REVIEW: IT FOLLOWS อย่าให้มันตามมา ภาพยนตร์อินดี้จาก RADiUS-TWC

IT FOLLOWS

Plotเรื่องง่ายๆเลยไม่มีอะไรซับซ้อน สำหรับเรื่องIt Follows หนังเก่าเมื่อปี 2015 แต่เป็นหนังเก่าที่เต็มเปี่ยมไปด้วย ความตื่นเต้น ระทึกขวัญ เป็นหนังอีกเรื่องของค่าย ภาพยนตร์อินดี้จาก RADiUS-TWC กำกับโดยผู้กำกับหน้าใหม่อย่าง David Robert Mitchell ซึ่งเป็นผู้กำกับหน้าใหม่ ที่เน้นกำกับหนังทุนต้ำ แต่ทำออกมาได้น่าสนใจมากเลนทีเดียว โดย IT FOLLOWS นั้นเป็นหนังสยองขวัญแนวอินดี้อีกเรื่องที่ผมชอบมากๆ โดยที่หนังเรื่องนี้มีPlotเรื่องที่น่าสดใจมากๆเลยทีเดียว จากตัวอย่างหนังเรื่องนี้ หนังได้ทิ้งคำถามในหัวผมเป็นอย่างมาก ว่าอะไรที่คอยตามนางเอกอยู่ โดยหนังมีความยาวประมาณ 1 ชั่วโมง 40 นาที             วันนี้ผมจะมา  REVIEW:IT FOLLOWSอย่าให้มันตามมา โดยตัวหนังจะพูดถึงชีวิตของวัยรุ่นสาวคนหนึ่ง เธอชื่อ เจย์ หรือ Jay heihgt รับบทโดย maika monroe ที่เกิดเรื่องแปลกประหลาดเข้ากับเธอ จากการที่เธอไปออกเดทกับเพื่อนของเธอในคืนหนึ่ง โดยมีสิ่งที่เธอไม่รู้ว่ามันคืออะไร คอยตามเธออยู่ไม่ว่าเธอจะไปที่ไหน หรือยิ่งหนีไปไกลเท่าไหร่ หนังจะพาเราทำความรู้จักกับเธอและกลุ่มเพื่อนของเธอ และพาเราออกหาคำตอบไปพร้อมๆกับเธอ ตัวหนังเน้นความตื่นเต้น รุ้นระทึกเป็นหลัก เราไม่รู้ว่าสิ่งที่เธอเจอนั้นคือไร หนังชวนสงสัย และไขข้อสงสัยไปเรื่องๆ โดยหนังแทบไม่ต้องขายฉากตุ้งแช่ หรือฉากจั๊มป์สแกร์เลย แต่ก็ทำให้เราตกใจกับฉากง่ายๆที่คาดไม่ถึง ต้องบอกว่าหนังทำออกมาได้ทีเลยทีเดียว แต่หากใคร คิดว่ามีผีไหมในหนังเรื่องนี้ บอกเลยครับ ผมก็ไม่รู้มันคืออะไร ต้องไปหาคำตอบกันและตีความกันเอาเอง หนังค่อนข้างดำเนินเรื่องแบบปลายเปิด ไม่มีฉากตัดไปตัดมา เดินเรื่อยไปเรื่อยๆ เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ส่วนนางเองที่แสงดนำอย่าง maika monroe บทนี้เธอทำได้ข้อนข้างดีเลยทีเดียว ซึ่งผมชอบเธอมากจากผลงานเรื่อง The Guest  ยังไงผมก็อยากให้ไปลองหาคำตอบและตีความของหนังเรื่องนี้ด้วยกันนะครับ มันสนุกใช้ได้เลยนะครับสำหรับหนังเรื่องนี้ หากใครที่กำลังหาหนังสยองขวัญ ที่Plotเรื่องง่ายๆ ไม่ซับซ้อนอะไร ที่สนุกตื่นเต้น ชวนให้น่าติดตามไปตลอดทั้งเรื่อง ผมก็ของเเนะนำเรื่องนี้เลยครับIT FOLLOWS อย่าให้มันตามมา         สำหรับการ REVIEW:IT FOLLOWSอย่าให้มันตามมา นี้ผมก็กลัวอยู่ไม่ใช่น้อยว่าเพื่อนๆส่วนใหญ่อาจจะไม่ชอบแบบผม แต่ผมก็ยังชอบที่มันแปลกใหม่ มากสำหรับการทำหนังสยองขวัญแนวนี้ การที่วงการหนังมีหนังที่แตกต่างออกไปมันดีต่อผู้บริโภคแบบเราๆมาก มันเหมือนเราได้เสพอาหารรสชาติใหม่ๆ ไม่จำเจ เป็นได้ลิ้มรส สิ่งใหม่ๆ ที่ดีมากๆเลยครับ หากเพื่อนๆชอบก็อย่าลืมมาแชร์มาพูดคุยกันกันเยอะๆนะครับ บ๊ายบาย วิดีโอตัวอย่างภาพยนตร์เรื่อง IT FOLLOWS ติดตามการรีวิวหนังและติดตามการรีวิวหนังที่สุดของ พอล วอล์คเกอร์ กับ The Fast and the Furious 1

รีวิวหนังที่สุดของ พอล วอล์คเกอร์ กับ The Fast and the Furious 1

The Fast and the Furious 1

เป็นที่ทราบกันดีว่า พอล วอล์คเกอร์ นักแสดงนำของหนังที่มีภาคต่อมากถึง 9 ภาคในปัจจุบัน อย่างเรื่อง The Fast and the Furious 1 นั้น ได้เสียชีวิตลงด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ไปในปี 2013 ซึ่งถือว่าเป็นข่าวที่เศร้าสลด และสะเทือนใจเป็นอย่างมาก ทั้งตัวผู้ชม คนดูที่ชื่นชอบหนังแอ๊คชั่น สุดมันส์เรื่องนี้ และตัวทีมงานผู้สร้างหนัง รวมไปถึงเหล่าเพื่อนนักแสดง และคนใกล้ชิดต่าง ๆ จนทำให้ข่าวของพอล วอล์คเกอร์นั้น กลายเป็นข่าวดังไปทั่วโลก โดยที่ พอล วอล์คเกอร์ นั้น ได้ทิ้งผลงานการแสดงไว้อย่างมากมายตั้งแต่ปี 1998-2013 ซึ่งหนังที่นักแสดงสุดหล่อวัย 40 ปีนี้สามารถสร้างชื่อเสียง และเป็นที่จดจำไปทั่วโลกนั้น ก็คือหนังฟอร์มยักษ์ใหญ่เรื่อง The Fast and the Furious 1 ในปี 2001 ที่กล่าวได้ว่า เป็นหนังแอ็คชั่น มาพร้อมกับความมันส์ สุดบ้ำระห่ำ รวมถึงฉากเอฟเฟคสมจริง ตระกาลตา และยังมีตัวละครสุดเท่อีกมากมาย โดยเพราะนักแสดงนำอย่าง พอล วอล์คเกอร์ ที่เรียกได้ว่ายอดนิยมในหมู่ผู้ชมมากที่สุด และกลายเป็นที่จดจำของคนทั่วโลกเลยอีกด้วย  สำหรับใครที่ลืมเรื่องย่อคร่าว ๆ ของหนังThe Fast and the Furious 1ไปแล้วล่ะก็ ต้องขอเล่าเลยว่า เป็นเรื่องราวของตำรวจหนุ่มผู้มีทักษะในการขับรถขั้นเทพอย่าง ไบรอัน โอคอนเนอร์ (พอล วอล์คเกอร์) ที่ได้รับมอบหมายให้ปลอมตัว แฝงเข้าไปในกลุ่มของนักแข่งรถสุดโหด โดยมี โดมินิก ทอเร็ตโต ที่เป็นหัวแก๊งแข่งรถนี้ดูแลอยู่ ซึ่งแก๊งนักแข่งรถนี้ กับมีเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับการทุจริต โจรกรรมต่าง ๆ ที่ทางตำรวจหนุ่มฝีมือดีอย่าง โอคอนเนอร์ ต้องเข้ามาสืบค้นหาข้อมูลดังกล่าวให้ได้ แต่ในทางกลับกัน เมื่อ โอคอนเนอร์ ได้เข้ามาอยู่ในกลุ่มของ โดมินิคแล้ว เขากลับพบว่าเรื่องราวความเป็นจริงนั้นแตกต่างออกไป และท้ายที่สุด โอคอนเนอร์จะตัดสินใจอย่างไร ระหว่างหน้าที่ที่รับมอบหมายกับความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อน ต้องบอกเลยว่าหนังเรื่องThe Fast and the Furious 1นั้นทำออกมาได้ดีเป็นอย่างมาก จนทำให้มีผู้ชมจากทั่วโลกนั้นรอคอย และติดตามภาคต่อของหนังเรื่องนี้อยู่เสมอ โดยเฉพาะตัวละครในเรื่อง ที่มีเอกลักษณ์อย่าง พอล วอล์คเกอร์ และวินดีเซล ที่สามารถสวมบทบาทการแสดงได้กินใจคนดูเป็นอย่างมาก ซึ่งไม่เพียงแค่The Fast and the Furious 1เท่านั้นที่สามารถทำออกมาได้ตราตรึงใจผู้ชม แต่หนังเรื่องนี้ยังทำออกมาให้เป็นที่จดจำได้หลายภาคเช่นเดียวกันอีกด้วย ติดตามการรีวิวหนังและติดตามหนังไทยที่จะพาทุกคนไปรู้จักกับนิยามของคำว่า Friend Zone ระวังสิ้นสุดทางเพื่อน

หนังที่จะพาผู้ชมไปผจญภัยบนเกาะที่มีสัตว์ประหลาดอย่าง Kong: Skull Island

Kong: Skull Island

ในช่วงวันหยุดหากใครกำลังว่างและมองหาหนังที่จะมาเสิร์ฟความสนุกสนานอย่าง ภาพยนตร์แนว Action สักเรื่องหนึ่ง ก็คงพลาดไม่ได้กับอภิมหาศึกบนเกาะลึกลับกลางทะเลที่มีชื่อว่า Kong: Skull Island ซึ่งเป็นเกาะรกร้างที่ยังไม่เคยได้มีใครเคยเข้าไปสำรวจมาก่อนเพราะบริเวณรอบเกาะมีพายุปกคลุมอยู่เสมอ จึงได้ก่อเกิดกลุ่มนักวิจัยใจกล้าพร้อมด้วยกองกำลังทหารอีกจำนวนหนึ่งตัดสิ้นใจเพื่อสืบหาความจริงจากบนเกาะตกสำรวจแห่งนี้ พร้อมด้วยกราฟฟิกส์สุดอลังการงานสร้างที่บอกได้เลยว่าใครที่ยังไม่เคยดูถือว่าพลาดเลยทีเดียว เรื่องย่อ โดยสิ่งที่ทำให้เป็นที่จับตามองของเหล่าแฟน ภาพยนตร์แนว Action ของคิงคองที่เป็นเอกลักษณ์ที่ใครหลายคนต่างก็อยากดูด้วยฝือไม้ลายมือการเล่าเรื่องและการกำกับของ Jordan Vogt-Roberts ที่ทำออกาได้อย่างยอดเยี่ยมเลยทีเดียว โดยเรื่องราวจะเล่าถึงกลุ่มนักวิจัยที่ได้ค้นพบเข้ากับเกาะร่างแห่งหนึ่งที่มีล่องลอยอารายธรรมโบราณหลงเหลืออยู่ จึงไม่รอช้าจัดทีมขึ้นมาโดยนำเหล่าทหารรับจ้างเข้ามาช่วยเป็นผู้คุ้มกันให้ เมื่อทุกคนเริ่มออกเดินทางก็ต้องพบกับอุปสรรค์แรกอย่างพายุที่พัดให้เฮลิคอปเตอร์ที่โดยสารมาร่วงลงบนเกาะที่สำรวจไปเรื่อยๆ ก็ได้พบเข้ากับความสวยงามของธรรมชาติบนเกาะแห่งนี้ที่แฝงไปด้วยอันตรายจากสัตว์ประหลาดมากมายอย่างสกัลครอว์เลอร์ ที่มีทั้งความเจ้าเล่ห์และโหดเหี้ยมเป็นอย่างมาก ซึ่งพวกมันจะค่อยจัดการทุกคนที่หลงขึ้นมาบนเกาะแห่งนี้ แต่เหนือสิ่งอื่นใดผู้ที่รักษาระบนิเวศและยังเป็นผู้ปกครองของที่ก็คือ Kong ที่จะค่อยเป็นตัวช่วยให้เหล่านักวิจัยให้หนีรอดรอดจากเกาะมหาภัยนี้ไปให้ได้ สรุปภาพรวมของภาพยนตร์เรื่องนี้ ถือว่าเป็น ภาพยนตร์แนว Action อีกหนึ่งเรื่องอย่าง Kong: Skull Island ที่ทำทั้งเอฟเฟคออกมาได้อลังการและเสมือนจริงเป็นอย่างมาก และธรรมชาติบนเกาะกะโหลกแห่งนี้ก็มีความอุดมสมบูรณ์ที่ทำออกมาได้อย่างสวยงาม ประกอบกับการดำเนินเนื้อเรื่องที่น่าตื่นเต้นและฉากการต่อสู้ระหว่างคองกับสกัลครอว์เลอร์ที่ทำออกมาได้แบบห้ามกระพริบตาเลยทีเดียว ฉะนั้นใครที่กำลังมองหาความมันส์ในช่วงวันหยุดแล้วล่ะก็หนังเรื่องนี้อาจจะเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ผู้ชมไม่ควรพลาด วิดีโอตัวอย่างหนัง Kong: Skull Island ติดตามการรีวิวหนังและติดตามหนัง“อนิเมชั่นแนว Action” ของไทยที่ทุกคนไม่ควรพลาดอย่าง ๙ ศาสตรา

รีวิวหนัง Action มาพร้อมฮีโร่สายพันธุ์ใหม่ อย่าง Venom

Venom

เรียกได้ว่าเป็นหนังอีกเรื่องหนึ่งที่ถูกดัดแปลงมาจาก Comic ซึ่งเรียกได้ว่าเป็น หนัง Action ที่พร้อมจะเสิร์ฟความมันส์กับเหล่าผู้ชมที่จับตามองได้ทุกเมื่ออย่าง Venom เป็นตัวร้ายคู่ปรับของ Spider Man ที่ไปโผล่ในหนังหลากหลายเรื่องทั้งที่เห็นเป็นในร่างที่มีตัวตน และร่างที่เป็นปรสิต ซึ่งหลายคนก็ได้เห็นกันผ่านตามาแล้วบ้าง จนในที่สุดก็ได้ถูกสร้างหนังเดี่ยวภาคแรงออกมาจนได้ โดยได้หนังแสดงฝือมือดีมากมายไม่ว่าจะเป็น ทอม ฮาร์ดี ที่ได้รับบทเป็น เอ็ดดี บร็อก ซึ่งเป็นตัวเอกของเรื่องและตามด้วยกองทัพนับแสดงอีกนับไม่ถ้วน ดังนั้น Venom จึงถูกจัดให้เป็นแอนติซูเปอร์ฮีโร่ที่มีความดิบเถื่อนไม่กับฮีโร่คนใดที่ผู้ชมเคยดูมาอย่างแน่นอน เรื่องราวคราวๆ โดยสำหรับใครที่กำลังมองหา หนัง Action ที่พัฒนามาจากค่ายชื่อดังอย่าง Marvel Entertainment ซึ่งได้กำเนิดแอนตี้ฮีโร่ตัวใหม่ที่มีชื่อว่า Venom ที่จะเล่าถึงเรื่องราวของ เอ็ดดี บร็อก นักข่าวหนุ่มที่มีความทะเยอทะยานสูงและมุ่งมันที่จะเปิดโปงความลับของ คาร์ลตัน เดรก นักวิทยาศาสตร์อายุน้อยที่เป็นผู้ก่อตั้งองค์กรที่มีชื่อว่า ไลฟ์ฟาวน์เดชั่น ซึ่งเบื้องหลังไม่ได้ขาวสะอาดอย่างที่คิด โดยองค์กรนี้ได้นำมนุษย์มาเป็นเหยื่อทดลองให้กับปรสิตต่างดาวที่มีหลากหลายสายพันธุ์ ที่จำเป็นต้องใช้ร่างกายต่างๆ เพื่อทำการสิงสู่และควบคุมร่างกายจากภายใน ในเวลาต่อมาได้มีปรสิตชนิดหนึ่งนามว่าVenom หลุดออกไปได้และได้พบเจอเข้ากับ เอ็ดดี บร็อก จึงได้ทำการเข้าสิงแต่โชคดีที่เขายังสามารถควบคุมมันได้ทั้งสองคนจึงได้ร่วมมือกันเพื่อยุติความเลวร้ายทั้งหมดก่อนที่โลกจะตกอยู่ในอัตราย สรุป เป็น หนัง Action จากค่าย Marvel Entertainment ที่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองและยังมีคาเรคเตอร์ที่ชัดเจน จึงใช่เวลาไม่นานที่จะให้แอนตี้ฮีโร่อย่างVenom ตกเป็นขวัญใจของใครหลายคน โดยแนะนำเลยว่าถ้าหากใครกำลังมองหาภาพยนตร์ฮีโร่ที่ไม่เหมือนใครแล้วล่ะก็ห้ามพลาดเป็นอันขาด ติดตามการรีวิวหนังและติดตามการรีวิวหนังไทย นายทองดีฟันขาว หนังมวยไทยแนวประวัติศาสตร์

อัพเดท หนังใหม่ น่าดูหลังสถานการณ์โควิดสำหรับสาวกคนดูหนังอย่างเรา

หนังใหม่

หลังจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ได้ระบาดอย่างหนักในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา นั่นจึงทำให้หนัง หรือภาพยนตร์ต่าง ๆ ที่มีกำหนดฉายในโรงภาพยนตร์ในช่วงที่สถานการณ์โควิดนั้นกำลังระบาดอย่างหนัก ได้ทำการเลื่อนกำหนดฉายออกไป แต่สำหรับวันนี้สถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลาย และมีสถานการณ์ที่ดีขึ้น สำหรับสาวกคนดูหนังอย่างเรา ๆ จึงต้องทำการอัพเดท หนังใหม่ ที่มีกำหนดฉายในโรงภาพยนตร์ดังต่อไปนี้ 1. Mulan  :  กำหนดฉาย 23 กรกฎาคม 2020 สำหรับหนังเรื่อง มู่หลาน ถือว่าเป็น หนังใหม่ ที่คอหนังทุกท่านรอคอยอย่างแน่นอน โดยเรื่องราวของหนังเรื่อง มู่หลาน นั้นเป็นเรื่องราวของ มู่หลาน ลูกสาวคนโตขององค์จักรพรรดิ ที่ได้ออกมาทำราชการรบแทนท่าพ่อที่ป่วย ด้วยการปลอมตัวเป็นชาย เพื่อเข้าร่วมกองทัพสุดยิ่งใหญ่ของจีนนั่นเอง ถือว่าเป็นหนังที่ถูกนำมาดัดแปลงจากเวอร์ชั่น หนังการ์ตูน มาเป็นเวอร์ชั่นที่เป็นคนแสดง ที่นอกจากน่าติดตามแล้ว ยังมีความน่าสนใจมากอีกด้วย 2. A quiet place 2  :  กำหนดฉาย 3 กันยายน 2020 เป็น หนังใหม่ อีกเรื่องที่มีการเลื่อนกำหนดฉายจากวันที่ 19 มี.ค. ที่ผ่านมา และได้เลื่อนกำหนดฉายตามที่ได้กล่าวเอาไว้ โดยหนังเรื่อง A quiet place 2 นี้ จะเป็นเรื่องราวที่ต่อเนื่องจากภาคแรกอย่าง ครอบครัวแอ็บบอตต์ที่ได้ออกเดินทางจากการหลบซ้อน ซึ่งในภาคนี้ครอบครัวแอ็บบอตต์จะต้องพบเจอกับดินแดนอันโหดร้าย ที่ทำให้พวกเขารู้ว่า สัตว์ประหลาดที่ไล่ล่าพวกเขาจากเสียง นั้นไม่ใช่สิ่งเดียวที่จะนำพาความหายนะมาให้พวกเขา เรียกได้ว่ามีเนื้อหาที่ทั้งน่าสนใจ และชวนติดตามเป็นอย่างมาก 3. black widow  :  กำหนดฉาย 29 ตุลาคม 2020 สำหรับหนังเรื่องนี้เป็นหนังใหม่จากค่ายมาร์เวลที่เชื่อว่ามีผู้ชมติดตาม และรอคอยกันอยู่ไม่น้อย โดยเนื้อหาในเรื่องของ black widow นี้ได้ดำเนินเรื่องต่อจาก หนังเรื่อง Captain America: Civil War ที่ตัวนาตาชานั้นได้เลือกช่วยกัปตันอเมริกา จึงทำให้เธอนั้นกลายเป็นอาชญากรและต้องทำการหลบหนีเพื่อเอาตัวรอด แต่มันไม่ง่ายเช่นนั้นเสมอไป เพราะวายร้ายอย่าง  ทาส์กมาสเตอร์ ได้พยายามตามไล่ล่าเธออย่างไม่หยุดยั้งนั่นเอง ติดตามการรีวิวหนังและติดตามการรีวิวหนังสยองขวัญ solomon kane ตัดหัวผี (2009) หนังล่าแม่มดสุดโหด

รีวิวหนังสยองขวัญ solomon kane ตัดหัวผี (2009) หนังล่าแม่มดสุดโหด

solomon kane ตัดหัวผี

หนังสยองขวัญ solomon kane ตัดหัวผี (2009) เป็นหนังแนวล่าแม่มด โดยภาพยนตร์เรื่องนี้จะเป็นการเล่าเรื่องที่ย้อนกลับไปในอดีต เป็นการจำลองฉากในยุคสมัยสงครามศาสนา มีชายคนหนึ่งนามว่า โซโลม่อน เคน เขาคนกัปตันเรือผู้ไม่เคยหวั่นเกรงแม้แต่ความตาย โดยฉากเปิดของภาพยนตร์เรื่องนี้ เป็นการเปิดจุดเริ่มต้นโดยการระดมยิงห่ากระสุนของเรือโจรสลัดเข้าใส่ยังเมืองแห่งหนึ่ง ที่ตั้งตนนอกชายฝั่งบนเกาะอันสวยงาม แม้ว่าเกาะและเมืองแห่งนี้จะมีทหารล้อมปราสาทที่มากมาย ที่ก็ไม่อาจต้านกลุ่มโจรสลัดที่มีเพียงหยิบมือของโซโลม่อนได้เลยแม้แต่น้อย ด้วยความสามารถระดับสูงของเขา ที่โลดแล่นไปยังทุกที่บนโลก เพื่อตามล่าและชิงสมบัติ และเมื่อเขาสามารถบุกเข้าไปในตัวปราสาทได้แล้ว กลับพบว่าข้างนั้นมีแต่ความว่างเปล่า แต่เป็นความว่างเปล่าที่แฝงไปด้วยภัยมืด ที่ไม่อาจมองเห็นและต่อกรได้ ลูกสมุนที่ตามโซโลม่อนไป ล้วนแต่เสียชีวิตด้วยกันทั้งสิ้น จากฝีมือของปีศาจจากขุมนรก มีเพียงโซโลม่อนผู้เดียวเท่านั้น ที่เหลือรอดจนสามารถประจันหน้ากับพญามัจจุราชได้ และนั่นก็เป็นครั้งแรกที่สอนให้เขารู้จักกับคำว่าหวาดกลัวจนต้องหนีเอาชีวิต ในหนังสยองขวัญนี้ หลังจากเขาฟื้นขึ้นมาในโบสถ์แห่งหนึ่ง เขาจึงเลือกที่จะหันหลังให้กับความรุนแรงและมุ่งหน้าเดินตามพระเจ้าเพื่อไถ่บาป แต่แล้วเหมือนกับว่าพระเจ้าไม่ยินดีจะต้อนรับเขา เขาต้องเจอกับคามเจ็บปวดอีกครั้ง เมื่อครัวครอบที่เขาร่วมเดินทางด้วย ถูกปีศาจฆ่าตายต่อหน้า พร้อมทั้งฉุดหญิงคนรักไป ทำให้จิตวิญญาณแห่งนักฆ่าตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เขาประกาศตนพร้อมจะเดินลงนรกตามประสงค์ โซโลม่อนต่อสู้และออกตามล่าแม่มดต่างๆที่ถูกมนต์ดำ จนมาพบกับจุดเริ่มต้นของชีวิตคือที่บ้านเกิดของเขานั่นเอง เมื่อมาถึงบ้าน ทุกอย่างที่คาใจ และทุกอย่างที่บีบให้เขาต้องเลือกทางเดินนี้ ก็ได้เฉลยออกมา solomon kane ตัดหัวผี (2009) เป็นหนังแนวล่าแม่มดที่ได้รับเสียงชื่นชมจะคอหนังทั่วโลก และยังถูกซื้อลิขสิทธิ์ไปฉายยังโรงภาพยนตร์ต่างๆอย่างมากมาย จึงไม่แปลกเลยว่าทำไมเมื่อเราพูดถึงภาพยนตร์แนวล่าแม่มด เราจะนึกถึงหนังสยองขวัญเรื่อง solomon kane ตัดหัวผี (2009) เป็นหลักเพราะด้วยเทคนิคการเล่าเรื่องและการถ่ายทอดที่ชวนให้ลุ้นตลอดเวลา และไม่ว่าคุณจะเคยดูมาแล้วกี่รอบก็ตาม เราการันตรีว่าคุณจะต้องประทับใจทุกรอบที่รับชมภาพยนตร์เรื่องนี้อย่างแน่นอน ติดตามการรีวิวหนังและติดตามการรีวิวหนังบู๊ กำเนิดคนเหล็ก (Terminator) ที่คุณอาจไม่เคยรู้

รีวิวหนังบู๊ กำเนิดคนเหล็ก (Terminator) ที่คุณอาจไม่เคยรู้

กำเนิดคนเหล็ก (Terminator)

หากเราไปถามแฟนภาพยนตร์ที่มักชื่นชอบในการชมภาพยนตร์มากมายหลากหลายเรื่องราว โดยเฉพาะภาพยนตร์ไซไฟว่าภาพยนตร์เรื่องใดหรือชุดใดที่ได้รับความนิยม และประทับใจเป็นอย่างมาก 1 ในหนังบู๊ที่จะถูกกล่าวถึงนั่นก็คือ กำเนิดคนเหล็ก (Terminator) ที่คุณอาจไม่เคยรู้ โดยภาพยนตร์ชุดนี้ถือเป็นภาพยนตร์ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงจากแฟน ๆ ทั่วโลก จนทำให้มีภาพยนตร์เรื่องคนเหล็ก ในภาคต่าง ๆ ตามมาอีกหลายภาค จนถึงปัจจุบันรวมได้ 6 ภาค แล้ว และหากพูดถึงภาพยนตร์เรื่องคนเหล็กที่แท้จริงนั้น แฟนหนังทุกคนจะต้องคิดถึงสุดยอดผู้กำกับผู้รังสรรค์เรื่องราวคนเหล็กให้เกิดขึ้น เจมส์ แคเมรอน  และสุดยอดนักแสดงกล้ามโตเจ้าของบทคนเหล็กตลอดกาลอย่าง อาโนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์ ที่ไม่ว่าเมื่อไหร่หรือว่าในปัจจุบันป๋าแกจะวัยปาเข้าถึงหลัก 70 เข้าไปแล้ว ก็ยังอุตส่าห์กลับมารับบทคนเหล็กให้เราได้หายคิดถึงกันอยู่ดี โดยผู้กำกับ เจมส์ แคเมรอน ที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้ให้กำเนิดหนังบู๊เรื่องคนเหล็กนั้น แต่เดิมเขาเป็นผู้กำกับฝ่ายศิลป์ซึ่งเข้ามาในแวดวงภาพยนตร์ได้ ส่วนหนึ่งก็เพราะได้แรงบันดาลใจมาจากการได้เข้าชมภาพยนตร์เรื่องสตาร์วอร์ A New Hope ปี 1977 ซึ่งถือเป็นภาคแรกที่ถูกสร้างขึ้นโดย จอร์จ ลูคัส นั้นเอง ซึ่งผู้กำกับเจมส์ คาเมรอน ของเรารู้สึกประทับใจกับภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นอย่างมาก และได้รับแรงบันดาลใจอย่างสูงทำให้ได้ก้าวเข้าสู่วงการภาพยนตร์ในเวลาต่อมา โดยเฉพาะการแสวงหาความรู้ในการสร้างภาพยนตร์ จากนั้นเขาก็กลายมาเป็นหนึ่งในทีมงานผู้สร้างเอฟเฟคเบื้องหลังของภาพยนตร์ เรื่อง ปิรันย่า ซึ่งสร้างเมื่อปี 1978 จากนั้นก็ได้ร่วมเป็นทีมงานเอฟเฟคเบื้องหลังภาพยนตร์อีกหลายเรื่อง และได้มีโอกาสกลับมาเป็นผู้กำกับของภาพยนตร์เรื่อง ปิรันย่า ภาค2 (piranha II : The Spawninng) ในปี 1981 ซึ่งในระหว่างการกำกับภาพยนตร์ดังกล่าว เจมส์ คาเมรอน ก็เกิดล้มป่วย และต้องนอนพักรักษาตัวอยู่ภายในบ้าน และแล้วสิ่งที่แฟนคนเหล็กรอคอยก็มาถึงเมื่อในระหว่างการนอนพักรักษาตัวอยู่นั้นผู้กำกับ เจมส์ แคเมรอน ของเราก็ดันเกิดฝันถึงหุ่นยนต์เหล็กตัวหนึ่งถือมีดทำครัวคลานออกมาจากกองไฟ เพื่อตามไล่ล่าฆ่าสังหารเขา ซึ่งทำให้เขาหวาดกลัวเป็นอย่างมาก และทำให้ตัวเขาหยิบยกเอาความฝันดังกล่าวมาทำการเริ่มเขียนบทคนเหล็ก (The Terminator) ขึ้นแบบนี้นี่เอง แล้วที่แฟนคนเหล็กอาจจะไม่เคยทราบมาก่อนนั่นก็คือในการเริ่มทำหนังบู๊ กำเนิดคนเหล็ก (Terminator) ภาคแรกที่ออกฉายในปี 1984 เรื่องนี้ มีการกำหนดตัวนักแสดงซึ่งได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มนายทุนในการสร้างภาพยนตร์  ผู้ที่ได้ถูกวางตัวไว้ให้เป็นพระเอกหรือ ไคย์ล รีส  นายทหารที่ย้อนเวลามาจากอนาคตเพื่อปกป้อง ซาร่าห์ คอนเนอร์ มารดา ผู้จะให้กำเนิด จอห์น คอนเนอร์  ผู้เป็นผู้นำในการต่อสู้กับ SkyNet ในอนาคต ซึ่งคนนั้นก็ไม่ใช่ใครที่ไหนเขาก็คือ อาโนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์ ของเรานั่นเอง และ เจมส์ คาเมรอน เอง ก็ไม่พอใจกับการวางตัวพระเอกคนนี้จากนายทุนเป็นอย่างมาก หากแต่ก็ขัดไม่ได้ และคิดวางแผนจะเรียก อาโนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์ ไปพูดคุยและแกล้งวีน จนทำให้เขายอมถอนตัวไปเอง หากแต่เรื่องราวกลับพลิกจบกันได้ง่าย ๆ เมื่อ อาโนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์ ได้บอกมาว่าเขานั้นไม่อยากแสดงเป็นพระเอก แต่อยากจะได้แสดงเป็นคนเหล็กหุ่นยนต์นักฆ่าจากโลกอนาคตมากกว่าเพราะมันเท่ดี และด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้ อาโนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์ กลายมาเป็นคนเหล็กตลอดกาลในใจแฟนบอลทั่วโลกจนถึงทุกวันนี้ ติดตามการรีวิวหนังและติดตามการแนะนำหนังสะท้อนสังคม City of God เพราะที่นี่คือบราซิล

แนะนำหนังสะท้อนสังคม City of God เพราะที่นี่คือบราซิล

City of God

สำหรับคำว่า “ที่นี่บราซิล” คงกลายเป็นประโยคที่ชินหูคนไทยหลาย ๆ คนอย่างแน่นอน และเป็นประโยคที่แสดงให้รู้สึกถึงความเถื่อน โหด ไม่เกรงกลัวกฎหมายนั่นเอง แต่หารู้ไม่ว่าการเป็นบราซิลอย่างที่หลายคนเข้าใจ และคุ้นชินกับประโยคอย่าง ที่นี่บราซิล นั้นแท้จริงแล้วมีที่มาที่ไป หรือต้นกำเนิดจากในหนังสะท้อนสังคม เรื่อง City of God ในปี 2002 นั่นเอง สำหรับเนื้อหาโดยย่อของหนังสะท้อนสังคม เรื่องCity of God นั้นเป็นการถ่ายทอดเรื่องราวของกลุ่มเด็กในสลัมจากประเทศบราซิลช่วงยุคปี 1960-1980 ซึ่งคนในชุมชน รวมถึงเหล่าเด็ก ๆ ที่เกิดมาในสลัมแห่งนี้นั้น ต้องพบเจอกับเหตุการณ์อาชญากรรมต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการจี้ปล้น หรือการค้าสิ่งเสพติด สิ่งผิดกฎหมายต่าง ๆ ล้วนแล้วแต่เกิดขึ้นในชุมชนสลัมแห่งนี้ โดยตัวหนังนั้นได้บอกเล่าเรื่องราวของ ร็อคเก็ต เด็กที่เติบโตมาจากสลัมแห่งนี้ และได้เลือกเส้นทางที่ถูกกฎหมาย ผิดไปจากเพื่อนวัยเด็กของเขาอย่าง เซ ที่พลันตัวมาเป็นแก๊งอันธพาลทรงอิทธิพลในพื้นที่ เรื่องราวของทั้งคู่จะจบลงอย่างไรติดตามได้ในCity of God ต้องบอกเลยว่าหนังสะท้อนสังคม เรื่องCity of God นั้นถึงแม้ว่าจะเป็นหนังเมื่อ 18 ปีที่แล้ว แต่ตัวหนังกลับสามารถถ่ายทอดเรื่องราวออกมาได้อย่างดีเยี่ยม ด้วยรูปแบบการถ่ายทอดผ่าน 2 มุมมอง ระหว่างมุมมองของเด็กที่เลือกเส้นทางสายสุจริต และเด็กที่เลือกเส้นทางทุจริต ดำเนินตามรอยทางของเหล่ารุ่นพี่แก๊งอันธพาลภายในชุมชน ที่สามารถกล่าวได้ว่า เป็นการหล่อหล่อมจากสภาพแวดล้อมอย่างไม่รู้ตัว ซึ่งเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นภายในชุมชนนั้น สามารถฝั่งรากลึกเข้าไปภายในจิตใจเด็ก ๆ ได้อย่างง่ายดาย และตัวหนังยังถ่ายทอดความเป็นจริงในสังคมสลัมบราซิลมาได้อย่างตรงจุด และเข้าใจได้อย่างแท้จริงอีกด้วย City of Godถือว่าเป็นหนังที่สะท้อนมุมมองทางสังคมได้อย่างแท้จริง จากเหล่าเด็ก ๆ ที่เกิดมาด้วยต้นทุนที่ไม่เท่ากัน บวกกับการหล่อหล่อมด้วยสภาพแวดล้อมทางสังคมที่ไม่น่าอภิรมย์เสียเท่าไหร่ อีกทั้งการเลี้ยงดูต่าง ๆ ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กัน ตัวหนังCity of God เรียกได้ว่าเป็นหนังที่สะท้อนสังคมอย่างแท้จริง โดยการแสดงให้เห็นถึงรูปแบบสังคม และสภาพแวดล้อมอันเน่าเฟะต่าง ๆ ที่เป้นแหล่งกำเนิดของแก๊งอันธพาลสุดโหดมากมาย ซึ่งCity of God นั้นถือว่าเป็นหนังสะท้อนสังคม น้ำดีอีกเรื่องที่ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง ติดตามการรีวิวหนังและติดตามการรีวิวหนังเก่า The Shining ที่สุดของตำนานหนังสยองขวัญ เขย่าจิต

รีวิวหนังเก่า The Shining ที่สุดของตำนานหนังสยองขวัญ เขย่าจิต

The Shining

ในปีที่แล้วอย่าง 2019 นั้นได้มีหนังสยองขวัญ เขย่าประสาทอย่าง Doctor Sleep ที่เรียกได้ว่าเป็นหนังสยองขวัญ เขย่าประสาทที่หลายคนรอคอย เพราะตัวหนังได้เล่าเรื่องราวต่อเนื่องจากหนังสยองขวัญในตำนานอย่าง The Shining จากปีค.ศ.1980 นั่นเอง ซึ่งตัวหนังThe Shining นั้นได้ถูกขนานนามว่าเป็นหนังสยองขวัญในตำนานอย่างแท้จริง และถูกยกขึ้นหิ้งหนังสยองขวัญ ลุ้นระทึก เขย่าจิตคนดูเป็นที่เรียบร้อย สำหรับใครที่ไม่เคยรับชมหนังสยองขวัญ เรื่องThe Shining (1980) ขอบอกเลยว่าน่าเสียดายเป็นอย่างยิ่ง เพราะตัวหนังเรื่องThe Shining ที่ถึงแม้ว่าจะเป็นหนังในปีค.ศ.1980 แต่บทของตัวละคร และการดำเนินเรื่องของหนังนั้น สามารถทำออกมาได้ดี และสมเหตุสมผลอย่างยิ่ง ซึ่งทำให้ผู้ชมนั้นอินตามเรื่องราวภายในหนังได้ไม่ยากนั่นเอง โดยแท้จริงแล้วหนังเรื่องThe Shining นั้นเป็นหนังแนวสยองขวัญ ที่มีการไล่ฆ่าจากตัวละครโรคจิต ที่นักแสดงสามารถแสดงบทบาทออกมาได้สมจริง และเขย่าจิตคนดูอย่างแท้จริง นอกจากนี้ตัวหนังยังมีฉากเด่ดอีกมากมาย ที่กลายเป็นต้นแบบของเหล่าหนังสยองขวัญมากมายในปัจจุบันนั่นเอง โดยเรื่องย่อของหนังสยองขวัญ เรื่องThe Shining นั้นเริ่มต้นจากครอบครัวหนัง ประกอบไปด้วย หัวหน้าครอบครัวคือ คุณพ่อ และยังมีคุณแม่ กลับลูกชายวัยกำลังโตอีกหนึ่งคน และแล้วในวันหนึ่ง คุณพ่อ หัวหน้าครอบครัวได้ตกปากรับคำจากหัวหน้าผู้ดูแลโรงแรมแห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ห่างไกลจากตัวเมืองเป็นอย่างมาก โดยมอบหมายงานให้คุณพ่อ และครอบครัวมาดูแลโรงแรมแห่งนี้ในช่วงหน้าหนาว ที่ไม่สามารถเดินทางเข้าออกได้ เนื่องจากหิมะในหน้าหนาวของที่นี่จะขึ้นสูงและทำให้เดินทางลำบากนั่นเอง แต่แล้วการดูแลโรงแรมที่คาดว่าจะเป็นงานสบาย ๆ นั้นกลับไม่มีอยู่จริง เมื่อทั้งครอบครัวได้ย้ายเข้ามาในโรงแรมแห่งนี้ พวกเขาก็ได้พบกับเหตุการณ์อันน่าพิศวง สุดสยองขวัญที่ไม่สามารถหาคำตอบได้ ซึ่งนอกจากเหตุการณ์อันสยองขวัญ ชวนขนหัวลุกต่าง ๆ แล้ว ภายในโรงแรมแห่งนี้ยังมีเหตุการณ์อันสุดแสนสะเทือนใจ ที่ท้ายที่สุดแล้วกลายเป็นตัวจุดชนวนเรื่องราวสยองขวัญ เขย่าประสาท และเขย่าจิตคนดูอย่างแท้จริง และเรื่องราวทั้งหมดของครอบครัวนี้จะจบลงอย่างไร ติดตามได้ใน หนังสยองขวัญThe Shining (1980) นั่นเอง วิดีโอตัวอย่าง หนังสยองขวัญ The Shining (1980) ติดตามการรีวิวหนังและติดตามหนังอนิเมะ The Secret Life of Pets 2 มาล่วงความลับของเหล่าสัตว์เลี้ยงตัวป่วน

รีวิวหนังอาชญากรรม The Spotlight สร้างจากเรื่องจริงสุดสะเทือนใจ

Spotlight

Spotlight เป็นหนังอาชญากรรม สืบสวนสอบสวน ที่สร้างมาจากเรื่องจริงสุดสะเทือนใจ โดยตัวหนังได้เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับสำนักงานข่าวชื่อดังของบอสตัน ที่ได้หยิบยกข่าวอาชญากรรม เกี่ยวกับคดีล่วงละเมิดทางเพศเด็กชายอายุต่ำกว่า 15 ปี ซึ่งผู้ก่อเหตุที่ก่อเรื่องราวสุดแสนสะเทือนใจเช่นนี้ กลับกลายเป็นบุคคลที่ชาวบ้านนับถือ และเคารพ ศรัทธากันอย่างล้มหลาม และที่สำคัญบุคคลเหล่านี้ถือว่าเป็นบุคคลทรงอิทธิพลภายในเมือง และประเทศเช่นกัน ซึ่งบุคคลที่ถูกกล่าวหานี้คือ บาทหลวง แห่งโบสถ์คริสตจักรประจำเมืองนั้นเอง โดยเรื่องย่อของหนังอาชญากรรม Spotlight นั้นเริ่มต้นจากกลุ่มนักข่าวฝีมือดีอย่าง Spotlight ทีมข่าวหัวกะทิแห่งสำนักข่าวชื่อดัง Boston Globe ที่ได้รับมอบหมายจากบรรณาธิการคนใหม่ ให้ทำข่าวเกี่ยวกับคดีการล่วงละเมิดทางเพศเด็กชาย ที่ในอดีตข่าวนี้ได้เผยแพร่สู่สาธารณะชนไปเมื่อหลายปีก่อน แต่กลับกลายเป็นประเด็นข่าวเล็ก ๆ ที่ไม่มีใครพูดถึง งานนี้ทีมข่าวSpotlight จึงได้นำข่าวนี้กลับมาเผยแพร่อีกครั้ง แต่ก่อนที่พวกเขาทั้งหมดจะนำข่าวนี้ตีพิมพ์ พวกเขาจำเป็นต้องสืบค้นข้อมูลให้ถูกต้อง และครอบคลุมมากที่สุด เพราะการทำข่าวในด้านลบกับเหล่าคริสตจักรนั้น ถือว่าเป็นเรื่องที่ประชาชนส่วนใหญ่ไม่ยอมรับกันนั้นเอง แต่แล้วเมื่อทีมข่าวSpotlight ได้ลงมือทำข่าวนี้นั้น พวกเขากับได้พบกับเหตุการณ์หลายอย่างที่พวกเขาคาดไม่ถึง รวมถึงเรื่องราวคดีความที่อำนาจของเงินกลายเป็นสิ่งที่อยู่เหนือกฎหมายอีกด้วย ทีมข่าวSpotlight จะสามารถทำข่าวนี้สำเร็จหรือไม่ เมื่อเขาต้องพบกับอำนาจเบื้องลึกที่เขาไม่อาจสู้ได้ ติดตามเรื่องราวทั้งหมดได้ในหนังอาชญากรรมSpotlight (2016) ต้องบอกเลยว่าหนังอาชญากรรม เรื่องSpotlight นี้ได้สร้างมาจากเหตุการณ์จริงที่เหล่าทีมข่าวSpotlight ต้องเผชิญ และกลายเป็นข่าวอันโด่งดังในปี 2001 ไปในทันที ที่ถึงแม้ว่าตัวหนังจะมีเนื้อหา และบทสนทนามากมายเพียงใด แต่บอกได้เลยว่าเป็นหนังแนวสืบสวน ที่ทำให้ผู้ชมอย่างเรา ๆ อินตามเนื้อเรื่องได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นอุปสรรคต่าง ๆ ภายในหนังที่สร้างมาจากเรื่องจริง หรือเรื่องราวความจริงหลาย ๆ อย่างที่ทำให้ผู้ชมรู้สึกสะเทือนใจไปตาม ๆ กันอีกด้วย ถือว่าเป็นหนังน้ำดี ที่ได้รับรางวัลอย่างมากมายด้วยเช่นกัน วิดีโอตัวอย่างหนังเรื่อง Spotlight ติดตามการรีวิวหนังและติดตามการรีวิวหนังนอกกระแสสร้างโดยฝีมือคนไทย งู (Snake) ปิดตำนานพระกินคน