รีวิวหนังฟีลกู้ดเติมพลังชีวิต The Bucket List เพราะชีวิตต้องการเราจึงต้องทำมัน

เคยสงสัยกันหรือไม่ว่าคนเรานั้นเกิดขึ้นมาเพื่ออะไร มันเป็นคำถามที่ตอบยากเพราะหากกล่าวว่าเราทุกคนเกิดมาเพื่อจุดประสงค์เดียวกันก็คงไม่ถูกต้องนัก การที่เราเกิดขึ้นมาแล้วเฝ้าแต่หาคำตอบในเรื่องนี้ถือเป็นการเสียเวลาชีวิตอย่างสูงสุด เพราะเวลาเป็นสิ่งที่มีค่ายิ่ง ตอนเป็นเด็กหรือวัยรุ่นเราจะรู้สึกว่าชีวิตของเรากำลังเดินไปข้างหน้าและเติบโต แต่เมื่อเราเติบโตมาจนถึงจุดหนึ่งเรากลับรู้สึกว่าชิวตกำลังนับถอยหลังอย่างอกไม่ถูก…การใช้ชีวิตให้มีความสุขจึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งเหมือนกับหนังเรื่อง “The Bucket List” นั่นเอง หนังเรื่องThe Bucket Listนี้เป็นอีกหนังฟีลกู้ดระดับตำนานและนำมาซึ่งแนวคิดใหม่ ๆ ในการใช้ชีวิตที่ดูจะทำให้เราเปิดใจกล้าทำอะไร ๆ ที่ต้องการมากขึ้น เรื่องราวของ “เอ็ดเวิร์ด” มหาเศรษฐีแสนร่ำรวยที่ได้มาเจอกับ “คาร์เตอร์” ช่างยนต์คนหนึ่ง พวกเขามาจากต่างครอบครัว ต่างฐานะ มีเงินทองและประสบการณ์ชีวิตที่แตกต่างกัน แต่วันนี้พวกเขากำลังเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายเหมือนกัน และกำลังเดินทางเส้นเดียวกันในไม่ช้า เวลาของทั้งคู่กำลังนับถอยหลังแต่พวกเขาก็ไม่ได้ร้อนรนใจเสียสติกับสภาวะดังกล่าว แต่กลับพากันมาเขียนสิ่งที่อยากทำก่อนลาโลกแล้วใส่ลงในกระป๋องจึงเป็นที่มาของ Busket List โดยคาร์เตอร์ได้พูดสิ่งที่น่าสนใจกับเอ็ดเวิร์ดคือ ในความเชื่อของชาวอียิปต์เกี่ยวกับโลกหลังความตายคือเมื่อเราไปถึงประตูสวรรค์จะมีเทวดาคอยถามเรา 2 คำถามด้วยกันคือ เราเคยมีความสุขกับชีวิตที่ผ่านมาหรือไม่และเราเคยทำให้ผู้อื่นมีความสุขหรือไม่ คำตอบของเราจะเป็นตัวกำหนดว่าเราจะได้ไปที่ไหน หนังเรื่องนี้มักจะเล่าผ่านบทสนทนาของชายทั้งสองเป็นหลัก เราจะได้เห็นคนที่ทำสิ่งที่พวกเขาทำได้อย่างไม่มีข้อจำกัด ได้ทำอย่างไม่ต้องพะวงหน้าพะวงหลังเหมือนชีวิตที่ผ่าน ๆ มาของพวกเขา มันทำให้เราเห็นว่าคนที่ใช้ชีวิตเพื่อตนเองมาตลอดกับใช้ชีวิตเพื่อคนอื่นมาโดยตลอดนั้นแตกต่างกันอย่างไร และเราจะมีวิธีเติมเต็มความสุขให้แก่ชีวิตของเราขณะที่มีชีวิตอยู่บนโลกได้อย่างไร ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับหนัง “The Bucket List” ประเภท : คอมเมดี้ ดราม่า ผู้กำกับ : ร็อบ ไรเนอร์ นักแสดงนำ : แจ็ก นิโคลสัน,มอร์แกน ฟรีแมน,ฌอน เฮยส์,ร็อบ มอร์โรว์ ความยาว :  1 ชั่วโมง 37 นาที กำหนดฉาย : 15 ธันวาคม 2550 หากคุณไม่อยากพลาดทุกข้อมูลเกี่ยวกับเว็บรีวิวหนัง อย่าลืมติดตามหนังต่างประเทศเรื่องอื่นๆ เช่น รีวิวหนังฮาแบบหลุดโลกกับ “The Wrong Missy” มิสซี่สาวในฝัน (ร้าย) ได้อีกที่ filmograd.net

ห้ามพลาด รีวิว All Together Now หนังนอกกระแสฟีลกู้ดจาก Netflix!

ชีวิตของคนเราหลายครั้งที่ต้องพบเจอกับ “ความยากลำบาก” แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าความลำบากเหล่านั้นเองที่เข้ามาเติมเต็มความแข็งแกร่งให้กับตัวของเรา เพราะปัญหาทุกปัญหาที่ถาโถมเข้ามาจะกระตุ้นให้เรารู้จักกับการแก้ปัญหา และการทำอย่างไรให้ไม่เจอมันอีก แต่ก็ไม่รู้ว่าปัญหาบางอย่างมันจะยิ่งใหญ่เกินตัวของเด็กสาวคนนี้ไปหรือใหม่ อย่างในเรื่อง All Together Now ที่กล่าวถึงเรื่องราวของเด็กสาวคิดบวก ที่คอยแบ่งปันพลังงานบวกให้กับคนรอบข้างอยู่เสมอ อย่าง “แอมบอร์ แอพเพิลตัน” ที่มีเหตุจำเป็นต้องกลายเป็นคนไร้บ้าน ต้องมาอยู่กับแม่บนรถบัสโรงเรียน และเมื่อต้องอาบน้ำก็ต้องแอบตีเนียนห้องน้ำของที่ทำงานของแอมบอร์เอง ในตัวหนังเราจะได้เห็นมุมมองสุดดาร์กที่เกินคาดเดาของเด็กสาว ที่แม้เธอจะพยายามมองปัญหารอบตัวเป็นสิ่งที่ท้าทายและไม่ใช่บาดแผลอย่างที่หลายคนเลือกมอง มันก็ยากเกินที่จะทำใจให้เข้มแข็งได้ เพราะไม่มีใครอยากที่จะทำเป็นไม่รู้หรอกว่าตัวเองกำลังต่อสู้กับอะไรอยู่ ซึ่งมันก็เป็นเรื่องที่เหนื่อยเหลือเกิน แม้ว่าเราจะคาดหวังให้หนังชี้เกี่ยวกับปมของการใช้ชีวิตบนรถบัส แต่มันไม่ได้เป็นเช่นนั้น หนังได้เล่าเกี่ยวกับปมปัญหาครอบครัวที่ส่งผลต่อการใช้ชีวิตของแอมบอร์มากกว่า ซึ่งก็เป็นเรื่องดีเพราะทำให้หนังไม่ดูน่าเบื่อเกินไป แน่นอนว่าเป็นธรรมดาของหนังวัยรุ่นที่จะมีเรื่อง “รักวัยรุ่น” สอดแทรกเข้ามาหนังเรื่องนี้ก็มีเช่นกัน ซึ่งเป็นความรักที่เกิดกับนางเอกและพระเอกที่เป็นลูกเศรษฐี เธอเลือกที่จะไม่ขอวาดฝันกับมันมากเพราะรู้ว่าช่องว่างระหว่างเธอกับเขามันมากเกินไป ความสามารถด้านดนตรีที่โดดเด่นของแอมบอร์เราได้เห็นเกือบตลอดทั้งเรื่อง ทั้งการร้องเพลงที่ทำออกมาได้ดีทั้งภาคอังกฤษและไทยเอง นางเอกต้องการจะเรียนต่อที่วิทยาลัยด้านดนตรีโดยเฉพาะแต่นั้นก็ต้องใช้เงินจำนวนมากเลยทีเดียวไม่รู้ว่าเธอจะสามารถทำมันได้สำเร็จหรือไม่ ต้องคอยติดตามชมกัน ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับหนัง “All Together Now” ประเภท : วัยรุ่น ดราม่า ผู้กำกับ : เบร็ทท์ เฮลีย์ นักแสดงนำ : อัลลิ’อิ คราวัลโย,เรนชี่ เฟลิซ,จัสติน่า มาชาโด ความยาว : 1 ชั่วโมง 32 นาที กำหนดฉาย : 28 สิงหาคม 2563 หากคุณไม่อยากพลาดทุกข้อมูลเกี่ยวกับการรีวิวหนัง อย่าลืมติดตามหนัง Netflix เรื่องอื่นๆ เช่น ชีวิตนี้ขอเลือกตามหัวใจตัวเอง “The Half Of It” รักครึ่ง ๆ กลาง ๆ หนังดีจาก Netflix ได้อีกที่ filmograd.net