช้ยาเสพติดก็ตามเรื่องนี้ก็มีการกล่าวถึง ในหนังต่างประเทศ Cruel Intentions 1999 นี้ มีเนื้อหาของหนังที่ค่อนข้างรุนแรงทั้งภาพและเสียงที่สร้างความฮือฮาให้กับผู้ชมด้วยฉากที่มีความเผ็ดร้อนอย่างมาก แต่อย่างไรเสียเรื่องนี้ก็ถือว่าเป็นเรื่องหนึ่งที่จะทำให้พ่อแม่นั้นมีความคิดในการอบรมเลี้ยงดูที่เปลี่ยนแปลงไป เพราะวัยรุ่นยิ่งหากด่าหรือมีการทุบตีแล้วล่ะก็เขาก็จะยิ่งเตลิด และในหนังต่างประเทศ Cruel Intentions 1999 นี้ จุดจบของการที่มีพฤติกรรมที่แย่ๆนั้นก็ไม่ได้ทำให้ชีวิตมีความสุขเลย กลับทำให้มีการสูญเสียเพิ่มมากขึ้น เพราะเราจะเห็นได้ว่าพี่น้องหญิงชายในเรื่องที่เป็นพี่น้องต่างพ่อต่างแม่นั้นได้ทำการพนันกันเกี่ยวกับเรื่องรถ ซึ่งเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม โดยเงื่อนไขของการพนันนั้นก็มีเรื่อง sex เข้ามาเกี่ยวข้องก็ยิ่งไม่เหมาะสมไปกันใหญ่ ฉะนั้น พฤติกรรมของตัวละครในหนังต่างประเทศ Cruel Intentions 1999 นี้ เป็นพฤติกรรมแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น แต่พฤติกรรมดังกล่าวก็ทำให้จุดจบของเรื่องไปอยู่ที่การโดนจับกุมและความตาย ตัวอย่างหนังต่างประเทศ เรื่อง Cruel Intentions 1999 ติดตามการรีวิวหนัง filmograd.net และ ติดตามหนังต่างประเทศได้อีกที่นี่

หนังที่ความรักมาพร้อมๆกับชื่อเสียงและสุดแสนจะเศร้า คือ เรื่อง A Star Is Born

หนังความรักA Star Is Born

หนังต่างประเทศที่ความรักมาพร้อมๆกับชื่อเสียงและสุดแสนจะเศร้า คือ เรื่อง A Star Is Born ความรักของคนที่มีชื่อเสียงที่บางครั้งอาจจะทำให้ความรักนั้นเกิดความสั่นคลอนได้เมื่อชื่อเสียงเข้ามาคลืบคลาน ซึ่งหนังต่างประเทศที่จะกล่าวถึงนั้น ก็คือ A Star Is Born เป็นเรื่องที่มีความอบอุ่นใจในความสัมพันธ์ที่มีเสียงเพลงเข้ามาเป็นตัวประสานในการดำเนินเรื่อง ในหนังต่างประเทศ เรื่อง A Star Is Born นี้ เริ่มต้นด้วยความรักที่แสนจะหดหู่ของนางเอกที่จะต้องบอกเลิกกับแฟนด้วยอาชีพและทัศนคติที่ไม่เหมาะสมกัน และในส่วนของพระเอกนั้นเป็นคนที่มีชื่อเสียงทางด้านดนตรี ใช่แล้ว เขาคือ นักดนตรี แต่ด้วยพฤติกรรมส่วนตัวที่เขาจะเป็นคนติดเหล้าอย่างหนักจึงทำให้ผลงานในการร้องเพลงของเขาทำได้ไม่ดีนัก และแล้วพระเอกก็ได้เจอกับนางเอกเมื่อเขาได้เขาไปในบาร์ของสาวสองแห่งหนึ่งที่นางเอกทำงานพิเศษในการร้องเพลงกลางคืนทำให้เขาได้สานสัมพันธ์กับนางเอกได้อย่างอบอุ่นใจด้วยการช่วยดึงคิ้วที่นางเอกได้แปะในการแต่งหน้าไว้ ฉากนี้ในเรื่อง A Star Is Born เป็นฉากที่มีความโรแมนติกมากๆเลยเมื่อเปรียบเทียบกับหนังต่างประเทศเรื่องอื่นแล้ว หนังต่างประเทศเรื่อง A Star Is Born นี้ ยังมีอีกหลายๆฉากที่คุณจะเห็นได้ว่าเมื่อนางเอกเริ่มมีการร้องเพลงร่วมกับพระเอกในคอนเสิร์ตต่างๆในทุกๆที่และความสัมพันธ์ของคนทั้งสองก็เริ่มก่อตัวมากยิ่งขึ้น ทำให้เอเจนซี่แห่งค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ได้มองเห็นถึงศักยภาพของนางเอกจึงชวนให้ไปร้องเพลงและเซ็นสัญญาแต่ด้วยการที่นางเอกเริ่มมีชื่อเสียงด้วยตนเองก็ยิ่งทำให้พระเอกรู้สึกหวั่นใจกับสิ่งที่นางเอกทำเพราะเขามองว่ามันไม่ใช่เป็นตัวตนของนางเอกเลย และหนังต่างประเทศในเรื่อง A Star Is Born ได้มีการดำเนินมาถึงจุดที่จะต้องเลือกระหว่างความรักกับชื่อเสียงที่ได้รับจนทำให้พระเอกตัดสินใจในสิ่งที่จะทำให้นางเอกจะไม่ได้พบกับเขาไปตลอดกาลและเหลือไว้เพียงแค่ความทรงจำเท่านั้น ฉะนั้น เพลงต่างๆที่ปรากฏในเรื่องนี้จึงสามารถที่จะบ่งบอความรู้สึกของคนทั้งสองได้เป็นอย่างดี ติดตามการรีวิวหนัง filmograd.net และ ติดตามหนังต่างประเทศได้ที่นี่

The Herd คือ หนังต่างประเทศที่บอกถึงความโหดของเครื่องสำอางค์เอาไว้

หนังต่างประเทศ The Herd

การทำเครื่องสำอางในยุคปัจจุบันเรามักจะเห็นว่ามีส่วนผสมที่ไม่ได้มาจากของจริงๆเพราะด้วยส่วนผสมที่หายาก ฉะนั้น จะออกมาในรูปแบบของการสกัดมากกว่า ซึ่งส่วนผสมในเครื่องสำอางที่ใส่ลงไปเพื่อบำรุงให้ผิวพรรณของสาวๆมีความสวยงามนั้นก็ไม่ได้มีที่มาที่มีความสวยหรูสักเท่าไหร่ ทำไมเราถึงกล่าวเช่นนี้ เพราะว่าคุณสามารถดูตัวอย่างของการผลิตเครื่องสำอางในหนังต่างประเทศ เรื่อง The Herd แล้วคุณจะเข้าใจ The Herd เป็นหนังต่างประเทศที่เป็นของประเทศอังกฤษ เป็นเรื่องหนึ่งที่บ่งบอกได้เลยว่ากว่าจะได้ส่วนผสมของเครื่องสำอางนั้น บางครั้งก็ต้องแลกกับชีวิตของมนุษย์เลยทีเดียว แต่ว่าปัจจุบันจะมีการกระทำอย่างในหนังเรื่องนี้หรือไม่เราก็ไม่อาจรู้ได้ โดยหนังเรื่องนี้เป็นการกักขังผู้หญิงไว้ในชั้นใต้ดินแห่งหนึ่งกักขังไว้ก็เพื่อที่จะต้องการน้ำนมในตัวผู้หญิงเพื่อใช้ในการผลิตเครื่องสำอางนั่นเอง เพียงแค่เกริ่นหนังต่างประเทศ The Herd เพียงเท่านี้ คุณก็สามารถที่จะนึกภาพออกได้เลยว่าผู้หญิงในเรื่องนั้นคงไม่มีทางที่จะยินยอมให้ใช้ร่างกายมาเป็นเครื่องมือในการทำสิ่งใดๆอย่างแน่นอน แต่ด้วยสถานการณ์ที่บีบบังคับจึงทำให้พวกเธอไม่มีทางเลือก แม้จะขัดขืนแต่ในเรื่องนั้นมีคนที่คอยควบคุมอยู่จึงทำให้พวกเธอไม่สามารถที่จะหนีออกมาได้ ในหนังต่างประเทศเรื่อง The Herd เป็นการกักขังพวกเธอที่มีลักษณะไม่ต่างจากสัตว์ เพราะมีการใช้กรงในการกักขังพวกเธอ และเมื่อผู้ที่ทำการควบคุมต้องการใช้งานพวกเธอก็จะทำการฉีดน้ำเชื้ออสุจิเข้าไปในร่างกายของพวกเธอ และรอให้พวกเธอตั้งครรภ์จนถึงเวลาที่คลอดจากนั้นเมื่อคลอดเสร็จผู้ที่ทำการควบคุมก็จะทิ้งทารกลงในถังขยะทันทีราวกับว่าทารกนั้นไม่มีชีวิต จากนั้นก็พาพวกเธอไปรีดนมเพื่อนำนมจากเต้าของสาวๆไปใช้เป็นส่วนผสมในเครื่องสำอางค์ หนังต่างประเทศ The Herd เรื่องนี้เป็นหนังที่มีความกระตุกขวัญเป็นอย่างมากด้วยเสียงกรีดร้องของเหล่าบรรดาผู้หญิงที่ถูกกักขังหนำซ้ำยังกระทำการดูแลที่ไม่ดี ฉะนั้น จึงถือได้ว่าเป็นเรื่องที่เป็นอุทาหรณ์อย่างดีสำหรับคนที่ชอบใช้เครื่องสำอางค์ ติดตามการรีวิวหนัง หนังต่างประเทศ และ แนวสยองขวัญ ได้ที่นี่เลย

รีวิวหนังสุดโหด สุดสยอง เดนนรกต้องตาย I spit on your gave

รีวิวหนังสุดโหด สุดสยอง แดนนรกต้องตาย

หนังเรื่องนี้มีชื่อไทยว่า เดนนรกต้องตาย ซึ่งเนื้อหาของหนังบอกได้เลยว่า โหด ป่าเถื่อน ดิบ สะใจ ผู้ชมเป็นอย่างแน่นอน เพราะเป็นเรื่องราวของการแก้แค้นของผู้หญิงคนหนึ่งที่ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ทารุนกรรม ขืนใจเธออย่างโหดร้าย ซึ่งหนังเรื่องนี้ได้ถูกนำรีเมคใหม่จากหนังชื่อเรื่องเดียวกันในปี 1978 ที่ทำไว้ได้ดีมากเช่นกัน จนในปี 2010 เดนนรกต้องตาย ได้ถูกเปิดตัวใหม่อีกครั้ง ในเวอร์ชั่นที่โหด เถื่อน สาแก่ใจผู้ชมที่ชอบหนังแนวนี้เป็นเยี่ยงนัก เดนนรกต้องตาย มีถึง 3 ภาค ต้องดู!! ภาพยนตร์เรื่อง เดนนรกต้องตาย นั้นถูกสร้างขึ้นมาถึง 3 ภาคด้วยกัน ซึ่งไม่ได้เป็นเรื่องราวต่อเนื่องกันแต่อย่างใด แต่เนื้อหาหลักของหนังได้นำเสนอในรูปแบบเดียวกันคือ การที่หญิงสาวคนหนึ่ง ได้ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ รุมข่มขืน และทารุนกรรม และส่วนใหญ่จะจบด้วยการฆ่า แต่ด้วยความอึดของพลังหญิงสาว จึงทำให้เธอนั้นสามารถกลับมาแก้แค้น กลุ่มหนุ่มฉกรรจ์ที่ได้ทารุนกรรมเธอ ให้โหดกว่าที่พวกเขาเคยทำกับเธอ ไม่ว่าจะเป็นการขึงตัวผู้ชายให้นกมาจิกตา หรือการจับคนที่กระทำกับเธอมาขึงบนโต๊ะและใช้เครื่องบีบอวัยวะเพศให้ฉีกขาดออกมา โดยที่ในแต่ล่ะภาคนั้นจะมีรูปแบบการแก้แค้นที่ไม่เหมือนกัน รวมถึงการดำเนินเรื่องที่แตกต่างกันไปทั้ง 3 ภาค เรียกได้ว่าเป็นการสะท้อนสังคมที่ดี ที่ผู้หญิงหลาย ๆ คนที่เคยเจอการข่มขืน หรือทารุนกรรมมาในหลากหลายรูปแบบเช่นเดียวกัน หลังจากดูจบแล้วบอกได้เลยว่า สำหรับผู้หญิงที่รับชมหลาย ๆ ท่านคงสะใจกลับการนำเสนอเรื่องราวของหนังเรื่องนี้เป็นอย่างมาก แต่ก็ถือว่าเป็นการแก้แค้นที่เกินความพอดีไปหน่อย เพราะมันทั้งป่าเถือน โหด ดิบ และสะแก่ใจเป็นอย่างมาก สำหรับผู้ที่ชอบหนังแนวนี้บอกได้คำเดียวว่าไม่ควรพลาด และหนังเรื่อง เดนนรกต้องตาย ที่มีถึง 3 ภาคให้ดูกันอย่างจุใจไปเลย ติดตามรีวิวภาพยนตร์ต่างประเทศ และ ภาพยนตร์แนวไล่ฆ่าแบบป่าเถื่อน ได้ที่นี่

รีวิวหนัง captain phillips ฝ่านาทีพิฆาต โจรสลัดระทึกโลก

Captain Phillips

เรื่องราวที่ถูกนำมถ่ายทอดเป็นภาพยนตร์ที่สร้างขึ้นจากเรื่องจริงที่เกิดขึ้นของ Captain Phillips เรื่องราวของกัปตันผู้โด่งดัง ในขณะที่เขาเดินเรือสินค้าไปในท้องทะเลไปส่งยังเป้าหมาย เขาได้แล่นเรือผ่านน่านน้ำโซมาเรีย น่านน้ำที่ไม่ว่านักเดินเรือคนไหนก็ต่างรู้ดีว่าเป็นสถานที่ที่อันตรายที่สุดเพราะน่านน้ำโซมาเรียเต็มไปด้วยโจรสลัดที่ประเทศยากจนอย่างโซมาเรียยึดครองอยู่ เรือลำใดที่ต้องการผ่านน่านน้ำนี้มักจะมักต้องจ้างเรือรบของทหารหรือทหารรับจ้างคอยคุ้มครองเรือทุกลำ แต่ว่าเรือขนสินค้าของ Captain Phillips ไม่มีแม้แต่การอารักขาใดๆ จนกระทั่งเขาต้องเดินทางผ่านน่านน้ำที่ขึ้นชื่อว่ามีโจรสลัดชุกชุม เขารู้ดีว่าจะต้องพบเจอกับอะไรเขาจึงออกคำสั่งให้ลูกเรือเตรียมตัวรับมือไว้ให้ดีตามแผนการปฏิบัติที่ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี เขาเร่งความเร็วเรือเพื่อให้ผ่านน่านน้ำนี้ไปให้ไวที่สุด แต่แล้วจู่ๆสิ่งที่เขาไม่อยากให้เกิดขึ้นก็ปรากฏ สิ่งที่เขาเห็นนั่นก็คือเรือประมงลำเล็กที่มีคนผิวสีติดอาวุธขับตามเรือสินค้ามาด้วยความเร็ว เราจึงพยามใช้กลยุทธ์ที่เขาพอจะทำได้เพื่อหลบเลี่ยง ทั้งการโยกเรือเพื่อให้เกิดคลื่นน้ำให้ให้เรือเล็กที่ตามเสียการควบคุมและยากต่อการประกบเรือ อีกทั้งยังฉีดพ้นน้ำบริเวณโดยรอบลำเรือเพื่อไม่ให้เรือโจรสลัดสามารถปีนขึ้นมาได้ แต่ก็ไม่เป็นผล เพราะคนบนเรือสินค้าไม่มีอาวุธใดเลยที่จะต่อสู้ Captain Phillips จึงต้องจำใจยอมปล่อยให้กลุ่มโจรสลัดขึ้นเรือมาได้ โจรสลัดโซมาเรียจึงจับทุกคนเป็นตัวประกัน พวกเขาได้เรียกร้องให้ลูกเรือติดต่อกลับไปยังรัฐบาลหรือบริษัทของตน เพื่อแลกกับค่าไถ่ ท่ามกลางความตื่นกลัวของลูกเรือ Captain Phillips จึงเสนอให้ปล่อยทุกคนไปแล้วจับเขาไว้เป็นตัวประกันเพียงคนเดียว โดยให้เหตุผลว่าเขาคือคนสำคัญที่สุดในเรือลำนี้และอาจมีอำนาจต่อรองเงินประกันได้มากกว่าคนอื่นๆรวมถึงสินค้าทั้งหมดบนเรือ โจรสลัดจึงนำตัว Captain Phillips ลงเรือฉุกเฉินของเรือและลอยอยู่กลางทะเล ระหว่างนั้นเขาใกล้ชิดกับกลุ่มโจรสลัดจนความกลัวกลายเป็นความรู้สึกสงสาร แต่ฉากสุดท้ายเจ้าหน้าที่จำเป็นต้องปิดชีพพวกเขาทั้งหมด  ติดตามข่าวสารเพิ่มเติม เว็บไซต์ที่คัดสรรความบรรเทิงมาให้แบบครบครันทั้งหนังไทย หนังต่างประเทศ หนัง Netflix และซีรีย์ต่างๆ 3 หนังสุดสะเทือนใจที่ สร้างจากเรื่องจริง หนังที่คุณไม่ควรพลาด แนะนำซีรี่ส์ Netflix สายดาร์ค นี่มันพระเอก หรือตัวร้ายกันแน่!

3 หนังสุดสะเทือนใจที่ สร้างจากเรื่องจริง หนังที่คุณไม่ควรพลาด

สร้างจากเรื่องจริง

อยากที่หลาย ๆ ท่านนั้นทราบดีว่าภาพยนตร์ส่วนใหญ่นั้น เป็นเพียงการเขียนบทและเรื่องราวขึ้นมา เพื่อความสนุกและความบันเทิง แต่ก็ยังมีภาพยนตร์อีกมากที่ สร้างจากเรื่องจริง แต่สำหรับบทความนี้เราจะขอนำเสนอภาพยนตร์ที่สร้างจากพื้นฐานของเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริง ซึ่งแต่ล่ะเรื่องนั้นสุดแสนที่จะสะเทือนใจจนไม่อยากคิดว่ามันเคยเกิดขึ้นจริง 1. 127 hours   เป็นภาพยนตร์การเอาตัวรอด ที่นำเสนอเรื่องราวจริงของชีวิต Aron Ralston นักปีนเขาสุดเก่ง ที่พลาดท่าพลัดตกลงไปในร่องถูเขาหิน ทำให้ร่างกลายของเขานั้นบาดเจ็บและติดคาอยู่กับก้อนหินใหญ่ ในร่องภูเขาอันห่างไกล เขานั้นติดอยู่ตรงนั้นเพียงลำพังเป็นเวลา 127 ชั่วโมง เรื่องราวของหนังได้นำเสนอถึงความกดดัน การเอาชีวิตรอด และความหวัง รวมถึงเรื่องราวในอดีตของตัวละครหลัก ได้อย่างสะเทือนใจ เมื่อคิดว่าเหตุการณ์นี้สร้างจากเรื่องจริง ที่เกิดขึ้นกับคน ๆ หนึ่ง127 hours Movie trailer 2. The 33 ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ สร้างจากเรื่องจริง ที่เกิดขึ้นของคนงานเมือง ในประเทศชิลี เรื่องราวนั้นเกิดขึ้นเมื่อเมืองทองแดงที่มีอายุเก่าเกือบ 100 ปี ได้ถล่มลงและปิดทางเข้าออกของคนงานเมือง ทั้ง 33 ชีวิต ต้องพยายามหาวิธีที่จะติดต่อกับคนภายนอก ซึ่งเมืองนี้มีความลึกเสมือนตึก 200 ชั้น โดยภาพยนตร์นั้นได้ถ่ายทอดเรื่องราผ่านตัวคนงานในเมืองได้อย่างลึกซึ้ง พร้อมกับเรื่องราวของญาติคนงานเมืองที่สุดแสนสะเทือนใจ ถือว่าเป็นภาพยนตร์ที่น่าติดตาม และคอยลุ้นไปกับพวกเขาทั้ง 33 คน The 33 Movie trailer 3. American sniper ภาพยนตร์เรื่องนี้ เรียกได้ว่าถูกยกขึ้นหิ้งให้เป็นตำนาน โดยเนื้อหานั้นได้ถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตของ คริส ไคล์ นายผลนักแม่นปืนของหน่อยซีล ใยกองทัพของสหรัฐฯ คริสนั้น เรียกได้ว่าเป็นนักแม่นปืนมือฉกาจ ที่คอยทำงานให้กับกองทัพได้อย่างดีเยี่ยม รวมถึงชีวิตครอบครัวของเขานั้นก็ดีเยี่ยมไม่ต่างกัน แต่ด้วยความที่เขานั้นเก่งกาจและจัดการศัตรูมานับไม่ถ้วน ทำให้ตัวเขาเองนั้นตกอยู่ในความอันตรายแบบไม่ทันตั้งตัว สำหรับภาพยนตร์ที่ สร้างจากเรื่องจริง ที่มีเรื่องราวสุดแสนสะเทือนใจในตอนจบ จนสามารถเรียกน้ำตาจากคนดูได้แทบทุกคน และได้ถูกเข้าชิงรางวัลออสการ์ไปถึง 6 รางวัลด้วยกันAmerican sniper Movie trailer เว็บไซต์ที่คัดสรรความบรรเทิงมาให้แบบครบครันทั้งหนังไทย หนังต่างประเทศ หนัง Netflix และซีรีย์ต่างๆ

หนังแอคชั่นสนุกๆ กับเรื่อง Birds of Prey

หนังแอคชั่น

สำหรับหนังเรื่องนี้เป็น หนังแอคชั่น ที่ดูแล้วค่อนข้างเบาสมอง ฉากต่อสู้ก็ทำสนุกสุดเหวี่ยง ถ้าใครกำลังหาหนังแอคชั่นที่ดูมันส์ๆ ฮา ๆ มีภาพสีสันสวยและมีฉากแอคชั่นลีลาการต่อสู้แนะนำเข้ามาดูเรื่องนี้ ตัวเอกของหนังแอคชั่นเรื่องนี้ก็คือฮาร์ลีย์ ควินน์ ได้เลิกกับโจ๊กเกอร์ที่เคยเป็นแฟนและคุ้มกะลาหัวของเธอ ปัญหาคือฮาร์ลีย์เมื่อตอนที่คบกับโจ๊กเกอร์ ได้สร้างคู่อริไว้ค่อนข้างมากมายนับไม่ถ้วนเลยทีเดียว เมื่อข่าวการเลิกรากับโจ๊กเกอร์แพร่ออกไปเหล่าอริที่เคยเกรงกลัวโจ๊กเกอร์ต่างมุ่งหน้าไล่ล่ามาที่ฮาร์ลีย์ทันที เธอต้องทำทุกอย่างเพื่อหาทางเอาตัวรอดจากเหตุการณ์ความวุ่นวายรอบๆตัว ทำให้ได้ไปพบเจอกับเหล่าหญิงสาวที่จะมาร่วมชะตากรรมด้วยอีกหลายๆคน  หลังจากดูหนังแอคชั่นเรื่องนี้จบร้องโอ้โหเลยทีเดียว ต้องยอมรับเลยว่าประหลาดใจมาก ๆ สำหรับหนังแอคชั่นเรื่องนี้ที่ทำได้ดีกว่าที่คิดไว้จากที่ดูตัวอย่างหนังไปหลายรอบแล้วก็ตาม รูปแบบการนำเสนอของหนังแอคชั่นเรื่องนี้มันเหมือนกับว่า เรากำลังฟังฮาร์ลีย์ ควินน์ มาเล่าเรื่องราวให้เราฟังด้วยตัวเองเกือบตลอดทั้งเรื่อง เพราะจะมีเสียงของฮาร์ลีย์ คิดในใจประกอบด้วยเสมอ ซึ่งตรงจุดนี้ก็เติมสีสันให้เรื่องได้อย่างดีมากและเอกลักษณะของฮาร์ลีย์ความน่ารักไร้เดียงสาเปิ่นๆฮาๆ แต่มีความโหดเหี้ยมและบ้าระห่ำทำให้เราจดจำเธอได้เป็นอย่างดีสิ่งเหล่านี้มันทำให้ทุกอย่างในเรื่องสนุกไปหมด ฉากที่มีต่อสู้ทั้งคิวบู๊และรูปแบบการต่อสู้ก็สามารถทำและถ่ายทอดออกมาได้ดีเพราะไม่ใช่แค่ต่อยธรรมดามันดูแบบหลุดโลกดีซึ่งหนังแอ็คชั่นปกติก็คงจะดูแปลกที่มันจะทำให้น่ารักแบบฮา ๆ แต่พอมันเป็นฮาร์ลีย์ ที่เป็นแบบนี้มันก็ดูเข้ากับเธออย่างที่สุด ต้องยกเครดิตให้ผู้กำกับจอห์นวิคทั้ง 3 ภาค ซึ่งพอรู้ว่าเป็นผู้กำกับคนนี้ก็น่าจะการันตีถึงความมันส์ของหนังแอคชั่นเรื่องนี้ได้ระดับนึงรวมถึงการใช้สีสันต่างๆ ไม่ดูดาร์กเกินไปภายในเรื่องทำให้การต่อสู้ดูน่าตื่นเต้นน่าสนใจดูแล้วไม่ได้ชวนง่วง อีกทั้งหนังเรื่องนี้เป็นการต่อสู้ของผู้หญิงซึ่งรูปแบบของการต่อสู้จะใช้ทักษะต่าง ๆ ที่ใช้ความเร็วมากกว่าการเข้าใช้กำลังปะทะแบบตรงๆ ให้อารมณ์การนั่งดูหนังแอคชั่นที่รู้สึกแปลกใหม่อยู่พอสมควร ในส่วนของตัวละครที่แสดงโดย มาร์ โก ร็อบบี ตัวเอกที่แสดงเป็นฮาร์ลีย์ ควินน์ บทนี้เหมาะกับเธอมาก ๆ เรียกได้มาเธอเอาอยู่เพราะจะบอกว่าเกือบทั้งเรื่องถูกเล่าเรื่องด้วยฮาร์ลีย์ เราจะได้เห็นการแสดงของเธอแบบเต็มๆ ทั้งสีหน้าท่าทางแล้วก็คำพูดวาจาใจของเธอมันไม่ใช่แค่น่ารักแต่มันเต็มเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ ทำให้ไม่ยากเลยที่ถ้าใครได้ดูเรื่องนี้แล้วก็จะพากันหลงรักตัวละครตัวนี้ เว็บไซต์ ที่ให้บริการภาพยนตร์ ซีรีส์รายการทีวี ต่างๆ มีให้เลือกตั้งแต่ภาพยนตร์ ซีรีส์ของไทย อังกฤษ อเมริกา สเปน ฝรั่งเศส จนถึงรัสเซียเลย นอกจากนั้นยังมีผลงานของ Netflix เองด้วย เว็บไซต์ที่คัดสรรความบรรเทิงมาให้แบบครบครันทั้งหนังไทย หนังต่างประเทศ หนัง Netflix และซีรีย์ต่างๆ

Knives Out ใครฆ่าคุณปู่ หนังสืบสวนสอบสวนชิงมรดกฆ่าตกรรมซ่อนเงื่อน

Knives Out ใครฆ่าคุณปู่ เรื่องราวที่เกิดขึ้นหลังจากงานเลี้ยงรวมญาติของ ตระกูล ธรอมบีย์ ที่ ฮาร์ลาน ธรอมบีย์ นักเขียนแนวสอบสวนชื่อดัง ถูกพบเป็นศพลักษณะคล้าย ว่าฮาร์ลานฆ่าตัวตาย ด้วยทรัพย์สมบัติมากมายมหาศาลของตระกูลนี้ ก็อดคิดไม่ได้ว่า ฮาร์ลานนั้นได้ถูก Knives Out ใครฆ่าคุณปู่ ถูกดำเนินเรื่องชวนไขปริศนามากมายจากนักสืบ เบนัวต์  บล็องก์ ซึ่งนำแสดงโดย คริส อีแวนส์ รับบทเป็นนักสืบที่เขาได้ทำหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยม การสืบสวนของนักสืบ ดำเนินการไปอย่างเข้มข้นกับทุกคนในครอบครัว ทั้งลูกสาวคนโต ลูกชายคนเล็ก ลูกสะใภ้ รวมถึง มาร์ทา คาร์เบลลา พยาบาลของฮาร์ลานก็ถูกสอบสวนเช่นกัน ในช่วงแรกของหนังถูกดำเนินไปด้วยความเรียกว่าที่ค่อนข้างจะน่าเบื่อ แต่เมื่อพินัยกรรมถูกเปิดขึ้นก็ทำให้หนังนั้นดูสนุกยิ่งขึ้นเพราะ มาร์ทา คาร์เบลลา เป็นผู้ได้รับพินัยกรรม ส่งผลให้เธอต้องพบกับความโกลาหลยิ่งนัก แรนซัม ดรายส์เดล  รับบทโดย คริส อีแวนส์ ใน Knives Out ใครฆ่าคุณปู่ เปลี่ยนลุคจากพระเอกนักกล้ามที่เราเคยเห็นเขาแสดงมากมายหลายเรื่องเช่น กัปตันอเมริกา การพลิกบทบาทในครั้งนี้ มากับมาดกวนก็ชวนให้น่าติดตาม ด้วยความเจ้าเล่ห์แสนกลของ แรนซัม เขาได้เกลี้ยกล่อม มาร์ทา นั้นยอมรับว่าเป็นคนฆ่า แรนซัมเองก็ยื่นข้อเสนอว่าจะช่วยเหลือเธอทุกอย่าง แต่ต้องแบ่งสมบัติส่วนหนึ่งให้แรนซัม ระหว่างการสืบสวนนั้นการลำดับภาพต่างๆ ทำให้ผู้ชมรู้สึกมีอารมณ์ร่วมไปกับหนัง คล้ายกับดูนักสืบเชอรอคโฮม และโคนั้น เพลงประกอบหนังกลิ่นอายของความตื่นเต้นถูกสรรสร้างมาได้อย่างลงตัว ความมึน เอกลักษณ์ของแต่ละคนในตัวละคร ถูกจัดวางทำให้เนื้อเรื่องการสืบนั้นน่าสนใจเป็นอย่างมาก การพลิกไปมาระหว่างการตามล่าหาตัวคนร้ายนั้นได้ถูกดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง คนที่ดูจะยุ่งที่สุดก็น่าจะเป็น มาร์ทาเอง เพราะเธอต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่ถูกสร้างมาจากผู้ร้ายตัวจริงที่ได้สร้างขึ้นเพื่อหลอกล่อเธอต่างๆ นาๆ แต่สุดท้ายแล้วคดีทั้งหลายก็ถูกคลี่คลาย ด้วยความเอาจริงเอาจังของนักสืบ เบนัวต์  บล็องก์ มีลูกล่อลูกชนจนทำให้พบว่า แรนซัมคือผู้ร้ายตัวจริง หลักฐานต่างๆ ถูกตีแผ่ให้คนในครอบครัวได้รับรู้ สุดท้ายก็ดิ้นไม่หลุด เป็นอย่างไรกันบ้างครับ กับเนื้อเรื่องโดยย่อ แต่ถ้าอยากเต็มอิ่มไปมากกว่านี้เราก็สามารถหาดู Knives Out ใครฆ่าคุณปู่ กันได้เลยนะครับ เว็บไซต์ที่คัดสรรความบรรเทิงมาให้แบบครบครันทั้งหนังไทย หนังต่างประเทศ หนัง Netflix และซีรีย์ต่างๆ click เว็บไซต์ ที่ให้บริการภาพยนตร์ ซีรีส์รายการทีวี ต่างๆ มีให้เลือกตั้งแต่ภาพยนตร์ ซีรีส์ของไทย อังกฤษ อเมริกา สเปน ฝรั่งเศส จนถึงรัสเซียเลย นอกจากนั้นยังมีผลงานของ Netflix เองด้วย click

รีวิวหนัง The Platform แฝงข้อคิดที่หลายคนมองข้าม

ภาพยนตร์เรื่อง The Platform เป็นภาพยนตร์ที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในขณะนี้ ด้วยรูปแบบของหนังที่แปลกใหม่ มีความลึกลับที่ทำให้ผู้ชมนั้นอยากติดตาม ชายคนหนึ่งชื่อ โกเรง ที่ตื่นขึ้นมาในห้องแห่งหนึ่ง ที่อยู่ในตึกแบบทึบไม่มีประตูหรือหน้าต่าง แต่มีรูหรือหลุมตรงการห้อง ที่มีไว้เพื่อส่งอาหารให้กับผู้ที่อยู่ในตึกนี้ ซึ่งตึกแห่งนี้ที่มีมากึง 333 ชั้น โดยที่อาหารจะเริ่มส่งมาจากชั้นบน และค่อย ๆ เลื่อนลงไปชั้นล่าง ตามชั้นต่าง ๆ จนถึงล่างสุด ซึ่งส่วนใหญ่แล้วอาหารที่ถูกส่งมานั้นจะหมดไปตั้งแต่ชั้นแรก ๆ ส่วนคนที่อาศัยอยู่ชั้นล่าง ๆ นั้นแทบจะไม่ได้กินอาหารเลย ส่วนเรื่องราวจะจบลงอย่างไรนั้น สามารถติดตามได้ใน The Platform The Platform เรียกได้ว่าเป็นหนังที่น่าติดตามเป็นอย่างมาก และสำหรับผู้ชมหลายท่านที่รับชมจนจบอาจจะสงสัยว่า หนังเรื่องนี้จะสื่อถืออะไร นอกจากเนื้อหาเรื่องราวที่น่าติดตาม และลุ้นไปกับตัวเอกอย่างตื่นเต้นนั้น แท้จริงแล้ว หนังเรื่องนี้ได้แทรกข้อคิด เกี่ยวกับเรื่องของการแบ่งชั้นวรรณะ ไว้ได้อย่างแนบเนียน อย่างที่ในหนังได้สื่อว่าผู้คนที่อยู่ชั้นบนสุดนั้น จะได้กินอาหารก่อนและเป็นของที่ดีที่สุด แล้วหลังจากคนเบื้องบนกินเสร็จ เศษอาหารเหลือก็จะถูกส่งลงมาด้านล่างต่อไปเรื่อย ๆ จนผู้คนที่อยู่ชั้นล่างนั้นเกิดความขัดแย้ง ความรุนแรง เพราะอาหารที่ส่งมานั้นไม่ถึงพวกเขา ซึ่งจะสะท้อนถึงสังคมที่เป็นอยู่ในทุกวันนี้ ในเรื่องความเลื่อมล้ำต่าง ๆ มากมาย ที่คนเบื้องบน เปรียบได้กับคนที่มีอิทธิพลในสังคม ซึ่งในหนังสำหรับผู้คนในที่อยู่ในตึกนั้นจะได้รับการจัดอันดับในแต่ล่ะชั้น เช่นเดียวกับผู้คนในสังคมที่มีผู้คนอยู่หลายระดับ และคนที่อยู่ระดับล่างสุดของสังคมก็จะไม่ได้รับถึงอาหาร หรือทรัพยากรดี ๆ อย่างที่คนในระดับสูงกว่านั้นมี เรียกได้ว่า The Platform เป็นหนังที่แฝงข้อคิดได้อย่างลึกซึ้งเป็นอย่างมาก Movie trailer click เว็บไซต์ที่คัดสรรความบรรเทิงมาให้แบบครบครันทั้งหนังไทย หนังต่างประเทศ หนัง Netflix และซีรีย์ต่างๆ click