รีวิวหนัง “The Haunting of Bly Manor” (บลายเมเนอร์บ้านกระตุกวิญญาณ)

โอ้ย…ต้องเรียกได้ว่าแอดใจแอดมากๆ สำหรับแอดที่เป็นแฟนคลับซีรี่ย์ผีหลอนๆอย่างเรื่อง “The Haunting of Hill House” ที่ในวันนี้ทางทีมผู้สร้างและนักแสดงชุดเดิมมีการยกขบวนมาสร้างซีรีย์สุดสยองขวัญในบ้านหลังใหม่กันใน “The Haunting of Bly Manor” (บลายเมเนอร์บ้านกระตุกวิญญาณ) ซึ่งแน่นอนเลยว่าแฟนคลับอย่างแอดมีหรือจะพลาดซีรี่ย์เรื่องนี้ ชื่อเรื่อง : “TheHaunting Of Bly Manor” (บลายเมเนอร์บ้านกระตุกวิญญาณ) แนว : สยองขวัญ โรแมนติก ดราม่า นักแสดง : Victoria Pedretti, Oliver Jackson-Cohen, Amelia Eve, T’Nia Miller, Rahul Kohli, Tahirah Sharif, Amelie Bea Smith, Benjamin Evan Ainsworth, Henry Thomas ผู้สร้าง : Mike Flanagan ค่าย : Netflix วันฉาย : 09 ตุลาคม 2020 จำนวนตอน : 9 ตอน IMDb : 7.6 (จากทั้งหมด 26,894 โหวต) เรื่องย่อ เรื่องราวของ “แดนี เครย์ตัน” (รับบทโดย Victoria Pedretti) หญิงสาวชาวอเมริกันที่ได้งานเป็นพี่เลี้ยงเด็ก 2 คนอย่าง “ไมล์” (รับบทโดย Benjamin Evan Ainsworth) พี่ชายวัย 10 ขวบที่เพิ่งถูกเชิญออกจากโรงเรียนประจำ และ “ฟลอร่า” (รับบทโดย Amelie Bea Smith) น้องสาวที่มีพฤติกรรมแปลกประหลาดอย่าง การคุยกับใครสักคนที่มองไม่เห็น โดยแดนีจะต้องไปอาศัยกิน-นอนที่ “บลายเมอเนอร์” คฤหาสน์โบราณใหญ่โตที่เด็กทั้ง 2 คนนี้อาศัยอยู่เลย ซึ่งในคฤหาสน์แห่งนี้ยังมี “มิสซิสโกรส” (รับบทโดย T’Nia Miller) แม่บ้านเก่าแก่ของคฤหาสน์ , “โอเว่น” (รับบทโดย Rahul Kohli) พ่อครัวสุดแสนใจดี และ “เจมี่” (รับบทโดย Amelia Eve) สาวชาวสวนอีกด้วย และในการมาของแดนีครั้งนี้ทำให้เธอต้องพบเจออะไรแปลกประหลาดที่อาจเปลี่ยนชีวิตเธอไปตลอดกาล รีวิว The Haunting of Bly Manor บอกได้คำเดียวว่า สนุกมากค่ะคุณผู้อ่านทั้งหลาย แอดต้องบอกก่อนเลยว่า ถ้าใครที่เป็นแฟนคลับซีรี่ย์ภาคก่อนอย่าง “The Haunting of Hill House” แล้วนั้น คุณต้องดูซีรี่ย์ภาคนี้ต่อเลย ถึงแม้เนื้อเรื่องมันจะไม่ใช่ภาคต่อ แถมยังเป็นโครงเรื่องใหม่เลยก็ตาม แต่ถ้าคุณได้ดูแล้วจะมีความรู้สึกเหมือนเราเข้าได้ไปอยู่ในภวังหนังเรื่องนี้อีกครั้ง เพราะสไตล์การเล่าเรื่อง รวมทั้งตัวนักแสดงเองก็ยังเป็นนักแสดงชุดเดิมจากภาคแรกอีกด้วย นั่นทำให้บรรยากาศมันเหมือนเราได้ดูฮิลเฮ้าท์อีกรอบ แต่คนละเนื้อเรื่องกันแค่นั้นเอง ซีรี่ย์ภาคต่อเรื่องนี้จะเป็นการนำเสนอเรื่องราวของผีออกมาในรูปแบบใหม่ๆ ซึ่งมันอาจจะไม่ได้หลอนเท่าภาคแรก แถมผียังออกมาน้อยอีกต่างหาก เนื่องจากว่าซีรี่ย์เรื่องนี้จะเน้นไปที่เรื่องราวดราม่าซะมากกว่า แต่มันก็เป็นดราม่าที่ดูแล้วสนุกไม่มีเบื่อเลย ซึ่งถ้าหากใครที่หวังว่าจะได้ดูซีรี่ย์หลอนๆตามสไตล์ภาคแรกนั้น เรื่องนี้อาจจะทำให้คุณผิดหวังก็เป็นได้ เพราะในภาคนี้จะให้อารมณ์เหมือนเราดูหนังดราม่าที่มีผีเป็นฉากประกอบซะมากกว่า แต่ถ้าใครที่ไม่ได้คาดหวังว่ามันจะหลอนเหมือนในภาคแรก และเลือกที่จะดูภาคนี้เพราะชื่นชอบผลงานของทีมงานสร้างเดิมนั้น แอดต้องบอกให้คุณหามาดูให้ได้เลย เพราะถึงแม้มันจะไม่ได้หลอนเท่าภาคแรกนั้น แต่ในด้านดราม่าของภาคนี้ที่ทางทีมสร้างต้องการนำเสนอนั้นก็ถือว่าทำออกมาได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว ตัวอย่าง หากคุณไม่อยากพลาดทุกข้อมูลเกี่ยวกับการรีวิวหนัง อย่าลืมติดตามหนัง Netflix เรื่องอื่นๆ เช่น รีวิว Hubie Halloween (ฮูบี้ ฮาโลวีน) ไปกับการสุขสันต์วันปล่อยผี ได้อีกที่ filmograd.net