ทำไม คนไทย ไปเล่นหนังต่างประเทศแล้วเมื่อไหร่ หนังไทย จะเข้าสู่ต่างประเทศกันบ้าง

คนไทย

ปัจจุบันเรื่องราวของหนังของละครนั้นดูเหมือนว่า คนไทย ได้โกอินเตอร์ไปสู่ต่างประเทศกันไปพอสมควรแล้ว อาจจะมีเรื่องราวของกระแสดราม่าสำหรับคนที่ได้ไปเล่นหนังต่างประเทศอยู่บ้านจำนวนไม่น้อย เว็บรีวิวหนัง เราคือผู้ที่เสพสุขในเรื่องของภาพยนตร์เราไม่รู้ถึงตื้นลึกหนาบางว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นมาบ้างสำหรับคนที่เล่นหนังต่างประเทศ แต่เชื่อได้เลยว่าคนที่พยายามผลักดันตัวเองออกไปสู่เรื่องราวของหนังฮอลลีวูดหรือหนังที่มีการพัฒนาต่อเนื่อง เขาเหล่านี้พยายามที่จะนำเรื่องราวเหล่านี้เข้ามาสู่ในไทยทำให้หนังไทยนั้นโตขึ้นไปอีกหนึ่งระดับยังคงติดปัญหาหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเงินทุนเรื่องของบทบาทการแสดงที่ยังไม่ได้เป็นตัวเด่นในระดับโลกเท่าไหร่ เรื่องราวเหล่านี้อาจจะต้องรอการพัฒนาอีกประมาณ 20 ปีถึงจะเริ่มมีการพูดคุยจริงจังสำหรับวงการหนังไทยก็เป็นไปได้ เมื่อหนังไทยไม่กลัวอินเตอร์ก็ให้ คนไทย โกอินเตอร์กันไปก่อน ในเมื่อหนังไทยของเรานั้นยังไม่โกอินเตอร์เราก็คงจะต้องผลักดันนักแสดงของเรา ที่มีโอกาสไปสู่ต่างประเทศให้ก้าวไปถึงจุดสูงที่สุดไม่ว่าจะเป็นนักแสดงนำหรือจะเป็นตัวเด่นในด้านใดก็ตาม จะเป็นพระเอกหรือนางเอกหรือจะเป็นผู้ร้ายก็ควรที่จะได้ก้าวไปอย่างเต็มตัวกันเสียที ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เป็นคนที่ทำเงินระดับ 100 ล้านดอลลาร์หรือพันล้านดอลลาร์เหมือนกับชาวต่างชาติ แต่ก็ถือได้ว่าเป็นเรื่องราวที่เราควรจะต้องส่งเสริมกันอย่างต่อเนื่อง จึงไม่เป็นเรื่องที่แปลกเลยทุกวันนี้เรานิยมดูหนังต่างประเทศมากกว่าดูหนังไทย เชื่อได้ว่าแฟนหนังทุกคนสามารถเดาเนื้อเรื่องของหนังไทยได้มากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ว่าจะต้องมาในรูปแบบไหนและจะต้องเป็นไปอย่างไร แต่สำหรับแฟนหนังตัวจริงการเดานะเรื่องจากต่างประเทศนั้นไม่สามารถที่จะเดาได้ 100% เรียกว่าพอจะเดาเรื่องราวได้แค่ประมาณ 20 ถึง 30 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น และจุดตรงนี้จะเป็นจุดที่ทำให้เรามีความสุขและความสุขที่สุด ยิ่งเดาเรื่องแล้วผิด คิดแล้วก็ไม่ถูกยิ่งทำให้เราติดตามหนังได้อย่างต่อเนื่องนี่คือเสน่ห์ของหนังต่างประเทศที่คนดูหนังทุกคนนั้นชื่นชอบ สำหรับคนที่ชอบดูหนังเป็นชีวิตจิตใจ ก็คงจะรู้ดีว่าการดูหนังไทยนั้นไม่ได้ตอบโจทย์ความต้องการของตนเองสักเท่าไหร่ เราคงต้องสนับสนุนอย่างไรกันบ้างสักเล็กน้อยโดยเฉพาะ ผู้กำกับมือใหม่คนที่มีไฟแรงอาจจะมีเรื่องราวที่เราคิดไม่ถึงมาให้เราได้ดูกันบ้างก็ได้

หนังไทย จะโกอินเตอร์ได้ในตอนไหนรอมากกว่า 30 ปีแล้ว

หนังไทย

เชื่อหรือไม่ว่า หนังไทย ตลอด 20-30 ปีที่ผ่านมาเกือบจะไม่มีการพัฒนาใดๆ เลยก็ว่าได้ นอกจากเปลี่ยนตัวละครเหรียญนางเอกและพระเอกไปตามยุคตามสมัยแต่บทบาทเรื่องราวต่างๆ เว็บรีวิวหนัง นั้นยังคงเป็นรูปแบบเดิม สิ่งที่ยังเหมือนเดิมในยุคก่อนเลยนั่นก็คือถ้าเป็นการต่อยตีกันก็จะเป็นตามร้านอาหารหรือไม่ก็จะเป็นตามจุดใหญ่ๆ ที่มีคนรู้จัก และถ้าจะเป็นเรื่องของการโรแมนติกสักนิดก็คงไม่พ้นในเรื่องราวของการบอกรักกันตามริมทะเลหรือไม่ก็ตามป่าเขา ซึ่งต่างชาติเขาได้พัฒนาเรื่องนี้ไปทั้งหมดแล้ว การต่อสู้หรือการต่อยตีกันแต่ละครั้งจะต้องเล่นของใหญ่มีการทำลายตึกหรือมีการทด และในเรื่องของการบอกรักหรือฉากโรแมนติกอาจจะมีการต่อเติมไปถึงต่างประเทศอยู่นอกโลกหรือแม้แต่กระทั่งอยู่ในอีก 1 มิติก็เกิดขึ้นได้อยู่เสมอ ความเป็นไทยยังคงรูปแบบเดิมไม่เปลี่ยนแปลงถือได้ว่าเป็นอนุรักษ์นิยม หรือเป็นเรื่องราวที่ล้าสมัยกันแน่ วงการ หนังไทย ไม่พัฒนาเพราะเรื่องราวของการเงินไม่เจริญเติบโต ถ้าเราดูให้ดีก็จะเห็นได้ว่าวงการหนังไทยนั้น มีผู้ที่พัฒนาหนังเพียงแค่ไม่กี่เจ้าและถ้าเป็นการพัฒนาหนังหรือเป็นการสร้างหลังที่ไม่ตรงใจกับเจ้าของนายทุน บอกได้เลยว่าเรื่องราวเหล่านี้ไม่สามารถเกิดขึ้นได้อย่างแน่นอน โดยเฉพาะการลงทุนหนังที่มีงบประมาณสูงเกินความจำเป็น การวาดเรื่องราวเหล่านี้แทบจะเป็นไปไม่ได้ ถ้าเราสังเกตให้ดีหนังในบ้านเรามีการฉลองมากที่สุดก็จะเป็นเรื่องราวของ มีคนเข้าไปดูหนังทะลุ 100 ล้านบาทมากที่สุดก็อาจจะเป็นแค่ 200 ล้านบาท ถ้าเปรียบเทียบกับประเทศใกล้เคียงเราแล้วอาจจะอยู่เพียงแค่อันดับ 5 หรืออันดับ 6 ของประเทศเขาก็ได้โดยเฉพาะประเทศที่มีการพัฒนาอย่างรวดเร็วอย่างเช่นประเทศเกาหลีหรือประเทศญี่ปุ่น เรื่องราวของการถ่ายทำหนังมีการใช้ special effect และมีเรื่องราวที่เหนือจินตนาการต่อเนื่องมาโดยตลอด แต่ถ้าเรานำเรื่องราวเหล่านี้ไปเปรียบเทียบกับใครอเมริกาหรือถ้าสั่งของยุโรปบอกได้เลยว่าเราไม่ติดหนังทำเงินของเขาอย่างแน่นอนจะกลายเป็นเพียงแค่หนังเกรดบีหรือเกรดซีเท่านั้น  ภาพยนตร์ไทยหรือหนังไทยติดเรื่องของนายทุนเป็นหลัก ภาพยนตร์ไทยหรือหนังไทยยังคงติดในเรื่องของนายทุนเป็นหลัก ตราบใดที่เรายังคงใช้นายทุนแบบเดิมไม่มีการต่อยอดกับต่างประเทศหรือมีการใช้เรื่องราวของต่างประเทศเข้ามาพัฒนาหนังไทยเราก็ยังคงเจอเรื่องแบบเดิมๆ ทุกอย่างเหมือนเดิมเปลี่ยนแค่ตัวแสดงให้มีชื่อเสียงขึ้นมาเท่านั้น ใครที่อยู่ในวัย 40 ก็คงจะรู้ดีว่าหนังไทยเมื่อ 20 ปีที่แล้วกับปัจจุบันไม่ได้มีความแตกต่างกันแม้แต่น้อย อย่าถามหาความพัฒนาถ้านายทุนยังคงเป็นเจ้าเดิม

รีวิวหนังฮีโร่ SHANG CHI หนังต่อสู้ที่ผสานโลกที่เต็มไปด้วยเวทมนตร์แบบเอเชียได้อย่างลงตัว

ซูเปอร์ฮีโร่

หลังจากที่ปล่อย TRAILER หนังออกมาก็ได้เรียกเสียงฮือฮาอย่างมากให้กับคอหนังแนว ซูเปอร์ฮีโร่ เพราะหลายคนก็ต่างคาดหวังกับการปรากฏตัวของซูเปอร์ฮีโร่ เว็บรีวิวหนัง เอเชียคนแรกในจักรวาล MCU ซึ่งโดยรวมก็สามารถทำออกมาได้ดีทีเดียว เสียงนักวิจารณ์ต่าง ๆ ถือว่าอยู่ในระดับที่ดีมาก และเป็นการแจ้งเกิดนักแสดงหลายคนในเรื่องเลยทีเดียว เปิดเรื่องราวของตำนาน ซูเปอร์ฮีโร่ TEN RINGS พร้อมการค้นพบหมู่บ้านที่เต็มไปด้วยมนต์วิเศษ เรื่องราวของหนังได้เปิดฉากมาที่ “เหวินหวู่” ขุนพลไร้พ่ายที่ครอบครอง TEN RINGS อาวุธที่มีอานุภาพสูงมาก อีกทั้งยังเป็นสิ่งที่ทำให้เขาไม่แก่ชราและมีอายุยืนยาวอีกด้วย เขาขยายอำนาจของตัวเองไปทั่ว จนได้ยินเรื่องราวของหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยอภินิหารอย่าง “ถาโหล” แต่กลายเป็นว่าสิ่งที่เขาได้มานั้นกลับเป็น “หลี่” หญิงสาวจากหมู่บ้านนั้นและได้ให้กำเนิดบุตรชายหนึ่งคนชื่อ ชาง-ชี และลูกสาวชื่อว่า เซี่ยหลิง พวกเขาเป็นครอบครัวที่อบอุ่น ส่วนเหวินหวู่ก็กลับตัวกลับใจหันหลังให้ทางเดินในอดีตของตน จนกระทั่งเกิดเหตุไม่คาดฝันเมื่อแม่ผู้เป็นที่รักและภรรยาที่เป็นดังโลกทั้งใบได้ถูกสังหารด้วยน้ำมือของศัตรูของเหวินหวู่ มันทำให้เขากลับมาเป็นคนเก่า และเหตุการณ์นั้นเองทำให้ชาง-ชี ตัดสินใจหนีไปที่ซานฟรานซิสโก และเปลี่ยนชื่อเป็น SHAWN เขาทำงานเป็นพนักงานรับรถคู่กับสาวห้าว ชื่อว่า เคที แต่แล้ววันหนึ่งก็มีลูกน้องของพ่อตัวเองพยายามจะทำให้เขาต้องกลับไปหาพ่อสุดเหี้ยมโหดอีกครั้ง เหวินหวู่ได้บอกกับลูก ๆ ว่าจะไปช่วยแม่ของพวกเขาเพราะเขาเชื่อว่าเธอยังไม่ตาย และเป้าหมายสุดท้ายก็คือถาโหลนั่นเอง ความรู้สึกส่วนตัวหลังจากที่ได้ดูหนังเรื่องนี้ หนังเรื่อง SHANG CHI เป็นหนังซูเปอร์ฮีโร่ที่ค่อนข้างแปลกใหม่สำหรับเรามาก มีการนำเสนอปมที่น่าสนใจ ยิ่งไปกว่านั้นคือการครีเอทคาแรกเตอร์ของตัวละครที่ต่างจากหนังจาก MCU เรื่องก่อน ๆ ค่อนข้างมาก จุดที่รู้สึกขัดใจคงจะเป็นการต่อสู้ในหนังที่ทำได้ไม่เข้มข้น และใช้การใส่คอเมดี้เข้ามาเพื่อเพิ่มความน่าดึงดูด จุดนี้ถือว่าเป็นวิธีที่ฉลาด แต่มักไม่ได้ผลกับคนที่ชอบหนังบู๊มัน ๆ อย่างแน่นอน

Eternals ฮีโร่พลังเทพเจ้า MCU

Eternals

บทความนี้เอาใจแฟน ๆ Marvel เมื่อ มาร์เวล สตูดิโอได้เปิดตัว Eternals ภาพยนตร์อันดับที่ 26 ของค่าย มาร์เวล ซินิมาติค ยูนิเวิร์ส หรือ MCU มีผู้กำกับอย่าง โชล เจ่า เว็บรีวิวหนัง ร่วมกับมือเขียนบทฝีมือดีจำนวนมาก อาทิ ไรอัน เฟอร์โป้ และแพทรทิค เบอร์ไลท์ พร้อมทีมนักแสดงอย่างคับคลั่ง ภาพยนตร์จากมาร์เวลภาคนี้นั้น เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ เทพเจ้าที่มีชีวิตเป็นอมตะกลุ่มหนึ่งถึงส่งมายังโลก เพื่อกำจัด เดเวียน(สัตว์ประหลาดต่างดาว)ให้หมดจากโลก กระทั่ง 500 ปีต่อมา อสูรกายตนนี้ปรากฎอีกครั้งหนึ่งในยุคปัจจุบัน เหล่าฮีโร่จำเป็นต้องรวมพลังกันอีกครั้ง โดยมีโลกเป็นเดิมพัน Eternals เริ่มต้นจักรวาลมาร์เวล เมื่อ 5,000 ปีก่อนคริสตกาล โลกยังเป็นเพียงดาวเคราะห์ที่อุดมไปด้วยออกซิเจน และมนุษย์ยุคหินเท่านั้น แต่สำหรับสิ่งมีชีวิตที่อยู่ต่างดาวอันทรงปัญญา มองว่าโลกคือ สถานที่ที่เหมาะสม พวกเขาจึงส่งนักรบที่มีชื่อว่าEternals มายังโลกถึง 10 คน โดยยานอวกาศ โดโม เพื่อกำจัดการรุกรานของ เดเวียน เหล่าเทพเจ้า 10 ตนที่มีชีวิตอมตะสามารถสังหาร สัตว์ต่างดาวตัวสุดท้ายในปี 1521 กระทั่งพวกเขาต่างแยกยย้ายไปใช้ชีวิตอยู่บนโลกในที่สุด กระทั่งปัจจุบันสัตว์ประหลาดที่พวกเขาเคยเชื่อว่า สูญพันธ์ไปเป็นที่เรียบร้อย กลับขึ้นมาอีกครั้ง แต่ในครั้งนี้มันแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม รวดเร็ว แม่นยำ รวมถึงความสามารถพิเศของมันที่ทำเอาเหล่าเทพเจ้าต้องกุมขมับได้เช่นกัน 5 เหตุผลที่ควรหาดู 1. Eternals ใช้นักแสดงหลักต่ำ ๆ 10 คน รวมถึงได้แองเจลิน่า โจลี่ย์ ร่วมแสดงและรับบทเป็น ธีน่าเทพีสงคราม 2.แฟน ๆ มาร์เวลจะได้รับรู้ถึงต้นกำเนิดของเรื่องราวทั้งหมด รวมถึงอินฟินิตี้ สโตน ขอMCUไม่ควรพลาด 3.เพลิดเพลินไปกับความสามารถที่ค่อนข้างหลากหลายของเหล่าฮีโร่ พร้อมแอ็คชั่นสุดมัน CG ระดับเทพตามสไตล์ Marvel Studio 4.หนังความยาว 156 นาทีแบบจุใจ อัดแน่นไปด้วยเรื่องราวต่าง ๆ ของฮีโร่แต่ละคนได้อย่างละเอียด และน่าสนใจ 5.Eternalsเป็นหนังฮีโร่ที่ไม่เน้นพลังมากจนเกินไป เพราะผู้กำกับ เจ่าต้องการสะท้อนให้เห็นว่า ฮีโร่ก็มีความอ่อนแอ ความรู้สึกเห็นอกเห็นใจ เปราะบางได้เช่นกัน เหตุที่เป็นเช่นนี้ได้เพราะ ทางสตูดิโอค่อนข้างให้อิสระในการทำงานของทีมผู้กำกับนั่นเอง

โคตรพยัคฆ์หยินหยาง หนังแฟนตาซีอารมณ์ดีสไตล์เฉินหลง

โคตรพยัคฆ์หยินหยาง

โคตรพยัคฆ์หยินหยาง หนังแนว แอคชั่น-แฟนตาซี ที่ออกฉายในปี 2019 ช่วงตรุษจีนปีนั้นพอดี กับความฮา, อัดแน่นด้วยแฟนตาซี และเรื่องราวหลากหลายรสชาติตามสไตล์ของ เว็บรีวิวหนัง เฉินหลง พระเอกหนังบู๊จากฮ่องกง ที่สร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน และครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน โคตรพยัคฆ์หยินหยาง เรื่องราวของเซียนที่ตามล่าปีศาจ เรื่องราวของ โคตรพัยคฆ์หยินหยาง เล่าถึงเรื่องราวของ พู่ซงหลิง (เฉินหลง) เซียนที่มีพู่พันวิเศษในการตามล่าปีศาจ ซึ่งเขานั้นตามล่าปีศาจเพื่อกลับสู่นรกมายาวนานหลายปี จนกระทั่งได้พบกับ เฟย (หลิน โป๋หง) เด็กหนุ่มที่ขอมาเป็นมือขวาในการช่วยจับปีศาจ แม้ว่า พู่ซงหลิงจะไม่เต็มใจแต่ก็ต้องยอม ทุกอย่างดูเหมือนจะง่ายแต่แล้วเมื่อพระเอกรู้ว่า ซีเซี่ย (เหรียน จิงเทียน) นักปราบปีศาจที่ร่วมมือกัน กลับมีความสัมพันธ์ในอดีตที่ลึกซึ้งกับ เสี่ยวเซี้ยน (จง ฉู่ชี่) ปีศาจสาวที่เป็นตัวการทั้งหมดในครั้งนี้ พวกเขาจะหาทางออกกันเช่นไร หรือสุดท้ายจะต้องปล่อยให้เหยื่อทั้งหมดตามไปตามยถากรรม  เรื่องราวสุดฮา ยำกันเละ ตามสไตล์เฉินหลง เนื้อเรื่องของ โคตรพัยคฆ์หยินหยาง นอกจากจะเน้นในด้านของ แอคชั่น-แฟนตาซี แล้วแต่ยังมีมุขตลกแฝงอยู่แทบทุกฉากตามสไตล์ที่เฉินหลงถนัด รวมถึงซีนที่ต้องประมือกัน วิชาศิลปะป้องกันตัวก็มีให้เห็นภายในหนังเรื่องนี้ หรือแม้กระทั่งการเสียดสีการทำงานของราชการที่กลายเป็นเอกลักษณ์ของหนังทุกเรื่องของเฉินหลง ก็ยังมีสอดแทรกเข้ามา พร้อมกับฉากดราม่าเรียกน้ำตาซึ้งก็มีให้ผู้ชมได้ติดตาม เรียกได้ว่าครบเครื่องเรื่องต้มยำนำแนวทุกอย่างมารวมกันได้อย่างลงตัว  นอกจากนี้ตัวหนัง โคตรพัยคฆ์หยินหยาง ยังเป็นการตอกย้ำว่าทำไมหนังทุกเรื่องที่เฉินหลงทำถึงมีคนดูตลอดทุกครั้ง ทำไมถึงมีคนติดตามและให้ความรักกับสุดยอดดารานักบู๊รายนี้มาตลอด สำหรับใครที่อยากจะดู โคตรพัยคฆ์หยินหยาง แบบเต็มเรื่องสามารถหาดูได้ใน Netflix ได้เลย รับรองฮาอย่างแน่นอน

Symphaty for Lady Vengeance เธอฆ่าแบบชาติหน้าไม่ต้องเกิด

Symphaty for Lady Vengeance

Symphaty for Lady Vengeance เรื่องราวของล้างแค้นจากหญิงสาวคนหนึ่งสู่ชายคนหนึ่งที่ทำลายชีวิตของเธอจนเกือบพังพินาศ หนังฉายออกมาครั้งแรกในปี 2005 โดยได้ตัง ลี ยอง-เอ นางเอกสาวจากซีรี่ส์ชื่อดังอย่าง แด จัง-กึม มารับบทเป็น ลี กึม-จา สาววัยรุ่นอายุ 19 ปี ที่ เว็บรีวิวหนัง โดนใส่ความว่าฆ่าคนตายจนต้องไปติดอยู่ในคุก จากกลายเป็นหนังดราม่าสะท้อนสังคมสุดสะเทือนใจ Symphaty for Lady Vengeanc จากสาวน้อยวัยใส สู่การเข้าคุก เรื่องราวของ Symphaty for Lady Vengeanceเริ่มต้นขึ้นที่ ลี กึม-จา เด็กสาวอายุ 19 ปี เธอตั้งท้องอย่างไม่ได้ตั้งใจ และขอไปพักอาศัยอยู่กับครูฝึกสอนภาษาอังกฤษจนกว่าลูกจะคลอด และพอเธอคลอดออกมา เธอกลับตกเป็นเครื่องมือของครู หลังจากที่เขาไปลักพาตัวเด็กชายคนหนึ่งมาเพื่อเรียกค่าไถ่ก่อนจะฆ่าทิ้งอย่างไร้ความปราณี และโยนความผิดทั้งหมดมาให้ กึม-จา สาวน้อยที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่อะไรเลย แต่ด้วยความที่ลูกสาวที่เพิ่งคลอดถูกจับเป็นตัวประกันให้เธอต้องยอมรับในสิ่งที่ไม่ได้ก่อขึ้นมา สุดท้าย กึม-จา ต้องยอมรับชะตากรรมและหันหน้าเข้าสู่คุกแบบไม่เต็มใจ  13 ปีแห่งความขมขื่น สู่การล้างแค้นสุดโหด จากนั้นเรื่องราวของ Symphaty for Lady Vengeanceจะเล่าถึงตอนที่ กึม-จา ติดคุก ว่าเธอได้ช่วยเหลือใครและสร้างวีรกรรมอะไรเอาไว้บ้าง จนกระทั่งผ่านไป 13 ปี เธอถูกปล่อยตัวออกมา และแผนการล้างแค้นก็เริ่มต้นขึ้น เธอได้ขอให้เพื่อนนักโทษด้วยกันช่วยเป็นเหยื่อล่อ MR.BAEK ตัวการทั้งหมดให้ติดกับเธอ สุดท้ายแผนการของเธอดำเนินไปอย่างราบรื่น ก่อนที่เธอจะติดต่อไปยังครอบครัวของเด็กทุกคนที่โดน MR.BAEK ฆ่าตาย ให้มาช่วยกันลงโทษในสิ่งที่ชายคนนี้ได้ทำอย่างสาสมและสะใจจนถึงที่สุด  ตัวหนัง Symphaty for Lady Vengeanceเน้นในเรื่องของความดราม่าเป็นหลัก มีการเล่าเรื่อง, ลำดับภาพที่ดี รวมถึงนักแสดงก็สื่ออารมณ์ออกมาได้อย่างสุดยอด UFABET โดยเฉพาะตัวของ ลี ยอง-เอ ที่สื่ออารมณ์แห่งความแค้นออกมาได้อย่างน่าประทับใจและน่ากลัวในเวลาเดียวกัน สำหรับใครที่อยากรับชมSymphaty for Lady Vengeance แบบตัวเต็มๆ สามารถหาดูได้ใน GOOGLE นะครับ มีพากย์ไทยเอาไว้ให้ดูเรียบร้อย

การดูหนังหรือ ซีรี่ย์ นั้นดีอย่างไรกับชีวิตของเรา

ซีรี่ย์

บางครั้งการดูหนังหรือ ซีรี่ย์ อาจจะมีใครหลายคนคิดว่าจะเป็นการเสียเวลาเปล่าหรือเปล่า ซึ่งบอกเลยว่าไม่ใช่เรื่องเสียเวลาแน่นอน เพราะหนังหรือซีรี่ย์เหล่านี้ เว็บรีวิวหนัง มักจะมีจุดประสงค์หลัก นั่นก็คือ การให้ความบันเทิงแก่ผู้ชม และก็สามารถแก้เบื่อให้กับคนที่ไม่รู้จะทำอะไรได้ แต่ความจริงแล้วการดูหนังหรือซีรี่ย์นั้นมีอะไรมากกว่าที่เราคิด ซึ่งสามารถตามไปดูกันได้เลย 4 สิ่งที่ทำให้การดูหนังและ ซีรี่ย์ ถือเป็นเรื่องดี การดูหนังและการดูซีรี่ย์ ทำให้ได้เรียนรู้ชีวิตของผู้คน ซึ่งจุดนี้ถือว่าเป็นอะไรที่สามารถเห็นชัดที่สุดได้จากในหนังหรือซีรี่ย์ เพราะเราไม่สามารถรู้จักทุกคนบนโลกได้ ไม่ว่าจะเป็นคนต่างชาติ หรือคนที่ดูแล้วคนละบุคลิกกับเรา หรือไม่ใช่คนที่อยุ่ในวงดคจร ซึ่งสิ่งนี้เราก็สามารถเรียนรู้และทำความเข้าใจกลุ่มคนเพื่อสร้างความหลากหลายให้ดียิ่งจึ้น การดูหนังและการดูซีรี่ย์ ช่วยทำให้คำถามในใจได้คลี่คลาย ในบางครั้งคนเราจะมีปัญหาชีวิตที่หาทางออกไม่ได้ หรือไม่รู้จะแก้ยังไงกับเรื่องนี้ หรือก็ไม่เข้าใจว่าทำไมตัวเองรู้สึกเช่นนั้น แต่การดุหนังบางที หากได้เรียนรู้ความคิดตัวละคร พฤติกรรมของตัวละคร บางทีก็เป็นการคลายข้อสงสัยให้กับตัวเองได้เหมือนกัน ซึ่งสิ่งนี้มีส่วนช่วยทำให้เติบโต การดูหนังและการดูซีรี่ย์ ทำให้เปิดประสบการณ์ใหม่ หรือเปิดโลก หนังและซีรี่ย์ต่างก็มีหลากหลายสไตล์ ที่ทำให้เราได้เข้าไปสัมผัสทั้งโลกในแฟนตาซี หรือโลกที่ในชีวิตที่เราไม่อาจจะได้พบเจอ การได้พบเจอเรื่องราวใหม่ ๆ ได้พบเจอโลกใหม่ ๆ จะมีส่วนช่วยเสริมสร้างจิตนาการให้กับผู้คนได้มากยิ่งขึ้น การดูหนังและการดูซีรี่ย์ ทำให้เราได้เรียนรู้ภาษา และวัฒนธรรม สิ่งนี้อาจเป็นสิ่งที่ใครหลายคนเห็นได้มากที่สุด เพราะไม่ว่าหนังหรือซีรี่ย์ก็มักจะนำวัฒนธรรมหรือภาษามาให้เราได้สัมผัส และเกิดค่านิยมใหม่ ๆ ซึ่งสิ่งนี้อาจเป็นแรงผลักดันในการเรียนภาษาได้

คาโฮโกะ คุณหนูโลกสวยที่เห็นความพัฒนาของตัวละครดีมาก

คาโฮโกะ

ใครที่ดูซีรี่ย์ญี่ปุ่นมาบ่อย ๆ จะเห็นได้ว่าคนญี่ปุ่นจะมีความละเอียดลออในเรื่องของการใส่ใจความรู้สึกต่าง ๆ ที่มีความละเมียดละไม แน่นอนว่าซีรี่ย์เรื่อง คาโฮโกะ เว็บรีวิวหนัง คุณหนูโลกสวย จัดว่าเป็นซีรี่ย์น้ำดี ที่จะพาเราไปเห็นการเติบโตของตัวละครที่ดีมาก ๆ และแน่นอนว่าตัวละครทุกตัวในเรื่องมีที่มาที่ไปหมด จึงทำให้เราอินได้แบบไม่ยากและต้องมีการเสียน้ำตาบ้างในบางตอน ซึ่งเรื่องนี้ก็จัดว่ามีทั้งหมด 10 ตอน สามารถหาดูได้ทาง Netflix เรื่องย่อ คาโฮโกะ คุณหนูโลกสวย ชีวิตที่อยู่ในกรอบ ตัวนางเอกของเรื่อง ก็คือ คาโฮโกะ เธอเป็นสาวที่ถูกเลี้ยงดูโดยพ่อแม่ที่เรียกได้ว่าเลี้ยงแบบไข่ในหิน ที่จะไม่ยอมให้ลูกเผชิญหน้ากับอันตรายใด ๆ และจะถูกแม่ที่เลี้ยงดูสั่งสอน จัดแจงทุกสิ่งทุกอย่างให้ แม้ต่อให้เธอเรียนจนจบมหาลัย แต่ทุกตารางเวลาชีวิตถูกแม่ควบคุม และแม่จัดแจงทุกสิ่งทุกอย่าง จนทำให้เธอดูเป็นเด็กซื่อ ๆ อ่อนต่อโลก และเชื่อฟังแม่มาตลอด ในขณะที่ตัวพ่อเองก็เป็นช้างเท้าหลังที่จะคอยตามทุกสิ่งทุกอย่างกับแม่ เพราะไม่อยากมีปัญหา แต่ในขณะเดียวกันก็อยากให้ลูกโตและไปเป็นผู้ใหญ่ที่สามารถดูแลตัวเองได้ แต่เมื่อวันหนึ่งที่คาโฮโกะ ได้ไปรู้จักกับพระเอก ฮาจิเมะ ที่เป็นหนุ่มสายศิลปะที่มีความฝันอยากเป็นนักวาดภาพ แน่นอนว่าชีวิตเขาลำบากกว่าคนอื่น เพราะเป็นเด็กกำพร้าและถูกแม่ทิ้งตอน 7 ขวบ จึงทำให้เขาต้องใช้ชีวิตด้วยตนเองมาตลอด และการที่คาโฮโกะได้มารู้จัก ฮาจิเมะ ก็เหมือนทำให้เธอได้เปิดโลก และได้เรียนรู้การเป็นผู้ใหญ่ในทีละขั้น ได้รู้จักกับความเสียใจ ได้เห็นเรื่องราวร้าย ๆ แต่ด้วยความที่จิตใจใสซื่อ และมีความพยายามของเธอ จึงผ่านสถานการณ์เหล่านั้นมาได้ ซึ่งนับว่าเป็นอีกซีรี่ย์หนึ่งที่สามารถสร้างความประทับใจให้กับคนดูเป็นอย่างมาก

ซีรี่ย์งานดี รักพิศวง ปมพิศวาสดูรวดเดียวจบ

รักพิศวง

หากใครกำลังตามหาซีรีย์ที่สามารถสะท้อนความเป็นญี่ปุ่นได้อย่างดี ขอแนะนำให้มาสัมผัสกับซีรี่ย์เรื่อง รักพิศวง ปมพิศวาสที่ว่าด้วยเรื่องราวของช่างทำขนมโบราณ เว็บรีวิวหนัง ที่มีร้านใหญ่ที่มีการสืบทอดกันมาหลายปี ซึ่งจุดเด่นของเรื่องนี้ก็คือนำขนมโบราณ อย่างวากาชิ ที่นำมาปั้นและร้อยเรียงเป็นเรื่องราว ที่สามารถสร้างความประทับใจสไตล์คนญี่ปุ่นได้ แต่นี้คือแค่โลกที่ครอบเนื้อเรื่องไว้ เพราะความสนุกของเรื่องมีอะไรมากกว่านั้น ซึ่งเรื่องนี้จะมีด้วยกันทั้งหมด 10 ตอน และสามารถหาดูได้ที่ Netflix เรื่องย่อ รักพิศวง ปมพิศวาส กับการทำขนมโบราณ เรื่องเริ่มต้นที่ นางเอก ที่มีชื่อว่านาโอะ ในตอนที่ยังเป็นเด็กได้มาอาศัยอยู่กับแม่ที่เป็นช่างทำขนม ของร้าน โคเก็ตสึอัน ที่จัดว่าเป็นร้านที่มีชื่อเสียงมาอย่างยาวนาน ซึ่งแม่ของนาโอะถือว่าเป็นช่างทำขนมฝีมือดีที่สร้างความประทับใจให้กับผู้มาชิมขนม และก็ได้สอนให้นาโอะได้ฝึกทำขนมเหล่านี้ไปด้วย และเธอก็มีพรสวรรค์เหมือนแม่ แต่ทว่าในบ้านแห่งนี้ก็มีนายน้อยที่ชื่อว่า สึบากิ ที่เป็นเพื่อนเล่นเพียงคนเดียวของนาโอะ แต่ทว่ามิตรภาพในวัยเด็ก ก็เป็นอันต้องจบลง เมื่อพ่อของสึบากิที่เป็นเจ้าของบ้านเกิดเสียชีวิตจากการถูกฆาตกรรม แม่นาโอะถูกชี้ตัวว่าเป็นฆาตกรโดยสึบากิ ทำให้แม่ของเธอต้องติดคุก และตายจากไป ในขณะที่นาโอะชีวิตของเธอก็ไม่เคยเหมือนเดิม แต่มีสิ่งหนึ่งที่ยังเหมือนเดิม นั่นก็คือ การทำขนมหวาน เพราะเป็นสิ่งที่เธอชื่นชอบ และพยายามที่จะทำให้ทุกคนได้ประทับใจกับขนมหวานเหล่านั้น แต่แล้วในที่สุด เมื่อทั้งสองได้เติบโต และได้วนเวียนกันมาพบกันอีกครั้ง และเกิดการแต่งงานกันของทั้งสองที่ดูเหมือนว่าจะเป็นไปไม่ได้ แต่การที่นาโอะทำเช่นนี้ก็เพื่อที่จะตามหาเรื่องราวว่าสรุปแล้วแม่ของเธอเป็นฆาตกรจริงหรือไม่นั่นเอง

รีวิว หนังอินเดีย 3 IDIOTS เสียดสีวงการศึกษาได้อย่างเจ็บแสบ

หนังอินเดีย

หนังอินเดีย จากการศึกษาเป็นสิ่งสำคัญที่พวกเราหลายคนก็มีมุมมองเกี่ยวกับสิ่งนี้ต่างกันออกไป บางคนก็เห็นความสำคัญมากที่สุดในชีวิต ยอมแลกอะไรหลายๆ เว็บรีวิวหนัง อย่างให้กับมัน ยอมเสียหลายอย่างที่รักเพื่อการศึกษา บางคนกลับมองว่าหลายอย่างที่พวกเขารักมันสำคัญกว่าเป็นไหน ๆ แต่ไม่ว่าความเห็นต่างจะมากแค่ไหน ก็ไม่อาจจะกลายเป็นเรื่องที่ยอมรับได้ในสังคมที่ตีกรอบความคิดด้วยค่านิยมแบบเดิม ๆ ว่าต้องแข่งขันกันเรียนเพื่อเป็นที่ 1 ในด้านการเรียนแล้วจะประสบความสำเร็จ ดังเช่นประเทศอินเดียที่มักวางกรอบให้เด็ก ๆ ตั้งใจเรียนและเป็นวิศวกรที่ทำงานกับบริษัทต่างชาติ และนั่นก็ทำให้เด็กหลายคนต้องหันหลังให้กับความฝันของพวกเขาไปโดยปริยาย หนังอินเดีย เบาสมองที่แฝงแง่คิดการใช้ชีวิตแบบเต็มๆ  เรื่องราวเปิดฉากมาที่มหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงด้านวิศวกรรมแห่งหนึ่งของอินเดีย หนังได้เล่าวีรกรรมสุดแสบของนักศึกษา 3 คนที่เพื่อนรักกัน RACHO, FARHAN , RAJU โดยแก๊งนี้จะมีหัวโจกคือ RACHO ที่เขามักจะชอบทำตัวต่างจากคนอื่น ด้วยชุดความคิดที่ไม่เหมือนใครนี้เองที่ทำให้ตกเป็นเป้าสาตาของอธิการบดี หรือที่นักศึกษาเรียกว่าไวรัส อาจารย์ไวรัสเป็นผู้ใหญ่ที่มีความคิดแบบคนสมัยเก่าที่เห็นการแข่งขันเป็นเรื่องจำเป็นและมักจะให้ค่ากับนักศึกษาที่มีผลการเรียนดีกว่าคนอื่นเสมอ จนเขาได้กดดันให้นักศึกษาคนหนึ่งที่กำลังเรียนจบปี 4 เกิดความเครียดจนได้ปลิดชีวิตของตัวเอง นั่นทำให้ RACHO ต้องการพิสูจน์ให้เขาเห็นว่าการศึกษาที่ดีควรจะเป็นอย่างไร สิ่งที่ทำให้ตกหลุมรัก หนังอินเดีย เรื่องนี้ พร้อมเหตุผลว่าทำไมทุกคนถึงไม่ควรพลาด ถ้าจะให้พูดตามตรงหนังอินเดียเป็นอีกหนึ่งสัญชาติที่ทำหนังออกมาได้ค่อนข้างมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมากทีเดียว ทั้งการนำเสนอและการใช้บทเพลงภายในเรื่อง หนังเรื่องนี้ก็เป็นอย่างนั้นเลยที่เน้นไปที่การเต้นและร้องเพลง แต่เส้นเรื่องหลักยังทำออกมาได้เข้มข้นและมีเสน่ห์มาก ส่วนตัวชอบหัวข้อเกี่ยวกับการศึกษาที่เขาเสียดสีออกมาได้เจ็บแสบมาก คนไทยดูแล้วก็แอบคิดถึงการศึกษาของตัวเองเบา ๆ เพราะมันคล้ายกันอยู่นะว่าไม่ได้ สิ่งที่ทำให้ชอบหนังเรื่องนี้มากคือพล็อตและข้อคิดที่หนังพยายามสอนเราให้เห็นถึงการเลือกใช้ชีวิตที่ตั้งต้นมาจากแรงศรัทธาที่ต่างกัน อย่างพระเอกเขาเชื่อในการเรียนให้สนุก UFABET เรียนในสิ่งที่ชอบแล้วจะประสบความสำเร็จ แต่เพื่อนอีกคนคิดว่าเรียนในสิ่งที่คนอื่นบอกว่าดีแล้วใส่ให้สุดน่าจะเป็นสิ่งที่ประสบความสำเร็จมากกว่า ซึ่งในตอนจบก็มีผลของความเชื่อเหล่านั้นให้เห็นอย่างชัดเจน