หนังเบาสมองอย่าง “Think Like A Dog” จะกล่างถึงเรื่องราวของหนุ่มน้อยนักประดิษฐ์อย่าง “โอลิเวอร์” ที่ตั้งใจประดิษฐ์เครื่องอ่านความคิด แต่เมื่อนำเครื่องนี้ไปโชว์ที่งานโรงเรียนมันก็ล้มเหลวไม่เป็นท่าเพราะเกิดข้อขัดข้องทางเทคนิค ทำให้เครื่องไม่สามารถทำงานได้ จนทำให้เขารู้สึกขายหน้ามาก ๆ เมื่อกลับมาถึงบ้านโอลิเวอร์จึงตัดสินใจทดลองกับสุนัขที่เป็นเหมือนเพื่อนสนิทของเขาอีกคนอย่าง “เฮนรี่” และได้รับความช่วยเหลือจากเพื่อนทางไกลที่เป็นชาวจีน ช่วยให้แฮกดาวเทียมของจีนได้สำเร็จ ทำให้สิ่งประดิษฐ์ของเขามีความก้าวหน้าและพัฒนาจนมันใช้งานจริงได้ ซึ่งการที่พวกเขาทำการแฮกดาวเทียมของจีนก็ทำให้รัฐบาลพยายามสืบหาและต้องการจับตัวเขา ส่วนเรื่องสิ่งประดิษฐ์สุดล้ำก็ไปเข้าหูเจ้าของบริษัทตัวร้ายที่มองว่ามันต้องเป็นเครื่องผลิตเงินให้เขาในอนาคตจึงวางแผนที่จะขโมยมันจากเด็ก ๆ ด้วยความที่เป็นหนังดูง่าย สบาย ๆ ปมเรื่องจึงไม่ได้สลับซับซ้อนมาก การที่อ่านความคิดของน้องเฮนรี่ได้ก็เป็นเหมือนตัวช่วยในการแก้ปัญหาในชีวิตของโอลิเวอร์ได้อย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งประเด็นที่พ่อแม่ของเขากำลังจะเลิกกัน หรือแม้กระทั่งการที่เขาไม่กล้าชวนสาวที่แอบหมายปองไปงานก็ตาม แม้มันจะดูง่ายดายไร้ซึ่งอุปสรรคไปเสียหน่อย แต่ก็ทำให้เรื่องราวไม่จืดชืดด้วยความสนุกปนฮาในการพยายามขโมยจากฝั่งตัวร้ายที่ทำออกมาได้ดีระดับหนึ่งเลยทีเดียว นอกจากนั้นเรายังเห็นประเด็นเล็ก ๆ เกี่ยวกับความรักความอบอุ่นในครอบครัว มิตรภาพระหว่างคนกับสัตว์เลี้ยง และแรงสนับสนุนในการทำความฝันของเด็ก ๆ อย่างที่กล่าวมาข้างต้นว่าหนังเรื่องนี้เป็นหนังที่ดูเอาสบายเสพความบันเทิงเป็นหลัก ทำให้ความคาดหวังไม่ได้มากเท่าหนังเรื่องอื่น ๆ แต่ก็มีข้อควรพิจารณาอย่างเช่น การที่ควรเสริมความโดดเด่นให้น้องสุนัขมากขึ้นกว่านี้ เพราะทำให้เกิดแรงดึงดูดจากผู้ชมได้มากขึ้น ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับหนังเบาสมองอย่าง “Think Like A Dog” ประเภท : ดราม่า ไซไฟ ผู้กำกับ : กิล จังเจอร์ นักแสดงนำ : เกเบรียล เบตแมน,เมแกน ฟอกซ์,จอช เดอเมล,นีโอ โฮ ความยาว : 1 ชั่วโมง 35 นาที กำหนดฉาย : 23 กรกฎาคม 2563 หากคุณไม่อยากพลาดทุกข้อมูลเกี่ยวกับการรีวิวหนัง อย่าลืมติดตามหนังต่างประเทศเรื่องอื่นๆ เช่น รีวิว Pandora หนังเกาหลีที่จะทำให้คุณเข้าใจความเห็นแก่ตัวในสังคมมากขึ้น ได้อีกที่ filmograd.net