หนังที่พ่อแม่ควรดูที่สุดต้องเป็นหนังต่างประเทศ เรื่อง Cruel Intentions 1999

หนังที่พ่อแม่ควรดูที่สุด

หนังที่พ่อแม่ควรดูที่สุดต้องเป็นหนังต่างประเทศ เรื่อง Cruel Intentions 1999วัยรุ่นเป็นวัยที่ไม่มีอะไรที่จะหยุดเขาได้ในบางเรื่อง เพราะด้วยวัยที่มีความคึกคะนองมีความอยากรู้อยากเห็น และเป็นวัยที่ไม่สามารถจะยับยั้งชั่งใจได้ ฉะนั้น วัยรุ่นจึงเป็นวัยที่พ่อแม่ควรให้ความใส่ใจมากที่สุด ซึ่งบางครั้งพฤติกรรมที่เราเห็นนั้นอาจจะไม่ใช่พฤติกรรมอีกด้านหนึ่งของเขาก็ได้ ฉะนั้น อยากให้พ่อแม่ได้สนใจเด็กๆที่อยู่ในช่วงวัยรุ่นมากขึ้น เลยขอแนะนำให้พ่อแม่ควรดูหนังต่างประเทศในเรื่อง Cruel Intentions 1999 Cruel Intentions 1999 เป็นหนังต่างประเทศที่จะทำให้พ่อแม่ได้รู้จักพฤติกรรมอีกหลายๆด้านที่ไม่รู้ อย่างเช่น การมีความคิดที่ไปในทางลบ มีการวางแผนพนันกันในเรื่องบางเรื่อง ซึ่งเรื่องที่พนันนั้นก็มีพฤติกรรมที่ไม่มีความเหมาะสมเลย เนื่องจากมีเรื่อง sex เข้ามาเกี่ยวข้อง หรือแม้แต่เรื่องของการใช้ยาเสพติดก็ตามเรื่องนี้ก็มีการกล่าวถึง ในหนังต่างประเทศ Cruel Intentions 1999 นี้ มีเนื้อหาของหนังที่ค่อนข้างรุนแรงทั้งภาพและเสียงที่สร้างความฮือฮาให้กับผู้ชมด้วยฉากที่มีความเผ็ดร้อนอย่างมาก แต่อย่างไรเสียเรื่องนี้ก็ถือว่าเป็นเรื่องหนึ่งที่จะทำให้พ่อแม่นั้นมีความคิดในการอบรมเลี้ยงดูที่เปลี่ยนแปลงไป เพราะวัยรุ่นยิ่งหากด่าหรือมีการทุบตีแล้วล่ะก็เขาก็จะยิ่งเตลิด และในหนังต่างประเทศ Cruel Intentions 1999 นี้ จุดจบของการที่มีพฤติกรรมที่แย่ๆนั้นก็ไม่ได้ทำให้ชีวิตมีความสุขเลย กลับทำให้มีการสูญเสียเพิ่มมากขึ้น เพราะเราจะเห็นได้ว่าพี่น้องหญิงชายในเรื่องที่เป็นพี่น้องต่างพ่อต่างแม่นั้นได้ทำการพนันกันเกี่ยวกับเรื่องรถ ซึ่งเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม โดยเงื่อนไขของการพนันนั้นก็มีเรื่อง sex เข้ามาเกี่ยวข้องก็ยิ่งไม่เหมาะสมไปกันใหญ่ ฉะนั้น พฤติกรรมของตัวละครในหนังต่างประเทศ Cruel Intentions 1999 นี้ เป็นพฤติกรรมแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น แต่พฤติกรรมดังกล่าวก็ทำให้จุดจบของเรื่องไปอยู่ที่การโดนจับกุมและความตาย ตัวอย่างหนังต่างประเทศ เรื่อง Cruel Intentions 1999 ติดตามการรีวิวหนัง filmograd.net และ ติดตามหนังต่างประเทศได้อีกที่นี่

ภาพยนตร์ Bloodshot เรื่องที่ชุบชีวิตจากผู้ที่ตายแล้วได้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง

Bloodshot อดีตทหาร

Ray Garrison หรือ Bloodshot อดีตทหารที่เสียชีวิตในสมรภูมิสงคราม เขาถูกปลุกให้กลับมามีชีวิตอีกครั้งด้วยเทคโนโลยี นาไนต์ ของบริษัท RST เทคโนโลยีที่ว่านี้ทำให้ Ray เปรียบเสมือนเครื่องจักรกลที่มีความพิเศษคือ แข่งแกร่งและร่างกายของเขาก็ยืดหยุ่นไปถึงระดับตัวเซลล์กันเลยทีเดียว แต่ว่าความทรงจำของเขาได้ถูกลบเลือนไป และความทรงจำใหม่ได้ถูกเข้าไปแทนที่ ไม่ว่าจะเป็นความทรงจำที่เกี่ยวกับภรรยาของ Ray ที่ได้เลิกกันไปเมื่อนานมาแล้ว บริษัท RST ใช้ประโยชน์จากความเศร้าของเรย์เพื่อให้เขาทำตามคำสั่ง สามารถคอนโทรล Ray ได้ตามใจ แต่เมื่อ Ray รู้ตัวแล้วภาพทรงจำในอดีตเริ่มกลับมา เขาก็เริ่มที่จะต่อต้านกับการควบคุม Bloodshot ได้นักแสดงนำอย่าง Vin Diesel ที่เอ่ยชื่อก็แทบไม่ต้องการันตีคุณภาพของผลงานการแสดงของเราแต่อย่างใด Bloodshot เป็นหนังแนวฮีโร่ที่ค่อนข้างแปลกใหม่มากเลยทีเดียวแนวไซด์ไฟน์ ด้วยการเล่าเรื่องที่กินระยะเวลาน่าจะมาณ 60% ของเรื่องที่มีการเล่าเรื่องถึงที่มาที่ไปของตัวละคร มีการตั้งคำถามมากมายของตัว Ray นอกจากนี้ยังเปรียบเปรยสังคมอีกด้วย รวมถึงเหตุผลอันใดที่ตัว Ray ต้องทำไป ต่างจากหนังเรื่องอื่นๆ ที่จะไม่มีเหตุผลซับซ้อน เพียงบอกแค่ที่มาที่ไปและเหตุในการกระทำของตัวละครเพียงเท่านั้น เรื่อง Production และการลำดับภาพนั้น Bloodshot ก็ทำออกมาได้ดีทีเดียว แม้ทุนสร้างจะมีไม่มาก แต่ก็ได้คุณภาพอย่างที่เราจับโป๊ะไม่ทันกันเลย องค์ประกอบ CG ที่เป็นหัวใจสำคัญของหนังแนวนี้ก็ทำได้ออกมาได้ดี ดูแล้วไม่ติดใจอะไร CG ทั้งหมดจะถูกเน้นไปที่ตัวพระเอกเสียเป็นส่วนใหญ่ ทำให้เราอินไปกับ Ray เป็นอย่างมาก แต่ะถ้าพูดถึงเรื่องฉากแอคชั่น ระเบิดภูเขา เผากระท่อมนั้น ก็แอบผิดหวังเล็กน้อย เพราะ Bloodshot ทำออกมาได้น้อยมากๆ น้อยจนแบบนั่งรอว่าเมื่อไรฉากแอคชั่นมันๆ จะมาอีก เหมือนรอแท็กซี่ว่างเลยครับ ช่วงต้นๆ เรื่องก็แทบจะไม่มีเลย ยิ่งกลางเรื่องฉากแอ็คชั่นนี่แทบไม่มีเลย กว่าจะบู๊กันเลือดสาดก็ปาไปเกือบท้ายเรื่องแล้วครับ แต่สำหรับผมนั้นก็คิดว่าคุ้มค่ากับการรอคอยฉากแอ็คชั่นอยู่นะครับ อย่างน้อยการต่อสู้ก็โคตรเท่ห์ โคตรคลู อาจจะได้อานิสงส์จาก Vin Diesel ที่ไม่ว่าจะสวมบทใดก็ดูเรียล ดูจริง ทำให้เราอินไปกับหนังเรื่องนั้นได้อย่างมากเลยทีเดียว บทสรุปของ Bloodshot จะเป็นอย่างไร อยากให้ทุกท่านไปติดตามกันได้นะครับ แล้วสนุกไปพร้อมกัน วิดีโอตัวอย่างภาพยนตร์ Bloodshot ติดตามการรีวิวหนัง และ หนังความรักสุดแสนจะเศร้าได้ที่นี่

หนังที่ความรักมาพร้อมๆกับชื่อเสียงและสุดแสนจะเศร้า คือ เรื่อง A Star Is Born

หนังความรักA Star Is Born

หนังต่างประเทศที่ความรักมาพร้อมๆกับชื่อเสียงและสุดแสนจะเศร้า คือ เรื่อง A Star Is Born ความรักของคนที่มีชื่อเสียงที่บางครั้งอาจจะทำให้ความรักนั้นเกิดความสั่นคลอนได้เมื่อชื่อเสียงเข้ามาคลืบคลาน ซึ่งหนังต่างประเทศที่จะกล่าวถึงนั้น ก็คือ A Star Is Born เป็นเรื่องที่มีความอบอุ่นใจในความสัมพันธ์ที่มีเสียงเพลงเข้ามาเป็นตัวประสานในการดำเนินเรื่อง ในหนังต่างประเทศ เรื่อง A Star Is Born นี้ เริ่มต้นด้วยความรักที่แสนจะหดหู่ของนางเอกที่จะต้องบอกเลิกกับแฟนด้วยอาชีพและทัศนคติที่ไม่เหมาะสมกัน และในส่วนของพระเอกนั้นเป็นคนที่มีชื่อเสียงทางด้านดนตรี ใช่แล้ว เขาคือ นักดนตรี แต่ด้วยพฤติกรรมส่วนตัวที่เขาจะเป็นคนติดเหล้าอย่างหนักจึงทำให้ผลงานในการร้องเพลงของเขาทำได้ไม่ดีนัก และแล้วพระเอกก็ได้เจอกับนางเอกเมื่อเขาได้เขาไปในบาร์ของสาวสองแห่งหนึ่งที่นางเอกทำงานพิเศษในการร้องเพลงกลางคืนทำให้เขาได้สานสัมพันธ์กับนางเอกได้อย่างอบอุ่นใจด้วยการช่วยดึงคิ้วที่นางเอกได้แปะในการแต่งหน้าไว้ ฉากนี้ในเรื่อง A Star Is Born เป็นฉากที่มีความโรแมนติกมากๆเลยเมื่อเปรียบเทียบกับหนังต่างประเทศเรื่องอื่นแล้ว หนังต่างประเทศเรื่อง A Star Is Born นี้ ยังมีอีกหลายๆฉากที่คุณจะเห็นได้ว่าเมื่อนางเอกเริ่มมีการร้องเพลงร่วมกับพระเอกในคอนเสิร์ตต่างๆในทุกๆที่และความสัมพันธ์ของคนทั้งสองก็เริ่มก่อตัวมากยิ่งขึ้น ทำให้เอเจนซี่แห่งค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ได้มองเห็นถึงศักยภาพของนางเอกจึงชวนให้ไปร้องเพลงและเซ็นสัญญาแต่ด้วยการที่นางเอกเริ่มมีชื่อเสียงด้วยตนเองก็ยิ่งทำให้พระเอกรู้สึกหวั่นใจกับสิ่งที่นางเอกทำเพราะเขามองว่ามันไม่ใช่เป็นตัวตนของนางเอกเลย และหนังต่างประเทศในเรื่อง A Star Is Born ได้มีการดำเนินมาถึงจุดที่จะต้องเลือกระหว่างความรักกับชื่อเสียงที่ได้รับจนทำให้พระเอกตัดสินใจในสิ่งที่จะทำให้นางเอกจะไม่ได้พบกับเขาไปตลอดกาลและเหลือไว้เพียงแค่ความทรงจำเท่านั้น ฉะนั้น เพลงต่างๆที่ปรากฏในเรื่องนี้จึงสามารถที่จะบ่งบอความรู้สึกของคนทั้งสองได้เป็นอย่างดี ติดตามการรีวิวหนัง filmograd.net และ ติดตามหนังต่างประเทศได้ที่นี่

The Herd คือ หนังต่างประเทศที่บอกถึงความโหดของเครื่องสำอางค์เอาไว้

หนังต่างประเทศ The Herd

การทำเครื่องสำอางในยุคปัจจุบันเรามักจะเห็นว่ามีส่วนผสมที่ไม่ได้มาจากของจริงๆเพราะด้วยส่วนผสมที่หายาก ฉะนั้น จะออกมาในรูปแบบของการสกัดมากกว่า ซึ่งส่วนผสมในเครื่องสำอางที่ใส่ลงไปเพื่อบำรุงให้ผิวพรรณของสาวๆมีความสวยงามนั้นก็ไม่ได้มีที่มาที่มีความสวยหรูสักเท่าไหร่ ทำไมเราถึงกล่าวเช่นนี้ เพราะว่าคุณสามารถดูตัวอย่างของการผลิตเครื่องสำอางในหนังต่างประเทศ เรื่อง The Herd แล้วคุณจะเข้าใจ The Herd เป็นหนังต่างประเทศที่เป็นของประเทศอังกฤษ เป็นเรื่องหนึ่งที่บ่งบอกได้เลยว่ากว่าจะได้ส่วนผสมของเครื่องสำอางนั้น บางครั้งก็ต้องแลกกับชีวิตของมนุษย์เลยทีเดียว แต่ว่าปัจจุบันจะมีการกระทำอย่างในหนังเรื่องนี้หรือไม่เราก็ไม่อาจรู้ได้ โดยหนังเรื่องนี้เป็นการกักขังผู้หญิงไว้ในชั้นใต้ดินแห่งหนึ่งกักขังไว้ก็เพื่อที่จะต้องการน้ำนมในตัวผู้หญิงเพื่อใช้ในการผลิตเครื่องสำอางนั่นเอง เพียงแค่เกริ่นหนังต่างประเทศ The Herd เพียงเท่านี้ คุณก็สามารถที่จะนึกภาพออกได้เลยว่าผู้หญิงในเรื่องนั้นคงไม่มีทางที่จะยินยอมให้ใช้ร่างกายมาเป็นเครื่องมือในการทำสิ่งใดๆอย่างแน่นอน แต่ด้วยสถานการณ์ที่บีบบังคับจึงทำให้พวกเธอไม่มีทางเลือก แม้จะขัดขืนแต่ในเรื่องนั้นมีคนที่คอยควบคุมอยู่จึงทำให้พวกเธอไม่สามารถที่จะหนีออกมาได้ ในหนังต่างประเทศเรื่อง The Herd เป็นการกักขังพวกเธอที่มีลักษณะไม่ต่างจากสัตว์ เพราะมีการใช้กรงในการกักขังพวกเธอ และเมื่อผู้ที่ทำการควบคุมต้องการใช้งานพวกเธอก็จะทำการฉีดน้ำเชื้ออสุจิเข้าไปในร่างกายของพวกเธอ และรอให้พวกเธอตั้งครรภ์จนถึงเวลาที่คลอดจากนั้นเมื่อคลอดเสร็จผู้ที่ทำการควบคุมก็จะทิ้งทารกลงในถังขยะทันทีราวกับว่าทารกนั้นไม่มีชีวิต จากนั้นก็พาพวกเธอไปรีดนมเพื่อนำนมจากเต้าของสาวๆไปใช้เป็นส่วนผสมในเครื่องสำอางค์ หนังต่างประเทศ The Herd เรื่องนี้เป็นหนังที่มีความกระตุกขวัญเป็นอย่างมากด้วยเสียงกรีดร้องของเหล่าบรรดาผู้หญิงที่ถูกกักขังหนำซ้ำยังกระทำการดูแลที่ไม่ดี ฉะนั้น จึงถือได้ว่าเป็นเรื่องที่เป็นอุทาหรณ์อย่างดีสำหรับคนที่ชอบใช้เครื่องสำอางค์ ติดตามการรีวิวหนัง หนังต่างประเทศ และ แนวสยองขวัญ ได้ที่นี่เลย

รีวิวหนังสุดโหด สุดสยอง เดนนรกต้องตาย I spit on your gave

รีวิวหนังสุดโหด สุดสยอง แดนนรกต้องตาย

หนังเรื่องนี้มีชื่อไทยว่า เดนนรกต้องตาย ซึ่งเนื้อหาของหนังบอกได้เลยว่า โหด ป่าเถื่อน ดิบ สะใจ ผู้ชมเป็นอย่างแน่นอน เพราะเป็นเรื่องราวของการแก้แค้นของผู้หญิงคนหนึ่งที่ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ทารุนกรรม ขืนใจเธออย่างโหดร้าย ซึ่งหนังเรื่องนี้ได้ถูกนำรีเมคใหม่จากหนังชื่อเรื่องเดียวกันในปี 1978 ที่ทำไว้ได้ดีมากเช่นกัน จนในปี 2010 เดนนรกต้องตาย ได้ถูกเปิดตัวใหม่อีกครั้ง ในเวอร์ชั่นที่โหด เถื่อน สาแก่ใจผู้ชมที่ชอบหนังแนวนี้เป็นเยี่ยงนัก เดนนรกต้องตาย มีถึง 3 ภาค ต้องดู!! ภาพยนตร์เรื่อง เดนนรกต้องตาย นั้นถูกสร้างขึ้นมาถึง 3 ภาคด้วยกัน ซึ่งไม่ได้เป็นเรื่องราวต่อเนื่องกันแต่อย่างใด แต่เนื้อหาหลักของหนังได้นำเสนอในรูปแบบเดียวกันคือ การที่หญิงสาวคนหนึ่ง ได้ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ รุมข่มขืน และทารุนกรรม และส่วนใหญ่จะจบด้วยการฆ่า แต่ด้วยความอึดของพลังหญิงสาว จึงทำให้เธอนั้นสามารถกลับมาแก้แค้น กลุ่มหนุ่มฉกรรจ์ที่ได้ทารุนกรรมเธอ ให้โหดกว่าที่พวกเขาเคยทำกับเธอ ไม่ว่าจะเป็นการขึงตัวผู้ชายให้นกมาจิกตา หรือการจับคนที่กระทำกับเธอมาขึงบนโต๊ะและใช้เครื่องบีบอวัยวะเพศให้ฉีกขาดออกมา โดยที่ในแต่ล่ะภาคนั้นจะมีรูปแบบการแก้แค้นที่ไม่เหมือนกัน รวมถึงการดำเนินเรื่องที่แตกต่างกันไปทั้ง 3 ภาค เรียกได้ว่าเป็นการสะท้อนสังคมที่ดี ที่ผู้หญิงหลาย ๆ คนที่เคยเจอการข่มขืน หรือทารุนกรรมมาในหลากหลายรูปแบบเช่นเดียวกัน หลังจากดูจบแล้วบอกได้เลยว่า สำหรับผู้หญิงที่รับชมหลาย ๆ ท่านคงสะใจกลับการนำเสนอเรื่องราวของหนังเรื่องนี้เป็นอย่างมาก แต่ก็ถือว่าเป็นการแก้แค้นที่เกินความพอดีไปหน่อย เพราะมันทั้งป่าเถือน โหด ดิบ และสะแก่ใจเป็นอย่างมาก สำหรับผู้ที่ชอบหนังแนวนี้บอกได้คำเดียวว่าไม่ควรพลาด และหนังเรื่อง เดนนรกต้องตาย ที่มีถึง 3 ภาคให้ดูกันอย่างจุใจไปเลย ติดตามรีวิวภาพยนตร์ต่างประเทศ และ ภาพยนตร์แนวไล่ฆ่าแบบป่าเถื่อน ได้ที่นี่

รีวิวหนัง Penelope สาวน้อยจมูกหมูถูกจับขังในบ้านนาน 18 ปี

Penelope

รีวิวหนัง Penelope สาวน้อยจมูกหมูถูกจับขังในบ้านนาน 18 ปี กลับมาอีกครั้งกลับภาพยนตร์แนวเทพนิยายตามหารักแท้ แต่อย่าพึ่งเบือนหน้าหนีกับเรื่องราวแสนน่าเบื่อของพล็อตเรื่องเทพนิยายรักโรแมนติกเรื่องนี้ เพราะสำหรับหนังเรื่อง Penelope รักแท้ ขอแค่ปาฏิหาริย์ นั้นเป็นหนังแนวเทพนิยายสุดเก๋ที่ไม่เหมือนหนังเทพนิยาย รักโรแมนติก เรื่องอื่น ๆ อย่างแน่นอน เพราะเนื่องจากการคำสาปที่แสนประหลาดอย่างการทำให้หญิงสาวมีจมูกหมูตั้งแต่เกิด และการถอนคำสาปนั้นต้องใช้เพียงรักแท้เท่านั้น ซึ่งเรื่องราวโดยย่อนั้นจะเป็นอย่าง ไปดูกันเลย สำหรับเรื่องย่อของหนังเรื่อง Penelope รักแท้ ขอแค่ปาฏิหาริย์ นั้นได้นำเสนอเรื่องราวของ เด็กหญิงนามว่า เพเนโลปี้ เธอได้เกิดมาในตระกลูที่ร่ำรวยเป็นอย่างมาก แต่ชีวิตของสาวน้อย เพเนโลปี้ นั้นไม่ได้โรยด้วยดอกกุหลาบแต่อย่างใด เมื่อเธอนั้นเกิดขึ้นมาพร้อมกับคำสาปประจำตระกลู โดยที่ เพนเนโลปี้ นั้นมีจมูกที่เป็นจมูกของหมู ซึ่งแม่หรือครอบครัวของเธอนั้น รังเกียดจมูกหมูของเธอมาก โดยเฉพาะกับแม่ของ เพเนโลปี้ ที่เธอนั้นรู้สึกอับอายเป็นอย่างมากที่มีลูกสาวหน้าตาแสนประหลาด แม่ของเธอจึงตัดสินใจขัง เพเนโลปี้ ไว้ในบ้านโดยไม่ให้ออกไปพบเจอโลกภายนอกยาวนานมากถึง 18 ปี เนื่องจากเธอนั้นกลัวว่าผู้คนทั่วไปจะพารังเกียจเธอไปด้วยที่มีลูกสาวหน้าตาแปลกประหลาดเช่นนี้ โดยที่วิธีถอนคำสาปนี้ เพเนโลปี้ จำเป็นต้องตามหารักแท้จากผู้ชายที่ยอมรับตัวตนเธอได้จริง ๆ ซึ่งบอกได้เลยว่ารักแท้จากชายหนุ่มที่เธอตามหานั้นไม่มีอยู่จริง เมื่อเป็นเช่นนี้ เพเนโลปี้ จะทำอย่างไรต่อไป เธอจะถอนคำสาปที่เป็นตราบาปมาอย่างยาวนานถึง 18 ปีได้หรือไม่ หรือว่า เพเนโลปี้ จะต้องทุกข์ทนกับการโดนขังอยู่ในบ้านกับแม่ผู้ที่รังเกียดจมูกหมูเธอเข้าไส้ไปตลอดชีวิต สำหรับหนังเรื่อง Penelope รักแท้ ขอแค่ปาฏิหาริย์  เรียกได้ว่าเป็นหนังเทพนิยายที่ทำให้ผู้ชมนั้นลืมเรื่องราวเทพนิยายเวอร์ชั่นเก่า ๆ ที่น่าเบื่อไปได้อย่างแน่นอน มาร่วมลุ้นและเอาใจช่วยสาวน้อยจมูกหมูได้ใน Penelope ติดตาม เว็บรีวิวหนัง หนังแนวโรแมนติก ได้ที่นี่

ตัวอย่างของจรรยาแพทย์ที่ไม่ดีสุดๆต้องดูจากหนังต่างประเทศเรื่อง Pathology

Pathology

ตัวอย่างของจรรยาแพทย์ที่ไม่ดีสุดๆต้องดูจากหนังต่างประเทศเรื่อง Pathology หมอเป็นบุคคลหนึ่งที่คนเราไว้ใจในการรักษาและให้ความเชื่อใจมากที่สุด แต่ถ้าหากคุณรู้ในอีกมุมหนึ่งของหมอแล้วที่เป็นมุมไม่ดีนัก เช่น มีการขายอวัยวะคนไข้หรือมีการทำร้ายคนไข้เพื่อจุดประสงค์ที่เกี่ยวกับเงินล่ะก็แน่นอนว่าคุณต้องขยาดที่จะไม่อยากไปหาหมอเลยทีเดียว ซึ่งหนังต่างประเทศเรื่อง Pathology เป็นหนังที่สะท้อนให้เห็นถึงพฤติกรรมของแพทย์ที่ไม่ดีได้อย่างชัดเจน เรื่อง Pathology เป็นหนังต่างประเทศที่มีสถานที่ถ่ายทำโดยหลักจะเป็นที่โรงพยาบาล ซึ่งจะทำให้เห็นถึงพฤติกรรมของหมอที่สุดแปลกพิสดาร มองว่าร่างกายของคนนั้นเหมือนขยะ อยากที่จะทำลายด้วยการโยนเผาทิ้งขว้างเป็นเรื่องที่สนุกสนานโดยทำไปไม่คิดถึงจรรยาบรรณของแพทย์เลยสักนิดเดียวหรือจะเป็นการฆ่าคนพวกเขาก็ทำกันได้อย่างหน้าตาเฉย หนังต่างประเทศ เรื่อง Pathology นอกจากเราจะเห็นเรื่องพฤติกรรมของหมอที่เราจะเห็นว่าไม่มีความยำเกรงทั้งกฎหมายและศีลธรรมแล้ว เรายังเห็นพฤติกรรมของหมอในเรื่องของ sex ที่สามารถจะมีอะไรกันในสถานที่ที่เป็นโรงพยาบาลเลยก็มี ซึ่งเรื่องนี้พระเอกเป็นหมอจะเป็นคนที่ดำเนินเรื่องทั้งหมด แต่การกระทำที่พระเอกทำลงไปนั้นก็เพราะคบกับเพื่อนที่เป็นหมอที่มีความคิดที่ไม่ดีกระทำในสิ่งที่ชั่วช้าอย่างถึงที่สุด แต่อย่างไรแล้วสุดท้ายกลายเป็นว่าพระเอกเองก็มีพฤติกรรมที่ไม่ต่างอะไรจากเพื่อนที่เป็นหมอเหล่านั้นเลย และสุดท้ายบรรดาหมอในเรื่อง Pathology ที่มีพระเอกอยู่ในกลุ่มเดียวกันก็มีจุดจบที่ไม่สวยเลย นอกจากจะสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างแล้ว ยังสูญเสียคนที่รักไปอีกด้วย ซึ่งคนที่สูญเสีย นั่นก็คือ พระเอกที่ต้องสูญเสียแฟนไปก็เพราะฝีมือของเพื่อนที่เป็นหมอในกลุ่ม เป็นการหักหลังที่แสนเจ็บปวด ทั้งนี้ ก็เริ่มมาจากการไม่ซื่อสัตย์ต่อคนที่ตัวเองรักนั่นเอง เป็นหนังต่างประเทศที่ดูแล้วเข้าใจถึงที่มาของการสูญเสียได้อย่างชัดเจน ฉะนั้น หนังต่างประเทศ Pathology เป็นหนังที่สะท้อนให้เห็นว่าหากคนเราคิดดีทำดีก็คงไม่มีอะไรที่จะสามารถทำร้ายเราได้ แต่เมื่อเราเลือกที่จะเข้าไปทำในสิ่งที่ไม่ดีแล้วผลตอบรับที่ได้นั้นอาจจะมากกว่าสิ่งที่ทำลงไปก็ได้ Movie Trailer ติดตามข่าวสาร การรีวิวหนัง ล่าสุดที่นี่ก่อนใคร.. ข้อมูล หนังต่างประเทศ เรื่องหดหู่ที่สร้างแรงบันดาลใจ

7days เรารักกันจันทร์-อาทิตย์ หนังไทยแนวโรแมนติก ดราม่า

เรารักกัน จันทร์ถึงอาทิตย์

หลายคนที่กำลังหาหนังแนวโรแมนติก ดราม่าอยู่ อยากจะแนะนำหนังเรื่องนี้ นั้นก็คือเรื่อง 7days เรารักกันจันทร์-อาทิตย์ หนังที่จะทำให้คุณรู้ว่าความรักไม่มีวันพรุ่งนี้เป็นหนังไทยมี่ไม่ค่อยได้ดูแนวแบบนี้ที่ไหนมาก่อน เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับคนรัก 2 คน ระหว่าง “มีน” รับบทโดย มิว นิษฐา จิรยั่งยืน ซึ่งประกอบอาชีพเป็นนักชิมอาหาร มีน มีแฟนหนุ่มที่คบกันมานานกว่า 5 ปี คือ “แทน” รับบทโดย กันต์ กันตถาวร ‘เชฟหนุ่มหัวนอก’ ที่มีความใฝ่ฝันว่าอยากจะไปคว้าดาวมิชลิน ที่ต่างประเทศ แต่ทุกอย่างไม่ได้เป็นอย่างที่คิดไว้ เมื่อมีนแฟนสาวต้องการที่จะแต่งงานและใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันที่ไทย ทั้ง 2 จึงทะเลาะกันอย่างรุนแรง เป็นต้นเหตุการเกิดเรื่องมหัศจรรย์ตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันอาทิตย์ระหว่างเค้าทั้งคู่ หนังที่จะทำให้คุณรู้ว่าความรักไม่มีวันพรุ่งนี้ หลังจากคืนที่ทะเลาะกันนั้น แทนได้ตื่นมาในร่างของคนอื่น ที่อยู่รอบตัวเค้า และที่เค้าเคยพบเจอในสถานที่ต่าง ๆ เป็น ชายหนุ่มร่างอ้วน รับบทโดย บอย ตรัย ภูมิรัตน เคยเจอกันเมื่อตอนที่ไปเที่ยวกันบนดอยกับมีน แล้วเจอหนุ่มร่างอ้วนขอแฟนแต่งงาน,เกย์หนุ่มชาวอิตาลี่ รับบทโดย Lorenzo De Stefano เป็นเพื่อนสนิทของแทนเอง, ผู้จัดการร้าน รับบทโดย สตาร์บัค พงศ์พิชญ์ เป็นคนที่ค่อยจัดการเรื่องในร้านได้ดีแต่ชอบแอบมาจีบมีน ถึงแม้จะทีเล่นทีจริงบ้างก็เถอะ, ป๋อมแป๋ม รับบทโดย เชียร์ ฑิฆัมพร เพื่อนสนิทของมีน, นักดนตรีวัยรุ่นใหญ่ รับบทโดย ต๋อง เทวัญ ทรัพย์แสนยากร นักดนตรีที่ร้านอาหารที่แทนเคยพามีนไปทาน,เด็กน้อยวัย 8 ขวบ รับบทโดยอั่งเปา ธัญญ์กรณ์ กัลยาวุฒิพงศ์ เด็กน้อยบนกระเช้าลอยฟ้า ที่มาพูดคุยกับมีนและแทน สุดท้าย เชฟหนุ่มชื่อดัง รับบทโดย อนันดา เอเวอร์ริงแฮม ที่เจอกันในคืนที่แทนและมีนทะเลาะกัน เรื่องที่เกิดขึ้นกับแทนคือใน 7 วัน เค้าต้องตื่นขึ้นมาเป็นเป็นใกล้ตัวที่เค้าเคยพบเจอ เรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดทำให้เค้าสบสนว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับเค้ากันแน่ ในขณะที่มีนก็ตามาหาแทนไปในทุกที่ที่คิดว่าแทนจะไป แต่ก็ไม่พบ ตัวแทนเองไม่ได้ไปไหนใกล้อยู่ใกล้ ๆ มีนตลอด แทนเองพยายามจะบอกมีนกว่าเกิดอะไรขึ้นกับเค้าแต่ไม่ว่าจะบอกมีนหรือบอกคนรอบข้างก็ไม่มีใครเชื่อเค้า กลางเรื่อง 7days เรารักกันจันทร์-อาทิตย์ แทนตื่นมาเป็นเพื่อนสนิทของมีนนั้นก็คือป๋อมแป๋ม ทั้งคู่เลยได้ลองเปิดใจคุยกันจนมีนความจริงรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับแทน ทั้งคู่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ได้แต่เพียงใช้ชีวิตในแต่ละวันโดยที่ไม่รู้ว่าวันต่อมาแทนจะต้องตื่นมาเป็นใครอีก จนวันเสาร์แทนได้ตื่นมาเป็นเด็กน้อยวัย 8 ขวบเค้ากลับไปที่บ้านและได้พบความจริงว่าเค้าได้เสียชีวิตแล้ว ตั้งแต่วันที่ทะเลาะกับมีนวันแรกเค้าได้ประสบอุบัติเหตุรถบรรทุกพุ่งและเสียชีวิตลง เมื่อได้ทราบความจริงแทนในร่างเด็กน้อย 8 ขวบได้เดินเข้าไปกราบลงที่เท้าแม่ของเค้าในงานศพของเค้าเอง และร่ำลากับแม่พร้อมกับบอกว่าวันพรุ่งนี้จะพาผู้หญิงหนึ่งคนมาหาแล้วแทนตัวน้อยก็วิ่งหายไป มาถึงช่วงท้ายของเรื่อง 7days เรารักกันจันทร์-อาทิตย์ เช้าอีกวันแทนได้ตื่นเชฟหนุ่มชื่อดัง เป็นวันสุดท้ายแล้วเค้าจะได้บอกความจริงกับมีนว่าเกิดอะไรขึ้น และพามีนไปที่งานศพของเค้าไปพบแม่ที่เค้ารัก แม่ได้ยื่นเป็นสมุดของแทนเมื่อหลายปีก่อนที่ได้ฝากแม่เอาไว้ ที่บันทึกเรื่องราวของมีนทั้งหมดพร้อมกับข้อความสุดท้ายว่า will you marry me หลังจากเหตุการณ์วันนั้นมีนก็ได้เดินทางไปตามหาความฝันในการเป็นเซฟของมีนและแทน เรื่องราวที่เกิดขึ้นทำให้มีนได้ก้าวผ่านความกลัวทั้งหมดที่เธอมี ทำตามความฝันของทั้งคู่จนสำเร็จ และสัญญาว่าจะรักแทนผู้ชายคนนี้ตลอดไป แอดแนะนำหนังเรื่องนี้ทั้งในเรื่องของการแสดง ภาพ องค์ประกอบทุกอย่างมันเข้ากันอย่างลงตัว ใครที่ชอบหนังโรแมนติก ดราม่านิดหน่อยแนะนำให้ไปชมหนังเรื่อง 7days เรารักกันจันทร์-อาทิตย์ อาจจะทำให้คุณได้ก้าวผ่านความกลัวหลาย ๆ อย่าง และเข้าใจว่าความรักไม่มีวันพรุ่งนี้ ให้เราแก้ไขเสมอไป ติดตามหนังไทยเรื่องอื่นๆ หรือการรีวิวหนัง ได้ที่เว็บรีวิวหนัง filmograd.net เว็บที่มีคุณภาพมีหนังใหม่และเก่ามารีวิวมากมาย

แนะนำหนัง Into the wild เรื่องหดหู่ที่ สร้างแรงบันดาลใจ

Into the wild

การ สร้างแรงบันดาลใจ นั้น ก็ไม่ได้ทำง่ายอย่างที่คิด ผู้ที่รักการดูหนังหลาย ๆ ท่านคงเคยรับชมหนังมากมายหลายเรื่องที่มีเนื้อหาสอดแทรก ที่จะทำให้ผู้ที่รับชมนั้นเกิดแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิต หรือทำเรื่องราวต่าง ๆ ในชีวิตให้ดีขึ้น ซึ่งเนื้อหาของหนังที่ สร้างแรงบันดาลใจ ต่าง ๆ นี้ส่วนใหญ่นั้น จะมีเรื่องราวที่สดใส หรือตอนจบที่สุขสันต์ แต่สำหรับภาพยนตร์ Into the wild เรื่องนี้นั้นสามารถให้ข้อคิด หรือแรงผลักดันการเกิดแรงบันดาลใจขึ้นมาได้ แต่กลับมีเนื้อหาที่แสนหดหู่ใจ เรื่องราวจะเป็นอย่างไรนั้น ไปอ่านเรื่องย่อกันเลย  แม้จะมีทุกอย่างแต่กลับไม่มีความที่แท้จริง… คริส เด็กหนุ่มวัย 23 ปี ตัวเขานั้นเกิดมาในครอบครัวที่เพียบพร้อม และมีครอบครัวที่มีฐานะร่ำรวย พ่อและแม่ของเขานั้นมีหน้ามีตาในสังคมชั้นสูง แต่ตัวคริสเองนั้น กลับไม่รู้สึกถึงความสุขอย่างแท้จริงเลย หลังจากที่เขานั้นเรียนจบปริญญาตรีในวัย 23 ปี คริสนั้นมีความคิดที่สุดโต่ง เขานั้นเบื่อชีวิตสังคมเมืองอย่างมาก กับการที่ต้องปั่นหน้าเข้าหากันในสังคม การฝืนตัวเองทำงานเช้าเย็น วนลูปไปในทุก ๆ วัน การสร้างฐานะเพื่อให้คนในสังคมยอมรับ คริสรู้สึกว่าเรื่องพวกนี้นั้นไม่ได้ทำให้เขานั้นมีความสุขอย่างแท้จริง เขาจึงตัดสินใจเข้าป่า พร้อมกับรถแวนสีเขียวหนึ่งคัน เขานั้นยอมทิ้งงาน เงิน ครอบครัว รวมถึงคนที่รัก โดยหวังว่าชีวิตของเขานั้นจะพบความสุขสงบอย่างแท้จริงได้ จากการใช้ชีวิตในป่าเพียงลำพัง ซึ่งระหว่างที่เขาใช้ชีวิตอยู่ในป่า เขาได้พบคำตอบของชีวิตมากมาย ที่ผู้ชมนั้นสามารถนำไป สร้างแรงบันดาลใจ ให้ตัวเองได้  ซึ่งตอนจบของหนังเรื่องนี้นั้นทำเอาน้ำตาผู้ชมไหลอาบแก้มได้อย่างง่ายดาย เรื่องราวอันน่าหดหู่ของชีวิตคริสนั้นได้จบลงไปพร้อมกับตอนจบของหนัง ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมานั้นคือ เรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงของ คริสโตเฟอร์ แม็คแคนเลส สำหรับผู้ที่อยากทราบถึงเรื่องราวที่ สร้างแรงบันดาลใจ ให้กับผู้ชมได้ และฉากจบอันหดหู่ใจนี้ สามารถรับชมได้ใน Into the wild เข้าป่าหาชีวิต  3 หนังสุดสะเทือนใจที่ สร้างจากเรื่องจริง หนังที่คุณไม่ควรพลาด และ ติดตามเว็บรีวิวหนังได้ที่นี่

พาดูหนังซอมบี้เรื่อง Train to Busan ด่วนนรก ซอมบี้คลั่ง​

Train to Busan ด่วนนรก ซอมบี้คลั่ง

สำหรับ หนังซอมบี้ Train to Busan ด่วนนรก ซอมบี้คลั่ง เรื่องนี้บอกเลยว่าคนน่ากลัวยิ่งกว่าซอมบี้เสียอีก สำหรับเรื่องราวเริ่มต้นขึ้นจากการที่พระเอกซึ่งเป็นคุณพ่อมีลูกสาว 1 คน อายุน่าจะประมาณ 7-8 ขวบ ซึ่งแยกทางกันภรรยาแล้วต่อมาในวันเกิดลูกบอกว่าอยากจะไปหาแม่ที่ปูซานพ่อก็ตกลงพาลูกสาวขึ้นรถไฟเดินทางเพื่อที่จะไปหาคุณแม่ของลูกสาวหรือก็คือภรรยาเก่าของเขา และแล้วบนรถไฟที่พระเอกและลูกของเขาโดยสารไปมีผู้หญิงคนนึงที่ติดไวรัสหรือก็คือไวรัสซอมบี้นะแหละขึ้นมาอยู่ในรถไฟขบวนด้วยโดยที่ทุกคนตอนแรกไม่รู้เลยว่าไวรัสมันคืออะไรที่จะทำให้คนกลายเป็นซอมบี้ พอผู้หญิงคนนั้นติดมาแล้วก็เริ่มมากลายเป็นซอมบี้รถไฟหลังจากนั้นเหตุการณ์ก็เกิดขึ้นตามสไตล์หนังซอมบี้ทั่วไปก็คือคนก็เปลี่ยนจากมนุษย์ธรรมดากลายเป็นซอมบี้แล้วก็วิ่งกันเยอะแยะเต็มไปหมดเหลือคนที่ยังไม่กลายเป็นซอมบี้อยู่แค่ไม่กี่กลุ่มเท่านั้นเอง ซึ่งในกลุ่มคนกลุ่มนั้นท้ายที่สุดก็เริ่มกลายเป็นซอมบี้ไปทีละคนทีละคนจากการที่โดนซอมบี้กัด ซึ่ง หนังซอมบี้เรื่อง Train to Busan ด่วนนรก ซอมบี้คลั่ง เป็นหนังซอมบี้ที่ดูแล้วบอกได้เลยว่าสนุกมาก ๆ เลยทั้งลุ้นทั้งซึ้งและกดดันไปด้วยกับตัวละคร สำหรับข้อดีของ หนังซอมบี้เรื่อง Train to Busan ด่วนนรก ซอมบี้คลั่ง ที่เห็นได้ชัดเลยคือทุกบทบาทของตัวละครในหนังซอมบี้มีความน่าสนใจไม่ว่าจะเป็นตัวเด่นหรือตัวรองทำให้คนเข้าถึงตัวละครได้มากขึ้นไม่ว่าจะเป็นพระเอกหรือตัวละครอื่นๆ มีการแก้ปัญหาที่ดูแล้วหลากหลายไม่น่าเบื่อแล้วก็ดูกดดันมาก ๆ และสิ่งที่น่ากลัวที่สุดไม่ใช่ปัจจัยภายใน สิ่งที่น่ากลัวที่สุดก็คือความหวาดกลัวของมนุษย์ซึ่งก็มีคนอยู่บางประเภทที่จะใช้ความหวาดกลัวนี้มาเป็นผลประโยชน์ของตัวเอง มาดูที่ข้อด้อยของ หนังซอมบี้ Train to Busan ด่วนนรก ซอมบี้คลั่ง กันบ้างซึ่งหนังเรื่องนี้มีบางจุดที่มีวิธีการถ่ายทอดยตัวละครทำให้เราหงุดหงิดอยู่บ้างหรือว่าสงสัยนะว่าทำไมเขาไม่ทำแบบนั้นอีกแค่นิดเดียวและอีกอย่างหนึ่งก็คือหนังยังไม่ค่อยได้ชี้แจงหรือว่าไปเจาะลึกถึงสาเหตุของซอมบี้  สรุปเรื่องนี้สนุกมากตื่นเต้นกดดันแล้วก็มีโมเม้นที่ซึ้งใจ มีตลกคอมเมดี้บ้างและบทบาทตัวละครแต่ละตัวให้แง่คิดกับเราในเรื่องต่างๆ เช่น ความเสียสละเพื่อส่วนรวม มิตรภาพของความเป็นเพื่อน ความรักของหนุ่มสาว ความเห็นแก่ตัว และความรักที่บริสุทธิ์ของพ่อแม่ที่มีต่อลูก สำหรับหนังซอมบี้เรื่องนี้ให้ 9 คะแนน หักคะแนนตรงการแต่งเอฟเฟคพวกซอมบี้และการไล่ล่าต่อสู้กับซอมบี้ยังไม่ค่อยดูสยดสยองสักเท่าไร  ติดตามรีวิวหนังซอมบี้และรีวิวหนังใหม่อีกมากมายได้ที่นี่