รีวิว Hubie Halloween (ฮูบี้ ฮาโลวีน) ไปกับการสุขสันต์วันปล่อยผี

สวัสดีเดือนตุลาคม เดือนแห่งวันวันฮาโลวีน ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่าพอเริ่มเข้าสู่เดือนตุลาคมแล้วนั้น Netflix ก็เริ่มปล่อยหนังที่เกี่ยวกับวันฮาโลวีนออกมาให้ผู้ชมอย่างเราได้รับชมกัน เพื่อต้อนรับวันแห่งเทศกาลการปล่อยผีนั่นเอง อย่างล่าสุดนี้ทาง Netflix ก็ได้มีการปล่อยหนังตลกอย่าง รีวิว Hubie Halloween (ฮูบี้ ฮาโลวีน) ออกมาให้เราได้รับชมกันอีกเรื่องหนึ่ง เอาเป็นว่าเราไม่รอช้า ไปดูกันเลยดีกว่าว่าหนังเรื่องนี้จะเป็นอย่างไรกันบ้าง ชื่อเรื่อง : “Hubie Halloween” (ฮูบี้ ฮาโลวีน) แนว : ตลก สยองขวัญ นักแสดง : Adam Sandler, Kevin James, Julie Bowen, Ray Liotta, Rob Schneider, June Squibb, Kenan Thompson, Shaquille O’Neal, Steve Buscemi, Maya Rudolph บทภาพยนตร์ : Tim Herlihy, Adam Sandler ผู้กำกับ : Steven Brill ค่าย : Netflix วันฉาย : 07 ตุลาคม 2020 เวลา : 01 ชั่วโมง 42 นาที IMDb : 5.4 เรื่องย่อ เรื่องราวของ “ฮูบี้ ดูบัวส์” (รับบทโดย Adam Sandler) ที่เกิดและอาศัยอยู่ที่เมืองซาเล็ม ในแมสซาซูเซตส์ โดยเขาเป็นคนที่ทุ่มเททั้งกายใจทำเพื่อคนอื่นมาโดยตลอด แต่เขาก็ยังไม่ได้เป็นที่รักของผู้คนในเมืองนี้ แถมยังเป็นถูกมองตัวตลกอีกต่างหาก อาจจะด้วยความที่เขามีความเป็นตัวของตัวเองสูงเกินไป จนเมื่อวันฮาโลวีนที่เพิ่งถึงนี้กลับมีเรื่องแปลกประหลาดเกิดขึ้นมากมาย เพราะมันมีคนหนีออกมาจากโรงพยาบาลบ้า นั่นทำให้ค่ำคืนฮาโลวีนนี้กลายเป็นคืนสยองขึ้นมา เพราะในคืนนั้นเองมีคนหายตัวไปทั้งหมด 4 คนนั่นเอง นั่นทำให้ผู้ชายจิตใจดีแต่ขี้กลัวอย่างฮูบี้ต้องลุกขึ้นมาเพื่อหาทางปกป้องเมืองนี้ให้ปลอดภัยให้ได้ รีวิว Hubie Halloween เรียกได้ว่าหนังเรื่องนี้เป็นหนังตลกที่คุณสามารถดูเพื่อคลายเครียดได้ป็นอย่างดี มันอาจจะไม่ได้ตลกอะไรมากมาย แต่มันก็มีฉากที่เรียกเสียงฮาได้ตลอดทั้งเรื่องเลย แต่ในความนั้น หนังก็ยังมีการสอดแทรกการจิกกัดสภาพสังคมในอเมริกาได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการบูลลี่ต่างๆ อย่างที่เราเคยเห็นมาจากหนังหลายๆเรื่อง ที่หลายคนต้องการทำตัวให้เป็นที่ยอมรับของสังคมให้ได้ ไม่เช่นนั้นก็จะเป็นเป้าให้โดนบูลลี่ หรือโดนแกล้งได้อย่างง่ายดาย ซึ่งมันมีอยู่เรื่องหนึ่งที่แอดจะไม่พูดถึงไม่ได้เลย นั่นก็คือเรื่องของนักแสดง ที่สามารถแสดงได้อย่างสมจริงมากๆ มันทำให้แอดนึกว่าเป็นเรื่องรางของคนๆนั้นจริงๆซะอย่างนั้น ในส่วนของเนื้อเรื่องมันอาจจะไม่ได้มีสาระอะไรมากมายนัก ต้องเรียกได้ว่าหากใครที่คิดจะดูหนังเรื่องนี้คุณต้องโยนสมองทิ้งไป แล้วจะสามารถดูหนังเรื่องนี้ได้อย่างลื่นไหล เพราะในเรื่องนั้นมันไม่ได้มีเนื้อหาหลักๆอะไรที่ต้องการจะสื่อให้ผู้ชมรับรู้มากไปกว่าความฮาเท่านั้นที่คุณจะได้รับจากหนังเรื่องนี้ อ้อ…แต่แอดชอบตอนจบของหนังเรื่องนี้อยู่นะ มันเหมือนกับคนดีคนหนึ่งที่ทำเพื่อสังคมมาโดยตลอดแต่ยังกลับถูกมองเป็นตัวตลกอยู่เสมอ จริงๆแล้วเราควรที่จะมองกันให้ลึกถึงนิสัยกันมากกว่าที่จะมองเพียงแค่ภายนอกเท่านั้น ซึ่งตอนจบก็ได้กล่าวถึงเรื่องนี้เอาไว้ได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว ตัวอย่าง หากคุณไม่อยากพลาดทุกข้อมูลเกี่ยวกับการรีวิวหนัง อย่าลืมติดตามหนัง Netflix เรื่องอื่นๆ เช่น รีวิว ปริศนามนุษย์กลของอูโก้ หนังที่จะพาคุณย้อนวัยไปด้วยกันอีกครั้ง ได้อีกที่ filmograd.net