แม้ว่าเรื่องราวของ มนุษย์หมาป่า อาจจะลดความน่ากลัวลงไปในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามามีส่วนกับทุกชีวิตบนโลกใบนี้ แต่ทว่าผลงานของผู้กำกับวิลเลี่ยม เบนท์ เบล ได้พยายามถ่ายทอดเรื่องราวของปีศาจที่เคยน่ากลัวออกมาอีกรูปแบบหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นการที่พยายามอธิบายผ่านทางการแพทย์และการใช้จัมป์สแกร์ที่ทำให้ผู้ชมได้ตกใจตลอดเรื่องจนเป็นภาพยนตร์สยองขวัญที่ควรได้รับคำชื่นชมมากกว่าที่ควรจะเป็น ภาพยนตร์สยองขวัญเรื่อง มนุษย์หมาป่า ที่ยังดูได้อย่างสนุกในยุคนี้ เรื่องราวของแวร์นั้นก็เริ่มจากทนายสาวอย่างเคท มอร์ต้องไปว่าความให้กับผู้ต้องสงสัยคดีฆาตกรรมที่ชื่อว่าทาลัน กวีเนคว่าเขาอาจมีส่วนในการทำร้ายร่างกายครอบครัวพอตเตอร์ทั้งสามคน แต่ทว่าแม่ของทาลันกลับชี้แจงว่าเขาคงไม่มีทางไปทำร้ายคนอื่นได้จากการเป็นโรคทางพันธุกรรมของครอบครัวจนทำให้ทาลันมีร่างกายที่อ่อนแอ แม้ว่าสุดท้ายความจริงจะเปิดเผยว่าทาลันสามารถกลายเป็นมนุษย์หมาป่าที่มีพลังเหนือมนุษย์จริงๆ ก็ตาม หลังจากที่ภาพยนตร์เรื่องมนุษย์หมาป่าได้ออกฉายนั้น กระแสตอบรับของพวกเขาก็ถือว่าเป็นที่น่าพอใจสำหรับแฟนๆ ของภาพยนตร์สยองขวัญ ไม่ว่าจะเป็นการพยายามอธิบายที่มาของทาลันผ่านวิทยาศาสตร์และโรคพอร์ไฟเรียที่มีอยู่จริงๆ อีกด้วย แม้ว่าช่วงท้ายของเรื่องจะเปลี่ยนทิศทางไปเป็นภาพยนตร์แนวสืบสวนสอบสวนตามตัวละครหลักของเรื่องที่เป็นตำรวจและทนายนั่นเอง แต่ก็ถือว่าเพียงพอต่อแวร์ให้เป็นภาพยนตร์ที่ควรชมในช่วงฮัลโลวีนนั่นเอง นอกจากเนื้อเรื่องมนุษย์หมาป่าที่เล่าอย่างค่อยเป็นค่อยไปแล้ว ทางเทคนิคการใช้จัมป์สแกร์ที่ทำให้คนดูตกใจนั้นก็ยังใช้ได้ดีกับภาพยนตร์ที่ไม่ได้มีตัวประหลาดหรือปีศาจในเรื่อง โดยพวกเขาใช้จังหวะที่เหมาะสมในแต่ละครั้งจนผู้ชมไม่มีโอกาสตั้งตัว ซึ่งคงเป็นเรื่องที่ผู้กำกับภาพยนตร์สยองขวัญอย่างวิลเลี่ยม เบนท์ เบลคิดไว้แล้วอีกด้วย หากคุณไม่อยากพลาดทุกข้อมูลเกี่ยวกับเว็บรีวิวหนัง อย่าลืมติดตามหนังต่างประเทศเรื่องอื่นๆ เช่น เมื่อ “บัสเตอร์ คีตัน” ได้รับบาดเจ็บในหนังเรื่องเชอร์ล็อคจูเนียร์ ได้อีกที่ filmograd.net ขอขอบคุณการสนับสนุนจาก ufa9999 สำหรับข่าวสารในวงการภาพยนตร์ หรือซีรี่ย์ต่างๆ ทั้งเก่าและใหม่ ที่นำมาแบ่งปันกันในวันนี้