รีวิว Love and Monsters กับการต่อสู้เพื่อเอาตัวรอดในวันสิ้นโลก

ว่าด้วยเรื่องของหนังที่มีเรื่องราวเกี่ยวกับวันสิ้นโลกนั้นมีการผลิตออกมาเป็นจำนวนมาก ซึ่งในวันนี้แอดจะก็พาทุกคนมาดูกันอีกเรื่องใน รีวิว Love and Monsters ที่เดิมทีแล้วหนังเรื่องนี้มีชื่อเรื่องว่า “Monster Problems” มาก่อน อีกทั้งยังมีแผนว่าจะออกฉายในโรงภาพยนตร์ตั้งแต่เมื่อวันที่ 06 มีนาคม 2020 แต่เนื่องจากติดสถานการณ์โควิด-19 จึงต้องขอขยับกำหนดฉายออกไปเรื่อยๆ จนในที่สุดทางค่ายหนังก็ตัดสินใจนำมาออกฉายในรูปแบบสตีมมิ่งให้เราได้รับชมกันในวันที่ 16 ตุลาคม ที่ผ่านมานี้เอง

รีวิว Love and Monsters

ชื่อเรื่อง : “Love and Monsters”

แนว : พจญภัย คอมเมดี้

นักแสดง : Dylan O’Brien, Michael Rooker, Ariana Greenblatt, Jessica Henwick

บทภาพยนตร์ : Brian Duffield, Matthew Robinson

ผู้กำกับ : Michael Matthews

ค่าย : Paramount Pictures

วันฉาย : 16 ตุลาคม 2020

เวลา : 01 ชั่วโมง 49 นาที

IMDb : 7.8 (จากทั้งหมด 2,424)

รีวิว Love and Monsters

เรื่องย่อ

เรื่องราวของโลกที่มีอุกาบาตลึกลับตกลงมาบนโลกมนุษย์ โดยอุกาบาตที่ตกลงมานี้กลับนำพาเชื้อโรคร้ายที่ทำให้สัตว์และแมลงต่างๆ สามารถกลายร่างเป็นปีศาจตัวใหญ่มหึมาได้ ซึ่งมันส่งผลให้มนุษย์ส่วนใหญ่โดนฆ่าตายไปมากกว่าครึ่ง และมนุษย์ส่วนที่เหลือจำต้องหลบภัยอยู่ภายใต้บังเกอร์ใต้ดินเพื่อมีชีวิตรอดปลอดภัย แต่เมื่อ “โจล” (รับบทโดย Dylan O’Brien) ชายหนุ่มวัยรุ่นผู้ที่รอดชีวิตอยู่ภายใต้บังเกอร์นั้นสามารถติดต่อ “เอมมี่” (รับบทโดย Jessica Henwick) แฟนสาวที่ผลัดหลงกันตอนเกิดเหตุได้ ด้วยความรักและความคิดถึง โจลจึงคิดว่าจะไปหาเอมมี่ด้วยตัวคนเดียวให้ได้ ถึงแม้เพื่อนๆภายใต้บังเกอร์เดียวกันจะห้ามเขามากแค่ไหนก็ตาม เขาก็ยังเลือกจะออกไปอยู่ดี

รีวิว Love and Monsters

รีวิว Love and Monsters

สำหรับใครที่กำลังคิดถึงผลงานของ Dylan O’Brien ที่ได้ห่างหายไปจากวงการภาพยนตร์ทันทีหลังจากที่จบหนังภาคต่อสุดฮิตอย่าง “The Maze Runner” นั้น วันนี้เขากลับมาแล้วกับหนังพจญภัยเรื่องใหม่นี้ ซึ่งแอดต้องบอกเลยว่าหนังเรื่องนี้นั้นเป็นหนังที่เราสามารถดูกันได้ทั้งครอบครัวเลย ไม่ว่าจะชาย หญิง เด็ก คนโต ก็สามารถดูได้เลย เพราะว่าหนังเรื่องนี้ไม่ได้มีฉากที่ดุเลือดเลือดพล่านจนน่ากลัวมากนัก โดยหนังเรื่องนี้จะเน้นไปที่เรื่องของความตื่นเต้นที่เราต้องคอยลุ้นตามตัวละครหลักอย่างเดียวเท่านั้นจริงๆ ซึ่งแอดต้องบอกเลยว่าหนังมันสนุกมากจริงๆ มีการดำเนินเรื่องได้อย่างรวดเร็ว ไม่เสียเวลาเลยสักนิด อีกทั้งหนังยังใส่ความตื่นเต้นเข้ามา เพื่อให้ผู้ชมต้องคอยลุ้นตามเกือบตลอดทั้งเรื่องเลยทีเดียว

ตัวอย่าง

หากคุณไม่อยากพลาดทุกข้อมูลเกี่ยวกับการรีวิวหนัง อย่าลืมติดตามหนังต่างประเทศเรื่องอื่นๆ เช่น รีวิว เฟคซูสู้เว้ย! (Secret Zoo) หนังที่ผสมผสานสาระและความฮาได้อย่างแนบเนียน ได้อีกที่ filmograd.net