7 ประจัญบาน หนังไทยฉายใหม่บน Netflix ย้อนกลับไปเมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว

7 ประจัญบาน

ย้อนกลับไปเมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว เฉลิม วงศ์พิมพ์ ได้กำกับหนังออกมาเรื่องหนึ่งและสร้างกระแสตอบรับได้เป็นอย่างดี กับการเอานักแสดงชื่อดัง 7 คนมารวมกันเป็นกลุ่มทหารรับจ้างในภารกิจสุดฮาและดราม่าไปพร้อมๆ กัน กับเรื่อง 7 ประจัญบาน และจากกระแสตอบรับนั่นเองเลยทำให้มีหนังภาคที่ 2 ตามออกมาและได้รับเสียงตอบรับอย่างดีเยี่ยมไม่แพ้ภาคที่หนึ่งจนกลายเป็นหนังในตำนานของประเทศไทยไปเรื่องและ Netflix ก็ไม่พลาดที่จะหยิบเอาตำนานบทนี้กลับมาฉายอีกครั้งให้แฟนๆ ได้หายคิดถึงกัน 7 ประจัญบาน จากบทประพันธ์ชื่อดังของ ส.อาสนจินดา                 เรื่องราวของ7 ประจัญบานในภาคแรกนั้นจะกล่าวถึงกองทหารอาสาสมัครทั้ง 7 คน ประกอบไปด้วย ,จ่าดับ จำเปาะ, ดั่ม มหินธรา, จุก เบี้ยวสกุล, อัคคี เมฆยันต์, กล้า ตะลุมพุก, หมัด เชิงมวย และ ตังกวย แซ่ลี้ ทั้งหมดอยู่ภายใต้การคุมของ ผู้กององอาจ หลังจากเสร็จภารกิจในสงครามเวียดนามทั้งหมดได้แยกย้ายกันไปตามทาง แต่ตอนนั้นอเมริกาได้ส่งทหารเข้ามาใน ประเทศไทย เลยทำให้มีกองกำลังต่อต้าน ทำให้ทั้งหมดต้องกลับมารวมตัวอีกครั้ง เพื่อสืบหาความจริงและพบว่า อเมริกา ได้ซ่อนอาวุธชีวภาพเอาไว้นั่นคือสารเคมี “ฝนเหลือง” ที่เคยใช้ถล่มป่าในเวียดนามมาก่อนหน้านี้ ทำให้พวกเขาต้องจัดการชิงเอาสารเคมีพวกนี้กลับคืนมาและส่งให้ผู้ใหญ่ตรวจสอบพร้อมกับช่วยชาวบ้านไปด้วย เว็บรีวิวหนัง ภาคต่อสุดฮาไม่แพ้ภาคแรก                 หลังจากภาคแรกได้รับกระแสตอบรับอย่างดี ทำให้7 ประจัญบานภาค 2 ได้ถูกปล่อยออกมาทันทีหลังจากภาคแรก 3 ปี (ภาคแรก ปี 2545 ภาคสอง ปี 2548) และภาคนี้ได้เปลี่ยนตัวละครจาก หมัด เชิงมวย มาเป็น เหมาะ เชิงมวย พี่ชายของหมัดแทน โดยเหตุการณ์ภาคนี้จะย้อนไปสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ผู้กององอาจสั่งให้ จ่าดับ และพวกไปเจรจากับพวกญี่ปุ่นที่นำโดย ผู้พันทาเคดะ ที่ยกพลขึ้นมาทางตอนใต้ของไทย แต่ความเลินเล่อของ จ่าดับ ทำให้เขาไปถีบผู้พันทาเคดะ ตกบันไดตาย ทำให้รัฐบาลญี่ปุ่นไม่พอใจเป็นอย่างมาก และสั่งให้ทางการไทยส่งตัวทั้ง 7 คน มาให้กับรัฐบาลญี่ปุ่น ทำให้ทั้ง 7 ต้องหลบหนีไปอยู่กับพ่อของ ตังกวย จากนั้นก็หนีไปกาญจนบุรี จนได้เห็นว่าทหารญี่ปุ่นทำมิดีมิร้ายกับเชลยแถมยังเอาหญิงไทยไปบำเรอความสุข ทั้ง 7 คน เลยตัดสินใจอาละวาดเพื่อขับไล่ทหารญี่ปุ่นออกไปจากแผ่นดินไทย                 สำหรับเนื้อเรื่องทั้งสองภาคของ7 ประจัญบานนั้น ส.อาสนจินดา ไม่ได้เน้นอะไรมากนอกจากเรื่องของการบู๊ล้างผลาญและมีมุขตลกเข้ามาสอดแทรกเพื่อหนังมีจุดขาย แถมด้วยฉากดราม่าเล็กในเรื่องของการรักแผ่นดินบ้านเกิด ซึ่งทั้งหมดผสมผสานกันได้เป็นอย่างดี สำหรับใครที่อยากจะดูสามารถรับชมได้ที่ Netflix และ aesexy premier ได้เลย

“รักมั้ยนะเลขาคิม” หนังรักสุดโรแมนติกที่จะมาทำให้เราได้ชุ่มชื่นหัวใจ 

รักมั้ยนะเลขาคิม

โดยเรื่องนี้นั้นก็ถือว่าเป็นหนังรักโมแมนติกคอมเมดี้ ที่จะทำให้เราได้สนุกและชุ่มชื่นหัวใจกัน ไปกับ “ รักมั้ยนะเลขาคิม ” ซึ่งเรื่องนี้เลขาสาวสวยมากความสามารถที่เพียบพร้อมไปทุกอย่าง กำลังจะลาออกจากงานเพื่อไปทำให้สิ่งที่ตนเองรัก มันเลยทำให้เจ้านายสุดหล่อที่คิดว่าตัวเองเพอร์เฟค เว็บรีวีวหนัง แถมความหล่อก็ไม่เป็นรองใคร กับทำให้เขารู้สึกว่ากำลังจะขาดอะไรไปจากชีวิต ซึ่งก่อนหน้านี้ตัวเขาเองนั้นก็ไม่เคยได้สนใจนางเองสักเท่าไร เพราะคิดว่าเลขาสาวยคนนี้จะทำหน้าที่เลขาของเขาตลอดไป ส่วนในด้านของนางเอกเองก็รู้สึกใจหายเหมือนกันที่จะต้องบอกลาเจ้านายอันเป็นที่รัก นั้นมันก็เลยทำให้พระเอกของเรารู้ว่าเขารักนางเอกมากแค่ไหน และไม่อยากจะให้นางเอกหลุดมือไปจากเขา จึงได้ทำทุกวิถีทางเพื่อรั้งนางเอกเอาไว้ มันทำให้มันเกิดเรื่องราวความรักอันกุ๊กกิ๊กสุดฮานี้ออกมา   ฟินไปกับความรักของเจ้านายตัวป่วนกับเลขาสาวสุดได้ที่“ รักมั้ยนะเลขาคิม ” แล้วเรื่องนี้ก็ถือว่าเป็นซี่รีย์เกาหลีแนวความรักคอมเมดี้ ที่มีทั้งความสนุก ความตลก และ ความฮา ที่จะทำให้ผู้ชมอย่างเรา ๆ หัวเราะออกมาได้เกือบจะทุกซีน อีกทั้งความสวยน่ารักของนางเอกอย่าง พัก มิน-ย็อง ก็ทำให้เรานั้นหลงไปกับความสวย ความสดใสของเธอแล้วจนโงหัวไม่ขึ้น มันเลยยิ่งทำให้เรื่องนี้ลงตัวแบบสุด ๆ ไปเลย  อีกทั้ง “รักมั้ยนะเลขาคิม” ก็ถือว่าเป็นเรื่องเบาสมอและคลายความเครียดได้ เพราะเนื้อเรื่องที่เขาทำออกมานั้น ส่วนใหญ่ก็จะเน้นไปในเรื่องของความรัก และ ความเอ็นดูของคู่พระนางที่ไม่รู้หัวใจตนเอง แต่เมื่อทั้งสองคนที่กำลังจะโบกมือลากัน มันยิ่งกับทำให้หัวใจของพวกเขานั้น กับเรียกร้องให้อีกฝ่ายนั้นเข้าหาและทำทุกทางเพื่อที่จะรักษาคนรักเอาไว้ และมันเป็นความรักที่เกิดจากเจ้าสุดเหย่อหยิ่ง และ เลขาสาวสุดมั่น มันเลยเกิดเป็นความรักที่ลงตัวนั่นเอง 

เชอร์ล็อกโฮมส์ หนังแนวสืบสวนสอบสวนที่จะให้เราได้ไปค้นหาความจริง

เชอร์ล็อกโฮมส์

เชอร์ล็อกโฮมส์ ถ้าใครที่ชื่นชอบหนังแนวสืบสวน หรือ การใช้ทฤษฎีในการไขคดีปริศนา หนังเรื่องนี้ก็เหมาะเอามาก ๆ เพราะเนื้อเรื่องจะเป็นเกี่ยวกับการค้นหาความจริงที่เกิดขึ้น เว็บรีวีวหนัง ไม่ว่าจะเป็นคดีฆาตกรรม หรือ การค้นหาคนร้ายในคดีร้ายแรง ก็ต้องใช้ความสามารถและไหวพริบต่าง ๆ เพื่อเฟ้นหาความจริงที่เกิดขึ้น และ จับพวกคนร้ายมาลงโทษให้ได้ อีกทั้งคดีไหนที่ไม่มีความคืบหน้า และ ดูมีความยาก ก็จะให้พระเอกที่เป็นนักสืบมือทองของเรื่อง รีบให้เข้าไปแก้ไขคดีพวกนี้อย่างเร่งด่วน และในบางคดีนั้นก็ต้องใช้หลักการวิทยาศาสตร์เข้ามาช่วย จึงทำให้ความสนุกและความตื่นเต้นนั้นมีอยู่ในทุกคดี และทำให้พวกเราได้ร่วมลุ้นไปกับการหาความจริงของคดีต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ที่สามารถหาได้จากหนัง เชอร์ล็อกโฮมส์ นี้เท่านั้น สนุกจนอยากให้มีภาคต่อกับหนังเรื่อง เชอร์ล็อกโฮมส์ เนื่องจากหนังเรื่องนี้ถ้าพูดถึงความสนุกแล้วก็ถือว่าจัดอยู่ในระดับ 10 เต็ม 10 เลย อีกทั้งเนื้อหานั้นของเราเรื่องก็เข้มข้นเอาการ จนทำให้เราแฟน ๆ ก็อยากจะมีภาคต่อของเรื่องนี้ออกมา เพราะตอนตัดจบนั้นมันก็ดูยังมีความค้างคา ที่เหมือนจะมีภาค 2 ให้แฟนคลับได้ตามไปดูแต่กัน แต่ถึงอย่างไรก็ยังไรวี่แววของภาคต่อนี้อยู่ดี และหากใครที่ยังดูยังไม่อิ่มก็สามารถตามไปดู เชอร์ล็อกโฮมส์ ในแนวของซีรีย์ได้ เหมือนกัน  โดยนักแสดงในเรื่องนี้นั้นอย่าง โรเบิตร์ ดาวนีย์จูเนียร์ ที่ประกับคู่กับ จู๊ด ลอว์  ที่แสดงเป็นนักสืบและหมอหนุ่มสุดหล่อมาร่วมมือกันในการไขคดีสุดแปลก ๆ  ที่ต้องใช้ทักษะและพวกไหวพริบต่าง ๆ มาหาต้นตอความจริงของเรื่องคดีที่มันเกิดขึ้น และเหล่าบรรดาคนร้ายเองก็มีฝีมือเก่งกาจจนทำให้แผนการบางอย่างที่วางไว้เกือบจะต้องล่มกลางคัน แถมยังมีการวางแผนสลับตัวที่เราคาดเดาไม่ได้อีกด้วย  

ใครบ้างที่ควรหลีกเลี่ยงการรับชม หนังระทึกขวัญ ไว้ก่อน

หนังระทึกขวัญ

แม้ว่า หนังระทึกขวัญ จะมีข้อดีหลายอย่าง ตั้งแต่การกระตุ้นจินตนาการของผู้รับชม ช่วยผ่อนคลายความเครียดให้ได้หลังจากรับชมจบเรื่องแล้ว กระทั่งทำให้เกิดบทสนทนาแปลกใหม่ในกลุ่มเพื่อนที่ชื่นชอบหนังแนวเดียกวัน แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะรับชมหนังสไตล์นี้ได้ เว็บรีวีวหนัง ยังมีคนบางกลุ่มที่ควรจะหลีกเลี่ยงเลย เพื่อไม่ให้เกิดผลเสียกับตัวเองทั้งแบบฉันพลันและระยะยาว แต่จะมีใครบ้างนั้น เดี๋ยวเราไปดูพร้อมกันเลย คนที่วิตกจริตมากกว่าปกติไม่ควรดู หนังระทึกขวัญ จะบอกว่าความวิตกจริตนี้ไม่จำเป็นต้องเจ็บป่วยทางจิต หรือมีอาการที่รุนแรงมากนัก แค่เป็นคนคิดมากและย้ำคิดเป็นเวลานานก็ไม่ควรดูหนังระทึกขวัญแล้ว เพราะเนื้อเรื่องของหนังแนวนี้จะเล่นกับความรู้สึก และจี้ปมปัญหาที่คนส่วนใหญ่จะสัมผัสได้ง่าย คนที่วิตกกังวลมากเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว อาจรู้สึกเครียดมากขึ้น ทั้งยังมีโอกาสสูงที่จะเชื่อมโยงกับชีวิตจริงด้วย คนที่เป็นโรคซึมเศร้าควรเลือกประเภทหนังระทึกขวัญ อันที่จริงก็ขึ้นกับระดับความซึมเศร้าของแต่ละคนด้วย ยิ่งมีอาการหนักมากก็ยิ่งต้องหลีกเลี่ยงหนังระทึกขวัญ แต่ถ้าน้อยกว่านั้นก็สามารถเลือกบางประเภทของหนังมาดูได้ สิ่งที่ต้องระวังมีเพียงแค่ปมในหนัง ไม่ควรจะเป็นเรื่องที่อาจทำให้เรารู้สึกสะเทือนใจ เช่น ถ้าเราเป็นคนที่มีความสัมพันธ์ในครอบครัวไม่ดีอยู่แล้ว ก็ต้องงดหนังระทึกที่เกี่ยวกับครอบครัว เป็นต้น คนที่มีอารมณ์รุนแรงทุกชนิดต้องงดดูหนังระทึกขวัญ เรื่องนี้อาจฟังดูเหลือเชื่อไปสักหน่อยในความคิดใครหลายๆ คน แต่มันมีความเป็นไปได้ที่เนื้อหาในหนังระทึกขวัญจะเปลี่ยนไปเป็นข้อมูลที่เจ้าตัวเก็บไว้ในสมอง เมื่อวันที่เกิดมีปัญหาจนอารมณ์ร้อนและขาดสติ ก็อาจใช้วิธีการแบบในหนังที่พอทำได้มาลองใช้ อย่างที่เราได้เห็นบางคนมีพฤติกรรมรุนแรงกับคนใกล้ตัว กับสิ่งของที่อยู่ใกล้มือ หรือกระทั่งการทำร้ายตัวเองในรูปแบบต่างๆ ยิ่งกว่านั้นถ้าคนอารมณ์ร้อนเป็นเด็กก็ยิ่งอันตราย

The Terminal เมื่อสนามบินเป็นมากกว่าสนามบิน

The Terminal

ย้อนกลับไปในปี 2004 กับภาพยนตร์จากฝั่งของฮอลลีวู้ด ที่มีเรื่องราวเล่าถึงชายคนหนึ่งที่เดินมาจากทาง ยุโรปตะวันออก เพื่อมาที่ นิว ยอร์ค แต่ด้วยเหตุการณ์บางอย่างที่เกิดขึ้นภายในประเทศของเขา ทำให้เขาไม่สามารถเดินทางกลับประเทศบ้านเกิดได้ มิหนำซ้ำยังไม่สามารถเข้าแผ่นดินอเมริกา เว็บรีวีวหนัง ได้เช่นเดียวกัน เขาต้องใช้สนามบินในการใช้ชีวิตประจำวันและเอาตัวรอด จนได้เจอกับมิตรภาพมากมาย ภาพยนตร์เรื่องนั้นมีชื่อว่า “The Terminal”  The Terminal กลับไม่ได้ ไปต่อก็ไม่ถึง เรื่องราวของ The Terminal เล่าถึงชายที่ชื่อว่า วิคเตอร์ นาวอรสกี้ (ทอม แฮงค์ส) เขาเดินทางมาจากคราโคเซีย ยุโรปตะวันออกเพื่อมาที่ นิว ยอร์ค แต่เมื่อมาถึงสนามบิน เขากลับออกไปไหนไม่ได้เนื่องจากสถานการณ์บางอย่างในประเทศ ที่ทำให้ตอนนี้ประเทศของเขากำลังจะหายไป นาวอรสกี้ กลายเป็นคนไร้สัญชาติและเดินทางเข้าอเมริกา ไม่ได้ เขาเลยจำเป็นต้องใช้สนามบินในการหลับนอน และเอาตัวรอดในแต่ละวัน พร้อมกับต้องรับมือกับเจ้าหน้าที่สนามบินที่อยากจะให้เขารีบออกไปจากที่นี่ แต่นั่นทำให้เขาได้พบกับมิตรภาพมากมาย ที่ยากจะลืมเลือนได้ลง  ฐานข้อมูลจากเรื่องจริง กับการแสดงที่สมบทบาท The Terminal มีข้อมูลมาจากเรื่องจริงของ เมห์ราน คาริมี่ นาซเซอรี่ (Mehran Karimi Nasseri) ชายชาวอิหร่านที่ลี้ภัยจากประเทศบ้านเกิดแต่กลับต้องมาติดอยู่ที่สนามบิน “ชาร์ลส์ เดอ โกลล์” กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เนื่องจากหนังสือขอลี้ภัยของเขาหายไป ซึ่ง เมห์ราน ได้ใช้ Terminal ที่ 1 ของสนามบินในการใช้ชีวิตระหว่างปี 1988 – 2006 ซึ่งระหว่างนั้นเขาได้เขียนหนังสือเรื่อง “The Terminal Man” ขึ้นมาซึ่งกลายมาเป็นพล็อตของภาพยนตร์เรื่องนี้ ในแง่ของการแสดงนั้นต้องชม ทอม แฮงค์ส ที่เล่นออกมาได้ดี สื่อถึงอารมณ์ความรู้สึกของคนที่ไร้บ้าน และไม่รู้ภาษา ไม่รู้อะไรเลยของประเทศที่ตัวเองต้องมาอยู่ในปัจจุบัน แม้ว่าหนังจะออกแนวดราม่า แต่ก็มีจุดขบขัน มีจุดที่ทำให้คนดูได้ยิ้มไปด้วยอย่างอบอุ่น ได้เห็นถึงน้ำใจของมนุษย์ที่มีด้วย สำหรับใครที่อยากรับชม The Terminal สามารถรับชมได้ที่ Netflix ได้เลย 

แนะนำหนังโดยสุดยอด ฝีมือ ผู้กำกับ พ่อมดฮอลลีวูด สตีเว่น สปีลเบิร์ก

สตีเว่น

สตีเว่น สปีลเบิร์ก เขาเป็นสุดยอดผู้กำกับเจ้าของฉายาพ่อมดแห่งวงการฮอลลีวู้ด หนังแต่ละเรื่องของเขานั้นมีเปี่ยมไปด้วยคุณภาพและไร้ที่ติ ประสบความสำเร็จในการคว้ามาได้ถึง 3 รางวัลออสการ์ในสาขาผู้กำกับยอดเยี่ยม เรียกได้ว่าเขานั้นการันตีได้กับหนังแต่ละเรื่อง เว็บรีวีวหนัง ที่ผ่านมือเขาในการกำกับล้วนแล้วแต่มีคุณภาพ และรับประกันได้เลยว่าผู้ชมไม่มีผิดหวังอย่างแน่นอน ซึ่งหนังแต่ละเรื่องของเขานั้นเต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ และความน่าสนใจ ซึ่งวันนี้เราก็จะมาแนะนำหนังที่สุดยอดที่สุดโดยฝีมือผู้กำกับ สตีเว่น สปีลเบิร์ก แนะนำหนัง 3 เรื่องที่ต้องไม่พลาด โดยสุดยอด ฝีมือ ผู้กำกับ พ่อมดฮอลลีวูด สตีเว่น สปีลเบิร์ก  Schindler’s List หนังเกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่ 2 ถูกออกฉายเมื่อปี 1993 เรื่องราวที่เต็มไปด้วยความจริงที่ตีแผ่เหตุการณ์เมื่อยุคสมัยโลกของเรานั้นมีสงครามโลกเกิดขึ้น เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ประสบความสำเร็จในการคว้ามาได้ถึง 7 รางวัลออสการ์และก็ทำให้ สตีเวน สปีลเบิร์ก คว้ารางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยมมาครอง ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ตราตรึงใจผู้ชมตลอดกาลเลยทีเดียว  Jurassic Park อีกหนังเรื่องหนึ่งที่ออกฉายในปี 1993 เช่นเดียวกัน สำหรับเรื่องนี้ก็ต้องบอกว่ามันเปลี่ยนโลกของหนังไปตลอดกาล กับฉายาพ่อมดแห่งวงการฮอลลีวู้ดมันพิสูจน์ได้ด้วยหนังเรื่องนี้ เขาทำสิ่งที่ไม่มีผู้กำกับคนไหนทำได้ กับการที่นำเอาไดโนเสาร์ในยุคล้านปีก่อน กลับมานำเสนอในหนังที่ทำออกมาได้สมจริงมากซึ่งในช่วง ปี 1993 เทคโนโลยียังไม่ทันสมัยเหมือนในตอนนี้แต่เขาสามารถทำให้มันเกิดขึ้นได้  Jaws ถือได้ว่าหนังเกี่ยวกับสัตว์ประหลาดหรือเรื่องราวที่มีการใช้เทคโนโลยีสร้างสิ่งเหนือจินตนาการมันเป็นสิ่งที่เขามีความถนัดสูงมาก และเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับฉลามยักษ์ใหญ่ซึ่งในปี 1975 เป็นยุคที่เทคโนโลยีการทำหนังนั้นไม่ได้ทันสมัยเหมือนในตอนนี้ แต่เขากลับทำให้หนังเรื่องนี้เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่สร้างความหวาดกลัวให้กับผู้คนที่เที่ยวทะเลได้

หนังสุดยอดทำเงินของพระเอกดาวดังฮอลลีวู้ด ทอม ครูส

ทอม ครูส

ทอม ครูส สำหรับเขาก็ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งพระเอกดาวดังของฮอลลีวูด ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในวงการ มีทั้งหน้าตาอันหล่อเหลาและความสามารถทางการแสดงที่ยอดเยี่ยม แม้ว่าเขาจะมาพร้อมกับส่วนสูงเพียงแค่ 170 เซนติเมตร แต่นั่นไม่ได้เป็นเรื่องที่ส่งผลอะไรเลยกับอาชีพการแสดงของเขา เว็บรีวีวหนัง เพราะเขานั้นเป็นนักแสดงที่มีคุณภาพ รวมไปถึงเป็นนักแสดงที่ดึงดูดผู้ชม ทำให้หนังแต่ละเรื่องของเขานั้นการออกฉายแต่ละครั้ง ก็ได้รับการการันตีในเรื่องของรายได้เป็นอย่างดี และวันนี้เราก็จะมาแนะนำหนัง 3 เรื่องที่เป็นสุดยอดหนังทำเงินของ ทอม ครูซ จะมีเรื่องอะไรน่าสนใจบ้างก็มาดูกันได้เลย 3 สุดยอดหนัง ทำเงินของพระเอกดาวดังฮอลลีวู้ด ทอม ครูส Mission Impossible – Ghost Protocol หนังในตระกูล Mission Impossible เรียกได้ว่าประสบความสำเร็จมาตลอดและภาคนี้ถูกออกฉายเมื่อปี 2011 ก็ทำรายได้มากถึง 694 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เฉพาะการฉายในประเทศสหรัฐอเมริกา ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งผลงานขึ้นชื่อของเขาเลยก็ว่าได้ ซึ่งปัจจุบันนั้นก็ยังมีการสร้างภาคต่อออกมาเรื่อยๆ  Mission Impossible – Rogue Nation ก็ยังไม่พ้นหนังจากตระกูล Mission Impossible โดยภาคนี้ก็ออกฉายในปี 2015 ซึ่งสามารถทำรายได้เฉพาะในประเทศสหรัฐอเมริกาสูงถึง 682 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่มีการนำเสนอได้อย่างน่าสนใจ และก็ได้ผู้กำกับยอดฝีมืออย่าง เจเจ อับราม มาทำหน้าที่กำกับการแสดง War of the Worlds สำหรับหนังเรื่องนี้ก็เป็นหนังแนวอวกาศเอเลี่ยนบุกโลก ถูกออกฉายเมื่อปี 2005 เป็นการร่วมงานกันระหว่าง ทอม ครูซ และสุดยอดผู้กำกับพ่อมดแห่งวงการฮอลลีวู้ดอย่าง Steven spielberg ส่งผลทำให้หนังเรื่องนี้ทำเงินมากถึง 591 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และยังทำสถิติในการทำเงินได้อย่างรวดเร็ว 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐโดยใช้เวลาแค่ 24 วันเมื่อออกฉาย เท่านั้นเป็นหนังคุณภาพอีกเรื่องหนึ่งที่นอกจากจะสนุกแล้วก็ยังได้รับคำวิจารณ์ในแง่บวกมากมาย 

ซีรีส์จีน โบราณที่สาวกควรเก็บให้ครบก่อนสิ้นปีนี้

ซีรีส์จีน

เมื่อพูดถึง ซีรีส์จีน โบราณแล้วก็มีหลายเรื่องที่น่าสนใจ แล้วก็มีหลายแนวที่สามารถเลือกชมได้ตามความสนใจ แต่ในบรรดาผลงานทั้งหมดที่ปล่อยออกมานั้น เว็บรีวีวหนัง มันจะมีงานคุณภาพเยี่ยมที่ไม่ควรพลาดอยู่ด้วย ซึ่งวันนี้เราก็ได้คัดเรื่องยอดนิยมมาให้ถึง 3 เรื่อง ใครที่ยังไม่เคยดูก็อย่าลืมไปตามเก็บให้ครบก่อนสิ้นปี เพราะแว่วๆ ว่าช่วงปลายปีจะมีเรื่องเด็ดหลั่งไหลเข้ามาอีกมากเลย ซีรีส์จีน โบราณเรื่องเทียบท้าปฐพี เป็นซีรีส์จีนโบราณที่ว่าด้วยเรื่องราวของความวุ่นวายในยุทธภพ ผสมผสานกับความรักของยอดฝีมือที่มีรูปแบบไม่เหมือนใคร เรื่องนี้มีนักแสดงหนุ่มหล่อหยางหยางประกบคู่กับจ้าวลู่ซือ คู่ปรับที่มีชื่อเสียงไปทั่วทุกดินแดน เป็นคู่แค้นที่แท้จริงแล้วมีความปรารถนาดีให้กันเสมอ ด้วยปนิธานเดียวกันและชะตาฟ้าลิขิต ทำให้ทั้งคู่กลายเป็นคู่รักที่โลกทั้งใบจะต้องยกย่อง ใครชอบแนวบู้ล้างผลาญและมีบรรยากาศความรักอันอบอุ่น ห้ามพลาดเด็ดขาด ซีรีส์จีนโบราณเรื่องดาราจักรรักลำนำใจ เรื่องนี้เป็นซีรีส์จีนโบราณที่กำลังมีกระแสอย่างรุนแรง เพราะดัดแปลงมาจากนิยายอมตะที่เคยโด่งดังอย่างมากด้วยเช่นกัน เนื้อเรื่องว่าด้วยปมชีวิตและความแค้น แต่แกนหลักของเรื่องก็ไม่ได้ทำให้หนังดราม่าหนักจนทนไม่ไหว แต่กลับมีรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และความอิ่มเอมใจตั้งแต่ต้นจนจบ นำแสดงโดยจ้าวลู่ซือ อู๋เหล่ย หลี่หยุนรุ่ย หยูเฉิงเอิน และนักแสดงแถวหน้าอีกมากมาย ซีรีส์จีนโบราณเรื่อง  A Dream of Splendor กลิ่นอายของซีรีส์จีนโบราณเรื่องนี้ค่อนข้างแตกต่างและน่าสนใจ เพราะดูคล้ายกับหนังจีนโบราณสมัยก่อน ไม่ได้มีความหวือหวาของฉากมากนัก แต่กลับอัดแน่นด้วยการเดินเรื่องที่ไม่ธรรมดา หลิวอี้เฟย รับบทเป็นหญิงสาวที่ชะตาชีวิตไม่ค่อยเข้าข้าง โชคดีที่มีวิชาชงน้ำชาติดตัว อีกทั้งยังมีความเฉลียวฉลาด จึงสามารถช่วยเหลือรอบตัวได้เสมอ เรื่องนี้เล่นคู่กับเฉินเสี่ยวที่รับบทเป็นมัจจุราชจำแลงในหน่วยมหาดเล็ก

มือใหม่ที่กำลังหัดดู ซีรีส์จีน ควรเริ่มต้นอย่างไรดี

ซีรีส์จีน

วงการ ซีรีส์จีน เข้าแล้วออกได้ยากจริงๆ เพราะมีผลงานคุณภาพมาให้เหล่าผู้ชมได้ตื่นตาตื่นใจกันอยู่ตลอดเวลา หลังจากที่เราเบื่อหน่ายกับพล็อตละครแบบเดิมในบ้านเราแล้ว เว็บรีวีวหนัง หลายคนก็ย้ายตัวเองมาดูพล็อตจากฝั่งแผ่นดินใหญ่กันบ้าง แล้วก็ต่อยอดไปถึงงานวรรณกรรมอื่นๆ ของเขาด้วย สำหรับมือใหม่ที่เริ่มได้ยินกระแสหนักหน่วงมากขึ้นแล้วอยากเข้าวงการนี้บ้าง วันนี้เราก็มีแนวทางในการรับชมซีรีส์มาฝากกัน เริ่มจากติดตั้งแอปพลิเคชันสำหรับดู ซีรีส์จีน แน่นอนว่าช่องทางการรับชมซีรีส์จีนนั้นไม่ได้มีแค่แอปพลิเคชันในมือถืออย่างเดียว แต่ที่เราแนะนำให้ใช้แอปเพราะมันสะดวกและอัพเดทเร็วที่สุด ผลงานทั้งหนังสั้น ภาพยนตร์ และซีรีส์ล้วนดูได้จากที่นี่ วิธีการที่สาวกจีนนิยมทำกันก็คือไม่ยึดติดกับแอปใดเพียงแอปเดียว เนื่องจากหนังแต่ละเรื่องก็จะลงในแอปที่แตกต่างกันไป จึงต้องติดตั้งประจำเครื่องเอาไว้ให้ครบทุกช่องทาง ไล่ดูซีรีส์จีนยอดนิยมที่เป็นพากย์ไทยก่อน ต้องบอกก่อนว่าแต่ละแอปซีรีส์จีนจะมีค่าใช้จ่ายแตกต่างกันไป เราสามารถเลือกสมัครในช่วงที่มีโปรโมชั่นหรือแชร์กับเพื่อนได้ เมื่อเป็นสมาชิกเรียบร้อยแล้วก็เริ่มดูเรื่องที่สนใจได้เลย แนะนำให้ไล่จากหมวดยอดนิยมไปก่อน เพราะถึงจะเป็นหนังจีนก็ใช่ว่าจะดีไปหมดทุกเรื่อง มันมีหนังคุณภาพสูงและหนังคุณภาพต่ำปะปนกันไป นอกจากนี้ก็ควรเริ่มที่พากย์ไทยก่อนเพื่อไม่ให้รู้สึกว่าเข้าใจจนไม่อยากดู ยกระดับมาดูซีรีส์จีนที่มีคำแปลไทยกันบ้าง สุดท้ายแล้วเมื่อดูซีรีส์จีนที่เป็นพากย์ไทยได้ระยะหนึ่ง ก็ควรยกระดับมาดูแบบที่เป็นคำแปลไทยกันบ้าง เพราะมันจะช่วยให้เราเข้าถึงอารมณ์ของนักแสดงผ่านน้ำเสียงได้ดีกว่า แล้วก็ได้รู้บทต้นฉบับที่ยังไม่ถูกดัดแปลงให้เข้ากับสไตล์การพากย์ของไทยด้วย ในช่วงแรกอาจรู้สึกว่ามันลำบากไปบ้าง อ่านไม่ทันบ้างอะไรบ้าง แต่หลังจากดูไป 2-3 เรื่องแล้วก็จะคุ้นชินได้เอง

พี่นาค 3 ภาคนี้เล่าเรื่องสนุก

พี่นาค

หนังเรื่อง พี่นาค ที่ตอนนี้ดำเนินมาถึงภาค 3 แล้ว  ภาคแรกทั้งสนุก ตื่นเต้นและน่ากลัวมาก เลยทำให้หลายคนรอดูภาคต่ออย่างใจจดใจจ่อ แต่บางคนอาจจะรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยจากพี่นาค 2  ที่ดูแล้วเดิมๆ มีแต่ฉากในวัดกับในป่า ฉากเดิมๆ ที่ต่อมาจากภาคแรก แล้วก็วิ่งหนีผีไปมา ซึ่งดูแล้วก็เดิมๆ เว็บรีวีวหนัง ไม่ค่อยสนุกสักเท่าไร เราก็เป็นคนหนึ่งที่คิดแบบนั้น แต่พอมาดู พี่นาค 3 รู้สึกว่าทำดีขึ้น เล่าเรื่องสนุก มากขึ้น ทำให้คนดูพอได้ลุ้นตามเนื้อเรื่องว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ และภาคนี้ยังทำ CG ออกมาได้ดีด้วย  ทำไมถึงบอกว่า พี่นาค 3 ภาคนี้ เล่าเรื่องสนุก เหตุผลที่บอกว่าหนังเรื่อง พี่นาค 3 ภาคนี้ เล่าเรื่องสนุก ก็เพราะว่าในเรื่องไม่ได้วิ่งหนี้ผีอยู่แต่ในวัดกับในป่าแล้ว มีการเล่าเรื่องราวการสืบหาต้นเหตุของการอาฆาต มีการเดินทางออกไปตามหาตามสถานที่ที่น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวสยองขวัญ สถานที่ที่ออกไปตามหาก็เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์มีชื่อเสียงเรื่องของสิ่งเร้นลับที่มองไม่เห็น และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของ จังหวัดบึงกาฬ อย่าง ถ้ำพญานาคภูลังกา  ด้วย ซึ่งสวยงามมาก ภายในเรื่องยังสอดแทรกเรื่องราวประวัติศาสตร์ของสถานที่ดังกล่าว เพิ่มความน่าสนใจให้กับคนดูมากขึ้นไปอีก พี่นาค 3 ในเรื่องเป็นเหตุการณ์ของอ้อด ที่ไปเก็บเอากำไรข้อเท้าพญานาคที่ใช้ในพิธีบวชนาคของผีที่เต็มไปด้วยความโลภ ความอาฆาต ความโกรธแค้น ทำให้อ้อดซึ่งเตรียมตัวจะบวชแล้วไม่ได้บวชเพราะว่าป่วยหนัก และเพื่อนๆ ก็ช่วยกันตามหาต้นเหตุเพื่อจะแก้อาถรรพ์ดังกล่าว โดยตามหาวัดที่มีการใช้กำไรข้อเท้าพญานาคในการบวชนาค นี้ล่ะที่บอกว่า เล่าเรื่องสนุก ทั้งหมดได้ออกไปตามหาจนพบว่าอยู่จังหวัดหนึ่งทางภาคอีสาน ระหว่างทางก็เกิดเรื่องราวขึ้นมากมายจากการตามอาฆาตของผี และก็ได้รับการช่วยเหลือจากชาวบ้าน จากพระ ซึ่งก็ได้เห็นอีกมุมของวิถีชาวบ้านด้วย จนสุดท้ายก็ตามจนรู้ความจริง สาเหตุจริงๆ ที่อ้อดป่วยเกิดจากคำสาปของพญานาคที่เก็บกำไรข้อเท้าเอาไว้ เช่นเดียวกับผีนั้น สุดท้ายผีตนนั้นก็โดนพญานาคลงโทษ อ้อดก็ได้บวช เรื่องราวจบลงด้วยดี