รีวิวหนัง captain phillips ฝ่านาทีพิฆาต โจรสลัดระทึกโลก

Captain Phillips

เรื่องราวที่ถูกนำมถ่ายทอดเป็นภาพยนตร์ที่สร้างขึ้นจากเรื่องจริงที่เกิดขึ้นของ Captain Phillips เรื่องราวของกัปตันผู้โด่งดัง ในขณะที่เขาเดินเรือสินค้าไปในท้องทะเลไปส่งยังเป้าหมาย เขาได้แล่นเรือผ่านน่านน้ำโซมาเรีย น่านน้ำที่ไม่ว่านักเดินเรือคนไหนก็ต่างรู้ดีว่าเป็นสถานที่ที่อันตรายที่สุดเพราะน่านน้ำโซมาเรียเต็มไปด้วยโจรสลัดที่ประเทศยากจนอย่างโซมาเรียยึดครองอยู่ เรือลำใดที่ต้องการผ่านน่านน้ำนี้มักจะมักต้องจ้างเรือรบของทหารหรือทหารรับจ้างคอยคุ้มครองเรือทุกลำ แต่ว่าเรือขนสินค้าของ Captain Phillips ไม่มีแม้แต่การอารักขาใดๆ จนกระทั่งเขาต้องเดินทางผ่านน่านน้ำที่ขึ้นชื่อว่ามีโจรสลัดชุกชุม เขารู้ดีว่าจะต้องพบเจอกับอะไรเขาจึงออกคำสั่งให้ลูกเรือเตรียมตัวรับมือไว้ให้ดีตามแผนการปฏิบัติที่ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี เขาเร่งความเร็วเรือเพื่อให้ผ่านน่านน้ำนี้ไปให้ไวที่สุด แต่แล้วจู่ๆสิ่งที่เขาไม่อยากให้เกิดขึ้นก็ปรากฏ สิ่งที่เขาเห็นนั่นก็คือเรือประมงลำเล็กที่มีคนผิวสีติดอาวุธขับตามเรือสินค้ามาด้วยความเร็ว เราจึงพยามใช้กลยุทธ์ที่เขาพอจะทำได้เพื่อหลบเลี่ยง ทั้งการโยกเรือเพื่อให้เกิดคลื่นน้ำให้ให้เรือเล็กที่ตามเสียการควบคุมและยากต่อการประกบเรือ อีกทั้งยังฉีดพ้นน้ำบริเวณโดยรอบลำเรือเพื่อไม่ให้เรือโจรสลัดสามารถปีนขึ้นมาได้ แต่ก็ไม่เป็นผล เพราะคนบนเรือสินค้าไม่มีอาวุธใดเลยที่จะต่อสู้ Captain Phillips จึงต้องจำใจยอมปล่อยให้กลุ่มโจรสลัดขึ้นเรือมาได้ โจรสลัดโซมาเรียจึงจับทุกคนเป็นตัวประกัน พวกเขาได้เรียกร้องให้ลูกเรือติดต่อกลับไปยังรัฐบาลหรือบริษัทของตน เพื่อแลกกับค่าไถ่ ท่ามกลางความตื่นกลัวของลูกเรือ Captain Phillips จึงเสนอให้ปล่อยทุกคนไปแล้วจับเขาไว้เป็นตัวประกันเพียงคนเดียว โดยให้เหตุผลว่าเขาคือคนสำคัญที่สุดในเรือลำนี้และอาจมีอำนาจต่อรองเงินประกันได้มากกว่าคนอื่นๆรวมถึงสินค้าทั้งหมดบนเรือ โจรสลัดจึงนำตัว Captain Phillips ลงเรือฉุกเฉินของเรือและลอยอยู่กลางทะเล ระหว่างนั้นเขาใกล้ชิดกับกลุ่มโจรสลัดจนความกลัวกลายเป็นความรู้สึกสงสาร แต่ฉากสุดท้ายเจ้าหน้าที่จำเป็นต้องปิดชีพพวกเขาทั้งหมด  ติดตามข่าวสารเพิ่มเติม เว็บไซต์ที่คัดสรรความบรรเทิงมาให้แบบครบครันทั้งหนังไทย หนังต่างประเทศ หนัง Netflix และซีรีย์ต่างๆ 3 หนังสุดสะเทือนใจที่ สร้างจากเรื่องจริง หนังที่คุณไม่ควรพลาด แนะนำซีรี่ส์ Netflix สายดาร์ค นี่มันพระเอก หรือตัวร้ายกันแน่!

3 หนังสุดสะเทือนใจที่ สร้างจากเรื่องจริง หนังที่คุณไม่ควรพลาด

สร้างจากเรื่องจริง

อยากที่หลาย ๆ ท่านนั้นทราบดีว่าภาพยนตร์ส่วนใหญ่นั้น เป็นเพียงการเขียนบทและเรื่องราวขึ้นมา เพื่อความสนุกและความบันเทิง แต่ก็ยังมีภาพยนตร์อีกมากที่ สร้างจากเรื่องจริง แต่สำหรับบทความนี้เราจะขอนำเสนอภาพยนตร์ที่สร้างจากพื้นฐานของเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริง ซึ่งแต่ล่ะเรื่องนั้นสุดแสนที่จะสะเทือนใจจนไม่อยากคิดว่ามันเคยเกิดขึ้นจริง 1. 127 hours   เป็นภาพยนตร์การเอาตัวรอด ที่นำเสนอเรื่องราวจริงของชีวิต Aron Ralston นักปีนเขาสุดเก่ง ที่พลาดท่าพลัดตกลงไปในร่องถูเขาหิน ทำให้ร่างกลายของเขานั้นบาดเจ็บและติดคาอยู่กับก้อนหินใหญ่ ในร่องภูเขาอันห่างไกล เขานั้นติดอยู่ตรงนั้นเพียงลำพังเป็นเวลา 127 ชั่วโมง เรื่องราวของหนังได้นำเสนอถึงความกดดัน การเอาชีวิตรอด และความหวัง รวมถึงเรื่องราวในอดีตของตัวละครหลัก ได้อย่างสะเทือนใจ เมื่อคิดว่าเหตุการณ์นี้สร้างจากเรื่องจริง ที่เกิดขึ้นกับคน ๆ หนึ่ง127 hours Movie trailer 2. The 33 ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ สร้างจากเรื่องจริง ที่เกิดขึ้นของคนงานเมือง ในประเทศชิลี เรื่องราวนั้นเกิดขึ้นเมื่อเมืองทองแดงที่มีอายุเก่าเกือบ 100 ปี ได้ถล่มลงและปิดทางเข้าออกของคนงานเมือง ทั้ง 33 ชีวิต ต้องพยายามหาวิธีที่จะติดต่อกับคนภายนอก ซึ่งเมืองนี้มีความลึกเสมือนตึก 200 ชั้น โดยภาพยนตร์นั้นได้ถ่ายทอดเรื่องราผ่านตัวคนงานในเมืองได้อย่างลึกซึ้ง พร้อมกับเรื่องราวของญาติคนงานเมืองที่สุดแสนสะเทือนใจ ถือว่าเป็นภาพยนตร์ที่น่าติดตาม และคอยลุ้นไปกับพวกเขาทั้ง 33 คน The 33 Movie trailer 3. American sniper ภาพยนตร์เรื่องนี้ เรียกได้ว่าถูกยกขึ้นหิ้งให้เป็นตำนาน โดยเนื้อหานั้นได้ถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตของ คริส ไคล์ นายผลนักแม่นปืนของหน่อยซีล ใยกองทัพของสหรัฐฯ คริสนั้น เรียกได้ว่าเป็นนักแม่นปืนมือฉกาจ ที่คอยทำงานให้กับกองทัพได้อย่างดีเยี่ยม รวมถึงชีวิตครอบครัวของเขานั้นก็ดีเยี่ยมไม่ต่างกัน แต่ด้วยความที่เขานั้นเก่งกาจและจัดการศัตรูมานับไม่ถ้วน ทำให้ตัวเขาเองนั้นตกอยู่ในความอันตรายแบบไม่ทันตั้งตัว สำหรับภาพยนตร์ที่ สร้างจากเรื่องจริง ที่มีเรื่องราวสุดแสนสะเทือนใจในตอนจบ จนสามารถเรียกน้ำตาจากคนดูได้แทบทุกคน และได้ถูกเข้าชิงรางวัลออสการ์ไปถึง 6 รางวัลด้วยกันAmerican sniper Movie trailer เว็บไซต์ที่คัดสรรความบรรเทิงมาให้แบบครบครันทั้งหนังไทย หนังต่างประเทศ หนัง Netflix และซีรีย์ต่างๆ

แนะนำซีรี่ส์ Netflix สายดาร์ค นี่มันพระเอก หรือตัวร้ายกันแน่!

ซีรี่ส์ Netflix

Netflix ถือเป็นแหล่งรวมของภาพยนตร์ ซีรี่ส์ รวมถึงการ์ตูนที่น่าสนใจมากมาย มีเยอะแยะเสียจนคอหนังเลือกไม่ถูกกันเลยทีเดียวว่าจะดูเรื่องไหนก่อนหลัง เพราะจะแนวคอมเมดี้ โรแมนติก ไซไฟ หรือสารคดี Netflix เขาก็จัดให้ได้หมด วันนี้ขอเอาใจสายดาร์คกันหน่อยละกัน ใครที่กำลังเบื่อ ๆ แนวพระเอกเทพบุตรสุดใจดี มีความเป็นฮีโร่สุดเท่ห์แล้วละก็ นี่เลยขอแนะนำซีรี่ส์ Netflix สายดาร์ค นี่มันพระเอก หรือตัวร้ายกันแน่!  1. Peaky Blinders –  ซีรีส์ Netflix  แนวมาเฟีย โหด ดิบ เถื่อน สมัยยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 ณ เมืองเบอร์มิงแฮม ประเทศอังกฤษ “พีคคี้ ไบล์นเดอร์ส” คือชื่อกลุ่มอันธพาลหรือโค้ดลับของตระกูลเชลบี้ (Shelby) ซึ่งมีอิทธิพลในเงามืดอย่างมากในเมืองเบอร์มิงแฮมสมัยนั้น  ทอมมี่ เชลบี้ (Tommy Shelby) พระเอกของเรื่องที่มาพร้อมกับใบหน้าเรียบนิ่งยากที่จะคาดเดา เป็นผู้นำตระกูลผู้มีความฉลาดแกมโกง หลังจากถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารสู้กับฝรั่งเศสเขากลับมาพร้อมกับความคิดที่จะขยายอำนาจของตระกูล ให้กลายเป็นผู้ที่มีอิทธิพลเหนือกฎหมาย เขาทำได้ทุกอย่างเพื่อตระกูลทั้งฆ่า หลอกลวง คดโกง จนเกิดความสงสัยว่านี่มันพระเอก หรือตัวร้ายกันแน่! Movie trailer 2. You – ซีรี่ส์ Netflix  แนวรักโรแมนติกสายดาร์ก เมื่อ “โจ” ผู้จัดการร้านหนังสือดันไปตกหลุมรัก “เบค” ลูกค้าสาวของตัวเองซึ่งเป็นผู้หญิงที่ตรงสเปคของเขาทุกอย่าง เขาเชื่อในการตกหลุมรักแรกพบจึงทำทุกอย่างเพื่อที่จะได้รู้จักเธอและให้เธอตกหลุมรักเขา ดูเผิน ๆ อาจเหมือนการกระทำของคนที่อินเลิฟทั่ว ๆ ไป แต่เมื่อดูซีรี่ส์ไปสักพักก็ต้องฉุกใจคิดว่านี่มันพระเอก หรือตัวร้ายกันแน่ เมื่อหนุ่มโจได้สืบค้นข้อมูลทางโซเชียลมีเดียของเธออย่างละเอียดยิบ จนรับรู้ทุกความเคลื่อนไหวของเธอ ทั้งข้อมูลเรื่องครอบครัว เพื่อน หรือความสัมพันธ์กับคนรัก กระทั่งยอมฆ่าคนเพื่อให้ได้เธอมา เรียกได้ว่าคนเราทำได้ทุกอย่างเพื่อความรักล่ะน่า Movie trailer 3. Extracirricular – ซีรี่ส์Netflix  วัยรุ่นเกาหลีแบบแหวกแนว เพราะเป็นสายดาร์คที่ไกลห่างจากความเป็นซีรี่ส์เกาหลีสายหวานละมุนอบอุ่นหัวใจอย่างสิ้นเชิง ดำเนินเรื่องโดย โอจีซู นักเรียนผลการเรียนยอดเยี่ยมขวัญใจคุณครู แต่ดูเป็นหนุ่มติ๋ม ๆ ขี้แพ้ในสายตาเพื่อน ๆ แต่จะมีใครรู้บ้างว่าเบื้องหลังภาพลักษณ์เด็กธรรมดา ๆ นั้นพระเอกของเราถึงขั้นยอมทำอาชญากรรมเพื่อที่จะส่งเสียตัวเองเล่าเรียน! คงไม่ถึงขั้นตั้งคำถามว่านี่มันพระเอก หรือตัวร้ายกันแน่ เพราะชีวิตของโอจีซูค่อนไปทางน่าสงสาร แต่ก็ต้องยอมรับว่าความมืดได้เข้าสู่จิตใจของเด็กหนุ่มทีละนิด ๆ จนไม่รู้ว่าเรื่องราวของเขาจะจบลงที่หัวหรือก้อย ต้องมาลุ้นกันว่าเขาจะสามารถกลับมาสู่ทางสว่างอีกครั้งได้หรือไม่Movie trailer เว็บไซต์ที่คัดสรรความบรรเทิงมาให้แบบครบครันทั้งหนังไทย หนังต่างประเทศ หนัง Netflix และซีรีย์ต่างๆ

หนังแอคชั่นสนุกๆ กับเรื่อง Birds of Prey

หนังแอคชั่น

สำหรับหนังเรื่องนี้เป็น หนังแอคชั่น ที่ดูแล้วค่อนข้างเบาสมอง ฉากต่อสู้ก็ทำสนุกสุดเหวี่ยง ถ้าใครกำลังหาหนังแอคชั่นที่ดูมันส์ๆ ฮา ๆ มีภาพสีสันสวยและมีฉากแอคชั่นลีลาการต่อสู้แนะนำเข้ามาดูเรื่องนี้ ตัวเอกของหนังแอคชั่นเรื่องนี้ก็คือฮาร์ลีย์ ควินน์ ได้เลิกกับโจ๊กเกอร์ที่เคยเป็นแฟนและคุ้มกะลาหัวของเธอ ปัญหาคือฮาร์ลีย์เมื่อตอนที่คบกับโจ๊กเกอร์ ได้สร้างคู่อริไว้ค่อนข้างมากมายนับไม่ถ้วนเลยทีเดียว เมื่อข่าวการเลิกรากับโจ๊กเกอร์แพร่ออกไปเหล่าอริที่เคยเกรงกลัวโจ๊กเกอร์ต่างมุ่งหน้าไล่ล่ามาที่ฮาร์ลีย์ทันที เธอต้องทำทุกอย่างเพื่อหาทางเอาตัวรอดจากเหตุการณ์ความวุ่นวายรอบๆตัว ทำให้ได้ไปพบเจอกับเหล่าหญิงสาวที่จะมาร่วมชะตากรรมด้วยอีกหลายๆคน  หลังจากดูหนังแอคชั่นเรื่องนี้จบร้องโอ้โหเลยทีเดียว ต้องยอมรับเลยว่าประหลาดใจมาก ๆ สำหรับหนังแอคชั่นเรื่องนี้ที่ทำได้ดีกว่าที่คิดไว้จากที่ดูตัวอย่างหนังไปหลายรอบแล้วก็ตาม รูปแบบการนำเสนอของหนังแอคชั่นเรื่องนี้มันเหมือนกับว่า เรากำลังฟังฮาร์ลีย์ ควินน์ มาเล่าเรื่องราวให้เราฟังด้วยตัวเองเกือบตลอดทั้งเรื่อง เพราะจะมีเสียงของฮาร์ลีย์ คิดในใจประกอบด้วยเสมอ ซึ่งตรงจุดนี้ก็เติมสีสันให้เรื่องได้อย่างดีมากและเอกลักษณะของฮาร์ลีย์ความน่ารักไร้เดียงสาเปิ่นๆฮาๆ แต่มีความโหดเหี้ยมและบ้าระห่ำทำให้เราจดจำเธอได้เป็นอย่างดีสิ่งเหล่านี้มันทำให้ทุกอย่างในเรื่องสนุกไปหมด ฉากที่มีต่อสู้ทั้งคิวบู๊และรูปแบบการต่อสู้ก็สามารถทำและถ่ายทอดออกมาได้ดีเพราะไม่ใช่แค่ต่อยธรรมดามันดูแบบหลุดโลกดีซึ่งหนังแอ็คชั่นปกติก็คงจะดูแปลกที่มันจะทำให้น่ารักแบบฮา ๆ แต่พอมันเป็นฮาร์ลีย์ ที่เป็นแบบนี้มันก็ดูเข้ากับเธออย่างที่สุด ต้องยกเครดิตให้ผู้กำกับจอห์นวิคทั้ง 3 ภาค ซึ่งพอรู้ว่าเป็นผู้กำกับคนนี้ก็น่าจะการันตีถึงความมันส์ของหนังแอคชั่นเรื่องนี้ได้ระดับนึงรวมถึงการใช้สีสันต่างๆ ไม่ดูดาร์กเกินไปภายในเรื่องทำให้การต่อสู้ดูน่าตื่นเต้นน่าสนใจดูแล้วไม่ได้ชวนง่วง อีกทั้งหนังเรื่องนี้เป็นการต่อสู้ของผู้หญิงซึ่งรูปแบบของการต่อสู้จะใช้ทักษะต่าง ๆ ที่ใช้ความเร็วมากกว่าการเข้าใช้กำลังปะทะแบบตรงๆ ให้อารมณ์การนั่งดูหนังแอคชั่นที่รู้สึกแปลกใหม่อยู่พอสมควร ในส่วนของตัวละครที่แสดงโดย มาร์ โก ร็อบบี ตัวเอกที่แสดงเป็นฮาร์ลีย์ ควินน์ บทนี้เหมาะกับเธอมาก ๆ เรียกได้มาเธอเอาอยู่เพราะจะบอกว่าเกือบทั้งเรื่องถูกเล่าเรื่องด้วยฮาร์ลีย์ เราจะได้เห็นการแสดงของเธอแบบเต็มๆ ทั้งสีหน้าท่าทางแล้วก็คำพูดวาจาใจของเธอมันไม่ใช่แค่น่ารักแต่มันเต็มเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ ทำให้ไม่ยากเลยที่ถ้าใครได้ดูเรื่องนี้แล้วก็จะพากันหลงรักตัวละครตัวนี้ เว็บไซต์ ที่ให้บริการภาพยนตร์ ซีรีส์รายการทีวี ต่างๆ มีให้เลือกตั้งแต่ภาพยนตร์ ซีรีส์ของไทย อังกฤษ อเมริกา สเปน ฝรั่งเศส จนถึงรัสเซียเลย นอกจากนั้นยังมีผลงานของ Netflix เองด้วย เว็บไซต์ที่คัดสรรความบรรเทิงมาให้แบบครบครันทั้งหนังไทย หนังต่างประเทศ หนัง Netflix และซีรีย์ต่างๆ

Knives Out ใครฆ่าคุณปู่ หนังสืบสวนสอบสวนชิงมรดกฆ่าตกรรมซ่อนเงื่อน

Knives Out ใครฆ่าคุณปู่ เรื่องราวที่เกิดขึ้นหลังจากงานเลี้ยงรวมญาติของ ตระกูล ธรอมบีย์ ที่ ฮาร์ลาน ธรอมบีย์ นักเขียนแนวสอบสวนชื่อดัง ถูกพบเป็นศพลักษณะคล้าย ว่าฮาร์ลานฆ่าตัวตาย ด้วยทรัพย์สมบัติมากมายมหาศาลของตระกูลนี้ ก็อดคิดไม่ได้ว่า ฮาร์ลานนั้นได้ถูก Knives Out ใครฆ่าคุณปู่ ถูกดำเนินเรื่องชวนไขปริศนามากมายจากนักสืบ เบนัวต์  บล็องก์ ซึ่งนำแสดงโดย คริส อีแวนส์ รับบทเป็นนักสืบที่เขาได้ทำหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยม การสืบสวนของนักสืบ ดำเนินการไปอย่างเข้มข้นกับทุกคนในครอบครัว ทั้งลูกสาวคนโต ลูกชายคนเล็ก ลูกสะใภ้ รวมถึง มาร์ทา คาร์เบลลา พยาบาลของฮาร์ลานก็ถูกสอบสวนเช่นกัน ในช่วงแรกของหนังถูกดำเนินไปด้วยความเรียกว่าที่ค่อนข้างจะน่าเบื่อ แต่เมื่อพินัยกรรมถูกเปิดขึ้นก็ทำให้หนังนั้นดูสนุกยิ่งขึ้นเพราะ มาร์ทา คาร์เบลลา เป็นผู้ได้รับพินัยกรรม ส่งผลให้เธอต้องพบกับความโกลาหลยิ่งนัก แรนซัม ดรายส์เดล  รับบทโดย คริส อีแวนส์ ใน Knives Out ใครฆ่าคุณปู่ เปลี่ยนลุคจากพระเอกนักกล้ามที่เราเคยเห็นเขาแสดงมากมายหลายเรื่องเช่น กัปตันอเมริกา การพลิกบทบาทในครั้งนี้ มากับมาดกวนก็ชวนให้น่าติดตาม ด้วยความเจ้าเล่ห์แสนกลของ แรนซัม เขาได้เกลี้ยกล่อม มาร์ทา นั้นยอมรับว่าเป็นคนฆ่า แรนซัมเองก็ยื่นข้อเสนอว่าจะช่วยเหลือเธอทุกอย่าง แต่ต้องแบ่งสมบัติส่วนหนึ่งให้แรนซัม ระหว่างการสืบสวนนั้นการลำดับภาพต่างๆ ทำให้ผู้ชมรู้สึกมีอารมณ์ร่วมไปกับหนัง คล้ายกับดูนักสืบเชอรอคโฮม และโคนั้น เพลงประกอบหนังกลิ่นอายของความตื่นเต้นถูกสรรสร้างมาได้อย่างลงตัว ความมึน เอกลักษณ์ของแต่ละคนในตัวละคร ถูกจัดวางทำให้เนื้อเรื่องการสืบนั้นน่าสนใจเป็นอย่างมาก การพลิกไปมาระหว่างการตามล่าหาตัวคนร้ายนั้นได้ถูกดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง คนที่ดูจะยุ่งที่สุดก็น่าจะเป็น มาร์ทาเอง เพราะเธอต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่ถูกสร้างมาจากผู้ร้ายตัวจริงที่ได้สร้างขึ้นเพื่อหลอกล่อเธอต่างๆ นาๆ แต่สุดท้ายแล้วคดีทั้งหลายก็ถูกคลี่คลาย ด้วยความเอาจริงเอาจังของนักสืบ เบนัวต์  บล็องก์ มีลูกล่อลูกชนจนทำให้พบว่า แรนซัมคือผู้ร้ายตัวจริง หลักฐานต่างๆ ถูกตีแผ่ให้คนในครอบครัวได้รับรู้ สุดท้ายก็ดิ้นไม่หลุด เป็นอย่างไรกันบ้างครับ กับเนื้อเรื่องโดยย่อ แต่ถ้าอยากเต็มอิ่มไปมากกว่านี้เราก็สามารถหาดู Knives Out ใครฆ่าคุณปู่ กันได้เลยนะครับ เว็บไซต์ที่คัดสรรความบรรเทิงมาให้แบบครบครันทั้งหนังไทย หนังต่างประเทศ หนัง Netflix และซีรีย์ต่างๆ click เว็บไซต์ ที่ให้บริการภาพยนตร์ ซีรีส์รายการทีวี ต่างๆ มีให้เลือกตั้งแต่ภาพยนตร์ ซีรีส์ของไทย อังกฤษ อเมริกา สเปน ฝรั่งเศส จนถึงรัสเซียเลย นอกจากนั้นยังมีผลงานของ Netflix เองด้วย click

รีวิวหนัง The Platform แฝงข้อคิดที่หลายคนมองข้าม

ภาพยนตร์เรื่อง The Platform เป็นภาพยนตร์ที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในขณะนี้ ด้วยรูปแบบของหนังที่แปลกใหม่ มีความลึกลับที่ทำให้ผู้ชมนั้นอยากติดตาม ชายคนหนึ่งชื่อ โกเรง ที่ตื่นขึ้นมาในห้องแห่งหนึ่ง ที่อยู่ในตึกแบบทึบไม่มีประตูหรือหน้าต่าง แต่มีรูหรือหลุมตรงการห้อง ที่มีไว้เพื่อส่งอาหารให้กับผู้ที่อยู่ในตึกนี้ ซึ่งตึกแห่งนี้ที่มีมากึง 333 ชั้น โดยที่อาหารจะเริ่มส่งมาจากชั้นบน และค่อย ๆ เลื่อนลงไปชั้นล่าง ตามชั้นต่าง ๆ จนถึงล่างสุด ซึ่งส่วนใหญ่แล้วอาหารที่ถูกส่งมานั้นจะหมดไปตั้งแต่ชั้นแรก ๆ ส่วนคนที่อาศัยอยู่ชั้นล่าง ๆ นั้นแทบจะไม่ได้กินอาหารเลย ส่วนเรื่องราวจะจบลงอย่างไรนั้น สามารถติดตามได้ใน The Platform The Platform เรียกได้ว่าเป็นหนังที่น่าติดตามเป็นอย่างมาก และสำหรับผู้ชมหลายท่านที่รับชมจนจบอาจจะสงสัยว่า หนังเรื่องนี้จะสื่อถืออะไร นอกจากเนื้อหาเรื่องราวที่น่าติดตาม และลุ้นไปกับตัวเอกอย่างตื่นเต้นนั้น แท้จริงแล้ว หนังเรื่องนี้ได้แทรกข้อคิด เกี่ยวกับเรื่องของการแบ่งชั้นวรรณะ ไว้ได้อย่างแนบเนียน อย่างที่ในหนังได้สื่อว่าผู้คนที่อยู่ชั้นบนสุดนั้น จะได้กินอาหารก่อนและเป็นของที่ดีที่สุด แล้วหลังจากคนเบื้องบนกินเสร็จ เศษอาหารเหลือก็จะถูกส่งลงมาด้านล่างต่อไปเรื่อย ๆ จนผู้คนที่อยู่ชั้นล่างนั้นเกิดความขัดแย้ง ความรุนแรง เพราะอาหารที่ส่งมานั้นไม่ถึงพวกเขา ซึ่งจะสะท้อนถึงสังคมที่เป็นอยู่ในทุกวันนี้ ในเรื่องความเลื่อมล้ำต่าง ๆ มากมาย ที่คนเบื้องบน เปรียบได้กับคนที่มีอิทธิพลในสังคม ซึ่งในหนังสำหรับผู้คนในที่อยู่ในตึกนั้นจะได้รับการจัดอันดับในแต่ล่ะชั้น เช่นเดียวกับผู้คนในสังคมที่มีผู้คนอยู่หลายระดับ และคนที่อยู่ระดับล่างสุดของสังคมก็จะไม่ได้รับถึงอาหาร หรือทรัพยากรดี ๆ อย่างที่คนในระดับสูงกว่านั้นมี เรียกได้ว่า The Platform เป็นหนังที่แฝงข้อคิดได้อย่างลึกซึ้งเป็นอย่างมาก Movie trailer click เว็บไซต์ที่คัดสรรความบรรเทิงมาให้แบบครบครันทั้งหนังไทย หนังต่างประเทศ หนัง Netflix และซีรีย์ต่างๆ click

Extraction หนังดังจาก Netflix ถ่ายทำที่ไทย

Chris Hemsworth ได้ยินชื่อนี้สาวกชาวไทยก็นึกถึงภาพของเทพเจ้าสายฟ้าธอร์ บุตรแห่งเทพเจ้าโอดินที่ไม่ว่าเวลาไหนก็ฆ่าเขาไม่ตาย เพราะด้วยบุคลิกที่หล่อ เท่ห์ แถมขี้เล่นนิดๆ ทำให้สาวๆ หลายคนต้องร้องกรี๊ดกันเลย แล้วเขาจะมาเป็นนักแสดงหลักหนังที่ชื่อว่า Extraction          การกลับมาในครั้งนี้ของ Chris Hemsworth ในบทนักแสดงนำของเรื่อง Extraction ที่สร้างคามฮือฮาจากคลิปสั้นๆ บนทางด่วนที่นักแสดงนำของเราได้บ่นถึงเรื่องรถติดในกรุงเทพนั่นเอง เอ๊ะทำไมถึงได้บ่นหละครับ แน่นอนว่า Chris Hemsworth คงไม่ได้มาเที่ยวอย่างเดียวอย่างแน่นอน แต่เขานั้นได้มาถ่ายทำหนังเรื่อง Extraction ที่ประเทศไทยของเรานั่นเอง รู้สึกตื่นเต้นเลยนะครับ ที่บรรยากาศบ้านเราจะไปปรากฎอยู่ในโรงภาพยนต์ระดับโลกกันเลยทีเดียว          การถ่ายทำที่ประเทศไทยถูกเนรมิตเป็นเมืองธากา เมืองหลวงของประเทศบังกลาเทศและประเทศไทยยังได้ถูกดัดแปลงเป็นเมือง เมืองอาห์เมดาบัด ในประเทศอินเดียอีกเช่นกัน          Extraction เริ่มเรื่องด้วย ไทเลอร์ เรค รับบทโดย Chris Hemsworth อดีตทหารสมัคร ที่ภูมิหลังนั้นมีแต่เรื่องร้าวรานในจิตใจ หัวใจของเขาได้แตกสลายไปอย่างสิ้นเชิง เขาได้ผันตัวมาเป็นทหารรับจ้าง การเดินเรื่องก็คงไม่ต่างอะไรกับเรื่องอื่นๆ ที่อดีตเป็นทหารมือดี แต่จับพลับจับผลูมาเป็นทหารรับจ้างอีก ด้วยฝีมือที่เก่งฉกาจ การใช้ชีวิตของเขาก็มีไปวันๆ อยู่อย่างไร้จุดหมาย แต่จู่ๆ เขาก็ได้รับงานจ้างเป็นการชิงตัว ลูกชายมาเฟียในย่านนั้นเพื่อเรียกค่าไถ่ โดยหัวหน้าเจ้าพ่อผู้คุมเมืองอีกฝั่งหนึ่ง ซึ่งทั้งสองระหองระแหงกันมาอย่างยาวนาน และแล้วเรื่องราววุ่นวาย ความสนุกต่างๆ ก็ได้เกิดขึ้น ความอันตรายที่ปกคลุมด้วยอิทธิพลของมาเฟียในย่านนั้นก็ยากเกินจะอธิบายได้ ในเรื่องยังดำเนินไปถึงการหักหลัง ซ้อนแผนซ่อนเงื่อน จึงเป็นบททดสอบ Chris Hemsworth สำหรับการกลับมาของเขาได้ดีทีเดียว          เรื่องราวได้ถูกดำเนินไป แต่ว่าฉากแอ็คชั่นต่างๆ ทำมาได้อย่างสุดมันส์ด้วยความบ้าระห่ำ ของ Chris Hemsworth บู้ล้างผลาญ และระทึกใจของฉากที่ลำดับภาพมาเป็นอย่างดี ผู้ชมส่วนใหญ่แทบหยุดหายใจกับฉากการต่อสู้ที่ต่อเนื่องยาวนานถึง 2 ชั่วโมงเต็มกันเลยทีเดียว          จุดขายที่หนัง Extraction พยายามขายก็คือฉาก Long Take ที่มีความยากของการถ่ายทำ และอาวุธสงครามที่ใช้ ประหนึ่งว่าขนมาทั้งกองทัพเพื่อถ่ายทำฉากที่ยากที่สุดในหนังเรื่องนี้เลยก็ว่าได้ เรียกได้ว่าจะทำให้ผู้ชมประทับใจกับฉากนี้และโดนใจอย่างแน่นอน          การถ่ายทำในประเทศไทยเป็นส่วนใหญ่ แต่เราก็ยังแทบจะมองไม่ออกว่าถ่ายทำที่ประเทศไทยและเราไปพิสูจน์กันได้ที่ Extraction ใน Netflix กันเลยครับ Movie trailer click เว็บไซต์ที่คัดสรรความบรรเทิงมาให้แบบครบครันทั้งหนังไทย หนังต่างประเทศ หนัง Netflix และซีรีย์ต่างๆ click

Bad Boys For Life คู่หูขวางนรก ระห่ำโลก กลับมาใหม่ ใส่เต็มแม็ก

Bad Boys For Life แค่ได้ยินชื่อนี้ก็จะนึกถึงสองตำรวจคู่ซี้ ที่มีดีกรีความห้าว กวน ชวนขำ แต่ยังเต็มไปด้วยฝีมือที่เก่งฉกาจของเมืองไมอามี่กันเลยทีเดียว ด้วยคาแรคเตอร์ที่ถูกจัดวางมาได้อย่างลงตัว น่าจดจำและสนุกไปกับเนื้อหาของหนัง ทำให้ Bad Boys เป็นที่จดจำและเป็นที่รักของคนทั่วโลกไปแล้ว          Bad Boys For Life การกลับมาอีกครั้งของคู่หูขวางนรก ตำรวจระห่ำโลก ที่กลับมาครั้งนี้ขนความสนุก ความฮา ความกวนประสาทมาเสริฟแฟนๆ ที่ติดตามรอคอย          ไมค์ ลาวรีย์ (Will Smith) และมาร์คัส เบอร์เนตต์ (Martin Lawrence) แห่ง Bad Boys For Life ในเริ่มแรกของหนัง มาร์คัสได้รู้สึกว่าตัวเองอยากจะเกษียณตัวเอง และวางมือจากการเป็นำตรวจ ที่เขาได้รับใช้เมืองนี้มาอย่างยาวนาน ผลงานต่างๆ มากมายต่างเป็นที่รับรู้กันดีว่า พวกเขาทั้งสองได้สร้างคุณงามความดีไว้กับเมืองดีมากมายขนาดไหน แต่ทว่า คนเราก็มาถึงจุดอิ่มตัว มาร์คัสก็อยากที่จะวางมือ แต่ไมค์นั้นกลับยังไม่อยากจะวางมือ เรื่องราวได้ถูกดำเนินไป เมื่อเจ้าแม่ค้ายาได้แหกคุกออกมาและไล่เก็บชีวิตคนที่ทำให้สามีของเธอตาย โดยใช้ลูกของเขาเป็นเครื่องมือในการจัดการทุกอย่าง          แน่นอนว่า ไมค์ก็คือเป้าหมายหนึ่งที่ถูกหมายหัวเอาไว้แล้ว และแล้วก็เป็นจริง ไมค์ได้ถูกลอบยิงจากสองแม่ลูก เรื่องราวน่าติดตามของ Bad Boys For Life ก็ได้เริ่มขึ้น          เมื่อไมค์รักษาตัวจนหายดี เขาก็ได้เริ่มสืบถึงมือปืนที่แอบยิงเขาในวันนั้น โดยไมค์ไปขอความร่วมมือคู่ซี้ของเขานั่นคือ มาร์คัส แรกๆ มาร์คัสก็มีทีท่าปฏิเสธ แต่เมื่อเข้าตาจน มาร์คัสก็เริ่มอ่อนข้อ และร่วมมือกับไมค์ในการสืบสวนเรื่องราวกันต่อไป          ยิ่งสืบก็ยิ่งทำให้ ไมค์หวนคิดถึงอดีต เพราะด้วยสัญลักษณ์ต่างๆ ที่มือปืนได้ทิ้งไว้นั้นล้วนถูกกำหนดมาจากหญิงคนนั้น          Bad Boys For Life ใช้ปมในชีวิตของไมค์มาดำเนินเรื่อง เป็นเรื่องที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดในอดีตที่ไม่สามารถแก้ไขได้ จนทำให้ไมค์ต้องมาพบกับ มือปืนคนที่ยิงเขา นั่นก็คือลูกของไมค์นั่นเอง เป็นไปได้ยังไงที่ลูกจะฆ่าพ่อ ผู้บงการอยู่เบื้องหลังคือหญิงคนนั้น ซึ่งเป็นคนรักเก่าของไมค์ครั้งเมื่อไมค์หนุ่มๆ เรื่องราวยุ่งเหยิงก็ได้เกิดขึ้น ลูกจะฆ่าพ่อโดยที่ไม่รู้ตัว จะเป็นไปได้อย่างไร ไมค์จะแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างไร มาร์คัสจะร่วมมือกับไมค์ในครั้งนี้ด้วยวิธีไหน บทสรุปจะเป็นเช่นไร ไปหาคำตอบกันได้ที่ Bad Boys For Life ตัวอย่างหนัง เว็บไซต์ที่คัดสรรความบรรเทิงมาให้แบบครบครันทั้งหนังไทย หนังต่างประเทศ หนัง Netflix และซีรีย์ต่างๆ

หนังการ์ตูน Stop Motion ชื่อดังที่ไม่ควรพลาด

สร้างแบบ Stop Motion (สต็อปโมชั่น) The Nightmare Before Christmas (1993)

ผู้อ่านหลาย ๆ ท่านเชื่อกันไหมว่าหนังการ์ตูนชื่อดังที่หลาย ๆ ท่านนั้นเคยได้รับชมกันมานั้น บางเรื่องเป็นหนังการ์ตูนที่สร้างจากรูปแบบ Stop Motion คือการสร้างตัวละคร และฉากหนังจากวัสดุต่าง ๆ และนำมาทำให้เป็นเรื่องราว ซึ่งรูปแบบการสร้างหนังการ์ตูนสต็อปโมชั่นนั้นถือว่าท้าทายเป็นอย่างมาก ซึ่งจะมีหนังการ์ตูนที่สร้างแบบสต็อปโมชั่นเรื่องใดบ้างนั้นมาดูกันเลย 1. The Nightmare Before Christmas (1993) ฝันร้ายฝันอัศจรรย์ ก่อนวันคริสต์มาส สำหรับการ์ตูนสต็อปโมชั่นเรื่องนี้ ได้ถูกยกขึ้นหิ้ง สำหรับหนังการ์ตูนสายดาร์กสุดคลาสิก ด้วยคาเร็คเตอร์อันโดดเด่นของตัวพระเอก และเนื้อหาของหนังที่มีรูปแบบแปลกใหม่ที่ไม่ซ้ำกับหนังการ์ตูนสำหรับเด็กแบบโลกสวย จึงทำให้หนังการ์ตูนสต็อปโมชั่นเรื่องนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และมีการกล่าวถึงหนังการ์ตูนเรื่องนี้เสมอมาจนถึงทุกวันนี้ (รูปที่2) 2. Corpse Bride (2005) เจ้าสาวศพสวย เป็นหนังการ์ตูนสต็อปโมชั่นชื่อดังในต่างประเทศ และคาเร็คเตอร์ของตัวละครเรื่องนี้ยังเป็นต้นแบบของการ์ตูนสายดาร์กเรื่องอื่น ๆ อีกด้วย และเชื่อว่ามีผู้ชมอีกมากที่ไม่ทราบว่าหนังการ์ตูนเรื่องนี้นั้นถูกสร้างขึ้นจากรูปแบบสต็อปโมชั่น ด้วยภาพที่สวยงาม สมูทลื่นไหล และเนื้อหาของการ์ตูนที่แปลกใหม่ นั่นคือการถ่ายทอดเรื่องราวของชายหนุ่มที่กำลังจะแต่งงาน กับเจ้าสาวที่กลายเป็นศพอยู่ในโลกความตาย ที่ทั้ง 2 ได้สร้างเรื่องราวอันน่าอัศจรรย์ใจ จึงทำให้เป็นหนังการ์ตูนสต็อปโมชั่นชื่อดังที่คุณไม่ควรพลาดนั่นเอง (รูปที่3) 3. Coraline (2009) โครอลไลน์กับโลกมิติพิศวง เป็นอีกหนึ่งหนังการ์ตูนที่ผู้ชมนั้นเดาไม่ถูกเลยว่าเป็นอนิเมชั่น หรือสต็อปโมชั่นกันแน่ เพราะฉากและเนื้อหาของเรื่องนั้น ผู้สร้างทำได้ไว้เป็นอย่างดี และคาเร็คเตอร์จากตัวละครที่มีตาเป็นกระดุมนั้นได้สร้าชื่อให้กับหนังเรื่องนี้เป็นอย่างมาก  ซึ่งเป็นเรื่องราวของ เด็กสาวโครอลไลน์ ที่ได้ย้ายบ้านใหม่และไปพบเจอกับช่องทางลับ ที่จะนำเรื่องราวอันพิศวงและอัศจรรย์ใจมามอบให้กับผู้ชม ถือว่าเป็นหนังการ์ตูนสต็อปโมชั่นอีกเรื่องที่คุณไม่ควรพลาด #หนังการ์ตูน#หนังการ์ตูนน่าดู#หนังการ์ตูน Stop Motion#หนังการ์ตูน Stop Motion ชื่อดัง#รวมหนังดังน่าดู #ตัวอย่างหนังStop Motion

เปิดประวัติหนังสุดป่วน American Pie ทุกภาค

American Pie

สำหรับบทความนี้เราขอนำเสนอหนังเก่าในตำนานอย่าง American Pie ซึ่งเชื่อว่าสำหรับคนยุค 2000 ต้นๆ นั้นรู้จักกันเป็นอย่างดี ด้วยเนื้อหาของหนังที่สุดป่วน พร้อมเรื่องราวแสนทะลึ่งตึงตัง ที่มาพร้อมความตลกขับขัน จึงทำให้หนังเรื่องนี้มีภาคหลัก และภาคแยกรวมกันมากถึง 8 ภาคด้วยกัน ซึ่งสำหรับใครที่ยังไม่เคยรับชมหนังสุดป่วนเรื่องนี้ เราขอเล่าเรื่องราวโดยย่อของภาคแรกที่สร้างชื่อให้กับ American Pie ให้ฟังก่อน โดยเรื่องราวของหนังนั้นเริ่มต้นที่ ชายหนุ่มไฮสคูลนาม จิม ที่ ณ ตอนนี้แม้ จิม จะเรียนใกล้จบไฮสคูลแล้ว แต่เขากลับยังเวอร์จิ้นอยุ่เลย ทำให้เขานั้นเริ่มแผนการที่จะแอ้มสาวให้ได้ก่อนปิดเทอม เรื่องราวแสนตลก สุดป่วน ที่มาพร้อมความทะลึ่งของเด็กหนุ่มชาวอเมริกันจึงเริ่มต้นขึ้น เรียกได้ว่าเป็นหนังที่ทำให้ผู้ชมนั้นคลายเครียดได้ดีเลยที่เดียว และด้วยกระแสตอบรับที่ดีมากของหนังแนวทะลึ่งติดตลก สุดป่วนใจเรื่องนี้ จึงทำให้ผู้สร้างได้สร้างทั้งภาคต่อ และภาคแยกรวมได้ถึง 8 ภาคด้วยกัน ซึ่งเราได้รวบรวมมาไว้ สำหรับผู้อ่านท่านใดที่ไม่เคยดู บอกเลยว่าท่านไม่ควรพลาดหนังเรื่องนี้ด้วยประการทั้งปวง สำหรับภาคหลักของหนังเรื่อง American Pie นั้นถูกปล่อยมาในปี 1999 และได้มีภาคต่อจากภาคหลักออกมาอีก 3 ภาคคือ American Pie 2 (2001) , American Wedding (2003) , American Reunion (2012) ซึ่งในระหว่างภาคที่ 3 และ 4 นั้นผู้สร้างได้จัดทำหนัง ภาคแยก ออกมาอีก 4 เรื่องคือ American Pie Presents Band Camp (2005) , American Pie Presents The Naked Mile (2006) , American Pie Presents Beta House  (2007) , American Pie Presents The Book of Love (2009) โดยที่ภาคหลักของหนังเรื่องนี้ได้ถูกนำฉายในโรงภาพยนตร์ทั่วไป แต่ภาคแยกนั้นด้วยความสุดป่วนของหนังที่มีฉากสุดเอ็กซ์ จึงทำให้ไม่ได้เข้าฉายในโรงภาพยนตร์นั่นเอง แต่โปรดักชั่นและคุณภาพนั้นยังครบถ้วนเหมือนภาคหลักแน่นอน และนี้คือภาคหลักและภาคแยกทั้งหมดของหนังในตำนานอย่าง  American Pie หนังดังน่าดู คลิก ตัวอย่างหนัง คลิก