i believe in santa ความรักของคน 2 คน เมื่อความต่างไม่อาจเป็นกำแพงกั้น

i believe in santa

จะมีอะไรดีไปกว่าการได้ดูหนังเกี่ยวกับซานต้าในช่วงเทศกาลคริสต์มาส และเรื่อง i believe in santa ก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจจริงๆ เนื่องจากเป็นการบอกเล่าอีกมุมหนึ่งที่เราไม่ค่อยเห็นในหนังประเภทนี้ ไม่มีฉากอัศจรรย์ทำนองการร่ายเวทย์มนต์ หรือภาพซานตาครอสลากรถเลื่อนแจกของขวัญ แต่มันกลับมีความมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นจากความรักของคน 2 คน ซึ่งแตกต่างกันอย่างสุดขั้วในเรื่องของความเชื่อ i believe in santa จะจบอย่างไรเมื่อทั้งคู่มาเจอกัน           ปกติเรามักจะเจอคนที่ชื่นชอบ เทศกาลคริสต์มาส แบบกลางๆ ทำนองว่าเข้าร่วมหรือไม่ก็ได้ทั้งนั้น แต่เรื่อง i believe in santa กลับนำเสนอคนที่ไม่ชอบคริสต์มาสอย่างมาก แล้วก็พยายามจะบอกคนรอบตัวว่าซานต้าไม่มีจริง แม้แต่เพลงในช่วงเทศกาลก็ยังไม่อยากฟัง ปัญหาคือเธอต้องมาเจอกับคนที่คลั่งคริสต์มาสถึงขนาดอยู่ในสายเลือด เขาเชื่อจากหัวใจเรื่องซานต้า และจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เฉลิมฉลองในเทศกาลนี้ เว็บรีวิวหนัง i believe in santaคือหนังที่ความรักอบอวลทั้งเรื่อง           แม้ว่าปมของหนังจะเป็นความขัดแย้งที่หาจุดตรงกลางได้ยาก แต่บรรยากาศของi believe in santaนั้นกลับอบอวลไปด้วยความรัก เราจะได้เห็นทั้งความรักของแม่กับลูก ความรักของเพื่อน และแน่นอนความรักของคู่รักด้วย นอกจากชวนให้ยิ้มได้ตลอดเวลาแล้ว ยังชวนให้เรากลับมาคิดทบทวนกับตัวเองด้วยว่า การเสียสละเพื่อดูแลและอยู่เคียงข้างคนที่เรารักโดยไม่ต้องเสียตัวตนของเรามันดีแค่ไหน i believe in santaปิดฉากทิ้งท้ายได้อย่างงดงาม           ต่อให้ไม่บอกอะไรเลย แฟนหนังในช่วงเทศกาลคริสต์มาสก็ต้องรู้อยู่แล้วว่าi believe in santaจะต้องจบแบบมีความสุข แต่ประเด็นที่เราคิดว่าน่าสนใจก็คือ มันเป็นความสุขแบบที่เป็นไปได้จริง เป็นการหาจุดกึ่งกลางร่วมกัน ละทิ้งตัวตนและอีโก้บางอย่าง เพื่อรักษาสิ่งที่เรียกว่าความรักเอาไว้ ยิ่งไปกว่านั้นยังย้ำเตือนให้เรารู้ว่า บางครั้งมันไม่สำคัญเลยว่าสิ่งนั้นจะเป็นอย่างไร ขึ้นอยู่กับว่าเราเชื่ออย่างไรมากกว่า Latest Posts

“มอนสเตอร์ฮันเตอร์” กับการตัดฉากมุกตลกเหยียดเชื้อชาติ

กลายเป็นประเด็นที่กลบเกลื่อนตัวภาพยนตร์ของพอล แอนเดอร์สันไปอย่างมาก สำหรับเรื่องราวของ มอนสเตอร์ฮันเตอร์ ภาพยนตร์ที่ดัดแปลงมาจากเกมของแคปคอมที่ถูกผู้ชมจากประเทศจีนต่อว่าอย่างหนักที่บังเอิญมีมุกตลกเหยียดเชื้อชาติของพวกเขา จนทำให้กระแสติดลบไปทั่วสังคมออนไลน์ในประเทศของเอเชียเลยทีเดียว ซ่างตัวภาพยนตร์นี้เพิ่งจะเข้ารับการฉายที่ประเทศจีนในช่วงต้นเดือนธันวาคมและกำลังจะออกฉายในประเทศสหรัฐอเมริกาในช่วงเทศกาลคริสต์มาสอีกด้วย “มอนสเตอร์ฮันเตอร์” ที่โดนวิจารณ์อย่างดุเดือดในสังคมออนไลน์ ถึงมุกเหยียดเชื้อชาติ ปัญหาหลังจากการออกฉายของเรื่องมอนสเตอร์ฮันเตอร์ที่เกิดขึ้นในประเทศจีนก็คือ มีมุกตลกเหยียดเชื้อชาติที่แฟนๆ ต่างไม่พอใจจากตัวละครที่ชื่อว่าจิน อูหยงที่พูดถึงหัวเข่าขิงตัวเองว่า ไชนีส์หรือพ้องเสียงกับคำว่าคนจีนในภาษาอังกฤษ ซึ่งเป็นมุกตลกที่เอาไว้ใช้สำหรับเหล่าคนเอเชียทั้งประเทศญี่ปุ่นและจีนเรื่องหัวเข่าของพวกเขาที่มักจะสกปรกจากพิธีการคุกเข่าต่างๆ ที่เคยเกิดขึ้นในสมัยอดีต จนทำให้ผู้ชมในโรงภาพยนตร์นั้นต่างไม่พอใจและต้องออกมาวิจารณ์กันอย่างดุเดือดในสังคมออนไลน์ต่างๆ เมื่อมีเสียงวิจารณ์ไม่พอใจเกิดขึ้นมาแล้วนั้น ล่าสุดทางมอนสเตอร์ฮันเตอร์ก็ได้ตัดฉากที่เป็นประเด็นร้อนออกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยทางบริษัทที่อยู่ฝ่ายผลิตของภาพยนตร์เรื่องนี้จากประเทศเยอรมันอย่างคอนสแตนตินก็ได้ออกมาขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้น แม้ว่าตัวภาพยนตร์ชิ้นนี้จะยังมีโอกาสได้กลับไปฉายที่ประเทศจีนหรือไม่ก็ตาม ส่วนทางอีกบริษัทหนึ่งก็กำลังเจรจากับทางการของจีนเพื่อจะกลับไปฉายในโรงอีกครั้งในเวอร์ชั่นที่ไม่มีคำพูดเสียดสีแล้วเช่นกัน นับว่าเป็นข้อผิดพลาดทางการตลาดของเรื่องมอนสเตอร์ฮันเตอร์ก็ว่าได้ หลังจากที่การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิดนั้นทำให้โรงภาพยนตร์จะต้องงดฉายผลงานต่างๆ ไปนานนับครึ่งปี จนกระทั่งสถานการณ์ในประเทศจีนได้เริ่มดีขึ้น แต่ทว่ากลับมีมุกตลกเหยียดเชื้อชาติออกมาจนทำให้คนในประเทศไม่พอใจและตัวผลงานของพอล แอนเดอร์สันจะต้องถูกถอดออกไปจากโรงภาพยนตร์จนต้องเกิดเหตุให้กลับมาเจรจาใหม่อีกครั้งไปอย่างน่าเสียดาย หากคุณไม่อยากพลาดทุกข้อมูลเกี่ยวกับเว็บรีวิวหนัง อย่าลืมติดตามหนังต่างประเทศเรื่องอื่นๆ เช่น “สามภพสามชาติ ลิขิตเหนือเขนย” หนังรักสุดฟินอินแทบทุกตอน ได้อีกที่ filmograd.net ขอขอบคุณการสนับสนุนจาก Joker True Wallet สำหรับข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับวงการภาพยนตร์ต่างๆ ที่ได้นำมาเผยแพร่ในวันนี้