เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงเคยได้ยินหนังที่ชื่อเรื่องว่า โรมิโอ + จูเลียต (Romeo and Juliet) มาเป็นเวลาอย่างยาวนานเพราะนี้คือหนังรักในตำนานที่ไม่มีวันตาย เป็นหนังที่ควรค่าแก่การรับชมเป็นอย่างมาก เพราะมันสะท้อนให้เห็นภาพรวมในสังคมได้อย่างชัดเจน และที่ยิ่งน่าสนใจไปกว่านั้นคือ เขียนบทโดย วิลเลียม เชกสเปียร์ (William Shakespeare) นักกวีชื่อดังที่ได้รับฉายาว่า (จอมกวี) ที่มีวาทศิลป์ที่งดงามและลึกซึ้ง พาทุกคนย้อนไปดูหนังเก่ากับเรื่อง”โรมิโอ+จูเลียต” (Romeo and Juliet) หนังเรื่องนี้นั้นมีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใครตรงที่ว่า ทั้งเรื่องจะไม่มีภาษาพูดเลย จะมีแต่ถ้อยคำที่เป็นกวีโดย วิลเลียม เชกสเปียร์ เป็นคนแต่งขึ้นมา ถ้าเปรียบเทียบในแบบไทยก็คล้าย ๆ กับบทกวีของท่านสุนทรภูนั่นเอง แต่หนังเรื่องนี้จะเป็นเวอร์ชั่นแบบบทกวีภาษาอังกฤษ ผู้ชมอาจจะต้องใช้วิจารณญาณเล็กน้อยเพราะว่าเขาไม่ได้ใช้ภาษาพูดทั่วไป ขนาดซับไตเติ้ลยังแปลเป็นบทกลอนของ วิลเลียม เชกสเปียร์ เพื่ออรรถรสในการรับชม มีให้รับชมในเน็ตฟิก (Netflix) แล้วนะ นักแสดงหลัก ๆ ก็มี ลีโอนาร์โด ดิแคพรีโอ Leonardo DiCaprio รับบทเป็น Romeo Montague (โรมิโอ มอนตะคิว)ช่างเป็นบุญตามากเพราะอยู่ในช่วงที่ลิโอนาร์โดยังเป็นวัยเยาว์อยู่และคนต่อมาคือ แคลร์ แคเทอรีน เดนส์ Claire Catherine Danes แสดงเป็น Juliet Cabulet (จูเลียต คาปุเล็ต) สาวสวยที่แสดงเป็นตัวเอกในหนังเรื่องนี้นั้นเอง ทั้งคู่แสดงได้อารมณ์มาก ๆ ไม่แปลกเลยว่าทำไมถึงเป็นมืออาชีพขนาดนี้ หนังเรื่องนี้ เป็นหนังที่ครบรสเกี่ยวกับเรื่องความรัก มีต้นต่อและมีเรื่องราว เราจะขอเล่าเรื่องย่อคร่าว ๆ ที่เกี่ยวข้องภายในหนังนะคะ 2 ตระกูลนี้นั้นไม่ถูกกันมาเนินนานแล้ว มีเรื่องทะเลาะกันโดยตลอดโดยไม่มีท่าทีที่จะยุติได้เลย วันหนึ่งโรมิโอได้แอบเข้าไปในงานเต้นรำของฝั่งทางคาปุเล็ตแบบเล่น ๆ และบังเอิญไปเจอลูกสาวของตระกุลคาปุเล็ต โดยที่ตนนั้นยังไม่ทราบว่านั้นคือลูกสาวของตระกูลคู่รักคู่แค้นของตน หากคุณไม่อยากพลาดทุกข้อมูลเกี่ยวกับเว็บรีวิวหนัง อย่าลืมติดตามหนังต่างประเทศเรื่องอื่นๆ เช่น “จอห์น ซีน่า” ที่ต้องกินเอ็มพานาดาสถึง 31 ชิ้นในฉากเดียว ได้อีกที่ filmograd.net