“Tale from the Crypt” (season1) ความสยองขวัญปนตลกร้าย ที่กระชับและชัดเจน

ภาพยนตร์เรื่อง Tale from the Crypt กับตอนที่มีชื่อว่า “Dig That cat…He’s Real Gone” เป็นการเล่าเรื่องที่ค่อนข้างมีความแปลกใหม่ในยุคนั้น  ซึ่งเปิดตัวด้วยตัวละครหลักจากเหตุการณ์ท้ายสุดมาเล่าสิ่งที่ตัวเองพบเจอ โดยดำเนินเหตุการณ์อย่างกระชับ รวดเร็ว  ไม่มีช่วงที่น่าเบื่อให้กวนใจ  และมีการแทรกอารมณ์ขันบางช่วง  ที่มีคำชื่นชมจากเหล่านักวิจารณ์ในยุคนั้นอย่างดี อัตราควาสะเด่า เนื้อหา           5/5 ระทึกใจ         4/5 บทสรุป       5/5 เรื่องราวในหภาพยนตร์เรื่อง Tale from the Crypt ตอน Dig That cat…He’s RealGone เนื้อหาหลักของTale from the Cryptในตอนที่มีชื่อว่า Dig That cat…He’s RealGone เว็บรีวิวหนัง กล่าวถึง “อูลริก” หนุ่มขี้เมาไปวันๆที่ได้รับโอกาสTale from the Crypt “And All Through the House” กับความระทึกขวัญที่ไหลลื่น ซึ่งเป็นโอกาสในชีวิตในการรับเชิญให้เป็นหนึ่งในการทดลองบางอย่างของ ดร.เอเมิลแมนเฟรดซึ่งได้ปลูกถ่ายเซลล์แมวไปยังตัวอุลริคให้มีร่างกายเสมือนแมวเก้าชีวิตที่สามารถตายได้เก้าครั้ง ต่อมาเขาทั้งสองได้ร่วมกับเจ้าของการแสดงโชว์พิสดาร ในโชว์ความสามารถพิเศษในการตายแล้วฟื้นสุดแปลกประหลาดที่นำมาซึ่งความร่ำรวยและเหตุการณ์ที่เขาจะต้องจดจำตลอดชีวิต ในตอนนี้เป็นตอนที่ให้ความครบรสอีกตอนหนึ่งของซีซั่นนี้  โดยคอนเซ็ปต์ที่นำเรื่องราวเกี่ยวกับความเชื่อมาดัดแปลงให้เข้ากับความโลภนั้น  เป็นการเสนอภาพที่เห็นได้อย่างชัดเจน ทั้งจังหวะการเน้นคำ  มุมกล้องของความมีเล่ห์เหลี่ยม  และผลของการกระทำ  ที่สมเหตุสมผล  โดยนำไปสู่บทสรุปที่คาดไม่ถึง  หากใครยังไม่รับชมให้ปล่อยใจและปล่อยวางติดตามเรื่องราวของตัวละครหลัก  โดยไม่ต้องคิดเยอะ  รับรองว่าจะต้องเซอร์ไพรส์กับสิ่งที่ไม่คาดคิดมาก่อนแน่นอน นอกจากความกระชับ และการลำดับภาพที่รวดเร็วแล้ว ในส่วนของอารมณ์ขันที่กล่าวไว้ข้างต้นกับตอน “Dig That cat…He’s Real” นั้น  ไม่ใช่การับส่งมุกโบ๊ะบ๊ะไปมา  เหมือนหนังตลกทั่วไป  แต่เป็นความตลกร้ายที่ซ่อนอยู่ในฉากการตายในแต่ละครั้งของตัวเอกที่ไม่ซ้ำแบบกัน  แต่ละแบบก็มีความสมน้ำหน้าพลางสงสารที่ปะปนกันไป  และลุ้นว่าเรื่องราว tiger789 จะสิ้นสุดเช่นไรกับความโลภของมนุษย์คนหนึ่ง ซี่งหากกล่าวถึงเฉพาะความหลอน และ สยองพองเกล้า ให้สมกับคอนเซ็ปต์ของซีรีส์แห่งตำนานของTale from the Crypt นั้น  “มีหรือไม่”  ก็ต้องบอกว่า “มี” แต่เป็นความหลอนที่ซ่อนความขบขัน ในรูปแบบความตลกร้ายอย่างบอกไม่ถูก